LOGINค่ายจริยธรรมกินเวลาไปสองวัน โดยช่วงเช้าถึงช่วงสายทำกิจกรรมปลูกป่าและช่วงบ่ายถึงหัวค่ำคือการแสดงละครคุณธรรม
"ฉันเกลียดคุณ!! คนสารเลว!!" หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้บีบน้ำตาบนเวที ก่อนจะง้างมือตบชายร่างสูงตรงหน้าเสียงดังฟังชัด
เพียะ!!
"อะเฮือก!!" คนโดนกระทำถึงกลับล้มคว่ำนอนกลิ้งบนพื้น หันมาอีกทีมีเลือดซึมจมูก
"เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะซาร่า~~ พี่ทำผิดอะไร แค่กๆ!" เขายกมือขึ้นหมายจะเอื้อมไปดึงชายกระโปรงหญิงสาว แต่กลับถูกเหยียบย้ำอย่างไม่มีชิ้นดี
"เพราะคนอย่างพี่สมควรได้รับในสิ่งที่ทำ ไอ้คนส่ำส่อน ชิ" เธอเชิดหน้าสะบัดตูดหมุนตัวแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี
"ฮือออ สุดท้ายแล้วคนสำส่อนอย่างฉันก็ไม่เหลือใครเลย"
ชายหนุ่มนอนร้องไห้โฮอยู่บนเวทีพร้อมเสียงดนตรีโศกเศร้า
แปะๆๆๆ!!
ก่อนเสียงตบมือจะดังก้องขึ้นทั่วห้อง หลังการแสดงละครคุณธรรมจบลงเป็นที่เรียบร้อย
กลุ่มนี้แสดงได้ดีมากจนผมเกิดไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา เพราะหลังจากการแสดงของกลุ่มนี้จบ ก็ถึงตาพวกเราสามคน โจ ไทม์ และผม
"กรี๊ดดด><"
"วิดวิ่วว~~"
"กลุ่มนี้ฉันจองงง!!"
ขณะที่ก้าวขาขึ้นเวทีก็ได้ยินเสียงกรี๊ดมากมายจากชายและหญิงดังไปทั่วห้อง เหมือนจะชินแต่ไม่ชิน
ขึ้นมาบนเวลาผมเกิดประหม่า ทำไมต้องอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้สองคนนี้ด้วยก็ไม่รู้ แถมยังไม่ได้เตี๊ยมบทกันมาอีก แค่วางแผนบทกันคร่าวๆกะจะด้นสดเอา
พวกเรายืนเรียงหน้ากระดาน ทอดมองผู้ชมด้านล่าง หัวใจผมเต้นถี่รัวอย่างตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมด
ก่อนหันไปมองซ้ายขวาของตัวเองที่มีไทม์และโจทำหน้าเบื่อหน่ายไม่สนโลกอยู่
เท่านั้นก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องนำทีม
"สวัสดีครับพวกเรากลุ่ม11" ผมถือไมค์เปิดตัวโดยมีโจขนาบซ้ายและไทม์ขนาบขวา
"น้าที!! น้าที!! นที!!"
สติผมเริ่มแตกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเชียร์ดังขึ้น เกิดอาการประหม่าร่วมด้วย
"ผมนทีวันนี้จะมาแสดงบทเป็นผู้ชายขายตัวครับ" พูดจบก็ได้ยินเสียงโห่แซวตามมา
"กรี๊ดดด ซื้อค่ะซื้อ เชิญมาสำรวจอิปิฉันที"
"บระ บระ บระ เบิร์นเท่านั้น" เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งแลบลิ้นทำท่าเบิร์นรัวๆ จนคนใกล้ๆต่างพากันหัวเราะชอบใจ
"วิดวิ้ว~"
จากนั้นคนฝั่งขวามือก็แนะนำตัวบ้าง
"ฉันไทม์ รับบทเป็นพ่อเล้า"
ไทม์ตอบนิ่งๆตามสไตล์หนุ่มมาดขรึม ตามมาด้วยเสียงโห่แซววี้ดว้ายไม่ต่างกัน
และสุดท้ายโจริญ ลูกชายประธานโรงเรียน
"โจริญ วันนี้เป็นแขก...ห้าน้ำ"
ไม่เพียงแต่พูด เจ้าตัวยังหันมายิ้มเล่ห์ให้ผม คนที่ไม่รู้ก็พากันแซวใหญ่ ส่วนคนที่รู้อย่างผมผะอืดผะอมจนหายใจไม่ทั่วท้อง
"ฮ่าๆ คุณแขกของเรานี่ฟิตดีจังนะครับ...เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามารับชมการแสดงต่อจากนี้กันได้เลยดีกว่า!!" ผมหัวเราะแก้เก้อพลางขยิบตาส่งซิกให้โจ 'อย่าทำอะไรขายหน้านะสัตว์' เพราะเท่าที่รู้ คนอย่างมันไม่มียางอายแถมยังบ้าบิ่นสุดๆ
เสียงโห่แซวพร้อมเสียงตบมือครั้งสุดท้ายดังก้องขึ้นทั่วห้อง ก่อนที่พวกเราจะเริ่มการแสดง
โดยเริ่มแรกไทม์ที่รับบทเป็นพ่อเล้าจะนั่งรอรับแขกบนเก้าอี้ แล้วแขกก็เดินเข้ามาถามว่า "มีเด็กเด็ดๆมั้ย?"
"อืม แต่แพงหน่อยนะเบ้าหน้ามันดี" เล่นแข็งเหี้ยๆ
"จ่ายไม่อั้น" แขกเริ่มยื่นหมูยื่นแมวโดยการวางเงินจำนวนหนึ่งซื้อตัว
พ่อเล้าตาลุกวาวทันที แล้วรับเงินก้อนนั้นมาเก็บอย่างรวดเร็วก่อนเดินนำแขกไปหาชายขายตัว
ซึ่งก็คือผมที่นั่งหลังฉากม่านกั้น
"สายตาทุกคู่จงมองมา นี่คือผู้ชายขายตัวที่งดงามที่สุดในหอ...คิดไม่ออกเดี๋ยวบอกวันหลัง"
และเมื่อไทม์พูดจบผมก็เตรียมพร้อมเปิดตัวโดยการปลดกระดุมบนสามเม็ด โชว์แผ่นอกวาบหวิวให้สมบทบาทที่ได้รับ
ก่อนจะเดินออกไปโชว์ตัวบนเวทีจนได้รับเสียงโห่แซวอย่างล้นหลาม
การแสดงละครสั้นจำกัดเวลาอยู่ไม่เกินสิบห้านาที แต่ดูเหมือนพวกเราจะไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำเพราะบทที่วางไว้คือ พ่อเล้ารับแขกซาดิสม์มา ผมรับแขกโดยไม่ป้องกัน สิ่งที่ละครของพวกเราจะสื่อคือการมีเซ็กซ์โดยไม่ป้องกันนำมาซึ่งพาหะนำโรค
แขกสุดซาดิสม์รับบทโดยโจริญ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากสมจริง ดวงตาคมคายฉายแววความหื่น
"แผล่บๆๆ!! ฮึ่มๆ!! มันน่านัก" โจทำเสียงฮึดฮัดดูโรคจิตสมจริง ก่อนกระโจนเข้ามาลากผมไปยังหลังม่านอีกครั้ง
เสียงหัวเราะขำขันดังขึ้นเมื่อเห็นหน้าหื่นๆของโจริญ ซึ่งหลังจากเข้ามาในม่านกั้นเราต้องแสร้งทำเสียงอิ๊อ๊ะกันให้สมบทบาทแล้วออกไปในสภาพที่โดนปู้ยี่ปู้ยำ
แต่เมื่อเข้ามาหลังม่านผมกลับถูกประกบจูบสั้นๆอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วโจก็ตั้งใจพูดเสียงดังให้คนข้างนอกได้ยินว่า "ครางสิที่รัก"
แม่ง!! ไอ้บ้านี่ อยากต่อยหน้าแม่งสักหมัด!!
"ซี้ด~ อ๊า~~" ผมแสร้งครางเสียวแต่สีหน้าอยากฆ่าคนเต็มที เล่นไรไม่รู้เวล่ำเวลา
คนภายนอกหวีดแซวกันใหญ่ จากนั้นผมจึงรีบดึงมือเขาให้ออกไปจากหลังม่าน เพื่อทำการแสดงต่อ แต่เขารั้งแขนผมไว้พลางโน้มใบหน้ากระซิบเบาๆข้างหู "อย่าลืมที่พูดล่ะ" จบประโยคก็จับมือผมเดินออกไป
เพื่อแสดงละครให้จบ...
"อะฮึกๆ" ผมแสร้งร้องไห้กระซิก
"ฉันกลายเป็นเอดส์ก็เพราะคนขายตัวอย่างแก!!" โจริญซ้ำเติม สวมบทบาทได้ดีทีเดียว
"คุณก็รู้ว่าผมขายตัวแต่ก็ยัง...อะฮึกๆ...ไม่สวมถุง แบบนี้จะโทษผมคนเดียวไม่ได้นะครับ" ผมต่อบท
"งั้นก็ให้พ่อเล้าเป็นคนตัดสินใจแล้วกัน!!"
และผมกับโจก็พร้อมใจกันหันไปมองหน้าไทม์
เมื่อได้รับสัญญาณไทม์เอ่ยพูดประโยคสุดท้าย
"ผิดทั้งคู่นั่นแหละ" และชูถุงยางในมือขึ้นพร้อมกล่าวปิดท้ายว่า "คิดจะรักสนุก คิดถึง คอนด้อม"
จากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็มายืนเรียงหน้ากระดาน ก่อนก้มโค้งพร้อมกัน
"พวกเรากลุ่มสิบเอ็ดขอจบการแสดงเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ!!"
แปะๆๆๆ!!
เสียงตบมือพร้อมเสียงโห่แซวดังก้องขึ้นอีกครั้งดูชอบใจ การแสดงวันนี้กลุ่มไหนที่ได้คะแนนสูงสุดกลุ่มนั้นจะได้รับโล่รางวัลนักแสดงรุ่นใหม่ดีเด่น
ผมไม่คาดหวัง จบได้ก็บุญแล้วแถมตอนนี้ในหัวมีแต่คำว่าห้าน้ำๆๆเต็มไปหมดจนหลอน
คืนนั้น....ภายในรถตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าฉุนๆ กับคนเมาสองคนที่เมาจนขาดสติ จำได้ขึ้นใจว่าเป็นช่วงเวลาที่บัดซบที่สุดในชีวิต อกหักไม่พอยังต้องมาเจอกับไอ้คนที่เกลียดขี้หน้าอีก แต่เราต่างเคว้ง... และเมื่อคนเคว้งมาเจอกันด้วยอาการเมาจนขาดสตินั้น แรงดึงดูดทางอารมณ์ก็ก่อตัวขึ้น กลิ่นเหล้าฉุนๆลอยอยู่ในอากาศ สมองมึนๆเบลอๆกับใจเหงาๆมอมเมาเราสองคน โจนั่งฝั่งคนขับ ส่วนผมนั่งอีกฝั่งคุยอ้อแอ้อะไรกันอยู่สักพักหนึ่งซึ่งก็จำไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่าสายตาคมคู่นั้นหวานเยิ้มจนลืมความเกลียดชังไปชั่วขณะ เราโถมตัวเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย และสัมผัสรสชาติในปากของกันและกัน ให้เรียวลิ้นนุ่มชื้นตวัดกันในโพรงปากร้อนระอุ อย่างดูดดื่ม สัมผัสความขมฝาดของน้ำเมากระทั่งมือใหญ่ของเขาเข้ามาสัมผัสช่วงท้องและปลดกระดุมเสื้ออย่างช่ำชองโดยที่ไม่มองและยังไม่ถอนจูบออกด้วยซ้ำจนท่อนบนผมเปลือยเปล่า โชว์เรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงสวย มือนั้นยื่นมาลูบไล้ก่อนถอนจูบออกพร้อมกับเอ่ยพูดเสียงกระเส่า"ต้องงี้ดิวะ"สัมผัสหยาบของฝ่ามือนั้นทำให้ร่างกายผมร้อนวูบวาบ กระตุ้นอารมณ์ให้ลุกโชน แก่นกายที่แน่นิ่งเริ่มขยายอยู่ภายใต้กางเกงสแล
หลังค่ายจริยธรรมจบลง ไม่รู้คิดผิดคิดถูกถึงได้เดินทางมาบ้านโจริญตามสัญญา 'ห้าน้ำ' ที่ให้ไว้ ช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตกดินท้องฟ้าเริ่มอึมครึม ผมยืนอยู่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่โอ่อ่า มองจากกำแพงเข้าไปเห็นรถหลายคันจอดนิ่งอยู่ ดูก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของมหาเศรษฐี ผมชะโชกหน้ารออีกฝ่ายข้างนอกก่อนจะเห็นร่างสูงใหญ่คุ้นตาเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าหงุดหงิดหัวคิ้วขมวดมุ่น เป็นอะไรของมันวะตามมาด้วยชายหนุ่มร่างสูงวัยผู้ใหญ่สวมสูทผูกไทดูภูมิฐาน ใบหน้าของเขาดูหงุดหงิดไม่ต่างกัน นั่นประธานนี่ เหมือนพ่อลูกคู่นี้กำลังทะเลาะอะไรกันอยู่และคนนิสัยไม่ดีแบบผมก็แอบมองนอกกำแพงเงียบๆ เหมือนโจรดักซุ่มขโมยของไม่มีผิด"เลิกสร้างปัญหาสักที!! ฉันขายขี้หน้าจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแล้ว!!" ประธานตะคอกใส่หน้าลูกชายตัวเองอย่างหัวเสีย เสียงดังจนแว่วเข้ามาในหูผม"เพราะใครกันล่ะครับที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้" โจริญเถียงพ่อตัวเองกลับ น้ำเสียงของเขาดูไม่พอใจอย่างมาก"แกจะเอาอะไรจากฉันอีก!! รถก็ซื้อให้แล้ว เงินก็ให้ใช้ไม่ขาดมือ!! แล้วทำไมถึงยังทำตัวแบบนี้!!" คนเป็นพ่อเริ่มทนไม่ไหว"เลิกยุ่งกับผู้หญิงชั้นต่ำแล้วเอาแม่กล
ค่ายจริยธรรมกินเวลาไปสองวัน โดยช่วงเช้าถึงช่วงสายทำกิจกรรมปลูกป่าและช่วงบ่ายถึงหัวค่ำคือการแสดงละครคุณธรรม"ฉันเกลียดคุณ!! คนสารเลว!!" หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้บีบน้ำตาบนเวที ก่อนจะง้างมือตบชายร่างสูงตรงหน้าเสียงดังฟังชัดเพียะ!!"อะเฮือก!!" คนโดนกระทำถึงกลับล้มคว่ำนอนกลิ้งบนพื้น หันมาอีกทีมีเลือดซึมจมูก"เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะซาร่า~~ พี่ทำผิดอะไร แค่กๆ!" เขายกมือขึ้นหมายจะเอื้อมไปดึงชายกระโปรงหญิงสาว แต่กลับถูกเหยียบย้ำอย่างไม่มีชิ้นดี "เพราะคนอย่างพี่สมควรได้รับในสิ่งที่ทำ ไอ้คนส่ำส่อน ชิ" เธอเชิดหน้าสะบัดตูดหมุนตัวแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี"ฮือออ สุดท้ายแล้วคนสำส่อนอย่างฉันก็ไม่เหลือใครเลย" ชายหนุ่มนอนร้องไห้โฮอยู่บนเวทีพร้อมเสียงดนตรีโศกเศร้าแปะๆๆๆ!!ก่อนเสียงตบมือจะดังก้องขึ้นทั่วห้อง หลังการแสดงละครคุณธรรมจบลงเป็นที่เรียบร้อย กลุ่มนี้แสดงได้ดีมากจนผมเกิดไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา เพราะหลังจากการแสดงของกลุ่มนี้จบ ก็ถึงตาพวกเราสามคน โจ ไทม์ และผม"กรี๊ดดด>วิดวิ่วว~~""กลุ่มนี้ฉันจองงง!!"ขณะที่ก้าวขาขึ้นเวทีก็ได้ยินเสียงกรี๊ดมากมายจากชายและหญิงดังไปทั่วห้อง เหมือ
วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า
"รวยหนิมึงอ่ะ ช่วยพี่เขาหน่อยดิ" "หึ" โจหัวเราะเสียงต่ำในลำคอเมื่อได้ยินผมพูดก่อนกวักมือเรียกสาวสวยนักศึกษาคนนั้น เอาแล้ว เพลย์บอยตัวพ่อเริ่มแล้ว!พอถูกเรียกเธอคนนั้นก็รีบเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ ผิวของเธอส่องสว่างขาวนวลท่ามกลางแสงจันทร์ยามกลางคืน ใบหน้าผุดผ่องมองเห็นแก้มอมชมพูเป็นธรรมชาติมาถึงเธอก็ถาม "หอมะคะ หอม้ะ" เป็นสำเนียงแปร่งๆ ลูกครึ่งมั้ยนะ?"ไม่เอาหอ จะเอาหอย" แต่ไอ้โจแม่งช็อตฟีลจัด เธอหลบตาเขินใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ"ไอ้โจมึงก็ปล่อยๆบ้างก็ได้" ผมกระซิบกระซาบข้างหูคนขับเบาๆ "เหมาหมดนั่นแหละ เท่าไหร่?" โจถาม เธอหันมามองอย่างดีใจก่อนยื่นถุงหอยสี่ถุงมาตรงหน้าคนถามพร้อมบอกราคาเสียงสดใส"สี่ล้อ" ชูสี่นิ้ว"พี่เค้าบอกสี่ร้อย" ผมกระซิบบอกไอ้โจ กลัวมันช็อตฟีลทำเขาอายอีกแต่มันกลับตอบผมว่า "กูรู้แล้ว" ตามด้วยการหยิบถุงหอยมาให้ผมถือแล้วบอกผมว่า"มึงจ่าย""อ่าวเห้ย!" ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า แต่ไม่มีเวลาให้คิดมาก ผมรีบควักเงินแบงก์ม่วงในกระเป๋าออกมาจ่ายให้ทันที "ไม่ต้องทอนครับ" เจ็บใจฉิบหาย ถึงไม่ซื้อผมก็จะซื้ออยู่แล้ว!! จะทำเก๊กบอกเหมาทำเหี้ยไร ก่อนถึงสัญญาณไฟเข
"ดูดปาก?" ตลกกันใหญ่ "งั้นมาแข่งกันสิ?"ไม่ยอมให้จูบง่ายๆหรอก คิดจะใช้ข้ออ้างให้ตัวเองเลิกบุหรี่ แถมยังไม่ยอมบอกว่าจะลบคลิปให้ ข้อเสนอหรือข้ออ้าง ผมไม่โง่นะครับ"อะไรของมึง" โจริญขมวดคิ้วมุ่นมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ"ถ้าชนะก็ตามใจมึงเลย แต่ถ้าแพ้มึงต้องลบคลิป" นี่สิมันถึงจะเป็นข้อเสนอที่แฟร์ๆ"คำไหนคำนั้น"เขาตอบอย่างไม่ลังเลทั้งยังไม่ได้ถามรายละเอียดของข้อเสนอที่ผมยื่นให้เลยด้วยซ้ำ ดีเลย ดีมาก เพราะผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ผมยื่นให้นี้มันแฟร์กับเราทั้งคู่ หลังตกลงกันเรียบร้อยเราสองคนเดินทางมายังจุดหมายที่ผมคิดไว้นั่นก็คือ...'หนูจ๊ะมาม้ะร้องเกะ'ร้านคาราโอเกะที่เคยมากับกันต์และไทม์ช่วงก่อน เป็นความทรงจำที่ดีจนลืมไม่ลงเลยล่ะ"มึงพากูมานี่ทำไม?" โจบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถตามผมมาแต่โดยดี"ร้องเพลง" ผมตอบ"ร้องเพลง?" เขาดูแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามจนถึงหน้าเคาน์เตอร์ยังคงเห็นพี่สาวพนักงานคนเดิม"อ้าว! พ่อหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักผมก่อนจะเหลือบตามองอีกคนข้างๆแล้วยิ้มกริ่ม "โรงเรียนนี้มีแต่คนน่ากินโว้ย!"พูดเสร็จก็ถามโจว่า "มีแฟนยังอ่ะเรา" พร้อมดวงตาแพรวพราวกระพริบ







