Share

ตอนที่8 หญิงขี้ฟ้อง

last update Последнее обновление: 2025-02-11 11:30:50

"ไป ไปตามนายของพวกเจ้าออกมาประเดี๋ยวนี้"

เสียงตวาดเหวที่ดังลั่นอยู่ด้านหน้าเรือน ทำให้บุรุษหนุ่มเจ้าของเรือนกายกำยำสะดุ้งตื่นจากห้วงฝัน ถึงแม้ขณะนี้ดวงตะวันจะขึ้นอยู่ตรงศีรษะแต่เจ้าตัวยังคงซุกกายอยู่ในผ้าห่มผืนหนา แต่เสียงนั้นเรียกให้เขาตื่นเต็มตา ทะลึ่งกายคว้าเอาอาภรณ์ที่ถอดพาดไว้เมื่อตอนย่ำรุ่งขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ

เจ้าของเสียงแหลมแสบแก้วหูนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลเว่ย ใหญ่กว่าท่านเจ้าเมืองก็เว่ยฮูหยินผู้นี้นี่แหละ

สตรีผู้ที่ใบหน้ามักจะปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนเต็มไปด้วยความมีเมตตาอยู่เสมอ ทว่าบัดนี้กลับไม่อาจรักษาใบหน้าเช่นนั้นเอาไว้ได้ ตอนนี้มันแดงก่ำเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ เสียงร้องแสบแก้วหูนั้นมาพร้อมกับปลายนิ้วที่กำลังสั่นระริกชี้ไปยังทิศทางที่เป็นเรือนนอนของเจ้าของเรือน

เมื่อเห็นว่าผู้ที่นางต้องการพบเดินสะโหลสะเหลออกมาด้วยสภาพที่ดูแทบไม่ได้ เลือดในกายของนางก็ราวกับกำลังเดือดพล่าน

"ยอมโผล่หัวออกมาแล้วหรือพ่อตัวดี"

ร่างบอบบางปรี่ตรงเข้าไปฟาดแผ่นหลังของบุตรชายไปทีหนึ่งด้วยแรงที่ไม่เบานัก นางอยากจะบิดหูเจ้าบุตรชายผู้นี้ให้ขาดเหลือเกิน

"โอ๊ย โอ๊ย ท่านแม่ตีลูกทำไมกันขอรับ"

ชายหนุ่มร้องโอดโอยออกมาเสียงดังที่ฟังอย่างไรก็รู้ว่าเสแสร้ง

"เจ้าอย่ามาทำเป็นสำออย หนังหนาเช่นเจ้าไหนเลยจะรู้สึกเจ็บ ถูกข้าฟาดเช่นนี้ยังเจ็บน้อยกว่าที่เจ้าไปต่อยตีกับผู้อื่นเสียอีก"

เว่ยฮูหยินมองบุตรชายตัวดีของตนอย่างอึดอัดคับข้องใจ นึกไม่ออกว่าเกิดการผิดพลาดตรงที่ใด จะว่าบุตรชายของนางถูกสลับสับเปลี่ยนตัวเมื่อตอนแรกคลอดก็คงจะไม่ใช่ เพราะสายเลือดของนางและสามีเด่นหราอยู่บนใบหน้าอีกฝ่ายถึงเพียงนี้

นางนั้นมีบุตรชายถึงสามคน คนโต เว่ยหมิงหลง นั้นรูปโฉมงามสง่า เก่งกล้าองอาจ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่เล็ก ความรู้ความสามารถล้วนโดดเด่นเหมาะสมกับเป็นผู้สืบทอดตระกูลและสืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดา เป็นบุตรชายที่นางสุดแสนจะภาคภูมิใจ

ส่วนบุตรชายคนรอง เว่ยเหวินหลาง นั้นก็หล่อเหลาไม่แพ้พี่ชาย น่าเอ็นดูว่านอนสอนง่าย อุปนิสัยอ่อนโยน กิริยามารยาทสูงส่ง เป็นถึงอาจารย์ในสำนักศึกษาที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือ เป็นที่ยกย่องนับหน้าถือตา

แต่เหตุใดบุตรชายคนเล็กของนางจึงได้เป็นเช่นนี้ เกกมะเหรกเกเร ทำตัวเป็นอันธพาล ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก คงจะมีเพียงหน้าตาเท่านั้นกระมังที่บอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นบุตรชายตระกูลเว่ย แต่นางกลับรักและเอ็นดูเขาที่สุดเสียนี่

"เจ้าไปก่อเรื่องอันใดมา หือ อาหยวน บอกแม่มาเดี๋ยวนี้"

"ก่อเรื่องอันใดกันท่านแม่ ทุกวันนี้กิจการของข้ายุ่งวุ่นวายจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปก่อเรื่องได้เล่า"

เว่ยซีหยวนว่าพลางเดินเข้ามาสวมกอดร่างเล็กของมารดาอย่างออดอ้อน

"เจ้าคงจะยุ่งมากสินะ จนถึงขนาดที่น้ำท่าไม่อาบ กลิ่นสุราถึงได้ฉุนกึกถึงเพียงนี้"

เว่ยฮูหยินเอ่ยค่อนขอดบุตรชายพร้อมทั้งย่นจมูกผลักอีกฝ่ายออกห่างตัวราวกับรังเกียจ ส่วนผู้เป็นบุตรชายนั้นทำตาละห้อยมองนางอย่างตัดพ้อ

"เจ้ามิต้องมาทำท่าทางน่าเวทนาเช่นนั้น บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าทำไมถึงไปขนข้าวขนของของท่านลุงเจียงมาเช่นนั้น"

เว่ยซีหยวนหรี่ตาลงทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวหานั้นของมารดา

"โธ่ท่านแม่ข้านึกว่าเรื่องอะไร ก็ท่านลุงเจียงเป็นหนี้ เช่นนั้นก็ต้องชดใช้หนี้มิใช่หรอกหรือขอรับ"

คำพูดนั้นของบุตรชายตัวดีของนาง ทำให้เว่ยฮูหยินขุ่นเคืองจนหน้าดำหน้าแดง นิ้วมือเรียวยาวจึงยื่นไปบิดเนื้อติ่งหูของอีกฝ่ายอย่างไม่อาจอดกลั้น จนบุรุษตัวโตร่างกายกำยำร้องลั่นโดยไร้การเสแสร้ง แต่กลับไม่กล้าขัดขืน เหตุที่นางเลือกบิดหูอีกฝ่ายนั่นก็เพราะส่วนอื่นนั้นทั้งแข็งทั้งหนา ตีไปก็มีแต่นางที่จะเจ็บมือเสียเอง

"นี่แน่ะ เจ้าเด็กร้ายกาจ เจ้ากลายเป็นคนใจคอคับแคบ หน้าเลือดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน วันนี้มารดาจะสั่งสอนเจ้า"

"โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ท่านแม่ ปล่อยลูกก่อนขอรับ ลูกผิดไปแล้ว ฟังลูกก่อนเถิดขอรับ"

เว่ยซีหยวนอ้อนวอนมารดาอย่างน่าสงสาร เมื่อได้รับอิสระก็ยืนลูบหูตัวเองป้อยๆ มองมารดาที่ยืนเหนื่อยหอบใบหน้าหน้าแดงก่ำน้ำตาเอ่อคลอ หมดกันภาพลักษณ์อันธพาลผู้ยิ่งใหญ่ของเขาเสียหายหมดแล้ว

"เจ้าอย่าได้มาแสร้งบีบน้ำตาเชียว อธิบายมา แล้วอย่ามาเล่นลิ้นเชียวนะ"

เว่ยฮูหยินขึงตามองผู้เป็นบุตรชายจอมมารยาสาไถยของตน นางเลี้ยงเขามาเองกับมือเหตุใดจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเสแสร้งเก่งเพียงใด

"ท่านแม่ข้าไม่ได้ไปบังคับเอาจากท่านลุงเจียงเสียหน่อย เป็นท่านลุงต่างหากที่บีบบังคับข้า"

เว่ยซีหยวนกล่าวพลางมองมารดาอย่างแง่งอน ก่อนจะตีหน้าเคร่งขรึม

"ว่าแต่ผู้ใดมันปากยื่นปากยาวคาบข่าวไปฟ้องท่านแม่กัน"

แม้ว่าพอจะคาดเดาได้ว่าคนปากยื่นปากยาวผู้นั้นคือใคร แต่เขาก็ยังแสร้งถามออกไป

"เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าแม่รู้มาจากใคร แต่ให้คนของเจ้าขนของไปคืนท่านลุงเจียงซะ แม่บอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ว่าให้มาเอาเงินที่แม่"

เมื่อเห็นว่าผู้เป็นมารดาดูจะกังวลกับเรื่องนี้มาก ชายหนุ่มจึงเลิกหยอกเย้ามารดา เดินเข้ามาประคองอีกฝ่ายให้นั่งลง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ท่านแม่ขอรับ ถึงข้าจะขนของพวกนั้นไปคืนท่านลุง ท่านลุงก็คงไม่รับหรอกขอรับ แต่ถึงแม้ท่านลุงจะรับไว้ แต่ท่านลุงก็จะเอาไปขายต่อแล้วนำเงินนั่นมาคืนข้าอยู่ดี ทั้งอาจจะโดนกดราคาอีกต่างหาก "

เว่ยซีหยวนบอกเล่าถึงเรื่องที่เขาจำต้องไปขนข้าวของเหล่านั้นมาอย่างละเอียดยิบ จนสีหน้าผู้เป็นมารดาคลายกังวลลง

เว่ยฮูหยินนิ่งคิดตามคำพูดของบุตรชาย แต่ก็ยังไม่วายเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย

"แล้วจำเป็นต้องขนมาเสียเกลี้ยงจวนเลยหรืออย่างไร แม้แต่ชุดน้ำชาก็ยังมิเว้น"

"ล้วนเป็นท่านลุงเจียงที่สั่งขอรับ"

เว่ยซีหยวนหลุบตาลง แสร้งรินน้ำชายกขึ้นดื่ม ความจริงเขาตั้งใจจะขนมาเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แต่เพราะความปากดีของสตรีบุตรสาวเจ้าของจวน จึงได้เป็นอย่างที่มารดากล่าว

เช่นนั้นท่านลุงเจียงข้าต้องขอโทษด้วยที่ยกท่านมาอ้าง แต่ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของบุตรสาวปากร้ายของท่านนะขอรับ

เว่ยฮูหยินหรี่ตามองท่าทางของบุตรชายราวกับต้องการที่จะจับผิดอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าไร้พิรุธจึงรำพึงออกมาแผ่วเบา

"เช่นนั้นม่านเอ๋อร์คงจะเข้าใจผิด"

แต่ถึงแม้มารดาจะเอ่ยเสียงเบาเพียงใด แต่เขาก็ได้ยินชัดเจน มุมปากหยักกระตุกรอยยิ้มร้ายกาจ ดวงตาคมฉายประกายเหี้ยมเกรียม เขานึกเอาไว้แล้วไม่มีผิด

เจียงม่าน หญิงขี้ฟ้อง ทั้งยังใส่ความเขาอย่างไร้ยางอาย แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าการที่ทำให้เขาถูกมารดาขุ่นเคืองจนลงไม้ลงมือกับเขา เจ้าจะต้องชดใช้เช่นไร ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายก็เถอะ แต่มันก็ทำให้หัวใจอันบอบบางของเขาชอกช้ำที่โดนสตรีอันเป็นที่รักทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ

ส่วนผู้ที่ถูกอีกฝ่ายหมายหัว หลังจากที่ยืนส่งเว่ยฮูหยินด้วยดวงตาแดงเรื่อ ก็เรียกหารถม้าอย่างเริงร่า นางศึกษาทุกอย่างของตระกูลหมดแล้ว ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาไปเปิดหูเปิดตา ศึกษาสถานที่จริงเสียที

"หยุดรถม้าตรงนี้ ข้าจะเดินไป เจ้าไปจอดรถม้าที่หอสุราเลย"

เจียงม่านร้องบอกคนบังคับรถม้าหลังจากที่เห็นว่ารถม้าแล่นเข้ามาในเขตตลาดที่ผู้คนเริ่มจะพลุกพล่าน แต่ยังมิทันที่นางจะก้าวออกจากรถม้า ก็ถูกบ่าวตัวน้อยรั้งเอาไว้

"ใส่ผ้าคลุมหน้าก่อนนะเจ้าคะคุณหนู"

ลู่ลู่กล่าวพร้อมทั้งหยิบเอาผ้าคลุมหน้าสีขาวโปร่งที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมา ปิดบังใบหน้าครึ่งล่างของผู้เป็นนาย เหลือเพียงดวงตากลมโตหวานฉ่ำน้ำคู่งามที่กำลังทอประกายแวววาวระยิบระยับอย่างซุกซน ก่อนลี่ลี่จะพยุงคุณหนูคนงามของนางก้าวลงจากรถม้า

ตลาดใจกลางเมืองฉางแห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันมากมายจนละลานตาไปหมด ทั้งยังมีพื้นที่กว้างขวาง เจียงม่านกวาดตามองด้วยประกายตาตื่นเต้นจนปิดเอาไว้ไม่มิด สองเท้านั้นก้าวไปทางนั้นที ทางนี้ทีจนสองแฝดหัวหมุน ไม่เข้าใจผู้เป็นนายเลยจริงๆ

คุณหนูของพวกนางเคยกล่าวว่า ไม่ชมชอบการเดินในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านมิใช่หรอกหรือ ทั้งยังกล่าวว่าไม่ชมชอบกลิ่นไม่พึงประสงค์มากมายที่อวลอยู่ในอากาศ มันทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ อีกฝ่ายจึงไม่เคยย่างเท้ามาในที่แห่งนี้เลยสักครั้ง

แล้วภาพตรงหน้าของพวกนางคืออันใดกัน ท่าทางเริงร่าและดวงตาพราวระยับคู่นั้น ราวกับผู้ที่ค้นพบสถานที่อันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ

คุณหนูท่านจะมาดูว่าหอสุราตระกูลเจียงต้องปรับปรุงแก้ไขตรงส่วนใดบ้างมิใช่หรอกหรือเจ้าคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่34 จากอันธพาลสู่บุตรเขยดีเด่น(จบ)

    ตระกูลเจียงในตอนนี้เป็นตระกูลอันดับหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องสุรา สุราของตระกูลเจียงกลายเป็นสุราสร้างชื่อของเมืองฉาง ทั้งยังโด่งดังไปทั่วทั้งแคว้นและแคว้นข้างเคียง เพียงเวลาไม่นานกิจการของหอสุราตระกูลเจียงก็ขยับขยายใหญ่โต และกำลังดำเนินการที่จะขยายกิจการไปยังเมืองต่างๆ รวมไปถึงเมืองหลวงของแคว้น และคาดว่าต่อไปในอนาคตก็จะไปเปิดกิจการยังต่างแคว้นอีกด้วย เรียกได้ว่าตระกูลเจียงเข้าสู่ยุคที่รุ่งโรจน์จนฉุดไม่อยู่ส่วนหอสุราตระกูลหม่านั้น ในตอนนี้ได้ปิดตัวลง หันมาเอาดีทางด้านการค้าข้าวสารและธัญพืช โดยมีหม่าลู่เฟิงที่ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเป็นผู้ดูแลกิจการด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่ากิจการนั้นจะไปได้ดีอยู่ไม่น้อยถึงแม้ว่าจะมีร้านค้าใหญ่อยู่หลายร้านก็ตาม ส่วนหม่าลี่เซียนข่าวว่านางกำลังตั้งครรภ์บุตรของเถ้าแก่เผย แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เถ้าแก่เผยได้ประกาศวางมือจากกิจการทั้งหมดและยกทุกอย่างให้บุตรชายของเขา ส่วนตนนั้นใช้เวลาอยู่กับภรรยาและเหล่าอนุทั้งหลาย จากบุรุษผู้รักมั่นในตัวภรรยาผู้ล่วงลับ แต่ยามเมื่อได้สัมผัสอารมณ์ความใคร่อีกครั้งกลับกลายเป็นบุรุษผู้หมกมุ่นในกามา บัดนี้จึงมีอนุภรรยาอยู่เต็มจวนเมืองฉางในตอ

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่33 สุขสมหวัง

    "คนเก่งของข้า ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาก่อนเถิด"เว่ยซีหยวนเอ่ยเรียกสตรีที่นอนสิ้นเรี่ยวสิ้นแรงอยู่บนเตียงน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยรอยยิ้ม ประคองถาดใบเล็กที่มีข้าวต้มหอมกรุ่นและถ้วยยาที่ต้มเสร็จใหม่ๆ มาวางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียง ก่อนจะโน้มกายลงจุมพิตแก้มนวลของสตรีที่ยังหลับตาพริ้มอย่างรักใคร่เมื่อคืนนี้นางช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก เขามีความสุขจนแทบจะล้นออกมานอกอก นางนั้นแสนซนและอยากรู้อยากลองไปเสียทุกอย่างแม้เขาคิดจะยั้งมือเมื่อรู้ว่าเป็นครั้งแรกของนาง แต่ถูกยั่วยวนเช่นนั้นก็หมดสิ้นความยับยั้งช่างใจ นางออดอ้อนน่าเอ็นดูถึงเพียงนั้น ใครจะไปอดใจได้ไหว จึงได้จัดหนักจัดเต็มจนเวลาล่วงเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วยาม และนางเองก็ยังสู้ไม่ถอย สภาพจึงได้ออกมาเช่นตอนนี้หักโหมถึงเพียงนั้นเขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าหลังจากนั้นนางจะต้องป่วยเป็นแน่ จึงได้ลุกขึ้นไปเคี่ยวยาเตรียมไว้ให้นางตั้งแต่รุ่งสางและนางก็ป่วยจริงๆใบหน้าเล็กที่ซีดเซียวในคราแรก ตอนนี้ซับสีเลือดจนแดงก่ำมาจนถึงลำคอ แพขนตางอนขยับยุกยิก นั่นทำให้ชายหนุ่มที่คลอเคลียนางอยู่ไม่ห่างยกยิ้มขึ้น ดวงตาคมเผยประกายเจ้าเล่ห์สอดฝ่ามืออุ่นร้

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่32 เราทั้งสองต่างเข้ากันได้ดี

    เจียงม่านหัวใจเต้นแรงเมื่อถูกชายหนุ่มยกตัวจนลอยขึ้นจากพื้น ทั้งที่ริมฝีปากของทั้งสองยังคงแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม สองแขนของนางกอดกระชับลำคอแข็งแกร่งเอาไว้ ยามเมื่ออีกฝ่ายก้าวเดินสองขาเรียวก็ยกขึ้นเกี่ยวรัดสะโพกสอบทรงพลังไว้แน่นจนเมื่อเขาวางนางลงบนเตียง ชายหนุ่มถึงได้ยอมปล่อยให้นางได้พักหายใจ แต่กระนั้นทั้งจมูกและริมฝีปากร้อนผ่าวก็หาได้ผละออกห่างจากใบหน้าของนางแม้แต่น้อย เขายังคงคลอเคลียพรมจูบไปทั่วใบหน้าของนางอย่างรักใคร่หลงใหล"ม่านม่าน เราแต่งงานกันเถอะนะ"เขาไม่อยากห่างจากนางอีกแล้ว ไม่อยากให้นางมองบุรุษอื่นอีก อยากให้ทั้งหัวใจและสายตาของนางมีเพียงแค่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นเสียงกระซิบแหบพร่าร้องบอกหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส ดวงตาคู่งามฉ่ำหวาน เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำ หญิงสาวไม่ได้ยินที่เขาเอ่ยถามแม้แต่น้อย ในแววตาของนางมีเพียงความสับสนมึนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงหยุดการกระทำทุกอย่างลงเจียงม่านไม่รู้เลยว่าการนิ่งเงียบไม่ตอบคำของนาง จะทำให้ชายหนุ่มที่เฝ้ารอคำตอบรู้สึกเช่นไร ความผิดหวังน้อยใจไหววูบในดวงตาของเขา หัวใจปวดหนึบวูบโหวง แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็แทนที่ด้วยคว

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่31 ท่านเป็นบ้าอันใดไป

    ผ่านมาสองวันเจียงม่านก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเว่ยซีหยวน อีกฝ่ายจงใจที่จะหลบหน้านางแน่แล้ว เพราะเขาหายหน้าหายตาไป ไม่มาหานางที่จวนเช่นดังปกติที่มักจะมาขลุกอยู่กับนางหรือมารับนางออกไปยังหอสุราด้วยกัน จนเรียกได้ว่าทั้งสองแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาเขามักจะทำตัวติดกับนางเสมอ หรือหากแม้ว่ามีธุระก็จะส่งคนมาแจ้งพร้อมด้วยของฝาก แต่ครั้งนี้กลับหายหน้าหายตาไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น และเมื่อนางเลือกที่จะเป็นฝ่ายไปหาเขาก่อน คนของอีกฝ่ายกลับแจ้งกับนางว่าเขาไม่ได้อยู่ในจวน เมื่อนางถามว่าอีกฝ่ายไปไหน กลับตอบกลับมาว่าไม่ทราบ ไม่รู้ว่าผู้เป็นนายไปไหนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทั้งยังไม่ยอมที่จะสบตานาง ท่าทางมีพิรุธเช่นนั้น พวกเขาคิดว่านางโง่หรืออย่างไร รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมโผล่หัวมา จนย่างเข้าวันที่สาม ยอมรับว่าตอนนี้นางมีโทสะอยู่เต็มท้องคนบ้าผู้นั้นหลบหน้านางทำไมกัน นางไปทำอันใดให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เหตุใดจึงไม่ยอมบอกกล่าว เล่นหายไปแบบนี้ใครมันจะไปรู้หรือจะเกี่ยวกับเรื่องในวันนั้น แต่มันก็ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดมิใช่หรอกหรือ ตอนนี้ยังมีข่าวว่าเถ้าแก่เผยส่งแม่สื่อไปจวนตระกูลหม่าแล้ว อีกไม

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่30 ความรู้สึกที่สั่นไหว

    "เจ้าจะยังรั้งรออันใด หรืออยากจะเป็นคนที่ขึ้นไปนอนบนเตียงนั่นเอง"เว่ยซีหยวนเมื่อตั้งสติได้ก็หันมาถลึงตาใส่กวนป๋อเหวินที่กำลังใช้สายตาต่อว่าเขากวนป๋อเหวินส่งค้อนวงโตให้ผู้เป็นสหายป่าเถื่อนของตน ก่อนจะลากร่างที่หนักอึ้งของเถ้าแก่เผยไปโยนลงบนเตียงด้วยแรงที่ไม่เบานัก ทั้งยังจับอีกฝ่ายเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าหม่าลี่เซียนที่เห็นการกระทำของคนทั้งสองก็เบิกตาโพลง รับรู้ได้ว่าพวกเขาคิดจะทำสิ่งใด แต่ร่างกายที่กำลังสั่นสะท้านเพราะฤทธิ์กำยานปลุกกำหนัดทั้งยังความเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ทำให้นางไม่อาจกระทำสิ่งใดได้ดั่งใจ ตอนนี้ความร้อนรุ่มกำลังเล่นงานนางอย่างหนัก อยากจะปลดปล่อยความต้องการภายในร่างกาย แต่การจะต้องร่วมเตียงกับชายแก่อ้วนฉุเช่นเถ้าแก่เผยนั้นทำให้นางไม่อาจที่จะยอมรับได้ จึงกัดกระพุ้งแก้มของตนอย่างแรงเพื่อรั้งสติเอาไว้ จนรสเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งปากดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำจ้องมองบุรุษที่นางหลงใหลด้วยสายตาเจ็บปวดและเจ็บแค้น ก่อนที่เสียงหัวเราะขื่นขมจะเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีซีดฮ่าฮ่าฮ่าหม่าลี่เซียนหัวเราะออกมาเสียงขื่น ในขณะที่น้ำตาของนางไหลพราก ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนั

  • โฉมงามตัวร้ายกับอันธพาลใจโฉด   ตอนที่29 แผนการร้ายของหม่าลี่เซียน

    งานเลี้ยงในวันนี้เริ่มขึ้นได้สักพักแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง เพราะผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ล้วนเป็นเหล่าคหบดี พ่อค้าแม่ค้า และคนที่รู้จักมักคุ้นกันดีในเมืองฉางแห่งนี้เจียงม่านอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเป็นตัวนางเองที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางแผนการร้ายของผู้อื่น ยามเมื่อคอยลุ้นในซีรี่ย์ที่เคยดูนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว ยามนี้กลับยิ่งตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าแม้ว่าจะรู้ตัวล่วงหน้า แต่พวกนางยังไม่รู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายคิดจะวางยาเว่ยซีหยวนเช่นไร หันไปมองเจ้าตัวก็เห็นว่าเขาไม่ยอมแตะต้องเครื่องดื่มหรืออาหารบนโต๊ะแม้แต่น้อย นั่นทำให้นางรู้สึกเป็นกังวล หากเป็นเช่นนี้เรื่องราวจะเป็นไปตามแผนการของอีกฝ่ายได้อย่างไรกันใช่ว่านางจะไม่หวงแหนหรือเป็นห่วงเขาแต่นางลงทุนลงแรงไปถึงเพียงนี้จะให้สูญเปล่าได้อย่างไรกัน อย่างไรเสียวันนี้หม่าลี่เซียนก็จะต้องมีสามีที่ไม่ใช่บุรุษของนางนางยอมทุ่มเงินมากมายเพื่อว่าจ้างคนมีฝีมือที่เป็นวรยุทธ์คอยดูแลอยู่ห่างๆ อย่างไรก็มั่นใจว่าเขาจะต้องปลอดภัย ก่อนที่จะถูกหญิงนางนั้นกลืนลงท้อง อีกทั้งยังมีคนของคุณชายกวนที่กระจายตัวอยู่อีกอย่างใช่ว่าพ่ออันธพาลของนางจะร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status