LOGIN‘พี่คิดจะทำอะไรของพี่อีกกันแน่’
เฮ้อ...วันนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกเหนื่อยมาก ทั้งๆ ที่คิดว่าทุกอย่างมันจบไปแล้ว ‘ครึ่งปี ครึ่งปีแล้วที่เขาหายไปจากชีวิต แต่วันนี้เขาจะกลับมาอีกทำไม’
ตรืด!!
“ค่ะ...แม่”
‘โมจิ...หนูโอเคไหมลูก’
“โมจิไม่เป็นอะไร...ค่ะ ดึกแล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีก”
‘แล้วหนูล่ะ... ถึงห้องรึยัง ที่จริงหนูน่าจะค้างที่บ้านนะ แม่กับแด๊ดดีเป็นห่วง’
“พรุ่งนี้โมจิมีสอบ ไว้สอบเสร็จโมจิจะกลับไปนอนกอดแม่ทั้งวันทั้งคืนเลย”
ทั้งๆ ที่ก็อยู่กับแม่กับแด๊ดดี เจอหน้ากันเกือบทุกวัน แต่ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกคิดถึงทั้งสองคนมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะขับรถออกมาจากบ้าน
“แม่คะ” แต่มันก็พูดอะไรไม่ออก อยากจะขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนกันไปหมด มันจุกในอก หน่วงในใจ ไม่รู้จะบอกแม่กับแด๊ดดียังไง
‘ไม่ต้องคิดมาก แด๊ดดีกับแม่เข้าใจ หนูเป็นลูกแม่นะโมจิ แม่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เกิด ลูกสาวแม่เป็นยังไงทำไมแม่จะไม่รู้’
“แม่...อึก”
‘ลูกสาวแม่เป็นคนเก่ง หนูไม่ต้องคิดมาก ไม่มีใครว่า ทุกคนพร้อมที่จะอยู่ข้างๆ ลูก ไม่ว่าหนูจะตัดสินใจยังไง แด๊ดดีกับแม่ก็อยู่ข้างหนู แม่รักลูกนะ’
ยิ่งแม่พูดแบบนั้น น้ำตาเม็ดใสมันก็ไหลอาบสองแก้มอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนเจ้าน้ำตา แต่วันนี้ ‘ณิชาวีร์’ คนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ มันเหนื่อย เหนื่อยจนอยากหนีไปให้ไกลสุดขอบโลก
“โมจิรักแม่ รักแด๊ดดี รักพี่ญี่ปุ่นนะ โมจิสัญญาจะไม่ให้ใครมาทำอะไรทุกคนได้” มือน้อยๆ ยกขึ้นปาดน้ำตา
‘ใครจะกล้ามาทำอะไร ไม่เอาลูกสาวแม่ไม่ใช่คนขี้แย ไว้พรุ่งนี้กลับมานอนบ้าน แด๊ดดีเขาบอกจะทำของโปรดไว้รอ’ แม่พูดอย่างปลอบโยน
“ค่ะแม่ งั้นแม่นอนนะคะ ไว้สอบเสร็จโมจิจะรีบกลับไปกินอาหารฝีมือแด๊ดดี!”
‘จ้ะ ดูแลตัวเองนะ’
“ค่ะ แม่ด้วยนะ ฝากหอมแก้มแด๊ดดีด้วย” ก่อนแม่จะกดวางสาย
ฟู่...
ฉันพ่นลมออกจากปากนั่งหลังพิงเบาะ ในใจมันสับสนวุ่นวาย ‘เมีย’ เขากล้าบอกกับทุกคนว่าฉันเป็นเมียอย่างนั้นเหรอ คิดแล้วก็ได้แต่นั่งขำ สมเพชตัวเอง
คำว่า 'เมีย' เขาใช้กับคนที่รักกัน ไม่ใช่คนที่จ้องเอาแต่จะทำร้ายเหมือนที่พี่ซันทำตลอดมา
“โมจิเธอต้องอดทนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน” มันเป็นคำถามที่เฝ้าถามตัวเองมาแบบนี้ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายใจร้ายคนนั้น
ซึ่ง...ตอนนี้ถ้าเดาไม่ผิดเขาคงจะอยู่บนห้อง ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ฉันก็ยังจะเดินเข้าไปหา ให้เปลวไฟอย่างเขาเผาไหม้
ร่างเล็กได้แต่นอนนิ่งหลับตาขออยู่เงียบๆ แบบนี้สัก 10 นาที แล้วหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นค่อยว่ากัน...
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ระหว่างที่กำลังจะผลอยหลับ ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจก
“.......” ฉันลดกระจกลง เป็นพี่นาโซ่ ลูกน้องของพี่ซัน ฉันไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจอะไร เพราะเห็นรถพวกเขาขับตามตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ค้างที่บ้าน ไม่อยากให้ทุกคนในบ้านตกใจ เพราะคนอย่างพี่ซันถ้าเขาคิดจะทำอะไร แค่จะเดินเข้าบ้านคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องยาก เขามีเงิน มีอำนาจ แต่เขาไม่มีหัวใจ
“เซนญอร่า เป็นอะไรไหม?” น้ำเสียงเย็นเฉียบเอ่ยถาม
“.....” ฉันส่ายหน้า เปิดประตูเดินตรงขึ้นไปยังห้อง โดยมีลูกน้องเขานับสิบคนเดินตามมาติดๆ และแน่นอนทุกคนที่อยู่แถวนั้นต่างเงียบ รีบหลบเข้าห้องตัวเองทันที
ใครมันจะกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงกับพวกเขาที่พกปืนไปได้ทุกที่ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
“วันนี้ฮันเตอร์อารมณ์ดี” พี่นาโซ่เอ่ยขึ้น ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตู
‘อารมณ์ดี ฮึ..’ แล้วฉันก็นึกขำ ความหมายของเขาก็คือ เจ้านายเขาวันนี้อารมณ์ดีอยากให้ฉันทำตามใจ ไม่ขัดใจพี่ซันสินะ
“สวัสดีครับ เซนญอร่า” พี่ลูอีสเดินเข้ามาทักทายพูดและยิ้มอย่างเป็นมิตร ในบรรดาลูกน้องเขาก็มีคนนี้แหละที่เหมือนมนุษย์คนอื่นทั่วไป นอกนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเจ้านาย
‘ขรึม เย็นชา ไร้ความรู้สึก’
แกร๊ก!!
ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้อง ฉันถึงกับต้องชะงักกับกลิ่นซิการ์ที่เหม็นตลบอบอวลไปทั่วห้อง แต่ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเดินตรงไปยังห้องนอน
“ออกไป!” นี่คือคำแรกที่เอ่ยทักทายเขา ผู้ชายตัวสูงโปร่งในเสื้อคลุมสีดำไหล่กว้าง ที่ยืนพ่นควันซิการ์อยู่บนระเบียงห้อง
“คา...ริ...นา?” เขาเอ่ยเสียงเย็น พลิกตัวหันมาจ้องหน้าฉันอย่างไม่พอใจ
“.....” ฉันเงียบเดินตรงเข้าไปหาเขาอย่างไม่เกรง ก่อนจะไปหยุดที่ตรงหน้าคนโรคจิตที่มายืนแก้ผ้าอยู่ในห้องคนอื่น
เขาเดินเข้ามาใกล้ มองฉันอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ฮึ...ดุ...สวย...เซ็กซี่...เร่าร้อน!” เขายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิดเดินวนรอบตัว
“ออกไป!” ฉันไม่สนใจสั่งเขาเสียงแข็ง
“คืนนี้เราเล่นท่าไหนกันดี!” เขาทิ้งซิการ์ลงพื้น กัดฟันกรอดอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
หมับ!
“กล้าดียังไงถึงมาไล่ฉัน!” น้ำเสียงเย็นเยือก ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้ สายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ออกไปจากห้องโมจิ!” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง
“ไล่ผัว” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง ฝ่ามือใหญ่บีบขย้ำบั้นท้ายหนักๆ ริมฝีปากหยักกดจูบหนักลงที่มุมปากซ้าย
พรึบ!!
“ออกไป!”
เพล้ง!!!
สองมือผลักแผงอกแกร่งอย่างแรง จนร่างกำยำเซไปชนกับกระถางดอกไม้แตก
“อยากตายมากใช่ไหม? ณิชาวีร์!!!” เขาตะเบ็งเสียงดังลั่น กัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำ เดินตรงเข้ามาใกล้ เขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกแวมไพร์ที่กำลังกระหายเลือด
และฉันก็คือเหยื่อที่เขากำลังจะฆ่า.....
“พี่ซัน!” ฉันพูดเสียงลอดไรฟัน มองหน้าเขาอย่างไม่เกรง เมื่อฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ลูบไล้สัมผัสไปทั่วเรียวขา“กลัว?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด“โมจิไม่เคยกลัวพี่ แต่....” ไม่รู้เหรอว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันน่ารังเกียจมากขนาดไหน“อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น อย่าคิดว่าเธอเป็นเมีย แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไร!” คนเจ้าอารมณ์ฉุนขึ้นอย่างทันควัน ฝ่ามือใหญ่ออกแรงบีบต้นขาอย่างแรง สายตาเกรี้ยวกราดดุดัน ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวเขาจนตัวสั่น แต่ฉันไม่ใช่!!“ฆ่าสิ!” ไม่ได้ท้าทาย แต่พูดจริง“โมจิ!!!! เธออย่ามาท้าทายฉัน!” เขาออกแรงบีบแรงกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ดวงตาคู่นั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ“.....” ต่างคนต่างเงียบจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ถามว่าเจ็บไหม เจ็บ!! เจ็บเหมือนกระดูกกำลังจะแหลกละเอียด แต่นั่นมันยังไม่เท่ากับสิ่งที่เขาทำร้ายมาตลอด และคงจะโดนเขาทำร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้กับคนบ้าตรงหน้าอย่างจริงจัง“ฆ่าน่ะ!!” เขาเผยรอยยิ้มร้ายออกมา “ฉันฆ่าเธอแน่” จากที่ออกแรงบีบ เขาปล่อยและค่อยๆ ล้วงฝ่ามือใหญ่เข้ามาในกางเกงขาสั้นสีขาวที่ใส่อยู่“ปล่อย!!” ฉันสั่งเขาอีกครั้ง ชักสีหน้
“อยากตายมากใช่ไหม? ณิชาวีร์!!!” เขาตะเบ็งเสียงดังลั่น กัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำ เดินตรงเข้ามาใกล้ เขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกแวมไพร์ที่กำลังกระหายเลือดและฉันก็คือเหยื่อที่เขากำลังจะฆ่า.....“ไม่มีใครอยากตายหรอกค่ะ!” ฉันตอบอย่างไม่ใส่ใจ ถ้าเขาจะฆ่า เขาก็คงฆ่าไปนานแล้ว “แม้แต่พี่!”เราสองคนต่างคนต่างจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร แรงมาแรงกลับ ตาต่อตาฟันต่อฟัน“กลับไป....แล้วเลิกยุ่ง เลิกขู่โมจิสักที!” ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง“ขู่? ฮึ...”แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่ซันเค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน“พี่ทำอะไร!” เป็นเหตุให้ต้องเดินกลับไปหาเขา“ฮึ...คิดว่าฉันทำอะไรล่ะ” เขาปรายตามองอย่างเจ้าเล่ห์ ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวพันปอยผมเล่น พูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี“ทำไมต้องดึงคนอื่นเข้ามาด้วย!” เบสคือคนที่เดือดร้อนทุกครั้งเวลาที่ฉันคิดจะสู้“เธอจะได้รู้ไงว่าฉันไม่เคยขู่!” พี่ซันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พูดเสียงผ่านไรฟัน กัดฟันกรอดอย่างข่มอารมณ์“ฉันทำได้มากกว่านี้อีก ถ้าเธอยังดื้อ! คารินา!”หมับ!!ฝ่ามือใหญ่จับปลายคางมน พร้อมกับออกแรงบีบแรงๆ“พี่สาวเธอก็สวยดีนะ ถึงจะมีลูกมีผัวแล้ว...”“อย่าคิดทำอะไรพี่ส
‘พี่คิดจะทำอะไรของพี่อีกกันแน่’เฮ้อ...วันนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกเหนื่อยมาก ทั้งๆ ที่คิดว่าทุกอย่างมันจบไปแล้ว ‘ครึ่งปี ครึ่งปีแล้วที่เขาหายไปจากชีวิต แต่วันนี้เขาจะกลับมาอีกทำไม’ตรืด!!“ค่ะ...แม่”‘โมจิ...หนูโอเคไหมลูก’“โมจิไม่เป็นอะไร...ค่ะ ดึกแล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีก”‘แล้วหนูล่ะ... ถึงห้องรึยัง ที่จริงหนูน่าจะค้างที่บ้านนะ แม่กับแด๊ดดีเป็นห่วง’“พรุ่งนี้โมจิมีสอบ ไว้สอบเสร็จโมจิจะกลับไปนอนกอดแม่ทั้งวันทั้งคืนเลย”ทั้งๆ ที่ก็อยู่กับแม่กับแด๊ดดี เจอหน้ากันเกือบทุกวัน แต่ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกคิดถึงทั้งสองคนมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะขับรถออกมาจากบ้าน“แม่คะ” แต่มันก็พูดอะไรไม่ออก อยากจะขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนกันไปหมด มันจุกในอก หน่วงในใจ ไม่รู้จะบอกแม่กับแด๊ดดียังไง‘ไม่ต้องคิดมาก แด๊ดดีกับแม่เข้าใจ หนูเป็นลูกแม่นะโมจิ แม่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เกิด ลูกสาวแม่เป็นยังไงทำไมแม่จะไม่รู้’“แม่...อึก”‘ลูกสาวแม่เป็นคนเก่ง หนูไม่ต้องคิดมาก ไม่มีใครว่า ทุกคนพร้อมที่จะอยู่ข้างๆ ลูก ไม่ว่าหนูจะตัดสินใจยังไง แด๊ดดีกับแม่ก็อยู่ข้างหนู แม่รักลูกนะ’ยิ่งแม่พูดแบบนั้น น้ำตาเม็ดใสมันก็ไหลอาบสองแก้มอ
‘กูถามมึงจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี มึงถึงได้สนใจขนาดนั้น’“เสือก” ซันไชน์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ สายตาคมกริบจ้องไปยังหญิงสาวตัวเล็กที่เพิ่งจะเดินลงจากรถไปกับผู้ชาย ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจ‘กู! ไม่....ได้....อยาก....เสือก! ถ้ามึง! ไม่ทำให้กูเดือดร้อน!’ ปลายสายพูดเน้นทีละคำอย่างไม่พอใจ“เรื่องของมึง ว่าแต่ที่กูสั่งให้ทำ เรียบร้อย!” ซันไชน์โยนบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ โดยมีลูกน้องคนสนิท นาโซ่และลูอีส คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด‘เรียบร้อย จะทำอะไรก็รีบทำ กูอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นตัวเป็นๆ ว่าจะน่าเอาแค่ไหนมึงถึงได้บ้าขนาดนี้!’ ปลายสายยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน“ใช่! กูแค่อยากเอาชนะ!” ซันไชน์เอ่ยเสียงเรียบ สายตาเย็นเยือกมองไปที่ประตูบ้านหลังใหญ่ที่กำลังมีงาน‘เอ่อ ให้มันจริง กูจะคอยดู ฮึ...’ ก่อนเขาจะวางสายไป“ของที่กูสั่ง?” มาเฟียหนุ่มเอ่ย หันไปจ้องหน้าลูกน้องด้วยความหงุดหงิด“เรียบร้อยครับฮันเตอร์” นาโซ่เอ่ย“.....” ก่อนซันไชน์จะตวัดหางตาคมกริบไปทางลูอีส เมื่อเขาสั่งให้ลูกน้องไปจัดการไอ้เด็กหนุ่มคนนั้น แต่ทำไมมันยังเดินยิ้มอย่างมีความสุขเข้าไปกับเธอ“คือว่า....” ลูอีสถึงกับหายใ
“เมื่อไหร่พี่จะพอใจ”“........”ไร้ซึ่งคำตอบจากมาเฟียหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าสามี แต่แท้จริงแล้วเขาคือเจ้ากรรมนายเวรที่คอยตามติด ทำลายล้างและเผาผลาญทุกสิ่งอย่างข้างกายหญิงสาวร่างบางหอบหิ้วร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำที่ป่าเถื่อนเยี่ยงสัตว์ป่า ไร้ซึ่งคำว่าอ่อนโยนหรือทะนุถนอม หากถามว่าทำไมต้องยอมเขา เหตุผลเดียวคือ ‘ถ้าไม่ยอม’ ทุกคนรอบข้างเธออาจตกอยู่ในอันตรายร่างกายทุกส่วนเต็มไปด้วยรอยรักรอยแดง ยิ่งบริเวณเนินอกขาวๆ ยิ่งเห็นได้ชัดเจน แต่ถึงกระนั้น เธอกลับไม่เคยเอ่ยปากขอร้องหรือขอความเห็นใจจากผู้ชายใจร้ายคนนี้ซันไชน์ ครูซ คาร์เทล มาเฟียหนุ่ม เจ้าของฉายา ‘Hunter’ (ฮันเตอร์) นักฆ่าผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเลือดเย็นที่สุดและทรงอิทธิพลทั่วทั้งยุโรปมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ดูดซิการ์พ่นควันสีขาวลอยคลุ้ง ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วทุกมุมห้อง มืออีกข้างถือแก้วไวน์ชั้นดี ดื่มด่ำกับรสชาติหวานเฝื่อน ลิ้มรสแอลกอฮอล์ ค่อยๆ จิบทีละนิด ซึมซับรสชาติที่หอมหวานที่ซ่อนอยู่ภายในหมับ!!“จะไปไหน” เสียงทุ้มต่ำเย็นเฉียบเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ชอบที่สุดเวลาเธอเดินหนี ฝ่ามือใหญ่คว้าดึงร่างอรชรของภรร







