Share

บทที่ 8

Penulis: ซูซี
เซบาสเตียนตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า

ร่างกายของซาบริน่าไร้ซึ่งการปกปิดใด ๆ และผิวของเธอแดงเล็กน้อยหลังจากการอาบน้ำ ผมสั้นและเปียกน้ำกระเซอะกระเซิงดูไม่เป็นทรง และใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือปกคลุมไปด้วยละอองหยดน้ำ

เซบาสเตียนสามารถเห็นทั้งร่างของเธอได้ในชั่วพริบตาเดียวขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้า เธอตัวสั่นและม้วนตัวอย่างช่วยไม่ได้

เซบาสเตียนไม่ได้ใส่ใจนัก

เขามีรูปร่างสูงและแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่คมชัด ผิวคล้ำ ไหล่กว้าง และสะโพกแคบ แขนขวาที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้าของเขามีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวอยู่สองรอย แต่มันเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของความเป็นผู้ชาย และการมีอำนาจที่เหนือกว่าอย่างเต็มที่

เมื่อซาบริน่าเห็นรอยแผลเป็นของเขา หัวใจของเธอก็หดเล็กเป็นก้อนลูกบอลด้วยความตกใจกลัว

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังอายกับการที่เขาเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไปเรียบร้อยแล้ว

เธอปิดหน้าด้วยความตกใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปกปิดมันอย่างไร บางส่วนก็ยังมองเห็นได้ เธอเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไป เพื่อเอื้อมไปหาเสื้อคลุมอาบน้ำ ขณะที่เธอต้องการจะสวมมัน แต่มือของเธอก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง

“ฉัน… ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ทำไม… คุณกลับมาทำไม?” เธอพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อราวกับเหล็กที่ถูกตีตรา

เธอได้เสื้อคลุมอาบน้ำมาแล้ว แต่เธอไม่สามารถใส่มันได้อย่างเหมาะสม

หลังจากที่เธอสวมเสื้อคลุมด้วยความยากลำบาก เธอก็ได้รู้ว่าเสื้อคลุมนั้นยาวมาก จนชายขอบเสื้อลากอยู่บนพื้น

ซาบริน่าจึงได้รู้ว่ามันเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำของผู้ชาย มันกว้างใหญ่และยาว

เธอเพียงแค่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเดินออกไป แต่ยิ่งเธอประหม่ามากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาก็ติดตามเธอมากขึ้นเท่านั้น เธอเหยียบชาเสื้อคลุมอาบน้ำ ทำให้ร่างของเธอล้มลง

“อ๊าก…!” ซาบริน่าส่งเสียงกรีดร้องออกมา

เซบาสเตียนยื่นแขนออกไปคว้าและดึงตัวเธอเข้าไปหาตัวเพื่อไม่ให้เธอล้มลง

ชายคนนั้นได้กลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับว่าเขาเคยได้กลิ่นนี้มาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง เขาหลับตาลงเบา ๆ แล้วก้มศีรษะลงไปที่หลังคอของเธอ

ซาบริน่าร้องออกมาด้วยความกลัว “ปล่อยฉันนะ… ”

เซบาสเตียนรู้สึกตัวในทันใด

“บ้าเอ้ย” เขาสบถออกมา จากนั้นเขาก็หยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาห่อตัวซาบริน่า เขาอุ้มเธอไปที่ห้องนอนที่สอง แล้วโยนเธอลงบนเตียงใหญ่ก่อนจะหันหลังเดินออกไป

ปัง! ประตูห้องถูกปิด

เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวน้ำเย็นลงบนตัวเองอย่างโกรธจัด

ซาบริน่าขดตัวอยู่บนเตียงในห้องนอนที่สอง กอดขาของตัวเองเอาไว้ และกล่าวโทษตัวเอง ทำไมเธอถึงไม่รังเกียจอ้อมกอดของเขาเลย?

'ซาบริน่า สก๊อตต์ เธอต้องการแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยนี้จริง ๆ เหรอ?'

‘เธอมันช่างไร้ยางอายเสียจริง ๆ !’

'เซบาสเตียนรังเกียจเธอจะตายไป เขาจะมาสนใจเธอได้ยังไงกัน ผู้หญิงที่เพิ่งออกจากคุกและตอนนี้ก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย?’

‘ต้องระวังตัวเองไว้ให้ดี อย่าแพร่งพรายเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวเองดูไร้ค่าไปมากกว่านี้ รวมถึงเรื่องของชายที่ตายไปแล้วคนนั้นด้วย!’

เธอใช้เวลาทั้งคืนอย่างกระสับกระส่ายในห้องนอนแขก วันรุ่งขึ้นเธอตื่นแต่เช้า และไม่เห็นใครอยู่ในห้องนั่งเล่น ดังนั้น เธอจึงหยิบกระดาษโน๊ตขึ้นมาเขียนและทิ้งข้อความเอาไว้

ลายมือของเธอนั้นมั่นคง เรียบร้อย และเฉียบเเหลมเหมือนครั้งที่แล้ว ‘ขอโทษนะคะ คุณฟอร์ด

ฉันไม่ทันได้คิดว่าคุณจะกลับมาที่นี่เพื่อพักผ่อน และฉันทำให้คุณขุ่นเคืองโดยใช้ห้องน้ำของคุณเมื่อวานนี้ ฉันจะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับก่อนหน้านี้ และฉันหวังว่าคุณก็จะทำเช่นเดียวกันนะคะ'

หลังจากทิ้งข้อความไว้ ซาบริน่าก็ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเกรซ

เธอไม่ได้พบแม่บ้านในเช้าวันนั้น ดังนั้น เธอจึงเข้าใจว่าเป็นเกรซที่จัดการไว้ให้อย่างดี เพื่อที่เธอต้องการให้พวกเขาได้ใช้เวลาทั้งคืนด้วยกัน

เมื่อเธอมาถึงห้องผู้ป่วย สายตาของเกรซก็สำรวจไปที่ซาบริน่าทันที ที่เธอเข้ามาในห้อง “แซบบี้ ทำไมหนูถึงมาที่นี่เร็วจัง? วันนี้หนูไม่ควรลุกจากเตียงนะ หนูควรจะพักผ่อนให้มากกว่านี้”

ซาบริน่ารู้สึกอึดอัดใจ จึงพูดไปว่า “แม่คะ… อย่าพูดถึงมันเลยนะคะ”

“บอกแม่มา เมื่อคืนหนูมีความสุขไหม?” เกรซถามยิ้ม ๆ

“ค่ะ” ซาบริน่าพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นเธอก็โน้มตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเกรซ

เกรซกอดเธอแล้วพูดว่า “หนูรู้ไหมว่าหนูกับเซบาสเตียนเหมาะสมกันมากแค่ไหน? แม่คิดไม่ผิดจริง ๆ เกี่ยวกับลูกทั้งสองคน แม่จะให้งานแต่งงานที่ดีที่สุดแก่หนูอย่างแน่นอน… ”

“ขอบคุณค่ะ แม่” แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการแสดงละคร แต่ซาบริน่ายังคงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเกรซ

สำหรับเกรซ นี่ไม่ใช่เพียงการแสดงละคร

เธอต้องการมอบชีวิตที่แสนพิเศษนี้ให้กับซาบริน่าอย่างแท้จริง

ซาบริน่าใช้เวลาทั้งวันในห้องผู้ช่วยของเกรซเพื่อดูแลเธอ เธอพูดจาตลกและหัวเราะไปกับเกรซเนื่องจากเกรซยังป่วยอยู่ เธอจึงต้องนอนหลับเพื่อพักผ่อนสักหน่อย หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกันไปพักหนึ่งแล้ว

ซาบริน่าจากไป เมื่อเกรซผล็อยหลับไปแล้ว

เธอต้องรีบหางานทำ

ขณะที่เธอเดินไปตามถนน เธอบังเอิญเห็นโฆษณาระหว่างทางไปที่ป้ายรถเมล์ [รับสมัครผู้ช่วยสถาปนิก]

ซาบริน่าเรียนในสาขาวิศวกรรมสถาปัตยกรรมในวิทยาลัย แต่การเรียนของเธอถูกขัดจังหวะเนื่องจากการถูกจับกุมในช่วงปีที่สองของเธอ นอกจากนี้ ซาบริน่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกรซในเรือนจำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกรซยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีมาตรฐานระดับผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย

ทั้งสองมักจะศึกษาสถาปัตยกรรมด้วยกันเมื่อไม่มีงานอื่นที่ต้องทำในเรือนจำ

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ซาบริน่าไม่มีวุฒิทางการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เพราะเธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และเธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย บริษัทที่เสนอตำแหน่งเช่นนี้ไม่ต้องการคนแบบเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงมีความคิดที่จะลองเสี่ยงโชคดู

ซาบริน่าวาดแผนผังโครงสร้างสองสามแบบที่ใช้งานได้จริง ด้วยปากกาและกระดาษ เธอไปที่โรงพิมพ์เพื่อถ่ายรูปและจ่ายเงินให้พวกเขา หลังจากที่เธอได้รับรูปในกล่องจดหมายอีเมล์ของเธอแล้ว เธอก็กดปุ่มส่ง

เมื่อเธอจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จแล้ว เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขปลายทางที่เธอที่ไม่รู้จัก

“สวัสดีค่ะ?”

“ซาบริน่า” เสียงพึงพอใจอย่างเหลือเชื่อจากปลายสายการโทรอีกด้านที่ได้ยิน เป็นเสียงของเซลีน

“เธอรู้เบอร์โทรศัพท์ฉันได้ยังไง?” ซาบริน่าถามด้วยความสงสัย

“ฮ่า!” เซลีนหัวเราะ “ฉันสามารถค้นหาว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหนได้ เรื่องแค่นี้มันไม่ยากเกินไปสำหรับฉันที่จะไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอหรอกใช่ไหม?”

“มีอะไร?!” ซาบริน่าถาม

“เมื่อวานนี้ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันอารมณ์ไม่ดี เธอสามารถมาเก็บรูปแม่ของเธอตอนสี่หรือห้าโมงเย็นก็ได้นะ” น้ำเสียงของเซลีนดูเป็นมิตรผิดปกติ

ซาบริน่าพูดไม่ออก

เธอไม่ได้ทันได้ครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของเซลีนระหว่างเมื่อวานกับวันนี้ เธอต้องการเพียงเอารูปแม่ของเธอออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็วก็เท่านั้น

เมื่อเวลาประมาณสี่หรือห้าโมงเย็น ซาบริน่าก็ไปที่คฤหาสน์ลินน์อีกครั้ง

เธอเข้าประตูเข้าไป และจ้องมองอย่างเรียบเฉยไปยังผู้หญิงในบ้าน เจด “รูปแม่ของฉันอยู่ที่ไหน? ช่วยส่งคืนให้ฉัน แล้วฉันจะไปทันที”

“ทำไมเธอถึงรีบร้อนนักล่ะ ซาบริน่า” เจดยิ้มด้วยท่าทีที่ดีอย่างผิดปกติ “ในเมื่อเธอมาถึงที่นี้แล้ว นั่งลงก่อนสิ”

“ขอโทษ ฉันไม่ต้องการ!” ซาบริน่าพูดอย่างใจเย็น

“ว้าว!” เจดพูดด้วยน้ำเสียงแบบสงสัย “มีคนหยิ่งยโส ไม่เต็มใจที่จะมาเยี่ยมบ้านคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาตั้งแปดปีอยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากตระกูลลินน์แล้วสินะ? เธอจะแต่งงานเพื่อยกระดับสถานะตัวเองเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?”

“ถูกต้อง! ฉันได้พบสามีที่ร่ำรวยกว่าตระกูลลินน์เป็นร้อยเท่า บางทีฉันอาจจะทำการกุศลให้กับครอบครัวของคุณในอนาคตด้วยนะ” ซาบริน่าเชิดหน้าขึ้นและมองเจดอย่างเย่อหยิ่ง

เจดพูดไม่ออก แต่ฟันของเธอเกือบหัก ขณะที่เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ

“ซาบริน่า เธอกล้าโอ้อวดแบบนี้เลยเหรอ? งั้นก็พาสามีรวย ๆ มาที่นี่สิ แล้วเราจะได้ทำความรู้จักกัน” เสียงของเซลีนดังมาจากทางประตู

ซาบริน่าหันกลับมา และเห็นชายหญิงเดินเคียงคู่กันเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นคือเซลีน

และผู้ชายคนนั้น ที่ทำให้เธอแปลกใจ ก็คือเซบาสเตียน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 9

    หัวใจของซาบริน่าตกลงไปยังตาตุ่มชั่วขณะหนึ่งแน่นอนว่าผู้ชายที่มีเกียรติและมีภูมิหลังที่ดีอย่างเซบาสเตียนจะไม่มีวันขาดคู่ควงไปอย่างแน่นอน เหตุผลที่เซบาสเตียนแต่งงานกับเธอ ก็เพียงเพื่อให้แม่ของเขาที่กำลังจะจากโลกนี้ไป จากไปโดยไม่ต้องเสียใจอย่างไรก็ตาม ซาบริน่าไม่เคยคาดคิดว่าแฟนสาวของเซบาสเตียนจะเป็นเซลีนสำหรับซาบริน่า ชีวิตของเธอเต็มไปการเยาะเย้ยผู้คนที่เคยข่มเหงเธอกลับมีความสุขและมีเกียรติมากขึ้น ในทางกลับกัน ซาบริน่าได้ทำลายอนาคตของเธอเอง เธอตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่รู้แม้แต่ชื่อพ่อของลูกเสียด้วยซ้ำซาบริน่ารู้สึกตัวเองเป็นเหมือนตัวตลก เมื่อมองดูคู่รักที่ดูเหมาะสมกันเหมือนอยู่ในสวรรค์ดูเหมือนว่าเซลีนขอให้ซาบริน่ามาเก็บรูปแม่ของเธอเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ความตั้งใจที่แท้จริงของ เซลีน คือการจงใจอวดแฟนหนุ่มของเธอต่อหน้าซาบริน่าหลังจากปกปิดความเศร้าในใจของเธอแล้ว ซาบริน่าก็พูดอย่างใจเย็นไปว่า “ผู้หญิงที่สกปรกอย่างฉันจะหาสามีที่ร่ำรวยได้ยังไง? เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่น เนื่องจากคุณมีแขก ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป กรุณานำรูปแม่ของฉันมาให้ฉันด้วย แล้วฉันจะไปทันที”เธอไม่ได

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 10

    ซาบริน่าชะงักเธอได้ยินการดูถูกของเซลีน เธออยากจะพุ่งตัวเข้าไปกรีดใบหน้าของเซลีนเสียโฉมอย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถทำอะไรหุนหันพลันแล่นได้หากเธอต้องเคลื่อนไหว การต่อสู้ย่อมรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอกลัวว่าเธออาจจะทำร้ายเด็กน้อยในท้องได้เธอหัวเราะและถามไปว่า “เธอสนใจงานประเภทนี้ไหมล่ะ?”“ชิ!” เซลีนยิ้มเย้ยหยัน “ฉันแค่เป็นห่วงสุขภาพของเธอ อย่าติดเชื้อโรคสกปรกมาล่ะ! เธอจะทำให้บ้านของฉันแปดเปื้น และทำให้บรรยากาศแถวนี้เหม็นเน่าไป”“แล้วทำไมถึงชวนฉันมาที่บ้านและยืนยันว่าฉันควรจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วย? ฉันคิดว่าเธอสนใจงานประเภทนี้ซะอีก?” ซาบริน่าพูดอย่างใจเย็น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ครอบครัวลินน์ตายได้ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในขณะนี้ เซบาสเตียนกำลังจ้องมองซาบริน่าอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาที่เฉียบคมคู่หนึ่งซึ่งฉายรังสีของความเย็นยะเยือกออกมาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หยิบกุญแจขึ้นมา ยืนขึ้น และจากไป“เซบาสเตียนที่รัก คุณโกรธ… ” เซลีนวิ่งไล่ตามเขาไป“ถ้าคุณติดต่อกับผู้หญิงประเภทนี้อีก ผมจะชดเชยเงินส่วนหนึ่งให้คุณ และยกเลิกการหมั้นของเรา!” เซบาสเตียนไม่สนใจ และเขาไม่แม้แต่จะหันศีรษะกลับมามอง

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 11

    “อะไรนะ?” เซบาสเตียนคิดว่าเขาได้ยินผิด“ให้เงินฉัน 50,000 ดอลลาร์! ฉันรับประกันว่าฉันจะไม่รบกวนครอบครัวลินน์อีกเลย” ซาบริน่าใช้น้ำเสียงอันสงบราวกับว่าความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตเซบาสเตียนโกรธมาก เขาหัวเราะออกมา'เธอเข้าใจวิธีการเล่นจริง ๆ ด้วย'“เมื่อวานใครสัญญากับฉันว่าจะไม่ขอเงินอีก?” เขาถามเธออย่างเย้ยหยัน“คุณคิดว่าผู้หญิงที่ด่างพร้อยเล่นเกมนี้เพื่อที่จะได้อยู่กับคุณหลายต่อหลายครั้งอย่างฉันจะมีความซื่อตรงเหลืออยู่อีกไหมล่ะ?” เธอตอบอย่างเย้ยหยันเซบาสเตียนพูดไม่ออกเขาเกือบลืมไปแล้วว่าเธอไร้ยางอายเพียงใด เขาเยาะเย้ยเธออย่างไร้ความปราณี “ถ้าฉันสามารถพาเธอออกจากคุกได้ เธอคิดว่าเป็นเรื่องยากมากรึไงที่ฉันจะส่งเธอกลับเข้าไปใหม่?”ซาบริน่าพูดไม่ออกเธอรู้ว่าต้องแพ้แน่ถ้าต้องต่อรองกับเซบาสเตียนในแง่ของความโหดเหี้ยมอย่างไรก็ตาม เธอจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะได้เงินจำนวน 50,000 ดอลลาร์นี้มา เธอไม่สามารถปล่อยให้หลุมฝังศพของแม่ของเธอ ถูกขุดขึ้นมาได้ “ก็พูดถูก” เธอหลับตาลงและยิ้มอย่างไร้เรี่ยวแรง “คุณจะบีบคั้นฉันให้ตายได้ง่าย ๆ ยังไงก็ได้ เหมือนกับที่คุณบีบมดให้ตายนั่นแหละ”พ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 12

    เมื่อเธอได้ยินข่าว จู่ ๆ ซาบริน่าก็รู้สึกปวดใจในทันทีเซบาสเตียนกับซาบริน่าเป็นสามีภรรยากัน แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนคนแปลกหน้ามันเกิดขึ้นแล้ว และคนที่เซบาสเตียนกำลังจะหมั้นด้วย ก็คือศัตรูของเธอใช่!เซลีนคือศัตรูของเธอ!ซาบริน่ายังไม่รู้สาเหตุการตายของแม่ของเธอ เธอต้องการสืบสวน แต่ไม่มีเงินเดินทางกลับบ้าน และเธอก็ตั้งท้องลูกอยู่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้แล้วเธอทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นเจดรีบเดินไปหาลินคอล์นและจับมือเขาด้วยความตื่นเต้น “ลินคอล์น สิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? เซบาสเตียนจะมีงานหมั้นกับเซลีนเหรอ? พ่อแม่ของทั้งสองครอบครัวควรนัดมาเจอกันก่อนไม่ใช่เหรอ? หรือ ปู่และพ่อของเซบาสเตียนยอมรับเซลีนแล้ว? พวกเขาไม่รังเกียจที่เซลีนถูกรับมาเลี้ยงใช่ไหม?”เมื่อเธอได้ยินคำว่า “รับมาเลี้ยง” ที่ถูกพูดถึงเมื่อสักครู่ ในใจของซาบริน่าก็รู้สึกเศร้าใจมากขึ้น เซลีนและซาบริน่าได้รับการเลี้ยงดูโดยตระกูลลินน์เซลีนถูกรับมาเลี้ยงเมื่ออายุได้ 2 ขวบ และลินคอล์นกับเจดปฏิบัติต่อเธอเหมือนอัญมณีล้ำค่าในทันที ในทางกลับกัน ซาบริน่ากลายเป็นเด็กอุปถัมภ์ที่มาจากบ้านนอก เมื่อตอนอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเว

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 13

    ห้องนอนของซาบริน่าเต็มไปด้วยความรกเมื่อประตูเปิดออก จะเห็นกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ยังไม่ได้รูดซิป ดูเหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแผงลอยขายของที่ตลาดนัด เสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางนั้นก็วางระเกะระกะ เตียงก็ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเช่นกัน เซบาสเตียนมองดูใกล้ ๆ และเห็นว่าเสื้อผ้าก็ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ และดูซอมซ่อเหมือนผ้าขี้ริ้วเก่า ๆด้วยห้องที่รกเช่นนี้ เป็นไปได้ไหมที่ซาบริน่าหนีไปพร้อมกับเงิน 50,000 ดอลลาร์ ที่เขามอบให้เธอ?สายตาของเซบาสเตียนยังคงเยือกเย็นและเรียบเฉย เขาปิดประตู หยิบกุญแจและขับรถตรงไปที่โรงพยาบาลที่แม่ของเขาอยู่ซาบริน่าไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลเซบาสเตียนหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดหมายเลขของซาบริน่าเขาอาจจะทนต่อเธอได้หากเธอหลอกเขา แต่การหลอกแม่ของเขาที่อายุขัยเหลือเพียงแค่สองเดือน ทำให้เขาเหลืออดจริง ๆ!เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าเขาจะต้องทำให้เซ้าท์ซิตี้นองไปด้วยเลือด เขาก็จะต้องจับซาบริน่ากลับมาให้ได้อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ดังขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซาบริน่าก็หยิบขึ้นมาแล้วน้ำเสียงของเธอกระวนกระวายเล็กน้อย “คุณฟอร์ด วันนี้ฉันไม่ได้ไปหาป้าเกรซนะ ฉันมีเรื่องต้องจัดกา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 14

    ซาบริน่าชะงักทันทีซาบริน่าเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของเซบาสเตียนกับเซลีนเมื่อวันก่อน ซาบริน่าได้ยินลินคอล์นพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อเธอไปที่บ้านของตระกูลลินน์เพื่อคืนเงินเธอเห็นเซลีนสวมชุดแต่งงานที่งดงาม สวมสร้อยคอเพชรรอบคอ ต่างหูเพชร และมงกุฏดอกไม้บนศีรษะของเธอเซลีนงดงามราวกับนางฟ้าจากสวรรค์เซลีนเป็นตัวละครหลักในวันนี้ ต่างจากเธอ เธอมาทำอะไรที่นี่?เธอมองดูสิ่งที่เธอสวม เสื้อเบลาส์สีขาวที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นถ่านและกระโปรงสีดำที่มีรอยขีดข่วนและคลุมด้วยผ้าสำลี เธอมาที่นี่เพื่อขออาหารเหรอ?'เซบาสเตียนมีความคิดแบบไหนกัน?''เซลีนและงานหมั้นของเขาเกี่ยวอะไรกับเธอ และทำไมถึงขอให้เธอมาที่นี่ เพื่อหลอกเธอเหรอ?'คลื่นแห่งความโกรธพุ่งเข้าใส่หัวใจของซาบริน่าซาบริน่ามองดูเซลีนด้วยท่าทางสงบแต่เศร้า “ใช่ ฉันมาทำอะไรที่นี่?”“เธอ! ซาบริน่า สก๊อตต์! เธอนี่ไร้ยางอายมาก! วันนี้เป็นงานหมั้นของฉันกับเซบาสเตียน! เธอสกปรกไปหมด และขาที่กะเผลกของเธอก็ยังเดินไม่เข้ากันอีกด้วย เธอเพิ่งอยู่กับผู้ชายมาแล้วกี่คน แล้วเธอเพิ่งมานำโชคร้ายมาให้ฉันเหรอ? ไสหัวไป!” เซลีนอยากจะฉีกซาบริน่าออกเป็นช

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 15

    ซาบริน่าตกตะลึงและยืนตัวแข็งทื่อ “อะไรนะ… คุณพูดว่าอะไร?”แม้ว่าเธอจะใจเย็น และมีความคิดที่ไม่ใส่ใจกับทุกสิ่ง แต่เธอก็ตกใจไปถึงกลางใจ เมื่อได้ยินสิ่งที่เซบาสเตียนพูด“คุณผู้หญิง! เธอมัวแต่ทำให้เรื่องนี้ช้าอยู่นั้นแหละ!” เซบาสเตียนไม่เคยตั้งใจจะอธิบายอะไรให้ซาบริน่าฟัง เขาดึงแขนเธอเข้าไปภายในของร้านอาหารอย่างแรงข้างหลังเขาคือไนเจลที่ตกตะลึงอยู่ คนที่เพิ่งขับรถให้ซาบริน่าจากที่ไซต์ก่อสร้างมาที่นี่ และแสร้งทำเป็นเป็นคู่ควงของซาบริน่า ไนเจลจับหน้าผากของเขา ในขณะที่เขาคลำหาโทรศัพท์ออกมา และกดหมายเลขโทรศัพท์อย่างประหม่าไม่นาน อีกฝ่ายก็รับสาย“เซย์น ฉันอาจจะตายในไม่ช้านี้” เสียงของไนเจลสั่นเครือเซย์น ซึ่งกำลังขับรถอยู่ พูดแซวและถามไปว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ? ท่านไนเจล อย่าบอกนะว่าคุณได้คบกับผู้หญิงที่คุณลักพาตัวไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว และเธอเกือบจะฆ่าคุณใช่ไหมล่ะ?”“ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดเล่น! ผู้หญิงคนนั้น คือผู้หญิงของเซบาสเตียน”เซย์นไม่มีคำใดให้เป็นคำตอบผ่านไปครู่หนึ่ง เซย์นพูดขึ้นอย่างไม่จริงใจ “เอ่อ ไนเจล ผม… กำลังขับรถอยู่ ไม่สะดวกที่จะคุยโทรศัพท์เลย บาย บาย!”ไนเจลพูดไม่ออกจากสา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 16

    หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ถอดกระโปรงทรงดินสอที่ขาดรุ่งริ่งและเสื้อตัวบนสีขาวออก เธอเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงานและสวมรองเท้าส้นสูงคริสตัล ด้วยความสูง 170 เซนติเมตร ซาบริน่าจึงทั้งสูงและผอมเพรียวอย่างไรก็ตาม เธอดูสูงขึ้นด้วยส้นสูงคริสตัลที่สูง 10 เซนติเมตรและมีขาอันยาวสมบูรณ์แบบอย่างเป็นที่สุดเธอเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าและยังไม่ได้แต่งหน้ารูปลักษณ์ของเธอเมื่อไม่แต่งหน้าก็เพียงพอที่จะทำให้เซบาสเตียนตกตะลึงเธอยังคงหลงเหลือความเย็นชาที่ราวกับว่าทุกสิ่งในโลกไม่มีความหมายต่อเธอ หลังจากสวมชุดแต่งงานอันวิจิตรงดงามชุดนี้แล้ว ความงามของเธอก็ยิ่งเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้นและไร้ข้อจำกัดเธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยความรู้สึกไร้เดียงสาและเย็นชา แต่ก็ไม่พูดอะไรสักคำในใจของเซบาสเตียนรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน โดยไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของเขาเย็นชาและมีเสียงแหบ “เมื่อเช้านี้เธอทำอะไรอยู่? รู้ไหมว่าเธอเกือบทำงานใหญ่ของฉันพลาด?!"“นี่งานแต่งของเราเหรอ?” ซาบริน่าถามอย่างตรงไปตรงมาหลังจากถามแล้ว เธอบอกกับตัวเองว่า “ฉันไม่ได้ต้องการงานแต่งงานนี้! ฉันคิดว่าคุณก็ไม่ได้ต้องการมันเช่นกัน คุณกำลังจะแต่งงานกับเซ

Bab terbaru

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 324

    ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 323

    ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 322

    ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status