Share

บทที่ 8

Author: ซูซี
เซบาสเตียนตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า

ร่างกายของซาบริน่าไร้ซึ่งการปกปิดใด ๆ และผิวของเธอแดงเล็กน้อยหลังจากการอาบน้ำ ผมสั้นและเปียกน้ำกระเซอะกระเซิงดูไม่เป็นทรง และใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือปกคลุมไปด้วยละอองหยดน้ำ

เซบาสเตียนสามารถเห็นทั้งร่างของเธอได้ในชั่วพริบตาเดียวขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้า เธอตัวสั่นและม้วนตัวอย่างช่วยไม่ได้

เซบาสเตียนไม่ได้ใส่ใจนัก

เขามีรูปร่างสูงและแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่คมชัด ผิวคล้ำ ไหล่กว้าง และสะโพกแคบ แขนขวาที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้าของเขามีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวอยู่สองรอย แต่มันเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของความเป็นผู้ชาย และการมีอำนาจที่เหนือกว่าอย่างเต็มที่

เมื่อซาบริน่าเห็นรอยแผลเป็นของเขา หัวใจของเธอก็หดเล็กเป็นก้อนลูกบอลด้วยความตกใจกลัว

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังอายกับการที่เขาเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไปเรียบร้อยแล้ว

เธอปิดหน้าด้วยความตกใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปกปิดมันอย่างไร บางส่วนก็ยังมองเห็นได้ เธอเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไป เพื่อเอื้อมไปหาเสื้อคลุมอาบน้ำ ขณะที่เธอต้องการจะสวมมัน แต่มือของเธอก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง

“ฉัน… ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ทำไม… คุณกลับมาทำไม?” เธอพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อราวกับเหล็กที่ถูกตีตรา

เธอได้เสื้อคลุมอาบน้ำมาแล้ว แต่เธอไม่สามารถใส่มันได้อย่างเหมาะสม

หลังจากที่เธอสวมเสื้อคลุมด้วยความยากลำบาก เธอก็ได้รู้ว่าเสื้อคลุมนั้นยาวมาก จนชายขอบเสื้อลากอยู่บนพื้น

ซาบริน่าจึงได้รู้ว่ามันเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำของผู้ชาย มันกว้างใหญ่และยาว

เธอเพียงแค่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเดินออกไป แต่ยิ่งเธอประหม่ามากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาก็ติดตามเธอมากขึ้นเท่านั้น เธอเหยียบชาเสื้อคลุมอาบน้ำ ทำให้ร่างของเธอล้มลง

“อ๊าก…!” ซาบริน่าส่งเสียงกรีดร้องออกมา

เซบาสเตียนยื่นแขนออกไปคว้าและดึงตัวเธอเข้าไปหาตัวเพื่อไม่ให้เธอล้มลง

ชายคนนั้นได้กลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับว่าเขาเคยได้กลิ่นนี้มาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง เขาหลับตาลงเบา ๆ แล้วก้มศีรษะลงไปที่หลังคอของเธอ

ซาบริน่าร้องออกมาด้วยความกลัว “ปล่อยฉันนะ… ”

เซบาสเตียนรู้สึกตัวในทันใด

“บ้าเอ้ย” เขาสบถออกมา จากนั้นเขาก็หยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาห่อตัวซาบริน่า เขาอุ้มเธอไปที่ห้องนอนที่สอง แล้วโยนเธอลงบนเตียงใหญ่ก่อนจะหันหลังเดินออกไป

ปัง! ประตูห้องถูกปิด

เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวน้ำเย็นลงบนตัวเองอย่างโกรธจัด

ซาบริน่าขดตัวอยู่บนเตียงในห้องนอนที่สอง กอดขาของตัวเองเอาไว้ และกล่าวโทษตัวเอง ทำไมเธอถึงไม่รังเกียจอ้อมกอดของเขาเลย?

'ซาบริน่า สก๊อตต์ เธอต้องการแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยนี้จริง ๆ เหรอ?'

‘เธอมันช่างไร้ยางอายเสียจริง ๆ !’

'เซบาสเตียนรังเกียจเธอจะตายไป เขาจะมาสนใจเธอได้ยังไงกัน ผู้หญิงที่เพิ่งออกจากคุกและตอนนี้ก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย?’

‘ต้องระวังตัวเองไว้ให้ดี อย่าแพร่งพรายเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวเองดูไร้ค่าไปมากกว่านี้ รวมถึงเรื่องของชายที่ตายไปแล้วคนนั้นด้วย!’

เธอใช้เวลาทั้งคืนอย่างกระสับกระส่ายในห้องนอนแขก วันรุ่งขึ้นเธอตื่นแต่เช้า และไม่เห็นใครอยู่ในห้องนั่งเล่น ดังนั้น เธอจึงหยิบกระดาษโน๊ตขึ้นมาเขียนและทิ้งข้อความเอาไว้

ลายมือของเธอนั้นมั่นคง เรียบร้อย และเฉียบเเหลมเหมือนครั้งที่แล้ว ‘ขอโทษนะคะ คุณฟอร์ด

ฉันไม่ทันได้คิดว่าคุณจะกลับมาที่นี่เพื่อพักผ่อน และฉันทำให้คุณขุ่นเคืองโดยใช้ห้องน้ำของคุณเมื่อวานนี้ ฉันจะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับก่อนหน้านี้ และฉันหวังว่าคุณก็จะทำเช่นเดียวกันนะคะ'

หลังจากทิ้งข้อความไว้ ซาบริน่าก็ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเกรซ

เธอไม่ได้พบแม่บ้านในเช้าวันนั้น ดังนั้น เธอจึงเข้าใจว่าเป็นเกรซที่จัดการไว้ให้อย่างดี เพื่อที่เธอต้องการให้พวกเขาได้ใช้เวลาทั้งคืนด้วยกัน

เมื่อเธอมาถึงห้องผู้ป่วย สายตาของเกรซก็สำรวจไปที่ซาบริน่าทันที ที่เธอเข้ามาในห้อง “แซบบี้ ทำไมหนูถึงมาที่นี่เร็วจัง? วันนี้หนูไม่ควรลุกจากเตียงนะ หนูควรจะพักผ่อนให้มากกว่านี้”

ซาบริน่ารู้สึกอึดอัดใจ จึงพูดไปว่า “แม่คะ… อย่าพูดถึงมันเลยนะคะ”

“บอกแม่มา เมื่อคืนหนูมีความสุขไหม?” เกรซถามยิ้ม ๆ

“ค่ะ” ซาบริน่าพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นเธอก็โน้มตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเกรซ

เกรซกอดเธอแล้วพูดว่า “หนูรู้ไหมว่าหนูกับเซบาสเตียนเหมาะสมกันมากแค่ไหน? แม่คิดไม่ผิดจริง ๆ เกี่ยวกับลูกทั้งสองคน แม่จะให้งานแต่งงานที่ดีที่สุดแก่หนูอย่างแน่นอน… ”

“ขอบคุณค่ะ แม่” แม้ว่านี่จะเป็นเพียงการแสดงละคร แต่ซาบริน่ายังคงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเกรซ

สำหรับเกรซ นี่ไม่ใช่เพียงการแสดงละคร

เธอต้องการมอบชีวิตที่แสนพิเศษนี้ให้กับซาบริน่าอย่างแท้จริง

ซาบริน่าใช้เวลาทั้งวันในห้องผู้ช่วยของเกรซเพื่อดูแลเธอ เธอพูดจาตลกและหัวเราะไปกับเกรซเนื่องจากเกรซยังป่วยอยู่ เธอจึงต้องนอนหลับเพื่อพักผ่อนสักหน่อย หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกันไปพักหนึ่งแล้ว

ซาบริน่าจากไป เมื่อเกรซผล็อยหลับไปแล้ว

เธอต้องรีบหางานทำ

ขณะที่เธอเดินไปตามถนน เธอบังเอิญเห็นโฆษณาระหว่างทางไปที่ป้ายรถเมล์ [รับสมัครผู้ช่วยสถาปนิก]

ซาบริน่าเรียนในสาขาวิศวกรรมสถาปัตยกรรมในวิทยาลัย แต่การเรียนของเธอถูกขัดจังหวะเนื่องจากการถูกจับกุมในช่วงปีที่สองของเธอ นอกจากนี้ ซาบริน่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกรซในเรือนจำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกรซยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีมาตรฐานระดับผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย

ทั้งสองมักจะศึกษาสถาปัตยกรรมด้วยกันเมื่อไม่มีงานอื่นที่ต้องทำในเรือนจำ

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ซาบริน่าไม่มีวุฒิทางการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เพราะเธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และเธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย บริษัทที่เสนอตำแหน่งเช่นนี้ไม่ต้องการคนแบบเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงมีความคิดที่จะลองเสี่ยงโชคดู

ซาบริน่าวาดแผนผังโครงสร้างสองสามแบบที่ใช้งานได้จริง ด้วยปากกาและกระดาษ เธอไปที่โรงพิมพ์เพื่อถ่ายรูปและจ่ายเงินให้พวกเขา หลังจากที่เธอได้รับรูปในกล่องจดหมายอีเมล์ของเธอแล้ว เธอก็กดปุ่มส่ง

เมื่อเธอจัดการเรื่องต่าง ๆ เสร็จแล้ว เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขปลายทางที่เธอที่ไม่รู้จัก

“สวัสดีค่ะ?”

“ซาบริน่า” เสียงพึงพอใจอย่างเหลือเชื่อจากปลายสายการโทรอีกด้านที่ได้ยิน เป็นเสียงของเซลีน

“เธอรู้เบอร์โทรศัพท์ฉันได้ยังไง?” ซาบริน่าถามด้วยความสงสัย

“ฮ่า!” เซลีนหัวเราะ “ฉันสามารถค้นหาว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหนได้ เรื่องแค่นี้มันไม่ยากเกินไปสำหรับฉันที่จะไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอหรอกใช่ไหม?”

“มีอะไร?!” ซาบริน่าถาม

“เมื่อวานนี้ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันอารมณ์ไม่ดี เธอสามารถมาเก็บรูปแม่ของเธอตอนสี่หรือห้าโมงเย็นก็ได้นะ” น้ำเสียงของเซลีนดูเป็นมิตรผิดปกติ

ซาบริน่าพูดไม่ออก

เธอไม่ได้ทันได้ครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของเซลีนระหว่างเมื่อวานกับวันนี้ เธอต้องการเพียงเอารูปแม่ของเธอออกมาจากที่นั่นอย่างรวดเร็วก็เท่านั้น

เมื่อเวลาประมาณสี่หรือห้าโมงเย็น ซาบริน่าก็ไปที่คฤหาสน์ลินน์อีกครั้ง

เธอเข้าประตูเข้าไป และจ้องมองอย่างเรียบเฉยไปยังผู้หญิงในบ้าน เจด “รูปแม่ของฉันอยู่ที่ไหน? ช่วยส่งคืนให้ฉัน แล้วฉันจะไปทันที”

“ทำไมเธอถึงรีบร้อนนักล่ะ ซาบริน่า” เจดยิ้มด้วยท่าทีที่ดีอย่างผิดปกติ “ในเมื่อเธอมาถึงที่นี้แล้ว นั่งลงก่อนสิ”

“ขอโทษ ฉันไม่ต้องการ!” ซาบริน่าพูดอย่างใจเย็น

“ว้าว!” เจดพูดด้วยน้ำเสียงแบบสงสัย “มีคนหยิ่งยโส ไม่เต็มใจที่จะมาเยี่ยมบ้านคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาตั้งแปดปีอยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากตระกูลลินน์แล้วสินะ? เธอจะแต่งงานเพื่อยกระดับสถานะตัวเองเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?”

“ถูกต้อง! ฉันได้พบสามีที่ร่ำรวยกว่าตระกูลลินน์เป็นร้อยเท่า บางทีฉันอาจจะทำการกุศลให้กับครอบครัวของคุณในอนาคตด้วยนะ” ซาบริน่าเชิดหน้าขึ้นและมองเจดอย่างเย่อหยิ่ง

เจดพูดไม่ออก แต่ฟันของเธอเกือบหัก ขณะที่เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ

“ซาบริน่า เธอกล้าโอ้อวดแบบนี้เลยเหรอ? งั้นก็พาสามีรวย ๆ มาที่นี่สิ แล้วเราจะได้ทำความรู้จักกัน” เสียงของเซลีนดังมาจากทางประตู

ซาบริน่าหันกลับมา และเห็นชายหญิงเดินเคียงคู่กันเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นคือเซลีน

และผู้ชายคนนั้น ที่ทำให้เธอแปลกใจ ก็คือเซบาสเตียน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status