Share

1 พบกันครั้งแรก

last update Last Updated: 2024-12-24 18:43:10

 

อากาศคิมหันต์ฤดูร้อนอบอ้าวจนน่าหงุดหงิด สตรีแสนงดงามปรายตามองบ่าวไพร่อย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อหลายวันก่อนนางถูกพระมารดาต่อว่า และลงโทษในเรื่องที่ไร้เหตุผล คนผู้นั้นอยากลงมือกระทำการเช่นใดกับนางก็ย่อมได้ แม้แต่เสด็จพ่อก็มิอาจยื่นมือเข้าช่วยเหลือ จนบางครั้งหลี่จื้อฉิงมีความคิดว่า นางนั้นใช่บุตรสาวที่แท้จริงหรือไม่

“ท่านหญิงเพคะ” หญิงรับใช้เคาะประตูห้องเอ่ยเรียกสตรีสูงศักดิ์ที่อยู่ด้านในเพียงแผ่วเบา

คนตัวเล็กที่อยู่ในชุดเนื้อผ้าบางเบาเตรียมตัวจะเจ้าเข้านอน ส่งสัญญาณให้นางกำนัลในห้องเปิดประตู ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก กาน้ำชาร้อน ๆ ถูกเขวี้ยงใส่หน้าของหญิงรับใช้ที่มารบกวนช่วงเวลาพักผ่อนของนางในยามดึก

“ถ้าไม่มีเหตุผลดี ๆ ในการมารบกวนข้า ข้าจะลงโทษเจ้า” คนตัวเล็กแผดเสียงดังอย่างไม่พอใจ

“หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ปะเป็น...องค์หญิงใหญ่ องค์หญิงทรงมีประสงค์จะพบท่านหญิงเพคะ” นางกำนัลผู้นั้นรีบคุกเข่าลงกับพื้น

เมื่อได้ยินว่าเป็นความต้องการของพระมารดา หลี่จื้อฉิงย่อมต้องปฏิบัติตาม เรื่องที่นางถูกเรียกให้ไปพบนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งใดมิอาจนึกออก เป็นเพราะเสด็จแม่ของนางล้วนแล้วแต่ทำเรื่องที่มิอาจคาดเดา

“เข้าใจแล้ว” หลี่จื้อฉิงตั้งท่าจะเข้าไปแต่งตัว หากไปในชุดเช่นนี้คงมิวายถูกตำหนิ

“ทะ...ท่านหญิง” นางกำนัลคนเดิมร้องเรียก

“อะไร”

“องค์หญิงใหญ่บอกให้ท่านหญิงไปพบเดี๋ยวนี้เลยเพคะ ไม่จำเป็นต้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใด ๆ ทั้งสิ้น”

โทสะของหลี่จื้อฉิงล้นปรี่ แต่กระนั้นนางก็มิอาจขัดคำสั่งของอีกฝ่ายได้ เมื่อจัดการคลุมเสื้อให้เรียบร้อย จึงเร่งรีบเดินทางไปยังตำหนักบูรพาอันเป็นที่พำนักของนางในทันที

ใช้เวลาเพียงไม่นานรถม้าของหลี่จื้อฉิงก็มาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าตำหนักบูรพา ราชองครักษ์ที่นางไม่ชอบหน้า คล้ายกับจะรอนางอยู่แล้ว ทันทีที่ได้พบหน้า ชายผู้นั้นก็เอ่ยทักทาย

“ท่านหญิง”

“เสด็จแม่ล่ะ”

“องค์หญิงอยู่ด้านในพ่ะย่ะค่ะ” สตรีผู้นี้ยโสโอหังเสียเหลือเกินแม้แต่รอยยิ้มเพียงเล็กน้อยนางก็ไม่เคยมีให้กับเขา

คนตัวเล็กพยักหน้าแบบขอไปที แผ่นหลังเหยียดตรงแสดงท่าทางเย่อหยิ่งและสูงศักดิ์ ทุกครั้งที่ย่างกรายเข้ามาที่นี่ หัวใจของหลี่จื้อฉิงมักจะเต้นโครมครามอยู่เสมอ เพราะมักจะมีเรื่องที่มิอาจคาดเดาและทำให้นางประหลาดใจอยู่ทุกครั้ง

ร่างเล็กในชุดเสื้อผ้าโปร่งบางเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า ภายในตำหนักจุดตะเกียงเพียงไม่กี่ดวง ทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่ เมื่อมองไปยังเก้าอี้ประธานพบว่าพระมารดานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ถวายพระพรเสด็จแม่” นางยอบกายทำความเคารพ

“ลูกสาวของข้า” หลี่หย่าถิงยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“นางกำนัลบอกว่า เสด็จแม่มีเรื่องสำคัญ” ผู้เป็นบุตรสาวมิอยากอยู่ที่นี่นานนัก จึงเข้าเรื่องในทันที

รอยยิ้มของหลี่หย่าถิงปรากฏอยู่บนใบหน้า ยามเมื่อแสดงไฟในตะเกียงกระทบใบหน้างดงามหยาดฟ้า ดูแล้วคล้ายกับจอมปีศาจ ทั้งดุดันและน่าเกรงขาม แม้จะเป็นพระมารดาของนาง แต่ทว่าหลี่จื้อฉิงมิอาจชินชากับความน่ากลัวเช่นนั้นได้

“เด็กดี ปีนี้เจ้าอายุเท่าไร” หลี่หย่าถิงไม่เคยจำว่าบุตรสาวของตนอายุเท่าไร

“สิบเจ็ดปีแล้วเพคะ” นางตอบ

“สิบเจ็ดแล้วเหตุใดจึงยังไม่แต่งงาน” ผู้เป็นพระมารดาลุกขึ้นเดินเข้าประชิดตัวบุตรสาว “เป็นถึงบุตรสาวของข้าองค์หญิงหย่าถิง คนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่” หลี่หย่าถิงเชยใบหน้าของบุตรสาวขึ้นมาพิจารณา “กลิ่นกายหอมประดุจดอกกุ้ยฮวา ผิวขาวราวกับหิมะ ใบหน้างดงามประดุจเทพธิดาเช่นนี้ มันผิดพลาดที่ตรงไหนกันนะ”

ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเพราะด้วยเหตุผลใด แต่หลี่หย่าถิงก็ยังเอ่ยไม่หยุด

คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้สึกว่าลำคอของตนนั้นแห้งผาก สตรีเช่นนาง ชายใดจะกล้ามาสู่ขอ เรื่องนั้นนางรู้ตัวดี จึงมิได้ผูกสมัครรักใคร่กับบุรุษใดในแผ่นดิน และต่อให้นางสนใจผู้ใดก็ตามสตรีที่เป็นพระมารดาของนางคงกีดกันและกำจัดเขาให้พ้นทาง

“เป็นเพราะหม่อมฉันอยากอยู่รับใช้เสด็จแม่ไปจนวันตายเพคะ หม่อมฉันอยากอยู่รับใช้ปรนนิบัติพระองค์” นางมิรู้จะเอ่ยสิ่งใด จึงพูดจาป้อยอ

“โธ่ ลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูของข้า”

หลี่หย่าถิงดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ราชองครักษ์ที่รออยู่แล้ว จึงเดินเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ คนพวกนั้นเดินเข้าพร้อมกับก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งที่นางมองไม่ออกว่าเป็นบุรุษหรือสตรี รูปร่างผอมบางแต่ก็ตัวสูงกว่าราชองครักษ์ มือทั้งสองข้างถูกใส่ตรวน ผมเผ้ารุงรังติดเป็นสังกะตัง เนื้อตัวเหม็นราวกับซากสัตว์

“ก้อนเหม็น ๆ นั่นคืออะไรหรือเพคะ” หลี่จื้อฉิงย่นจมูก กลิ่นมิต่างไปจากซากหนูตาย ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรู้สึกอยากจะอาเจียน

ผู้เป็นพระมารดาจับข้อมือเรียวของบุตรสาวขึ้นมาพร้อมกับสวมกำไลเงินประดับอัญมณีสีแดงเม็ดเล็ก ๆ ทันทีที่มันถูกสวมใส่บนข้อมือของนาง มันก็หดรัดจนขนาดพอดีกับวงแขนเรียวเล็กมิอาจถอดหรือทำลายทิ้งได้อีก หลี่จื้อฉิงมิอาจคาดเดาได้ว่า มันคือสิ่งใด มือเรียวเล็กใช้มือสัมผัสวนเวียน และกดไปที่มณีสีแดงอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นเองเจ้าก้อนเนื้อตัวผอมบางก็ล้มลงดิ้นรนอย่างทรมาน

“อ๊าก!!!!” เขาหวีดร้องเสียงดังลั่น ดวงตาเป็นสีแดงก่ำมองมาที่หลี่จื้อฉิงและพระมารดา

“เสด็จแม่” คนตัวเล็กตื่นตระหนก

หลี่หย่าถิงเดินอ้อมหลังไปที่ชายหนุ่มตัวผอม ที่เวลานี้ไร้หนทางสู้ นางกระชากเส้นผมของชายผู้นั้นให้เขาเงยหน้าขึ้น ที่คอของก้อนเนื้อตัวเหม็น มีโลหะประดับอัญมณีสีแดงที่มีลักษณะคล้ายกันกับกำไลของนางสวมเอาไว้

“เด็กดี เจ้าลองกดแรง ๆ ที่มณีแดงดูสิ” หลี่จื้อฉิงมิอาจขัดใจได้นางกระทำตาม และทันทีที่มือกดลงไป เจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่าก็กรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานอีกครั้งหนึ่ง

“อ๊าก!!!! นางปีศาจ” สายตาของเจ้าก้อนเนื้อ

เมื่อรู้ถึงผลลัพธ์ของกำไลประดับมณีแดงชิ้นนี้ หลี่จื้อฉิงจึงคลายมือออกจากตำแหน่งนั้น และเก็บความตื่นตระหนกเอาไว้ไม่เปิดเผยออกไป

“เห็นถึงผลของมันหรือยังเด็กดี” หลี่หย่าถิงเอ่ย

“เพคะ หม่อมฉันเห็นแล้ว” คนตัวเล็กยิ้มเหยียดมองไปที่ก้อนเนื้อเหม็นเน่าที่นอนทุรนทุรายอยู่บนพื้น “ว่าแต่เสด็จแม่...” สตรีผู้นี้มีอาจคาดเดาได้ว่า นางต้องการสิ่งใดหลี่จื้อฉิงจึงแสร้งโง่คิดไม่ออกว่านางกำลังต้องการสิ่งใดกันแน่

“ตายแล้ว ลูกสาวที่น่ารักของแม่ ข้าลืมบอกเรื่องสำคัญไปสินะ”

“เพคะ”

“บัดนี้ข้าขอมอบมันเป็นสามีให้กับเจ้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   55 กลับคืนสู่วิถีเดิม END

    เป็นเพราะทั้งซื่อหานและหงหลางต่างก็เป็นเทพและมารที่อยู่มาในยุคฟ้าปางก่อน เป็นเทพมารบรรพกาลที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่องค์ในยุคนี้ การที่ทั้งคู่คบหากันจึงไม่มีใครคัดค้านแม้กระทั่งเทียนตี้เองก็มิกล้ามีปากมีเสียง คงเพราะหวั่นเกรงกลัวว่า มหาเทพซื่อหานจะบุกมาพังตำหนักของตนไม่ก็ถูกมหาจอมมารขโมยผลไม้เซียนที่เขาปลูกเอาไว้ จึงปล่อยเลยตามเลยทำปิดหูปิดตาไม่สนใจ แม้จะกังวลเรื่องการรวมดินแดนเพียงไหนก็ตามในอดีตนางและเขาทะเลาะกันจนทำให้ดินแดนทั้งสองแยกขาดจากกัน นางแกล้งเขาด้วยการสร้างโซ่เส้นหนึ่งขังเขาเอาไว้ในตำหนัก หงหลางโกรธจัด นับตั้งแต่นั้นมา สองดินแดนจึงถูกแยกออกจากกัน ถึงเวลาที่เขาและนางจะช่วยกันรวมดินแดนผนึกแผ่นดินเข้าหากันอีกครั้งหนึ่งกลายเป็นว่าสิ่งที่หลันเว่ยลงมือกระทำไปทั้งหมดเป็นการช่วยส่งเสริมให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะเดิมอย่างที่สามภพเคยเป็น มารและเทพกลับมาคบหากันอย่างเปิดเผย อยู่ภายใต้ขอบเขตศีลธรรมอันดีงาม“ท่านพ่อท่านแม่อยู่ไหน” คุนอวี่ถามหาบิดาและมารดา จากเกาเจี๋ยและสือโต้ว

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   54 ต้นเหตุ

    เพราะท่านพ่อท่านแม่กำลังอยู่ในช่วงเวลาปรับความเข้าใจกัน เด็กชายเบื่อ ๆ ไม่อยากรบกวนเวลาของพวกท่าน จึงออกไปเที่ยวเล่นดังเช่นปกติ แต่วันนี้ดันเตลิดเลยออกมาห่างจากตำหนักวิเวกของมารดาเกินไปสักนิด เดิมทีก้อนแป้งเองก็สนุกสนานกับการสำรวจสิ่งต่าง ๆ อยู่แล้ว รวมถึงมีตบะกลิ่นอายเซียนและมารผสมรวมกันอยู่ ปีศาจหรือเซียนระดับล่างมิอาจทำร้ายเขาได้ และทำให้เขาสามารถเข้าออกได้ทุกหนแห่งในสามภพป่าแถบนี้ประหลาดนัก ไร้เสียงของสัตว์สวรรค์ เด็กชายเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ สายตาเหลือบไปเห็นดอกบัวสีทองอร่ามงดงามจับใจอยู่กลางบึงน้ำสีครามสวย“เจ้าดอกบัว” หากเก็บไปให้มารดาและบิดาเป็นของขวัญคงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดแล้วก็ลงมือ กระบี่ที่บิดาเป็นผู้หลอมให้เป็นของขวัญถูกนำออกมา ก้อนแป้งน้อยเขวี้ยงกระบี่ออกไปหมายจะตัดดอกบัวสีทองออกมาจากบึงแต่ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ดอกบัวดอกนั้นหลบหลีกกระบี่มารของบิดาได้ ผ่านไปครู่หนึ่งดอกบัวสีทองก็แปลงกายเป็นสตรีใบหน้างดงาม“คุณชาย อย่าทำร้ายข้า” นางอ้อนวอนทั้งน้ำตา&ldq

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   53 เติมเต็มช่วงเวลาที่ผ่านมา NC

    หงหลางกางข่ายอาคมของตนเองครอบคลุมสวนดอกท้อซื่อหานตกใจ ร้องเสียงหลง“เจ้าจะทำอะไร”“ข้าไม่อยากให้ใครมาแอบดูพวกเราสองคนทำอะไรกัน” เขาไม่พูดเปล่า แต่มือไม้ยังวุ่นวายกับร่างกายของนาง“หงหลางหยุดก่อน” นางผายมือขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นข่ายอาคมของนางเอง“...” ชายหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ“ชะ...ใช้ของข้า คนอื่นจะได้ไม่งงว่า เกิดอะไรขึ้นที่ตำหนักวิเวก” นางกล่าวอึกอักหงหลางยิ้ม “เจ้านี่น่ารักจริง ๆ น่ารักมาตั้งแต่หลายหมื่นปีก่อน” ท่าทางเขินอายของนางทำเอาเขาอดเอ็นดูไม่ได้เสื้อผ้าของนางถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว จนร่างกายเปลือยเปล่าส่วนตัวของเขาเองก็เช่นกัน ผู้เป็นจอมมารขบเม้มร่างกายของนางจนเป็นรอยตราสีแดงไปทั่วทั้งร่าง กลืนกินทุกสัดส่วนอย่างโหยหา กลิ่นนี้ น้ำเสียงนี้ และความรู้สึกนี้ที่เขาเฝ้าตามหามาโดยตลอด ในที่สุดนางก็กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครา“ซื่อหาน ข้าคิดถึง

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   52 ก้อนแป้งยังไม่มีชื่อ

    ทรมานอยู่บนโลกมนุษย์อยู่หนึ่งร้อยปี ไร้รัก ไร้ทายาท ปกครองแผ่นดินเฉียนซีตามปณิธานของหลี่จื้อฉิงอย่างเคร่งครัด หงหลางจึงได้กลับคืนสู่ร่างเดิมของตนเอง เขาจำเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ความเจ็บปวด ความรัก เขาล้วนแต่ไม่สามารถลืมได้ ไม่คิดว่าการผ่านด่านเคราะห์ของเขาในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเช่นนี้มหาจอมมารหงหลางตามหาจิตวิญญาณของสตรีผู้นั้นอยู่นานนับร้อยปี เฝ้าค้นหาทั่วทั้งสามภพมิอาจปล่อยวางได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนก็มิอาจหานางจนพบ บุกขึ้นไปหาเทพซือมิ่งเพื่อสอบถามถึงสตรีที่มีนามว่าหลี่จื้อฉิง แต่บุรุษผู้นั้นเคร่งครัดในหน้าที่มิอาจเปิดเผยข้อมูลได้ในวันที่ดื่มสุราจนเมามาย เด็กชายหน้าตาน่ารักที่มีกลิ่นอายของมารและเซียนวิ่งเข้ามาในตำหนักศิลาจันทร์“ท่านพ่อ” เด็กชายยิ้มน่ารักเรียกเขาว่าพ่ออย่างไม่เคอะเขิน“เจ้าก้อนแป้งน้อย เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร” โดยปกติทั่วไปหากเป็นเซียนที่มีตบะน้อยนิดมิอาจย่างกรายเข้ามาในตำหนักของเขาได้ แม้แต่เหยียบบนพื้นแผ่นดินมา เซียนระดับสูงก็มิ

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   51 คืนสู่ฟ้า

    เสียงเด็กวิ่งเล่นวุ่นวายทำให้ซื่อหานจำใจต้องลืมตาตื่น ร่างเล็กผินหน้ามองออกไปนอกตำหนัก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าในตำหนักเซียนของนางจะมีเด็กมาอาศัยอยู่ยังไม่ทันที่นางจะได้ลุกไปไหน เด็กที่มีกลิ่นอายมารและเซียนผสมกันก็เปิดประตูวิ่งพรวดพราดเข้ามาหาทางที่เตียง“ท่านแม่ ท่านตื่นแล้ว” เด็กชายยิ้มตาหยี ที่ด้านหลังมีเซียนก้อนหินน้อยสือโต้วเดินตามเข้ามาซื่อหานใช้นิ้วแตะศีรษะของเด็กน้อยดันเจ้าก้อนแป้งสีขาวให้ห่างออกไปจากตัวนาง“ใครเป็นแม่ของเจ้ากัน” หญิงสาวมองก้อนแป้งสีขาวหน้าตาน่ารักอย่างงุนงง พร้อมกับมองไปยังสือโต้วที่ยืนทำหน้าตาตลกอยู่ด้านหลัง “เจ้าเป็นพ่อของเด็กคนนี้เหรอ”“ไม่ใช่ขอรับ ไม่ใช่เช่นนั้น ไว้มหาเทพตื่นให้เต็มที่เสียก่อนเดี๋ยวข้าน้อยและท่านเกาเจี๋ยจะเล่าให้ฟัง”“ท่านแม่ ท่านไม่รักข้าแล้วงั้นหรือ” เด็กชายร้องไห้“จู่ ๆ มาร้องไห้ได้ยังไงกัน” ซื่อหานเห็นเด็กชายผู้นี้ร้องไห้ หัวใจของนางพลันเจ็บปวด ตลอด

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   50 จบสิ้นต่อกัน

    ครบกำหนดเวลาที่เขาวางเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่นางจะปรากฏตัวออกมา ลานประหารที่ไช่เสิ่งเจี๋ยใช้ในการสังหารชาวบ้านในหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นอย่างลวก ๆ ณ จัตุรัสกลางเมือง ประชาชนแห่งเฉียนซีไม่มีใครกล้าโผล่หน้าออกมาดู เพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกลูกหลง การค้าทุกอย่างหยุดชะงักเพราะความบ้าระห่ำเลือดเย็นของผู้ปกครองแผ่นดิน ข้าราชบริพารขุนนางในราชสำนักเองก็มิมีผู้ใดกล้าขัดเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ถูกปิดหน้าปิดตาถูกนำตัวขึ้นไปวางไว้บนลานประหารที่เขาสร้างเอาไว้ ส่วนตัวของไช่เสิ่งเจี๋ยเองนั่งอยู่เหนือลานประหาร สายตาและท่าทางเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ ดวงตากลายเป็นสีเทาไปนานแล้ว“จือจือ เจ้าจะไม่มาจริง ๆ หรือ เจ้าจะยอมให้เด็กน้อยที่น่าสงสารถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดงั้นหรือ” เขาพูดยังไม่ทันขาดคำ ท่ามกลางบ้านเรือนที่เงียบกริบราวกับป่าช้า ไร้เสียงของผู้คน มีแค่เพียงเสียงของฝูงอีกาและลมฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ เศษใบไม้ปลิวว่อนทั่วทั้งทางบริเวณ หวีดหวิวน่าวังเวงใจ ครู่เงาร่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status