Home / รักโบราณ / โศลกเพลิงผลาญใจ /  ตอนที่13 เยี่ยหรง 2

Share

 ตอนที่13 เยี่ยหรง 2

last update Huling Na-update: 2025-07-18 22:18:57

            “ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้วขอรับ”

            เยี่ยหรงประสานมือคารวะ แต่ท่านโหวมุมปากกระตุก คิดรึว่าเขาไม่รู้ว่าลูกชายกลับมาถึงเมืองหลวงหลายวันแล้ว แต่คิดไปว่าคงเหนื่อยล้าจากการปราบโจรและเดินทางกลับจึงคร้านจะใส่ใจ ทว่าผ่านมาหลายวันจนรู้ว่าเยี่ยหรงออกไปนอกจวน เขาจึงโมโหแทบควันออกหู  รอให้มาหาไม่มา จึงต้องให้คนไปตามตัวเช่นนี้

          เยี่ยเฟยฮุ่ยแต่งงานกับเย่าเฉิน เขามีภรรยาเดียวไม่รับอนุมีบุตรชายสามคน คือ เยี่ยเฉิงหลิงซึ่งจากไปในวัยแค่ยี่สิบ เยี่ยเฉิงอี้ และเยี่ยจิ่งอวี่ ทั้งสองเป็นทหารประจำชายแดนตะวันออกและตะวันตก แต่ทั้งสองแต่งภรรยามีทายาทตัวน้อย ทว่าเพราะประจำอยู่แดนไกล ภรรยาและลูกจึงอยู่เคียงข้างสามีที่นั้น ในเมืองหลวงนี้เยี่ยเฟยฮุ่ยกับเย่าเฉินอยู่กับสองคนปู่ย่า  วาดหวังให้เยี่ยหรงบุตรชายคนเล็กแม้เป็นบุตรบุญธรรมแต่รักดุจลูกในไส้ได้แต่งงานกับสตรีที่คู่ควรเพื่อมีหลานให้ปู่ย่าได้อุ้มชู

            แรกทีเดียวก็อ้างเรื่องบ้านเมืองยังไม่สงบสุข แต่ตอนนี้หัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเงียบสงบนานๆ จึงจะมีเรื่องให้ต้องยกทัพกันสักคราว  แต่บุตรชายคนเล็กกลับยังไม่แต่งภรรยา แล้วเช่นนี้เมื่อไหร่จะมีหลานให้ได้อุ้มเสียทีเล่า

            เจ้าลูกคนนี้ดุด่าไปก็ยังหน้านิ่ง ตีไปก็ไม่สะเทือน เยี่ยเฟยฮุ่ยได้แต่ถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ โบกมือให้ลูกชายไปนั่งด้านข้าง  มุมปากเยี่ยหรงยกยิ้มแม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็เห็นได้ว่าเขาก็มีอารมณ์หยอกล้อบิดาเช่นกัน

            ชายหนุ่มรินน้ำชาให้บิดาแล้วจึงนั่งลง นอกจากเสียงดื่มน้ำชาแล้วก็มีเพียงความเงียบ ผู้เป็นบิดายกมือขึ้นนวดขมับเล็กน้อยแล้วตัดสินใจเป็นฝ่ายเปิดปากก่อน มิเช่นนั้น เจ้าก้อนหินนี้คงนั่งนิ่งไม่พูดจาเป็นแน่  ตอนเด็กๆ ก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่คิดว่าเติบใหญ่จะกลายเป็นเงียบใบ้เช่นนี้  ได้ยินผู้คนเล่าลือว่า บุตรชายผู้นี้ ชักกระบี่สังหารคนมากกว่าเอ่ยวาจาเสียอีก

            “พรุ่งนี้เจ้าก็เข้าวังไปถวายรายงานต่อองค์ฮองเต้เถิด”

            “ขอรับ ลูกตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปประชุมเช้า รายงานเรื่องปราบโจร”

            “แล้วไม่ต้องเสนอตัวไปที่ใดอีก”

            “..........”

            นั้นประไร สงสัยก็ไม่พูด

            “บ้านเมืองสงบสุขดีแล้ว เจ้าไม่ได้กลับบ้านมาหลายปี ตอนนี้ได้กลับมาแล้วก็อยู่นานๆ เถิด”

            “แม้ไร้ศึกสงคราม แต่ทหารต้องฝึกฝนอยู่เสมอ”

            “ก็ฝึกทหารที่ด่านนอกเมือง  เจ้าไม่ต้องเสนอตัวไปที่อื่นอีก”

            “ท่านพ่อต้องการให้ข้าทำสิ่งใดหรือขอรับ”  การรั้งตัวชัดเจนเช่นนี้แสดงว่าต้องเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน

            แววตาเป็นประกายและยังกรุ่นไอสังหารนี่ยิ่งทำให้แม่ทัพผู้เฒ่าเช่นเขาได้แต่ร้องโอดครวญในอก เหตุใดบุตรชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจในสนามรบถึงได้ดูโง่เขล่าถึงเพียงนี้

            “หรงเอ๋อร์ของข้ากลับมาแล้วรึ”  เย่าเฉินเดินเข้ามาพร้อมสาวใช้ที่ยกของว่างเข้ามาด้วย “แม่ไม่รู้ว่าเจ้ากลับมาแล้วจึงไม่เตรียมของว่างมาเผื่อเจ้า”

            “ท่านแม่อย่าได้ลำบากเลย เป็นลูกอกตัญญูมิได้กลับมาดูแลท่านทั้งสอง”  เยี่ยหรงลุกขึ้นแล้วประคองมารดานั่งที่เก้าอี้

            เยี่ยเฟยฮุ่ยได้ยินบุตรชายพูดก็เบิกตากว้าง กับเขาผู้เป็นพ่อแทบต้องง้างปากจึงจะพูดสักคำ แต่เมื่ออยู่กับมารดาก็พูดจาได้เป็นปกติ

            “เจ้ากลับมาไม่ทันฉลองวันปีใหม่ ครั้งนี้ก็อยู่นานๆ อย่ารีบไปไหนอีกนะ จริงซิหรงเอ๋อร์ของแม่ชอบกินเป็ด ประเดี๋ยวแม่เข้าครัวทำเป็ดย่างให้เจ้ากิน”

          “ท่านแม่อย่าได้ลำบาก ลูกกินง่ายอยู่ง่าย ขอแค่ท่านแม่ไม่เหนื่อยกายก็พอ”

            “หรงเอ๋อร์ของแม่น่ารักที่สุด”

นางยกมือลูบใบหน้าของบุตรชาย  คราวนั้นสามีอุ้มทารกน้อยกลับมาให้นางนั้น นางปวดใจอย่างสุดแสนเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นบุตรจากหญิงอื่นที่เขาเลี้ยงไว้นอกจวน จนเมื่อสามีอธิบายเรื่องทั้งหมด นางจึงสงสารเห็นใจเลี้ยงดูเยี่ยหรงดุจลูกที่คลอดเอง บรรดาลูกชายทั้งสามก็เชื่อฟังเห็นเยี่ยหรงเป็นน้อง รักใคร่เอ็นดูดุจน้องชายแท้ๆ โดยเฉพาะ เยี่ยเฉิงหลิงลูกชายคนโตที่เป็นคนสอนเยี่ยหรงฝึกหมัดมวยแบะ ยิงธนู เยี่ยเฉิงอี้สอนคัดอักษร และเยี่ยจิ่งอวี่ สอนน้องเล่นหมากกระดาน  วันคืนที่เด็กชายทั้งสี่เติบโตล้วนสร้างความทรงจำที่งดงาม กระทั่งวันที่โลกของนางถล่มทลายเพราะข่าวร้ายคนเป็นมารดาต้องจัดพิธิศพให้บุตรชาย  หัวใจนางแตกสลาย ครานั้นเยี่ยเฉิงหลิงมีสตรีที่หมายปองแต่ยังมิได้แต่งงาน เดิมทีคิดว่าเสร็จศึกจะให้แม่สื่อไปสู่ขอ แต่กลายเป็นว่า...ลูกชายคนโตกลับมาเพียงร่างที่ไร้ลมหายใจ แม้จะชนะศึกแต่หัวใจนางแหลกสลายไป   ยังดีที่มีบุตรชายทั้งสามที่คอยดูแล มิให้นางอยู่กับความทุกข์โศกจนเกินไป พ้นกำหนดไว้ทุกข์ เยี่ยเฉิงอี้ก็แต่งงาน ม่านหมองแห่งความเศร้าจึงเบาบาง ปีถัดมานางก็ได้หลายชายคนแรก นางจึงทุ่มเทให้กับหลานคนนี้ ทว่าหลังจากนั้นราชสำนักก็ได้ส่งเยี่ยเฉิงอี้ไปประจำที่ชายแดนทิศตะวันออก ภรรยาขอติดตามไปด้วย  แม้นางจะปวดใจที่ต้องจากหลานรักแต่เข้าใจดีว่าการอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกมีความหมายมากเพียงใด จึงตัดใจส่งหลานให้เดินไปพร้อมกัน  ผ่านมาอีกปีก็ได้หลานสาวน่ารัก นางยิ่งตระหนักได้ว่านางทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว  และเมื่อถึงคราวของเยี่ยจิ่งอวี่แต่งงานและถูกส่งไปประจำที่ทิศเหนือ นางจึงอนุญาตให้ภรรยาติดตามสามีไปด้วย  แต่กระนั้นบุตรชายทั้งสองก็ติดต่อสม่ำเสมอ  ในบางครั้งก็นัดหมายพาหลานๆ มาเยี่ยมปู่ย่าที่อยู่เมืองหลวง

            “หรงเอ๋อร์จำเฟยฮวาได้หรือไม่”

            ชายหนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ ใช้ความเงียบเป็นคำตอบ   เย่าเฉินยิ้มขบขันแล้วพูดต่อ

            “กู้เฟยฮวาเป็นบุตรสาวของท่านเสนารักษ์  มารดาของนางเป็นสหายรักของแม่ ตอนที่เจ้ากลับมาเยี่ยมแม่ครั้งก่อนได้พบนางครึ่งหนึ่ง วันนั้นนางนำโสมชั้นดีมาให้แม่ ยามจะกลับรถม้าของนางมีปัญหา แม่ให้เจ้าไปส่งนาง ตอนนั้นนางเป็นดรุณีน้อยอายุแค่สิบสี่ เจ้าจำไม่ได้กระมัง”

            “ลูกความจำไม่ดี ขอท่านแม่อย่าถือสา”

            มิใช่แค่อายุสิบสี่หรอก ต่อให้อายุสี่สิบเขาก็จำไม่ได้ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นและผ่านเลยไปไม่ได้อยู่ในความทรงจำสักนิด

            “ไม่เป็นไร เจ้ากลับมาแล้ว ไว้แม่จะส่งเทียบเชิญให้ฮวาเอ๋อร์มาดื่มน้ำชาที่บ้านเรา”

            เห็นสีหน้าปั้นยากของบุตรชายแล้ว แม่ทัพผู้เฒ่าลอบยิ้สาแก่ใจ เป็นแม่ทัพใหญ่คุมพลทหารนับแสน ชนะศึกทั่วทิศแต่กลับพ่ายแพ้มารดา มีรึที่เย่าเฉินจะไม่รู้ว่าเยี่ยหรงกลับจวนมาแล้ว  หรือบางทีนางอาจรู้ก่อนเขาด้วยซ้ำไป         

           

           

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่ 63 เดิมพัน1

    ฝันอีกแล้ว หลินอวี่เหยานวดขมับ...ฝันอะไรไม่รู้ ตื่นมามึนงงและจำไม่ได้ทุกที หลังจากฝึกคัดอักษรโบราณมานาน หลินอวี่เหยาก็มั่นใจในลายมือของตนมากยิ่งขึ้น นางสรุป ‘ความน่าจะเป็น’ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หลังภัยแล้งเกิดน้ำท่วมหนักได้ เนื่องจากพื้นดินที่แห้งแล้งแข็งกระด้างจะดูดซับน้ำฝนได้ช้าลง ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมพื้นผิวอย่างรวดเร็ว แทนที่จะซึมลงดิน นอกจากนี้ ภัยแล้งทำให้หน้าดินแห้งและพังทลายง่าย เกิดเป็นตะกอนที่อุดตันทางระบายน้ำ เมื่อมีฝนตกหนัก น้ำจึงไม่สามารถระบายได้ทัน เกิดเป็นน้ำท่วมขังในที่สุด หลายวันมานี่เอาแต่หมกตัวอยู่ในเรือน อ่านบันทึกต่างๆ และสรุปออกมา จากบันทึกที่นางอ่านมาหลายเล่ม ในรอบสิบปีฝู่หม่าจะเกิดภัยแล้งอย่างหนักจากนั้นก็ฝนตกแต่เพราะแล้งมานานจึงกลายเป็นน้ำท่วม ‘ความน่าจะเป็น’ บอกได้ว่าอีกไม่นานจะเกิดฝนตกแล้ว นางไม่อาจพยากรณ์อากาศได้แม่นยำ แต่อย่างไรก็ควรแจ้งให้แม่ทัพเยี่ยหรงรู้ก่อน นั่งทำงานอยู่นานติดต่อกันหลายวัน แม้แต่เฉิงฮัวกับซูจินยังเป็นห่วง แต่การทำแบบนี้ทำให้คิดถึงตอนที่ทำงานวิจัยไม่มีผิด อ้อ! ต่างก็ตรงที่ไม่ได้เข้าห้องแล

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่62 ดอกบัวน้อย 4

    ซ่งเหอเทียนจวินนั่งมองอาหารตรงหน้าแล้วปรายตาไปมองถาดเล็กๆ ของเจ้าเสือดำที่รูปร่างใหญ่กว่าแมวเล็กน้อย การกินอาหารเป็นความรื่นรมย์อย่างหนึ่งและนังหนูเหยาเหยาก็ฝีมือในการทำอาหารหญิงสาวมองตามสายตาของอาจารย์ปู่แล้วก็อธิบายด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ข้านึกว่าเป็นแมวจึงทำอาหารจากเนื้อปลา แต่ดูเหมือนไม่ถูกปากเอาเสียเลย พอรู้ว่าเป็นเสือดำก็เลยลองเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่เจ้าค่ะ”“เจ้าดูแลมันดีเกินไปหรือไม่ อย่างไรก็แค่ปีศาจตนหนึ่งกินของดีๆไปก็ไม่เกิดประโยชน์ใดหรอกนะ” พูดแล้วก็นึกเสียดายไก่นึ่งใบบัวตัวนั้นจริงๆ“อาจารย์ปู่ก็เป็นเซียนสมุนไพร ไม่ต้องกินอาหารก็ได้ แต่ท่านก็ยังชอบกินเลย”ซ่งเหอเทียนจวินกลอกตาไปมาอย่างไม่พอใจแล้วก็มองจานเบื้องหน้าที่เป็นปลาทอด “อย่าบอกว่าปลานี่คือปลาที่เจ้าแมวนั้นไม่กิน!”“เหยาเหยาจะทำอย่างนั้นได้อย่างเล่า” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ “ปลากะพงผัดโหงวก๊วย อาจารย์ปู่เคยบอกว่าชอบมาก เหยาเหยาจึงทำให้ ส่วนปลาที่เจ้าแมว เอ่อ เสือดำน้อยไม่กินนั้น เหยาเหยากินเองเจ้าค่ะ”“แล้วไป”เสียงหัวเราะคิกคักทำให้เสือดำทำหน้าไม่พอใจนัก แต่เมื่อมือเรียวใช้ตะเกียบคืบเนื้อไก่แล้วจ่อที่ปากของมัน กลิ่นหอมเ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่61 ดอกบัวน้อย 3

    “เหยาเหยาเอ๋ย ที่เจ้ารักษาอยู่หาใช่แมวดำ แต่เสือดำต่างหาก” “สะ..เสือ...เสือดำ? เสือดำหรือเจ้าคะ” หญิงสาวเอียงคอมองเจ้าขนฟูตัวนุ่มที่นางอุ้มมารักษา ผ่านมาสามวันแล้วบาดแผลของมันดีขึ้นมาก ประจวบกับซ่งเหอเทียนจวินกลับมาที่สวนเสียนเฉ่า “เหยาเหยาถูกปีศาจหลอกเสียแล้ว” “ปีศาจ?” นางเบิกตากว้างจ้องมองเสือดำที่เข้าใจมาตลอดมันคือแมวดำ มิน่าน่าตัวมันถึงได้ใหญ่กว่าแมวทั่วไปนัก “เจ้านี่เป็นปีศาจหรือเจ้าคะ” “เก็บไอปีศาจได้อย่างดี หรือว่าบาดเจ็บหนักจนไอปีศาจเลือนหายไปล่ะ” ซ่งเหอเทียนจวินหัวเราะในลำคอแล้วยื่นปลายนิ้วไปหมายจะแตะหน้าผากเสือดำ แต่เจ้าปีศาจตัวจ้อยแยกเขี้ยวขู่แล้วถอยไปหลบข้างหลังเหยาเหยา “อาจารย์ปู่อย่าแกล้งเจ้าแมวน้อย เอ่อ เสือดำน้อยเลยเจ้าค่ะ” หลายวันที่อยู่ด้วยกัน เหยาเหยาเอาแต่เรียกมันว่าแมวน้อย นางไม่อยากตั้งชื่อเพราะกลัวการผูกพัน “เหยาเหยาชอบเจ้าเสือดำตัวน้อยนี่รึ” ซ่งเหอเทียนจวินลูบหนวดเคราสีเงินยวงของตนพลางยิ้มน้อยๆ ดวงตาจ้องมองปีศาจเสือดำตัวน้อย “ถ้าเหยาเหยาชอบ อาจารย์ปู่จะร่ายมนต์ทำพันธะสัญญาใ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่60

    “ตั้งแต่ข้าน้อยติดตามท่านแม่ทัพมา...หลายปีมานี้นับว่าคืบหน้ามากแล้ว คิดว่าอีกไม่นานท่านแม่ทัพคงได้รู้ความจริง” เยี่ยหรงเก็บงำความคิดของตนไว้เพียงผู้เดียว เขารู้ดีว่าท่านพ่อท่านแม่ล้วนต้องการให้เขา ‘ปล่อยวาง’ เรื่องที่ผ่านมา แต่เป็นเขาที่ไม่อาจปล่อยวางได้ เหมือนคนที่ถูกตรวนด้วยโซ่ที่มองไม่เห็น เขาเพียงแค่อยากรู้ว่าทำไมจึงมีคนต้องการชีวิตของกับมารดาทั้งที่เขายังเป็นเพียงก้อนเลือดในครรภ์เท่านั้น เสียงถอนหายใจแม้เพียงแผ่วเบาแต่กระทบโสตประสาทการรับรู้ของเยี่ยหรง ดวงตาดำปรายตามองเพียงเล็กน้อยก็ทำเอาหลูจิ่งเซวียนผวาเล็กน้อย แม้เขาเป็นเพียงหมอทหารแต่เพราะรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังของท่านแม่ทัพมานาน อาจไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนสนิทแต่ก็เป็นคนที่แม่ทัพเยี่ยไว้ใจ แต่นั้นก็ยิ่งทำให้รู้ว่า ภายใต้ท่าทีนิ่งเงียบนี้ซ่อนความโหดเหี้ยมไว้ “อยากพูดอะไรก็พูดมา” เยี่ยหรงเอ่ยแล้วก้าวเท้าเดินด้วยฝีเท้ามั่นคง “ท่านแม่ทัพเคยคิดหรือไม่ว่า....มารดาของท่านอาจเป็นสนมหรือนางกำนัลของฮ่องเต้พระองค์ก่อน” “หรืออาจจะเป็นเพียงคนไม่สำคัญที่เกะกะขวางหูข

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่59

    ‘เพราะครั้งนี้ไม่ได้ไปรบ และเพราะขอสนมของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้ทรงหวาดระแวงอนุญาตให้นำทหารติดตามไปได้แค่ห้าร้อยนาย...เจ้าต้องจัดการทุกอย่างด้วยตนเอง ใช้สติให้มาก’ เยี่ยเฟยฮุ่ยอบรมบุตรชายคนเล็ก ทำได้แต่แค่ส่ายศีรษะไปมาจนใจกับความดื้อรั้นของบุตรชายคนเล็กผู้นี้แล้ว ‘ลูกทราบแล้วขอรับ’ เขาก้มศีรษะรับคำสั่งสอนแล้วหันไปพูดคุยกับพี่ชายทั้งสอง ‘ฝากดูแลท่านแม่ด้วย’ ‘วางใจเถอะ เจ้าทำหน้าที่ของตนให้สำเร็จลุล่วงเถิด’ ‘ท่านแม่...หากว่ามีคนมาขอความช่วยเหลือ ขอท่านแม่เมตตาช่วยตามสมควร หรือมีสิ่งใดโปรดให้ม้าเร็วส่งข่าวถึงลูกด้วย’ ‘เจ้าก็อย่าได้เป็นกังวลไป เรื่องทางนี้แม่จัดการให้ได้’ ‘ยังจะมีหน้าห่วงสตรีอีกเรอะ! ที่ต้องลำบากเช่นนี้ก็เพราะผู้หญิงคนนั้น อยากเห็นหน้าเสียจริงว่าเป็นคนเช่นไร’ เยี่ยเฟยฮุ่ยอดหงุดหงิดไม่ได้ แต่ภรรยาของตนกลับหัวเราะออกมา ‘ข้าเป็นแม่ยังไม่กังวล ท่านพี่จะเป็นทุกข์ร้อนไปไย’ เย่าเฉินตบหลังมือของสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายสิบปี ‘หรงเอ๋อร์ของเรารู้จักห่วงใยสตรีแล้ว ย่อมเป็นเรื่องดี’

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่ 58 ตบหน้า2

    เพียะ!กว่าหลินอวี่เหยาจะได้สติ ซีกแก้มนวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและความเจ็บมาแทนที่ หญิงสาวผสานสายตากับดวงตาโกรธเกรี้ยวที่จ้องมองอยู่ มือที่ง้างข้างในอากาศยังสั่นระริก หลินอวี่เหยามั่นใจว่าไม่เคยพบสตรีผู้นี้รวมทั้งความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนราวกับเพิ่งรู้สึกตัว องค์หญิงเซวียนจิ้งหว่านพลันได้สติ แม้แต่นางกำนัลข้างกายยังตกใจเพราะปกติแล้วเซวียนจิ้งหว่านมักเก็บงำความรู้สึกของตนเองมิดชิด ไม่ลงไม้ลงมือด้วยตนเองแต่สั่งให้นางกำนัลข้างกายหรือแม่นมเป็นคนจัดการแทน ภาพลักษณ์ของเซวียนจิ้งหว่านคือองค์หญิงผู้งดงามอ่อนหวาน ไม่เคยมีผู้ใดเห็นด้านมืดของนางหลินอวี่เหยาสูดลมหายใจลึก ดวงตากลมหรี่มองอีกฝ่ายแล้วเอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ“ข้าจำไม่ได้ว่ามีเรื่องใดบาดหมางกับท่าน”“นังแพศยา! เจ้าใช้เล่ห์กลใดล่อลวงแม่ทัพเยี่ยหรง!”ได้ยินเท่านี้ คิ้วเรียวงามก็เลิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมา “อ่อ...เป็นเรื่องแม่ทัพเยี่ยหรงเองหรอกรึ”“เจ้า!” เซวียนจิ้งหว่านกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ นางง้างฝ่ามือแล้วฟาดใส่อีกฝ่าย ทว่าหลินแค่เบี่ยงตัวหลบมิได้ตอบโต้แต่อย่างใด ทว่าทำให้องค์หญิงเสียหลักล้มลงไปนั่งบน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status