เสียงเคาะประตูห้องเบาๆคนสนิทของอดีตแม่ทัพเปิดประตูเห็นเป็นคนของท่านอ๋องหนวยอวิ๋นฉี
"คนของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีบอกว่าท่านอ๋องมีเรื่องจะพูดคุยนายท่านฟางอี้หลุนขอรับ" คนสนิทเข้ามากระซิบเจ้านายของตัวเอง อดีตท่านแม่ทัพนั่งอึ่งครู่หหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้คนสนิททันทีเขาพึ่งจะคิดไปเมื่อสักครู่ท่านอ๋องช่างมารวดเร็ว มองหน้าหลานสองคนที่นั่งกินของหวานตบท้ายอย่างอร่อย อะไรจะเกิดมันต้องเกิดท่านอ๋องคงสืบเรื่องมาก่อนแล้วถึงกับเดินทางมาเอง ประตูห้องเปิดออก ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีเดินเข้ามาในห้อง อดีตท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนลุกขึ้นคำนับทันทีท่านอ๋องที่มียศสูงกว่าตน "คาราวะท่านอ๋อง" "ตามสบายเถิดท่านอี้หลุนข้าเห็นท่านขึ้นมากินมื้อเที่ยงกับเด็กน่าตาน่ารักสองคนจึงอยากมาเห็นกับตา ได้ยินเสียงพูดกับท่านพ่อตาเสียงเจื่อยแจ๋วเชียว" สองแฝดมองคนที่เดินเข้ามาหาท่านตาถึงในห้องท่านตาถึงกับลุกคาราวะต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆ ทั้งสองลุกขึ้นทำความเคารพตามท่านตา ท่านอ๋องก้มลงมองเด็กน้อยสองคนตรงหน้าที่เงยหน้ามองตัวเขาสายตาที่มองเขาด้วยความสงสัยตาแป๋ว อีกคนเอียงคอมองอีกด้วย หัวใจของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นถึงกับอ่อนยวบกับท่าทางที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย "คาราวะท่านอ๋องเจ้าค่ะ/ขอรับ" เด็กน้อยทั้งสองไหวพริบดีเห็นท่านตาเรียกขานตำแหน่งก็รีบทำตามทันที เรื่องมารยาทท่านแม่สั่งสอนเด็กมาตั้งแต่เล็ก ถึงแม้อี้หลิงจะไม่อยากเป็นชายาอีอ๋องบ้านั้นแต่ในตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกนางทั้งสองมีสายเลือดสูงส่งของราชวงศ์กิริยามารยาทที่ราชวงศ์พึงมีนางจึงต้องสั่งสอนเด็กๆเอาไว้ คนเป็นน้องนั้นเอียงคอยิ้มให้อีกด้วยเพราะคิดว่าเป็นคนรู้จักของท่านตาจึงยิ้มจนตาหยี " เด็กน้อยยินดีที่ได้รู้จักพวกเจ้าเป็นหลานของท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนหรือมารดาของพวกเจ้าชื่ออะไรละ" ท่านอ๋องถามต่อเพื่อคลายความสงสัย ส่วนคนสนิทนั้นตกใจตั้งแต่มองเห็นหน้าของทั้งสองคนพี่น้องใกล้ๆแล้ว นี้มันถอดแบบท่านอ๋องออกมาเลยชัดๆ "เป็นลูกของท่านแม่ฟางอี้หลิงเจ้าค่ะท่านลุงรู้จักท่านแม่ด้วยหรือเจ้าคะ เราพึ่งจะเคยเห็นหน้าท่านลุงใช้ไหมพี่ใหญ่" ฟางเย่วเล่อหันไปถามพี่ชายของตัวเอง "พอดีลุงทำธุระพึ่งจะเสร็จพวกเจ้าจึงไม่เคยเห็นหน้า" ท่านอ๋องตอบสองแฝดตรงหน้า "เอ่อท่านอ๋องต้องการพบกระหม่อมเรื่องอะไรหรือพะยะค่ะ" บิดาของฟางอี้หลิงรีบถามก่อนหลานสองคนจะโดนท่านอ๋องหลอกถามอีก ท่านอ๋องยิ้มแล้วถามต่อกับสองแฝดตรงหน้าแล้ว "บิดาของพวกเจ้าชื่ออะไรหรือ" สองแฝดมองหน้าชายตรงหน้าที่ถามถึงบิดาก่อนจะตอบคำถามไปตามความจริงว่า "ท่านแม่บอกว่าบิดาของพวกข้าตายแล้วเจ้าคะ" หนูน้อยฟางเย่วเล่อตอบด้วยท่าทางไร้เดียงสา ทุกคนถึงกับตกตะลึงกับคำตอบที่ได้ยิน "อย่างนั้นหรือข้าเสียใจด้วยก็แล้วกันแต่จริงๆแล้วบิดาของพวกเจ้าอาจจะยังไม่ตาย คงมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้" ท่านอ๋องแม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง "จริงหรือขอรับท่านลุงท่านรู้จักท่านแม่กับท่านพ่อของพวกข้าหรือขอรับ" สองแฝดมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างมีความหวังเรื่องของบิดา "จริงสิเอาไว้วันนี้ลุงจะขอไปพบแม่ของเจ้าสองคนด้วยดีกว่า ดีไหมขอรับท่านอี้หลุน" ท่านอ๋องหันไปถามนายท่านฟางอี้หลุนที่ยืนตกใจกับการมาของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีที่มาเจอกับหลานของท่านทั้งสองคน อาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกจะปฎิเสธก็ไม่ได้อะไรจะเกิดให้มันรู้ไป เขาคิดว่าบุตรสาวคงจัดการเรื่องนี้ได้ตามในฐานะชายาเอกของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉี ฟางอี้หลิงที่อ่อนหวานหายไปเหลือเพียงบุตรสาวที่แข็งแกร่งพร้อมจะฉะกับคนหาเรื่องครอบครัวของตนเอง บิดาของฟางอี้หลิงคิดในใจก่อนจะตอบราชบุตรเขยผู้สูงศักดิ์ไปแบบขัดไม่ได้ "กระหม่อมจะรีบกลับไปบอกพระชายาเอกจัดการเตรียมต้อนรับท่านอ๋องพะยะค่ะ" บิดาของฟางอี้หลิงบอกกับบุตรเขย "ท่านอี้หลุนข้าขอเดินทางกลับไปพร้อมท่านเสียเลยก็แล้วกันเพราะข้าเองก็ตั้งใจที่จะเดินทางเพื่อจะมาหาพระชายาอยู่แล้ว ที่เห็นอยู่เหลานี้เพื่อแวะทานมื้อเที่ยงก่อนเพราะถึงอย่างไรข้าก็ตั้งใจที่จะไปที่จวนของตระกูลฟางพบพระชายาฟางอี้หลิงอยู่แล้ว" ท่านอ๋องย้ำสถาณะของตัวเองให้พ่อตารับรู้ "ข้าขอไปที่จวนกับพวกเจ้าด้วยนะเด็กน้อย" ท่านอ๋องคุยกับสองแฝดตรงหน้าต่อ "ท่านตาขอรับท่านลุงขอไปที่จวนกับพวกเราด้วยได้ไหมขอรับท่านตา" ฟางลู่หมิงหันไปถามท่านตาของตัวเองก่อนเพราะเขาตัดสินใจเองยังไม่ได้ ถึงท่านลุงตรงหน้าที่อ้างว่ารู้จักกับมารดาและมียศสูง แต่ก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกตนของสองพี่น้องอยู่ดีถึงแม้จะอยากรู้เรื่องของบิดาก็ตาม "หมิงเอ๋อร์เดี๋ยวตาจะจัดการเองหลานไม่ต้องกังวล เอาละถึงเวลาที่พวกเราต้องกลับจวนกันก่อนแล้ว เอาไว้ตาจะพาเข้ามาเที่ยวใหม่นะพวกเรามีแขกที่ต้องต้อนรับไปกันเถอะกลับบ้านกัน" ท่านตาบอกหลานทั้งสองคน แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ก็ตามกว่าจะได้ออกมาเที่ยวเล่นในวันหยุดต้องรออีกหลายวันเลยนะ ฟางเย่วเล่อทำหน้าเสียดายที่ยังไม่ได้พาท่านตาไปเดินเที่ยวต่ออีกหลายที่ "ก็ได้เจ้าค่ะท่านตาแต่สัญญาก่อนว่าจะพาเล่อเล่อกับพี่ชายมาใหม่ชดเชยวันนี้ด้วยนะเจ้าคะท่านตา" นางยกนิ้วก้อยขึ้นมาให้ท่านตาเกี่ยวก้อยให้สัญญากันก่อน ท่านอ๋องมองตามมือป้อมๆที่ยกนิ้วก้อยไปหาพ่อตาของตัวเองแบบงงเหมือนกันว่าเด็กน้อยทำอะไร "ท่านตายกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับน้องเล็กสิขอรับนี้คือคำสัญญาที่ท่านแม่สอนเวลาที่ยังไม่ได้ทำตามที่รับปากเอาไว้ ท่านแม่จะทำสัญญาแบบนี้ขอรับ" เขายกนิ้วก้อยเกี่ยวมือน้องสาวให้ท่านตาดู อดีตท่านแม่ทัพถึงกับหลุดหัวเราะอย่างถูกใจกับหลานสาวตัวน้อยที่ทำให้มีรอยยิ้มได้ตลอดจริงๆ "ได้ๆตาให้สัญญากับเล่อเอ๋อร์ หมิงเอ๋อร์ด้วยสองคนเลยดีไหม" ท่านตาถามยกมือเกี่ยวก้อยหลานทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีมองดูสามคนตาหลานด้วยความสนใจ นับว่าเด็กทั้งสองคนฉลาดมากถ้าเป็นลูกของเขากับนางเหมือนที่สืบมา นับว่านางเลี้ยงลูกของเขาได้ดีทีเดียวแต่ติดที่ยังไม่พอใจที่นางบอกว่าเขาตายแล้วทั้งยังปิดบังเขานานนับหลายปีโทษของนางช่างเยอะเสียจริง ทำให้เขาแสดงตัวกับลูกตอนนี้ยังไม่ได้ เอาไว้ให้ถึงจวนของนางก่อนแล้วจะได้คุยกันให้เข้าใจ "เอาละพวกเรากลับบ้านกันเถอะเชิญท่านอ๋องพะยะค่ะ" นายท่านฟานอี้หลุนบอกกับาราชบุตรเขยก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินออกมาจากเหลาอาหาร ขึ้นรถม้าเดินทางกลับไปที่จวนตระกูลฟาง "นายท่านกังวลเรื่องของคุณหนูหรือขอรับ" คนสนิทถามนายท่านที่นั่งถอนหายใจมองหลานทั้งสองคนที่พากันมองข้างทางด้วยความสนใจไม่ได้รับรู้เรื่องผู้ใหญ่ด้วย "ใช่แล้วละชีวิตที่สงบสุขของพวกเราจะเป็นยังไงละในเมื่อบิดาผู้สูงศักดิ์ของสองแฝดตามมาหาถึงที่นี้แล้ว" ทั้งที่เมื่อก่อนหกปีที่แล้วไม่คิดจะสนใจจนทุกคนไม่คิดถึงเรื่องนี้กัน เขาชะล่าใจเกินไปอย่างไรเสียหลานของเขาก็มีสายเลือดราชวงศ์ของแว่นแคว้นนี้ "นายท่านอย่าได้กังวลใจไปเลยขอรับ คุณหนูเปลี่ยนไปแล้วเข้มแข็งขึ้นมามากต้องหาทางคุยกันกับท่านอ๋องได้อย่างแน่นอนขอรับ" คนสนิทบอกนายของตัวเอง "ขอบใจเจ้ามากข้าก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน" จากนั้นในรถม้าจึงมีแต่เสียงหลานสาวกับหลานชายที่ชี้ให้ท่านตาดูนั้นดูนี้จนไปถึงหน้าจวน ส่วนรถม้าของท่านอ๋องก็นั่งฟังเสียงของเด็กทั้งสองคนคุยกับพ่อตาบางครั้งเขาก็ยิ้มตามคำพูดที่ไร้เดียงสานั้นไปตลอดทางตอนนี้สองร่างพัวพันกันบนเตียงหลังใหญ่ด้วยความเร่าร้อนฟางอี้หลิงที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนตอนนี้ถูกพระสวามีปรนเปรอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง มันทั้งเสียวทั้งเรียกร้องให้นางตอบสนองเขากลับแบบเงอะๆงะๆของคนที่ไม่ประสาเรื่องของสามีภรรยาที่มีสัมพันธ์ลึ้กซึ้งต่อกัน นางก็ทำไปตามสัญชาตณาญของนางเองสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก ที่พระชายรักยอมตอบสนองตัวเองแบบไร้เดียงสายิ่งทำให้อารมณ์ของท่านอ๋องหนุ่มที่กักเก็บมานานแทบจะคลั่งต่อกริยาน่ารักของพระชายารักของตัวเองเขาจึงต้องให้นางพร้อมกัน ก่อนจะนำอ๋องน้อยเข้าไปในกุหลาบงามของนางการร่วมหอในครั้งนี้ชายหนุ่มจึงต้องใจเย็นและให้นางประทับใจในการร่วมรักกับพระสวามีมากที่สุดเนางร้องครวญครางใต้ร่างใหญ่ของพระสวามีมือก็ลูบสะเปะสะปะไปทั่วตัวของพระสวามี ชายหนุ่มกำลังดูดดึงหน้าอกอวบใหญ่เกินตัวของนางด้วยความหลงไหลส่วนมืออีกข้างก็ลูบลงไปแหวกร่องกลางกายของนางที่มีน้ำสีใสรื่นออกมาเพราะมีอารมณ์ร่วมกับพระสวามีก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยจุดอ่อนไหวของนางจนฟางอี้หลิงต้องส่งเสียงครางหวานออกมา อ๋องหนุ่มเร่งชักนิ้วเร็วขึ้นให้ชายารักถึงฝั่งฝันไปก่อนตนเองพอท่านอ๋องชักนิ้วเร็วขึ้นตามเสียงกรี
เรื่องราวของเมืองจี่เป่ยถูกจัดการเสร็จสิ้นภายในสองอาทิตย์นายอำเภอลู่ฟงถูกชาวบ้านข้วางปาผักเน่าไข่เน่าอยู่หนึ่งอาทิตย์เต็มทุกคนต่างพากันสาปแช่งเขาสารพัดที่อยากจะทำ แล้วผู้ตรวจการจากเมืองเหลียวเดินทางมาถึงพร้อมทั้งหลักฐานหลายอย่างตระกูลลู่สิ้นสลายไปเพราะหลานชายคนโปรดชาวเมืองเหลียวโกรธแค้นบุกเข้าทำร้ายปู่กับย่าของลู่ฟงจนตายคาจวนอย่างอนาถที่ส่งเสริมหลานชายในทางที่ผิด บิดาถูกตรวจสอบจากจดหมายที่ท่านอ๋องส่งไปถึงพี่ชาย จัดการบิดาของลู่ฟงถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางใหญ่พบหลักฐานมัดตัวต้องโทษประหาร แต่ฝั่งฮูหยินเอกไม่ได้รู้เรื่องด้วยได้จึงลงโทษผู้เป็นบิดาโทษคือประหารและไม่ให้ลูกหลานตระกูลลู่รับราชการอีกชั่วเก้าโครต ฮูหยินเอกขายกิจการพาลูกๆทุกคนย้ายไปที่เมืองอื่นกับครอบครัวเก่า ตอนนี้ในเมืองจี่เป่ยติดป้ายรับสมัครสอบนายอำเภอคนใหม่ในอีกหนึ่งเดือน ให้ทุกคนที่อยากจะสอบเป็นนายอำเภอให้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าส่วนท่านอ๋องนั้นตามเกี้ยวพระชายาทุกวันแต่ยังไม่สำเร็จแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยท้อถอยเพราะหลงรักพระชายาของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้น โดนนางสั่งสอนด่าทอชายหนุ่มกับย
"นำตัวมันไปหน้าศาลเอาน้ำสาดให้มันตื่นมัดมันเอาไว้กับเสาร์ให้แน่นหนาคุ้มกันให้ดีอย่าพึ่งให้มันตายเร็วไป ให้ชาวบ้านจะได้เห็นคนบงการโจรป่าที่คอยปล้นชิงตำลึงทรัพย์สินของพวกเขาลงโทษอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมาทำกับคนอื่นเอาไว้เยอะให้มันโดนกระทำดูบ้าง จะได้รู้ว่าพอคนไม่มีทางสู้กับแล้วมันรู้สึกอย่างไร"ท่านอ๋องสั่งทหารของตัวเองก่อนจะเดินตามพระชายาที่เดินตามหลังบิดาของนางกับลูกทั้งสองคนของเขาออกไปหน้าศาล"ท่านพ่อรอข้าด้วยเจ้าค่ะ"นางรีบเดินออกจากในศาลให้ทันบิดากับสองแฝดที่เดินนำหน้าออกไปก่อน ในศาลไม่มีอะไรที่นางจะอยู่ต่อปล่อยให้ทหารจัดการกันเองหมดธุระของนางแล้วท่านอ๋องรีบสั่งทหารของตัวเองให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบเดินตามพระชายของตนให้ทันเพื่อจะประกาศกับชาวเมืองจี่เป่ยเรื่องลูกกับนางว่าคือพระชายาขอตัวเองให้ถูกต้องเสียที"รองแม่ทัพกับกุนซือจัดการต่อให้เรียบร้อยด้วย เดี๋ยวข้าจะออกไปหาพระชายาก่อน"ท่านอ๋องสั่งคนสนิทเสร็จก็รีบตามสามแม่ลูกออกมาด้านนอกของศาล"โอ๊ะพวกเองดูนั้นอดีตท่านแม่ทัพกับหลานเดินออกมาด้านในแล้ว ช่างน่ารักเหลือเกินท่านก็ยังองอาจดูไม่ได้แก่เลยสักนิดเลยพวกแกว่าจริงไหม"เสียง
เสียงผู้คนด้านนอกยิ่งฮือฮาขึ้นไปอีกกับคำตอบของนายน้อยทั้งสองคนที่ตอบรองแม่ทัพอย่างตรงไปตรงมา นายอำเภอลู่ฟงมองหน้าของฟางอี้หลิงที่นั่งกับอดีตท่านแม่ทัพใหญ่ฟางอี้หลุนกับท่านอ๋องนั่งข้างตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ที่แท้แล้วนางเป็นถึงพระชายาของท่านอ๋องหยวนอวิ๋ยฉีแต่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนของนางให้ผู้คนได้รู้จักนายอำเภอลู่ฟงกัดฟันหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธที่เขาได้ติดกับดักแบบที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ลูกน้องทุกคนที่ชักดาบขึ้นมาโดนทหารของท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉีจับกุมมารวมกันทั้งหมดแล้ว แม้แต่คนของหัวหน้าศาลเองก็โดนจับได้โดยไม่มีโอกาสได้ต่อสู้เลยสักคน"ท่านกุนซือขึ้นประกาศความผิดของนายอำเภอลู่ฟงกับหัวหน้าศาลที่ร่วมกันทำผิดให้ชาวอำเภอจี่เป่ยได้รับรู้ความจริงทั้งหมดด้วย" ท่านอ๋องบอกคนสนิทกุนซือคู่ใจ"พะยะค่ะท่านอ๋อง " กุนซือรับคำสั่งก่อนจะขึ้นไปยืนบนที่เก้าอี้ของหัวหน้าศาลที่เคยนั่งประจำตำแหน่งแต่กุนซือไม่ได้นั่งยืนอ่านความผิดของนายอำเภอลู่ฟง"นายอำเภอลู่ฟงฟังคำตัดสินความผิดของท่านที่ให้การชุบเลี้ยงกองกำลังของโจรป่าเพื่อเอาไว้ใช้ทำงานให้ตนเองทั้งคอยปล้นสะดมทั้งฉุดฆ่าหญิงชาวบ้านของเมืองเหลียวอีกจนน
"บังอาจเป็นแค่คนคุ้มกันแกถึงกับกล้าเสนอหน้าบอกมีหลักฐานเอาผิดข้าเลยหรือไอ้คนชั้นต่ำ"นายอำเภอลู่ฟงตวาดขึ้นเสียงดังใส่คนสนิทของแม่นางฟางอี้หลิงหญิงหม้ายที่ตนเองกำลังจะตามเกี้ยวนางอยู่ทหารถอดดาบออกมากันพรึ่บพับจนทุกคนตกใจกับสิ่งที่ทหารแสดงตนทุกคนที่ยืนคุมด้านหน้าด้านข้างท่านรองแม่ทัพ เอาดาบยื่นไปพาดคอของนายอำเภอลู่ฟงพร้อมกดลงนั่งลง จนนายอำเภอตกใจกับทุกอย่างตรงหน้าที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก "ระวังคอจะหลุดออกจากบ่าทั้งที่ยังไม่ได้ไต่สวนละนายอำเภอ" น้ำเสียงเย็นชาทั้งรังสีอันตรายที่ปล่อยออกมาจนเขาหายใจแทบไม่ออกท่านอ๋องหยวนอวิ๋นฉียกมือขึ้นบอกให้ทุกคนวางดาบลงก่อนแล้ว ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะส่งเสียงที่ทำให้ทุกคนในศาลแทบจะหยุดหายใจได้แม้แต่หัวหน้าศาลที่คิดจะใช้อำอาจช่วยนายอำเภอลู่ฟงต้องหลั่งเหงื่อเย็นกับน้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความดุดันและโหดเหี้ยม"เดี๋ยวเจ้าก็รู้ว่าข้าจะสามารถทำอะไรได้บ้างที่ศาลแห่งนี้ ข้าในนามของฝ่าบาทที่เดินทางลงมาปราบโจรชั่วในเมืองจี่เป่ยโดยตรงและจะใช้อำอาจของข้ากำจัดคนชั่วที่แฝงตัวเป็นขุนนางในคาบโจรให้สิ้นซากในวันนี้และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ข้าแม่ทัพหยวนอวิ๋นฉีแห่งแดนเห
"โน้นไงนายอำเภอมาแล้วพวกเรารอฟังคำตัดสินของหัวหน้าศาล"เสียงของชาวบ้านคุยกันที่เห็นนายอำเภอลงรถม้าแล้วเดินเข้าศาลไปด้านในลู่ฟงเดินเข้าไปในศาลกวาดสาตามองไปในห้องมีคนมาที่ศาลจนเต็มเพื่อรับฟังคำตัดสินของโจรป่า เขาเห็นอดีตท่านแม่ทัพฟางอี้หลุนกับเด็กแฝดลูกๆของแม่นางฟางอี้หลิงที่เขาสนใจนั่งอยู่กับบิดาของนางนายน้อยทั้งสองคนคู่ค้าของนาง"เชิญท่านนายอำเภอด้านบนนี้ขอรับ"เจ้าหน้าที่ศาลออกมาต้อนรับและพาเขาไปนั่งเตรียมเอาไว้ให้เขาทำความเคารพข้างหัวหน้าศาลก่อนจะนั่งลงเขายิ้มส่งไปให้ฟางอี้หลิงหลังจากที่ก้มหัวให้บิดาของนางแล้วเสียงเคาะไม้ดังขึ้นบอกว่าเป็นเวลาที่ศาลจะเปิดแล้วทุกอย่างเงียบกริบลงฟังอย่างรอคอย"เอาละข้าจะขอเปิดศาลเบิกตัวหัวหน้าโจรได้"หัวหน้าศาลสั่งและเริ่มลงมือไต่สวนทันทีรองแม่ทัพของท่านอ๋องกับกุนซือเดินประกบโจรป่าเข้ามาในศาลโดยมีทหารอีกสองคนหิ้วแขนเขาเข้ามาคนละข้างเพราะตอนอยู่ในห้องขังท่านอ๋องได้เค้นข้อมูลจากมันมาแล้วทำให้สภาพของหัวหน้าโจรนั้นล่อแล่ไม่น้อยทั้งยังโดนชาวบ้านปาผักเน่าไข่เน่าเข้าไปอีกทำให้ใบหน้าของเขาโตเหมือนหัวหมูจากนั้นหัวหน้าศาลจึงถามหัวหน้าโจรหลังจากที่เขานั่งคลุบ