แชร์

คลื่นลมพัดโหม

ผู้เขียน: Luffy.g
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-20 01:36:07

บทที่ 21 คลื่นลมพัดโหม

ฉู่อันหลานลืมตาตื่นจากห้วงฝันอันน่าสับสน หญิงสาวขมวดคิ้วแน่น ขณะที่เปลือกตาค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก นางยกมือขึ้นนวดขมับที่ปวดตุบๆ อย่างมิอาจทานทน ม่านตาพร่ามัวมองไปรอบห้องที่ดูแปลกตา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ บริเวณ สภาพภายในห้องช่างมิคุ้นเคยเอาเสียเลย

ฉู่อันหลานรีบลุกขึ้นเพื่อสำรวจบริเวณโดยรอบ ทว่าเรี่ยวแรงกลับอ่อนล้าจนนางแทบล้มลงไปกองกับพื้น หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น ฝืนเดินออกไปด้านนอกอย่างเร่งรีบ”ที่นี่ที่ไหนกัน”

สาวใช้สองนางรีบเข้ามาย่อกายคำนับ “คารวะ พระชายา”

ดวงตาของฉู่อันหลานหรี่ลงทันที แววตาที่เคยอ่อนโยนแปรเปลี่ยนดุดัน “พวกเจ้าเป็นใคร ข้าอยู่ที่ไหน”

“เอ่อ...ข้าน้อยชื่อเหม่ยหลิง ส่วนนางชื่อเสี่ยวจง พวกเราเป็นสาวใช้ประจำตัวของพระชายาเจ้าค่ะ”

“ข้าถามว่าข้าอยู่ที่ใด” ฉู่อันหลานตวาดใส่ราวกับคนคลุ้มคลั่ง

“เอ่อ...” สาวใช้ทั้งสองได้แต่เลิกลักไปมา

“พวกเจ้าออกไปก่อน”

เหมือนเสียงสวรรค์ดังขึ้นมาอีกครั้ง สาวใช้รีบย่อกายคำนับคนทั้งสอง ก่อนจะรีบถอยหลังจากไปในทันที

หยางตงหยางก้าวเท้าเ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   วันใหม่

    บทที่ 58 วันใหม่ ฤดูใบไม้ผลิที่แคว้นหนานกลับมาอีกครา กลีบดอกเหมยผลิบานสะพรั่งไปทั่วลานกว้างในสวนหลวง ทว่าครั้งนี้กลับอบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ หยางตงหยางเดินเคียงข้างมากับฉู่อันหลาน ฮองเฮาของเขา และหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในวังหลังแห่งนี้ แม้ว่าจะมีเสียงทัดทานมากมายที่ต้องการให้ชายหนุ่มรับสนมเข้ามาภายในวังหลังเพื่อเติมเต็มอำนาจและบารมีของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับยืนกรานเสียงแข็งและมิยอมรับหญิงใดเข้ามาแม้แต่คนเดียว ร่างสูงใหญ่โอบประคองร่างระหงอย่างแนบแน่นและทะนุถนอม ทั้งสองเดินทอดน่องไปตามทางเดินในสวนหลวงอย่างเชื่องช้า ดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันแสนสุขราวกับช่วงเวลาได้หยุดชะงักลงไป “หลานเอ๋อร์...” หยางตงหยางเอ่ยขึ้นพร้อมเลิกคิ้วอย่างสงสัย “เหตุใดวันนี้เจ้าลูกดื้อทั้งสองถึงได้เงียบเชียบนัก มิเห็นวิ่งวุ่นสร้างเรื่องให้ข้าปวดหัวเหมือนเช่นเคย” ฉู่อันหลานหัวเราะเบาๆ พร้อมยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย โดยมิได้กล่าวสิ่งใด หากนางบอกออกไปมีหวังชายหนุ่มคงได้ควันออกหูอีกครั้งเป็นแน่ ณ ศาลาริมสระ หยางฟางซินและหยางซูเมิ่งน

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   ร่ำลา

    บทที่ 57 ร่ำลา ข่าวการเสียชีวิตของฮองเฮาแห่งแคว้นเว่ยพร้อมกับบุตรทั้งสองถูกกระพือไปทั่วแคว้นไม่ต่างจากไฟลามทุ่ง ภายในวังหลวงของแคว้นเว่ย จัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ เสวียนเฟยหลงในฉลองพระองค์สีขาวขลิบทองยืนอยู่ด้านหน้าโลงเปล่า ใบหน้าที่เรียบเฉยจ้องมองโลงเปล่านั้นด้วยแววตาเศร้าหมองคล้ายจะอาลัยอยู่ในที “ข้าหวังว่าเจ้าจะมีความสุขในหนทางที่เจ้าเลือก” ชายหนุ่มพึมพำออกมาราวกับกระซิบให้กับหญิงอันเป็นที่รักยิ่งเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากพิธีศพผ่านพ้นไปได้ไม่นาน เหล่าขุนนางต่างพากันยื่นฎีกาขึ้นมาหลายต่อหลายฉบับ...เรียกร้องให้เสวียนเฟยหลงแต่งตั้งฮองเฮาคนใหม่โดยเร็ว ด้วยเหตุผลที่ว่าแคว้นเว่ยต้องการผู้ปกครองที่เหมาะสมในวังหลังเพื่อให้บัลลังก์มั่นคงและเป็นปึกแผ่น และผู้ใดจะเหมาะสมไปกว่า "โม่ชิงโหล" สนมเฟยผู้เป็นที่โปรดปราน ธิดาของใต้เท้าโม่ซางเหวินไปได้ เสวียนเฟยหลงปรายตามองฎีกาเหล่านั้นด้วยใบหน้าที่เฉยชา ก่อนจะยกยิ้มมุมปากราวกับคนที่มีแผนการในใจ “เรียกตัวแม่ทัพหลี่มาเข้าเฝ้าเดี๋ยวนี้” แม่ทัพหลี่มาถึงในเวลาไม่ช้า พร้อมกับคุกเข่าลง “ฝ่าบาท...มีรับสั่งสิ่งใ

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   ถวิลหา

    บทที่ 56 ถวิลหา หลังจากฉู่อันหลานพาเสวียนฟางซินและเสวียนซูเมิ่งกลับเรือน นางก็อยู่กล่อมบุตรชายบุตรสาวจนกระทั่งพวกเขาเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นหญิงสาวก็ตัดสินใจเดินตรงไปยังเรือนนอนของหยางตงหยางอีกครั้ง “เฮ้อ..เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจหนักดังถี่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉู่อันหลานถึงกับยกยิ้มขึ้นมาอย่างนึกขบขันและเห็นใจชายหนุ่มในเวลาเดียวกัน เวลานี้หยางตงหยางยังคงนอนเอนกายก่ายหน้าผากด้วยความหนักใจ สายตาเหม่อลอยจ้องมองไปยังเพดานอย่างไร้จุดหมาย หัวสมองของเขาเอาแต่ครุ่นคิดอย่างหนักกับความสัมพันธ์ของบุตรทั้งสอง แม้ว่าเวลานี้ระยะห่างระหว่างเขากับเด็กน้อยจะเขยิบเข้ามาใกล้อีกนิด แต่ก็ระยะห่างนั้นกลับช่างดูห่างไกลเสียเหลือเกิน ประตูไม้ถูกผลักเปิดออกแผ่วเบาตามด้วยร่างระหงของฉู่อันหลานที่ย่างกรายเข้ามาอย่างเชื่องช้า ดวงตาทอดมองไปยังหยางตงหยางพร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มบนใบหน้านวล หยางตงหยางสะดุ้งเฮือกสุดตัว พร้อมหยัดกายขึ้น ดวงตาของเขาเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง หกเดือนแล้วที่ชายหนุ่มได้แต่เฝ้ามองหญิงสาวตาละห้อย คำพูดน้อยครั้งทีเดียวที่นางจะยอมปริปากพูดคุยกับเ

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   เปิดใจ

    บทที่ 55 เปิดใจ วันถัดมาหยางตงหยางออกไปเดินด้านนอกและเห็นเสวียนซูเมิ่งที่กำลังปลูกต้นไม้อยู่ตามลำพัง ดวงหน้าเล็กแต่กลับจิ้มลิ้มน่ารัก บัดนี้เปื้อนดินเปื้อนทรายเต็มไปหมด “เจ้าชอบดอกเหมยหรือ” หยางตงหยางเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ พร้อมหย่อนกายนั่งลงด้านข้าง เสวียนซูเมิ่งหันมองหน้าชายหนุ่มที่มารดาบอกว่าเป็นบิดาของตนอย่างนึกชั่งใจ แม้ว่านางจะมิได้รู้สึกรังเกียจอันใด แต่เมื่อพี่ชายไม่คิดจะยอมรับเขา เช่นนั้นนางเองก็ต้องทำตามเช่นกัน “เสด็จพ่อบอกว่าดอกเหมยแม้จะดูบอบบาง แต่กลับทนทานหิมะยิ่ง...ข้าก็อยากเป็นเช่นนั้น” หยางตงหยางยิ้มกริ่มออกมาอย่างใจชื้นเมื่อบุตรสาวตัวน้อยยอมพูดคุยกับเขาขึ้นมา “แล้วเจ้ารู้ไหมว่าตอนข้าอายุเท่าเจ้า...ข้าก็ปลูกดอกเหมยเช่นกัน...แต่ทว่ากลับไม่มีต้นใดรอดเสียเลย...นั่นเพราะว่าข้ารดน้ำให้มันมากเกินไป” เสวียนซูเมิ่งอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้เป็นบิดาของนางนั้นช่างไม่รู้ความเอาเสียเลย “ข้าว่าเพราะท่านดูแลต้นเหมยไม่เป็นอย่างใดเล่า...ท่านมาช่วยข้าปลูกเสียสิ...รับรองต้นเหมยของท่านต้องงอกงามเป็นแน่” หยางตงหยางเ

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   พิสูจน์ตนเอง

    บทที่ 54 พิสูจน์ตนเอง นับตั้งแต่สงครามสงบลง หยางตงหยางก็ย้ายมาปักหลักอยู่ที่แคว้นเว่ย ข้อตกลงหนึ่งปีที่เขาต้องพิสูจน์ตนเองให้ได้ตามสัญญา ชายหนุ่มพักอยู่ที่จวนร่วมกับฉู่อันหลานและบุตรทั้งสอง โดยฉู่อันหลานมิยอมให้เขาร่วมห้องกับตนเองเป็นอันขาด ทางด้านแคว้นหนาน หยางตงหยางที่วางรากฐานการปกครองอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเรื่องปัญหาจุกจิกต่างๆ เขาจึงมอบหมายให้จางเซี่ยเหวิน ขุนนางผู้ภักดีเป็นผู้ตัดสินใจแทน จะมีก็เพียงเรื่องเร่งด่วนที่จางเซี่ยเหวินจะส่งม้าเร็วมามอบสารให้แก่เขาเป็นผู้ตัดสินใจ ในขณะที่ราชวังแคว้นเว่ย ข่าวลือเรื่องอาการเจ็บป่วยของฮองเฮาและบุตรทั้งสองแพร่กระจายไปทั่ว โรคประหลาดที่หมอหลวงทั้งหลายต่างจนปัญญาจะรักษาทำให้สามแม่ลูกต้องย้ายออกมาพำนักอยู่ที่ตำหนักนอกเมืองเพื่อหาวิธีรักษาตัว โดยมิให้ผู้ใดรบกวนเป็นอันขาด ในช่วงเย็นวันหนึ่งหยางตงหยางนั่งอยู่ที่ห้องอักษร สองมือกำพู่กันค้างอยู่เหนือแผ่นกระดาษ สายตาพยายามจับจ้องตัวอักษรตรงหน้า แต่สมาธิกลับมิได้จดจ่อแต่อย่างใด สุดท้ายเขาก็กระแทกพู่กันลงกับโต๊ะด้วยความหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์อย่างแรง ยิ่

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   หาข้อยุติ

    บทที่ 53 หาข้อยุติ ฉู่อันหลานหลับตาลงอีกครั้งเมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองเริ่มตั้งท่าจะฟาดฟันกันอีกหน นางพยายามข่มกลั้นโทสะที่มีเอาไว้และรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับบุรุษทั้งสองที่ทำตัวราวกับเด็กอมมือก็ไม่ปาน “พวกท่านเมื่อไหร่จะพอเสียที” ฉู่อันหลานกล่าวคำหนักออกมาอีกครั้ง พร้อมกับจ้องหน้าคนทั้งสองอย่างต้องการเอาเรื่อง “พวกท่านต่างบอกว่ารักข้า...แต่สิ่งที่พวกท่านทำล้วนแล้วแต่เห็นข้าเป็นเพียงสิ่งของที่คิดจะแย่งชิงกันไปมา...นี่นะหรือสิ่งที่พวกท่านต่างกล่าวว่ารักข้า” หญิงสาวพูดพลางหันไปจ้องหน้าของเสวียนเฟยหลงและหยางตงหยางสลับกันไปมา พร้อมทอดสายตาที่เจ็บปวดและผิดหวังอย่างรุนแรง บุรุษทั้งสองได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความจนใจที่จะหาเหตุผลในการโต้เถียงนาง เมื่อทุกสิ่งที่หญิงสาวพ้อออกมานั้นล้วนแล้วแต่ถูกต้องทุกประการ เสวียนเฟยหลงเงยหน้าขึ้นทอดมองหญิงสาวตรงหน้าสายตาที่อ่อนโยนและจริงจังอีกครั้ง “แล้วเจ้าเล่า...เจ้าอยากอยู่ที่ใด” ฉู่อันหลานนิ่งเงียบไป ในขณะที่เสวียนเฟยหลงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยอย่างนึกปลง “หลานเอ๋อร์...ตั้งแต่วันแรกที่ข้าขอเจ้าแต่งงานจนกระทั่งถึงวันนี้...ขอเ

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   เจรจา

    บทที่ 52 เจรจา ฉู่อันหลานก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องโถงด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยวและมั่นคง หญิงสาวกวาดตามองไปยังบุรุษทั้งสองซึ่งยืนอยู่ในห้องด้วยแววตาที่ทั้งเฉียบคมและยากจะคาดเดา ก่อนที่สายตาของนางจะอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กทั้งสองที่วิ่งปรี่เข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว “เสด็จแม่...พวกข้าคิดถึงท่าน” เด็กน้อยทั้งสองร้องออกมาพร้อมกัน น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มด้วยความคิดถึงมารดาอย่างเต็มหัวใจ เสวียนฟางซินโผเข้ากอดขาข้างหนึ่งของนาง ขณะที่เสวียนซูเมิ่งก็เกาะขาอีกข้างหนึ่งแน่นไม่แพ้กัน ฉู่อันหลานคุกเข่าลงโอบกอดบุตรชายบุตรสาวเอาไว้แน่น ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวในเมื่อครู่พลันแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและคิดถึง “แม่ก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน...พวกเจ้าสบายดีหรือไม่...มีใครรังแกพวกเจ้าหรือเปล่า” “ไม่เลย...ข้าทำตามที่เสด็จแม่บอกทุกอย่าง...ข้าปกป้องเมิ่งเอ๋อร์มิยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้แม้แต่น้อย” เสวียนฟางซินเงยหน้าขึ้นพร้อมยืดอกกล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าก็ทำตามที่เสด็จแม่สั่ง...ข้าเชื่อฟังพี่ใหญ่มิได้เกเรแม้แต่น้อย” เสวียนซูเมิ่งกล่าวเอาความดีความชอบกับนางอย่างไม่น้อยหน้าเช

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   เผชิญหน้า

    บทที่ 51 เผชิญหน้า “ท่านเป็นใครกัน...บังอาจยิ่งนัก...ปล่อยเสด็จพ่อของข้าเดี๋ยวนี้นะ” เสียงฝีเท้าวิ่งตึงๆ เข้ามาอย่างรีบร้อนพร้อมเสียงตะโกนของเด็กทั้งสองที่ดังก้องไปทั่วห้องโถง เสวียนฟางซินและเสวียนซูเมิงปรี่เข้ามาด้านในห้อง เด็กชายพุ่งตัวเข้ามาหยุดยืนด้านหน้าของเสวียนเฟยหลง พร้อมกับยกมือขึ้นขวางกั้นชายหนุ่มเอาไว้อย่างต้องการปกป้อง สายตาแข็งกร้าวจ้องมองหยางตงหยางอย่างไม่กะพริบตาหรือกลัวเกรงอันใด ในขณะที่เด็กหญิงกลับตรงเข้าไปโอบประคองเสวียนเฟยหลงที่นั่งอยู่กับพื้นเอาไว้แน่น ดวงตาแดงเรื่อขึ้นมาพร้อมหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอด้วยความเป็นห่วงสุดกำลัง “เสด็จพ่อ...ท่านไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” “พวกเจ้ามาที่นี่ได้เช่นใด...ข้าสั่งแล้วมิใช่หรือว่าให้รอที่จวนเจ้าเมือง...เหตุใดจึงกล้าขัดคำสั่งข้าเช่นนี้” เสียงของเสวียนเฟยหลงดังแทรกขึ้นมาทันควัน ชายหนุ่มรีบดึงบุตรทั้งสองเอาไว้แนบกายพร้อมกับเอ็ดตะโรออกมาด้วยความตื่นตระหนก เสวียนฟางซินและเสวียนซูเมิ่งมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่เสวียนฟางซินจะเป็นฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว “พวกเราเป็นห่วงเสด็จพ่อ” เสวียนซูเมิ่งก็ตอบกลั

  • ใต้เงาจันทราข้านี้มิอาจเร้น   นัดพบ

    บทที่ 50 นัดพบ เสียงฝีเท้าม้ากระทบพื้นดังเป็นจังหวะอย่างเร่งรีบ ก่อนที่รถม้าจะหยุดลงด้านหน้าจวนเจ้าเมืองตงหลาน เสวียนเฟยหลงก้าวลงจากรถม้าด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ดวงตาฉายแววความร้อนรุ่มที่อยู่ภายในใจ เสวียนฟางซินและเสวียนซูเมิ่ง รีบตามลงมาติดๆ ดวงตาของเด็กทั้งคู่จับจ้องไปยังแนวค่ายอย่างตื่นเต้นและระแวดระวัง “ถวายพระพรฝ่าบาท” เจ้าเมืองตงหลานรีบเข้ามาคำนับชายหนุ่มด้วยความกระวนกระวายใจ “ฝ่าบาทเวลานี้เมืองตงหลานมิปลอดภัยนัก เหตุใดพระองค์จึงเสด็จมาโดยลำพัง” “ไม่ต้องมากพิธี...ข้ามาในครั้งนี้มิได้บอกผู้ใด เจ้าเองก็จงปิดปากเงียบเสีย” เสวียนเฟยหลงสั่งการเสียงเข้ม ก่อนจะเดินตรงไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพาบุตรทั้งสองเข้าพักผ่อนจากการเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อย หลังจากพาเสวียนฟางซินและเสวียนซูเมิ่งเข้านอนจนเป็นที่เรียบร้อย เสวียนเฟยหลงก็กลับมายังเรือนพักของตน เขาหยิบพู่กันขึ้นมาพร้อมกับเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ก่อนจะยื่นให้องครักษ์ประจำกาย “เจ้าจงนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งมอบให้หยางตงหยางด้วยมือของตนเอง” องครักษ์รับคำพร้อมกับเดินออกไปทำตามคำสั่งอย่างไม่ปริปากอันใด

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status