Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-07-03 07:49:39

บทที่ 5

“ไว้คราวหน้าเดี๋ยวเราไปกินข้าวที่บ้านใหญ่แล้วกันนะ” อัคคีบอกกับลูกสะใภ้

“ได้ค่ะ”

อัญญายืนรอส่งพ่อแม่และน้องชายของสามีตัวเองขึ้นรถกลับ ส่วนตัวของศิลาเดินกลับเข้าไปด้านในนานแล้ว พอรถตู้คันใหญ่แล่นออกไป อัญญาก็ขยับตัวเดินกลับเข้าในบ้านเช่นกัน

“คุณอัญญาคะ” ขนุนวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อเธอ “คุณศิลาให้ไปพบที่ห้องค่ะ”

“ห้อง?”

“ใช่ค่ะ คุณศิลารออยู่ที่ห้องนอนคุณอัญญาค่ะ”

คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างงง ๆ อันที่จริงเธอก็กำลังจะกลับขึ้นไปบนห้องนอนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเร่งรีบให้ขนุนวิ่งมาตาม

แกร๊ก

ประตูไม้เปิดออกเผยให้เห็นแผ่นหลังหนาของศิลาที่กำลังยืนกอดอดหันหลังให้เธอ พอได้ยินเสียงเขาก็รีบหันขวับกลับมา ใบหน้าบึ้งตึงนั่นทำให้เธอรู้สึกได้ว่ากำลังจะโดนเขาต่อว่าอีกครั้ง

“พูดไม่รู้เรื่องหรออัญญา!” ไม่เพียงแต่ตะคอกแต่มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดนูนของเขากำลังกำต้นแขนของเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ “ฉันบอกว่ายังไง!”

“จะ…เจ็บนะคะ”

“ตอบ!”

“อัญไม่รู้จะปฏิเสธยังไงนี่คะ” อัคคีพูดเชิญชวนซ้ำยังมีท่าทีที่เป็นมิตรขนาดนั้น ใครจะปฏิเสธลง

“แค่บอกไม่อยากไปมันพูดยากนักรึไง!”

“…” ศิลาตะคอกใส่ เธอกลัวจนเผลอเม้มปากแน่น มันขบกันจนรู้สึกเจ็บไม่ต่างจากต้นแขนที่กำลังถูกบีบจนเนื้อปริตามซอกนิ้วของคนตัวโต

“อย่าเงียบ ฉันถามเธอก็ตอบสิ!!”

“ขะ…ขอโทษค่ะ”

“ขอโทษอะไร”

“ขอโทษที่ทำตามคำสั่งไม่ได้” เธอตอบเสียงอ่อย ไม่กล้าสบตากับเขาตรง ๆ

“ขอโทษตอนนี้แล้วมันช่วยอะไรได้ สุดท้ายฉันก็ต้องจำใจไปญี่ปุ่นกับเธอยู่ดี!” ศิลาสะบัดแขนออก เขาถอนลมหายใจเสียงดังด้วยความหงุดหงิด

“อัญไปคนเดียวก็ได้ค่ะ” เธอตัดสินใจพูดไปแบบนั้น เพราะไม่รู้จะแก้ไขด้วยวิธีไหนได้อีก

“พูดเหมือนง่าย เธอคิดว่าพ่อฉันจะยอมรึไง เธอไปฉันก็ต้องไป”

“แล้วอัญต้องทำยังไง”

“มาถามอะไรตอนนี้อัญญา ตอนฉันบอกทำไมไม่ทำตาม!!” คนตัวสูงตะคอกเสียงดังซ้ำยังกระชากแขนเรียวให้กระแทกเข้ากับตัวเองอีกต่างหาก

ทั้งที่พึ่งจะได้เป็นอิสระ ความเจ็บครั้งแรกยังไม่หายไปก็ถูกทำให้เจ็บซ้ำที่เดิม

“ปล่อยก่อนได้ไหมคะ อัญเจ็บ” มือเล็กอีกข้างพยายามดึงมือของเขาออกไป แต่เหมือนว่าแรงของเธอไม่ได้ทำให้ศิลาระแคะระคายผิวเลยสักนิด

“อย่าสำออย แค่นี้มันไม่ตายง่าย ๆ หรอก!”

“แต่อัญเจ็บ มืออัญก็ยังไม่หายดี”

“มันไม่ใช่เรื่องของฉัน!”

“…”

“ถ้ายังไม่ทำตามที่สั่งอีกล่ะก็ ฉันไม่ใจเย็นกับเธอแน่อัญญา!”

พูดจบก็ผลักร่างบางออก ศิลาเดินออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง ปล่อยให้คนตัวเล็กยืนกำต้นแขนของตัวเองที่ขึ้นรอยแดงจากการถูกบีบ ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจอย่างอ่อนล้า เธอไม่ได้ตั้งใจจะขัดคำสั่งแต่เพราะไม่กล้าพูดปฏิเสธผู้เป็นพ่อสามี

“ตรงนี้ยังไม่ทันหายดีเลย” ปากสวยเบะคว่ำลง

มืออีกข้างยังมีรอยช้ำอยู่ เธอจึงเดินออกจากห้องเพื่อหายาทา แต่เพราะพึ่งอยู่บ้านหลังนี้ได้แค่ไม่กี่วันจึงทำให้หากล่องปฐมพยาบาลไม่เจอ แม่บ้านวัยกลางคนเดินผ่านมาพอดี เห็นนายหญิงของบ้านกำลังเดินหาอะไรบางอย่างจึงเดินเข้ามาสอบถาม

“คุณอัญญาหาอะไรหรือเปล่าคะ”

“เอ่อ… อัญหากล่องปฐมพยาบาลน่ะค่ะ”

“เป็นอะไรหรอคะ” พอได้ยินว่าอีกฝ่ายหาอะไร แม่บ้านก็หน้าตาตื่นรีบขยับตัวเข้าใกล้อัญญาทันที

“พอดีว่าเจ็บมือน่ะค่ะ”

“ไม่นิดนะคะ” มือเหี่ยวย่นตามช่วงอายุคว้าจับข้อมือเรียวของนายหญิง “ช้ำขนาดนี้ไปโดนอะไรมาคะเนี่ย”

“อัญซุ่มซ่ามนิดหน่อยค่ะ ทายาเดี๋ยวก็หาย”

“คุณอัญนั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวป้าไปเอายามาทาให้” เธอดันตัวอัญญาเบา ๆ เพื่อให้ถอยหลังไปนั่งตรงโซฟาตัวใหญ่

“เดี๋ยวอัญทาเองก็ได้ค่ะ”

“นั่งรอแป๊บเดียวนะคะ” แต่เหมือนป้าแม่บ้านจะไม่ฟังคำพูดของเธอ

หายไปสักพักก่อนจะกลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลในมือ ป้าแม่บ้านนั่งลงกับพื้นรื้อหายาอยู่ไม่นาน เธอขออนุญาตอัญญาก่อนจะลงมือทายาบริเวณที่มือช้ำให้อย่างแผ่วเบา

การกระทำแสนนุ่มนวลของแม่บ้าน ทำให้อัญญารู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเวลาเจ็บป่วยเธอก็ต้องดูแลตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะมีคนคอยถามคอยห่วงและดูแลให้แบบนี้

นอกจากหมอพยาบาลน่ะนะ

“ป้าพร” เสียงเข้มดุที่พึ่งได้ยินไปเมื่อไม่นานดังขึ้นอีกครั้ง ศิลาเดินเข้ามาหน้าตาบึ้งตึง

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ป้าแม่บ้านที่กำลังตั้งใจทายาให้อย่างขมักขเม้นรีบลุกขึ้นและขานรับศิลาทันที

“ฝากทำความสะอาดในห้องนอนให้ที”

“ได้ค่ะ”

“เสร็จแล้วล็อคห้องให้ผมด้วย”

“คุณศิลาจะไปไหนหรอคะ”

“คืนนี้ผมไม่กลับ”

“คุณท่านไม่อนุญาตให้นอนค้างที่อื่นนอกจากบ้านหลังนี้ค่ะ” คำพูดของป้าแม่บ้านทำให้อัญญาสงสัย

‘ป้าพร’ ป้าแม่บ้านที่ดูแลศิลามาตั้งแต่ยังเล็ก เป็นเสมือนแม่นมของเขา ศิลาเคารพป้าพรเหมือนคนในครอบครัวอีกคน พอแต่งงานและย้ายมาอยู่บ้านอีกหลังก็ถูกอัคคีสั่งย้ายตาม เพื่อให้ป้าพรมาสอดส่องพฤติกรรมของลูกชาย หากเป็นคนอื่นศิลาคงไม่ให้ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน

“ครับ” ศิลาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ดึกหน่อยแล้วกัน” พูดจบร่างสูงก็หันหลังเดินออกไป

“เดี๋ยวค่ะ พี่ศิลาจะไปไหนคะ” อัญญาตะโกนถาม แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเธอจึงวิ่งตามไล่หลังเขาออกไป “เดี๋ยวสิคะ”

“อะไรนักหนา!” ศิลาหันกลับมาตะคอกใส่

“พี่จะไปไหนคะ ทำไมกลับดึก”

“อย่ายุ่งเรื่องของฉัน”

“อัญแค่อยากรู้” เขาเลือกที่จะไม่ตอบเธอเช่นเคย แผ่นหลังใหญ่ค่อย ๆ ห่างออกไปจากสายตา

คนตัวเล็กทำได้เพียงเม้มปากแน่น แค่อยากคุยกับอีกคนดี ๆ ทำไมมันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้ เธอแทบจะไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลยนอกจากโดนต่อว่า ชีวิตหลังแต่งงานมันจะอึดอัดได้มากแค่ไหนอีก

“เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นค่ะ” ป้าพรเดินตามออกมา เธอเองก็ยืนมองศิลาที่กำลังขับรถออกไปด้วยความรวดเร็ว “ถึงเขาไม่ได้ป่วยแต่นิสัยแบบนี้ก็สามารถดีขึ้นได้ค่ะ”

“เขาจะใจดีกับอัญไหมคะ”

“คุณศิลาเป็นคนใจดีค่ะ” ป้าพรตอบพลางหันมาส่งยิ้มให้ “ป้าเลี้ยงมาเองกับมือ คุณศิลาถึงจะหัวรั้นไปหน่อยแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายขนาดนั้น”

“…”

“ให้เวลาเขาหน่อยเถอะค่ะ คนเคยใช้ชีวิตแบบไม่มีคนรักมาเกือบสามสิบปี พอบทจะมีก็มีแบบปุบปับอีก คงต้องให้เวลาปรับตัวสักหน่อย”

“อัญก็ขอให้เป็นแบบนั้นค่ะ”

“กลับมาทายาต่อเถอะค่ะ จะได้หายไว ๆ” ป้าพรคว้ามือของอัญญามากุม เธอจูงมือคนตัวเล็กกลับเข้าด้านใน

“พี่ศิลาเขาไปไหนหรอคะ”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” ปากสวยเม้มแน่น “คงจะไปหาเพื่อนล่ะมั้งคะ ตามประสาผู้ชาย”

“พี่ศิลามีเพื่อนเยอะไหมคะ”

“ที่สนิทก็มีแค่คนเดียวค่ะ” ป้าพรนวดลงบริเวณที่เป็นรอยช้ำ “ทำอะไรต้องระวังหน่อยนะคะ เป็นแผลบ่อย ๆ ไม่ดีหรอก”

“ค่ะ อัญจะระวังมากกว่านี้” เธอตอบ แม้รอยที่มือจะไม่ได้เกิดจากที่เธอทำตัวเองทั้งหมด แต่ก็เพราะตัวเธอเองด้วยที่ดันเอื้อมมือไปคว้าประตูไว้จึงโดนหนีบซะเอง

“ป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”

“คะ?” อัญญาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

“คุณอัญไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณรัลยาใช่ไหม” คำถามของป้าพรทำเอาเธอนิ่งไป “ป้าได้ยินเด็ก ๆมันคุยกันหลังบ้านเลยสงสัย”

“อ๋อ…” เธอนึกถึงเมื่อคืนที่เข้าไปได้ยินกลุ่มแม่บ้านที่กำลังคุยเรื่องเธอ “ใช่ค่ะ อัญไม่ใช่ลูกของคุณรัลยา แต่อัญเป็นลูกของพ่อเสกสรรกับแม่กาหลา”

“ลูก…”

“ลูกเมียน้อยค่ะ” เธอพูดแทนพร้อมกับชักมือกลับ “ขอบคุณที่ทายาให้นะคะ เกิดมาพึ่งจะเคยมีคนทำแบบนี้ให้”

ป้าพรส่งยิ้มให้โดยไม่ได้พูดอะไร เธอจึงลุกขึ้นเตรียมจะกลับเข้าห้องนอนตัวเอง แต่ป้าพรตามมือจับข้อมือของเธอไว้ได้ทันในตอนที่กำลังจะก้าวขึ้นบันได

“อย่าคิดแบบนั้นเลยนะคะ”

“…”

“ถึงแม่ของคุณอัญญาจะไม่ได้รับการยอมรับจากใคร แต่อย่างน้อยคุณอัญญาก็เกิดมาจากความรักของพ่อกับแม่นะคะ”

“…”

“ใครจะพูดว่าเราเป็นลูกเมียน้อยก็อย่าได้ใส่ใจเลยค่ะ อดีตมันแก้ไขไม่ได้”

“…”

“สนใจแค่ปัจจุบันพอนะคะ ทำให้ตัวเองมีความสุขในทุก ๆวันหลังจากนี้ก็พอ”

.

To be continued.

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นุช'ซังงง
จะโง่อะไรขนาดนั้นอัญญา
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (2)

    “ไปร์ทอยากกลับบ้านแล้ว” ลูกชายคนเล็กหยุดร้องไห้แล้วก็งอแงอยากกลับบ้านทันที“ไป งั้นเรารีบกลับกันดีกว่าเนอะ” ศิลาพูดแล้วเอื้อมจับมือกับสมายด์จูงมือกันเดินไปที่รถ ส่วนอีกข้างยังคงอุ้มสไปร์ทเอาไว้ด้วยอัญญาเดินตามมาติด ๆพาเด็ก ๆขึ้นนั่งรถประจำที่ สไปร์ทจะนั่งข้างหน้ากับพ่อของเขาตลอด ส่วนสมายด์จะนั่งกับอัญญาเป็นประจำ“เมื่อกี้เขาผลักพี่มายด์แล้วก็มาผลักไปร์ทด้วย” เด็กแสบฟ้องพ่ออีกรอบ “ดูเข่าไปร์ทสิ เป็นแผลเลย”“เข่าพี่ก็เป็น” สมายด์ชี้บอกบ้าง“ของพี่มายด์เป็นนิดเดียว ของไปร์ทเลือดไหลถึงตรงนี้เลย เจ็บมาก”“พี่ก็เจ็บ”“พี่ไม่สู้เขาอะ ไปร์ทเลยต้องสู้แทน” เด็กทั้งสองคุยกัน “ถ้าเขามาแกล้งพี่มายด์อีกบอกไปร์ทเลยนะ”“จะไปทำอะไรเขาฮะ” ศิลาหัวเราะชอบใจเอื้อมมือขยี้หัวลูกชายตัวเอง“ไปร์ทจะต่อยหน้าเขาเลย”“ทำแบบนั้นไม่ได้สิ” อัญญารีบพูดแทรก “ถ้าเขาแกล้งก็ให้ไปบอกครูไม่ก็มาบอกพ่อกับแม่สิ”“แม่มาช้า ครูตรงนั้นก็ไม่มีนี่นา ไปร์ทเลยทำเอง”“รอบหน้าก็อย่าทำแบบนี้นะ ถ้าเจ็บตัวมากกว่านี้ขึ้นมาจะทำยังไง ไม่กลัวพ่อกับแม่เสียใจเหรอ”“ไม่ทำก็ได้” ไปร์ทเบะปากคว่ำลง “ไหนลูกอมไปร์ท”“ย่าไม่ให้กิน” เด็กแสบแบมือขอลูกอ

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (1)

    ตอนพิเศษ #เด็กแสบ “เอามาเดี๋ยวนี้เลย!” เสียงของเด็กผู้หญิงวัยเจ็ดปีกำลังตะคอกใส่เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงผมยาวที่ถูกมัดรวบไว้ทั้งสองข้าง กำลังยืนเท้าเอวหน้าตาบึ้งตึง เพราะถูกเด็กตรงหน้าขโมยเอากระเป๋าดินสอของตัวเองไป พอตามมาเอาคืนก็ไม่ยอมคืนให้เสียอย่างนั้น “เอามาสิ!” เธอพูดอีกรอบคิ้วขมวดหมุ่น “ไม่ให้!” แต่เด็กผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาเสียงดังทั้งยังผลักตัวเธอจนล้มลงหงายหลัง “โอ๊ย!” สมายด์ล้มลงก้นกระแทกพื้น ความเจ็บแล่นแปลบขึ้นมา น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสอง ส่งเสียงร้องไห้เสียงดัง แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะเยาะชอบใจ “ทำอะไรน่ะ!!” เด็กผู้ชายวัยห้าขวบวิ่งเข้ามาหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น จับมือที่ถลอกและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยขึ้นดู จากที่ปกติมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แล้ว ตอนนี้คิ้วเข้มทั้งสองขมวดเข้าหากันแน่น ลุกขึ้นจ้องหน้าคนที่แกล้งพี่สาวตัวเองเขม็ง “แกล้งพี่มายด์ทำไม!!” “ไปร์ทไม่ต้อง ฮึก” พี่สาวเอ่ยบอกน้องชายตัวเองที่ยืนประจันหน้าเด็กโต แม้ตัวเองจะโกรธที่ถูกรังแกแต่ไม่อยากให้น้องโดนไปด้วย “ทำพี่มายด์ทำไม!” สไปร์ทยืนกอดอกจ้องหน้าอีกคน “นายใช่ไหมที่ขโมยของพี่เราไป!!”

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (2)

    ตอนแรกเขาคิดว่าคงไม่มีวันที่ทั้งสองคนจะได้กลับมารักกันอีกครั้งเสียแล้ว พอมาลองนึกถึงการกระทำต่าง ๆของตัวเอง เขาไม่น่าให้อภัยจริง ๆนั่นแหละ หวั่นใจและเกือบถอกใจนับครั้งไม่ถ้วนแต่เพราะไม่อยากให้เธอต้องกลายเป็นคนของคนอื่น ไม่อยากให้ใครเข้ามาดูแลเธอแทนเขา ไม่อยากให้ใครเข้ามาทำหน้าที่พ่อ ไม่อยากให้ลูกเอ่ยเรียกคนอื่นว่าพ่อเขาเลยพยายามลองมันอีกครั้ง ทั้งที่ที่ผ่านมาใจกล้าที่จะทำร้ายและพูดจาด่าทอไล่เธอสารพัด แต่พอถึงเวลาตามง้อจริง ๆความกล้าในใจกลับไม่หลงเหลืออยู่กลัวไปหมดซะทุกอย่างแต่วันนี้เขาได้มาอยู่ข้างเธอแล้ว เพราะเขากล้าที่จะปกป้องอัญญา กล้าที่จะใช้ชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อให้เธอและลูกในท้องปลอดภัย ถึงแม้ว่าเขาควรจะได้รับการลงโทษที่มากกว่านี้ เพราะทำกับอัญญาไว้เยอะมากแต่เธอก็พร้อมที่จะให้อภัย เพียงเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียวอัญญารักเขาสุดหัวใจ รักครั้งแรกและพวงด้วยตำแหน่งพ่อของลูก มันเลยทำให้เธอตัดใจจากเขาไม่ได้สักที นอกจากหลอกตัวเองว่าไม่รักเขาแล้วก็เท่านั้น พยายามลองเปิดใจให้เลย์มากเท่าไรก็เหมือนว่ายิ่งปิดกั้นหัวใจตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง ว่าหัวใจของเธอไม่เคยกลายเป็นของใครน

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (1)

    บทที่ 67 “เจ็บไหม” ศิลาเอ่ยถามภรรยาตัวเองที่นอนสบตากับเขาอยู่บนเตียง อัญญายิ้มให้พลางส่ายหน้า ตั้งแต่ตื่นมาเห็นก็เห็นศิลานั่งอยู่ข้างกายแล้ว เขาคอยถามเธอเสมอว่าเจ็บตรงไหน ต้องการอะไรให้บอกเขาได้เลย ดูเป็นห่วงเธอไปหมดซะทุกอย่าง มือหนากอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ เขาจับมันขึ้นมาแนบที่หน้า เอียงคอซบมันไว้ราวกับว่ามันคือหมอนใบโตที่ทำให้เขาหลับสบายเสียงอย่างนั้น “อีกนานไหมคะกว่าลูกเราจะออกมา” อัญญาถามเสียงเบา เธออยากเจอลูกใจจะขาด “ไม่นานหรอก พอเขาแข็งแรงเดี๋ยวพยาบาลก็พามา อดทนรออีกหน่อย’ “แต่ลูกยังไม่ได้กินนม” “ยังไม่ถึงเวลาเลย ใจเย็น ๆนะ ไม่ต้องคิดมาก” อัญญาพยักหน้ารับเธอฉีกยิ้มออกมาให้กับเขา ถึงยังไม่เจอหน้าลูกแต่ก็อุ่นในที่มีศิลาอยู่ข้างกาย ครืด~ “ขออนุญาตนะคะ พาน้องมากินนมคุณแม่ค่ะ” เสียงพยาบาลดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด อัญญาทำตาโตสบตากับศิลาด้วยความดีใจ ศิลาลุกขึ้นยืนมองรถเด็กน้อยที่มีลูกของตัวเองนอนอยู่ในนั้น เขาขยับกายดีดดิ้น ลืมตามองไปมา ดูแข็งแรงไม่เหมือนเด็กที่ควรอยู่ในตู้อบ เพียงแค่ตัวเล็กมากเกินไปแค่นั้น พยาบาลอุ้มตัวเด็กขึ้นแล้วส่งให้กับอัญญา ความรู้สึกของ

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (2)

    ศิลาวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลหน้าตาตื่น เขาวิ่งอย่างเร็วไม่สนใจใคร เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน หัวใจเต้นระรัวราวกับมีคนเข้ามาตีกลองอยู่ด้านในปานวาดโทรตามลูกชายทันทีที่พยาบาลแจ้งไปทางเธอ เพราะพยายามติดต่อหาศิลาเท่าไรก็ไม่รับสาย เพราะตอนนั้นกำลังประชุมและมันเป็นเบอร์แปลกเขาจึงปล่อยผ่าน ลืมคิดไปว่าอาจเป็นเบอร์ของโรงพยาบาลเขาวิ่งมาจนถึงห้องที่อัญญากำลังทำการผ่านคลอดอยู่ด้านใน เขารีบวิ่งไปหยุดอยู่หน้าประตู มองลอดผ่านช่องกระจกน้อย ๆเข้าไป เห็นอัญญาถูกใส่เครื่องช่วยหายใจ มีหมอพยาบาลอีกหลายคนยืนล้อมรอบตัวเธอภาพที่เธอนอนหลับตาพริ้มพร้อมกับเครื่องช่วยหายใจ มันบีบรัดหัวใจเขาไปหมด ศิลาน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาเสียดื้อ ๆมือสั่นตัวสั่นไปด้วยความกลัว ลืมความเหนื่อยไปหมดสิ้น“ศิลานั่งก่อนนะลูก” ปานวาดเข้าดึงตัวแขนลูกชาย เขาถอยออกมาตามแรงของแม่ “อัญญาไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อแม่สิ”“อัญเป็นอะไรครับ” เขาถามน้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ“ปากมดลูกเปิดกว้าง หมอบอกว่าอัญได้รับยาระงับการคลอดมากเกินไปแล้ว หากยังต้องใช้ยาอีกมันจะเป็นอันตรายต่อเด็กและตัวแม่เอง”“…”“เลยต้องทำการผ่าคลอดเร่งด่วน”“ทำไมคลอดธรรมชาติไม่ได้” เขาเคย

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (1)

    บทที่ 66 “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นะคะ” อัญญาเอ่ยบอกศิลาที่กำลังนั่งซักผ้าเช็ดตัวให้เธอในห้องน้ำ “ไม่เป็นไร อัญนอนพักเลย” เขาตอบกลับมาแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ต่อ อัญญายิ้มให้กับภาพตรงหน้าก่อนจะนอนหลับตาเพื่อพักผ่อนต่อ มือลูบท้องกลม ๆของตัวเองไปด้วย ศิลานอนเฝ้าเธอทุกวันตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาหา ทำความสะอาดร่างกาย เช็ดปัสสาวะและอุจจาระให้เองตลอด อาบน้ำแต่งตัวเขาก็ทำให้เธอทุกอย่าง และทำอย่าสงสม่ำเสมอไม่บกพร่องเลย เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนนิด ๆอัญญายังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเคย ตอนนี้สามารถขยับร่างกายได้บ้างแล้วแต่ยังเคลื่อนที่เร็ว ๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ปากมดลูกเปิดอีก ศิลาอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นปลอบใจอยู่ตลอด ไม่เคยหายไปไหนนาน ๆ เขาจะบอกตลอดว่าเป็นห่วงอัญญามากขนาดไหน บอกรักเธอทุกวัน ดูแลดีอย่างคาดไม่ถึง ครืด ครืด ครืด อัญญาเหลือบมองตามเสียงโทรศัพท์ หน้าจอโชว์ชื่อของเลขาคนสนิทศิลา “พี่ศิลาคะ โทรศัพท์ค่ะ” เธอร้องบอก ศิลาเดินขมวดคิ้วเข้ามาหา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย สีหน้าเคร่งเครียดนิดหน่อย เขาถอนหายใจเสียงดังก่อนจะตัดสายทิ้ง “มีอะไรหรือเปล่าคะ” อัญญาถามเขา “มีป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status