ตอนที่ 9
ตัดขาดรัก ในยามค่ำคืนฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วย่องออกจากบ้านเพราะรู้สึกกังวลเรื่องผู้หญิงที่เซ็นคุยด้วยวันนี้ฉันจะไปถามเขาให้รู้เรื่อง ฉันคิดว่าหากฉันไม่พูดคุยแล้วโกรธเซ็นไปแบบดื้อๆ มันก็จะไม่ยุติธรรมต่อเขา “อาซ้อใหญ่จะไปที่ไหนคะ” เสียงสาวใช้เอ่ยทักทายจากทางเบื้องหลังฉันจึงหันไปยิ้มจางๆ แล้วแสร้งปวดฉี่จะไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะรีบชิ่งแอบเดินไปขึ้นรถแท็กซี่หน้าประตูรั้วบ้านขับแล่นออกไป หน้าประตูห้องเช่า มือเรียวสวยแตะประตูเบาๆ ก่อนจะแอบหันดวงตาไปมองกระจกบานใสที่มีเงารางๆ “ฉันรีบยกมือขึ้นปิดริมฝีปากกลั้นสะอื้น เพราะเงาที่เห็นคือเซ็นกำลังมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ไม่จริงใช่ไหม ฮือๆๆ ฮึกๆ ฉันยืนนิ่งไม่อาจจะทนมองดูความเจ็บปวดที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าได้อีกจำต้องรีบหันหลังเดินจากไปให้เร็วที่สุด “ต่อสิคะ” สาวสวยหุ่นแซ่บเอ่ยมองเซ็นเมื่อเห็นเซ็นโน้มตัวก้มลงคร่อมบนตัวเธอ “งานของเธอเสร็จแล้วเอาเงินแล้วรีบใสหัวไป” ผมวางเงินลงบนเตียงให้ผู้หญิงขายบริการ ที่ผมซื้อมาแสดงละครตบตาน้ำ จากนั้นผมก็รีบวิ่งออกจากห้อง แอบตามน้ำไปแบบเงียบๆ “อะไรกันจ้างตั้งแพงยังไม่ทันจะได้สุขสมเลย” ฉันสะบัดเงินแล้วยัดลงกระเป๋าก่อนจะรีบเดินส่ายก้นอวบอิ่มเดินออกไปจากห้องเช่าเก่าๆ ของผู้ชายหน้าหล่อที่จ้างมาใช้บริการ ท่าเรือ “ฉันเกลียดนายได้ยินรึเปล่า” ฉันตะโกนไปที่ทะเล ใบหน้ายังคงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ในใจนั้นเจ็บปวดอย่างมากที่ถูกเซ็นขย้ำหัวใจจนแหลกเหลว เขาลืมสัญญาทุกอย่างที่ให้ไว้กับฉัน “ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่รักนายอีกแล้ว” ฉันระบายความเจ็บปวดโดยการตะโกนออกไปแบบสุดเสียง แม้มันจะเป็นการกระทำที่ดูบ้าบอเป็นอย่างมาก แต่มันก็ช่วยให้ฉันสบายใจได้ “ผมขอโทษนะน้ำที่ผมต้องทำแบบนี้” ผมได้แต่แอบมองดูเธอในที่มืดๆ ถึงผมจะปกป้องเธอในฐานะคนรักไม่ได้ แต่ผมก็สามารถปกป้องเธอแบบลับๆ ได้ ผมยืนมองดูน้ำตะโกนออกไปกลางทะเลว่าจะไม่รักผมอีก แต่ละครั้งที่น้ำพูดออกมาผมรู้สึกเจ็บเหมือนคมธนูพุ่งตรงเข้ามาปักอกซ้ำๆ “...” เช้าของวันที่ห้า วันนี้ทุกคนต่างร่วมแสดงความยินดีให้กับพี่ใหญ่ แม้กระทั่งพ่อแม่ของน้ำก็ถูกเชิญมาร่วมงาน หญิงสาวสวมชุดแต่งงานสีแดง ประดับสร้อยและของมีค่ามากมายบนร่างกาย “ยิ้มเยอะๆ นะน้ำวันนี้คือวันสำคัญของหนูนะจ๊ะ” ฉันเอ่ยบอกกับลูกสาวคนเดียวของฉัน “หนูยังจำเป็นที่จะต้องยิ้มอีกเหรอคะ” ฉันเอ่ยตอบแม่น้ำเสียงราบเรียบแล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะได้เวลาเริ่มงาน “เชิญค่ะซ้อ” สาวใช้หน้าประตูเอ่ยปากก่อนจะเดินนำฉันไปในงานซึ่งดูเหมือนว่าแขกจะมากันเยอะแล้ว เพราะคนที่เฉินตูเชิญมาในวันนี้ไม่ใช่คนทั่วไปแต่เป็นเครือญาติที่สนิทและเพื่อนรักของเขาทั้งนั้น ฉันไม่อยากจะให้งานแต่งเอิกเกริก เมื่องานพิธีเริ่มเสียงตีฉาบก็ดังขึ้น หน้าประตูทางเข้ามีคณะเชิตสิงโตมาร่วมแสดงอวยพร ฉันเดินจับแขนของพ่อเข้าไปภายใน ก่อนจะเริ่มทำการกราบไหว้ฟ้าดินเคียงข้างเขารวมถึงพิธียกน้ำชาพร้อมทั้งกล่าวปฏิญาณต่อหน้าลูกน้องทุกคน “ฉันสัญญาว่าจะรักผู้หญิงคนนี้ไปจนวันตาย ต่อไปเธอคือซ้อใหญ่ของพวกแก” ซึ่งฉันเองก็จะต้องสัญญาเช่นเดียวกัน ฉันกล้ำกลืนพูดออกไปว่าจะรักเฉินไปจนวันตาย จะอยู่เคียงข้างเขา เหมือนไข่มุกที่เขียนอยู่บนบัลลังก์มังกร เมื่อผมเอ่ยจบลูกน้องทุกคนก็ต่างย่อตัวลงคุกเข่าให้กับเหมยในฐานะผู้หญิงของผม ทุกคนในแก๊งจะต้อง เคารพเธอเสมือนเคารพผม ผมจับมือของเหมยเบาๆ ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินออกมาหน้าประตู เพื่อมองดูประทัดที่ลั่นสนั่นในงานมงคลของเรา “เหมยขออะไรคุณได้รึเปล่าค่ะ?” ฉันเอ่ยกับเฉินตูเบาๆ เมื่อเขาได้ยินก็หันมามองฉันเพื่อรอฟัง ด้วยแววตาเรียบนิ่งใบหน้ายิ้มกริ่ม “ฉันไม่ขอนอนร่วมกับคุณ” ฉันตัดสินใจพูดออกมา เมื่อเฉินตูเขาได้ยินก็นิ่งชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าของเขายิ้มจางๆ ฉันรู้ดีว่าเขาคงจะอยากถามว่าทำไมสินะ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถาม “ในเมื่อคุณกล้าขอมีหรือที่ผมจะไม่กล้าให้ ผมสัญญาว่าผมจะไม่ล่วงเกินหรือขืนใจคุณจนกว่าคุณจะทำผิดต่อผม หรือขัดคำสั่งผม ผมจะไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณ” ผมจับมือของน้ำเบาๆ แล้วยิ้ม มองเธอที่ดูเหมือนจะนิ่งชะงักครั้นได้ยินที่ผมเอ่ย “ถึงอย่างไรฉันก็ขอบคุณนะคะที่เข้าใจฉัน” ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่เฉินตูมีต่อฉัน ฉันอยากจะขอบคุณเขาอีกหลายร้อยครั้งที่ดีกับฉันแบบนี้ ผิดกับใครบางคนที่ฉันรักเขาแทบตายก็ไม่สนใจเอาแต่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากอย่างบ้าคลั่ง ฉันแอบเหลียวสายตาไปมองเซ็นที่นั่งฟุบอยู่ตรงโต๊ะในงานเลี้ยง เวลาของงานผ่านลุล่วง จนถึงขั้นตอนส่งตัวเข้าหอ มือหนาสอดอุ้มร่างของน้ำฟ้า เดินเข้าไปในห้องโดยมีดวงตาคู่คมของเซ็นมองอยู่ “ขอให้คุณรักกับพี่ใหญ่ตลอดไปน่ะน้ำ” ผมเอ่ยอวยพรให้ทั้งคู่ก่อนจะถอยตัวออกมาขึ้นรถขับแล่นออกไป ภายในห้องหอ ฉันรีบสลัดตัวออกจากห้วงแขนหนาทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ก่อนจะถูกแขนกำยำของเฉินกระชากไปนั่งลงบนเตียง “ไหนคุณบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไงหากฉันไม่เต็มใจ” ฉันเอ่ยถามเขาเสียงสั่น ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะกระตุกยิ้มมุมปาก “ผมก็แค่อยากจะเห็นหน้าคุณชัดๆ คำพูดของเฉินทำให้น้ำฟ้ารู้สึกกลัว ยามที่ดวงตาของเขามองจ้องเธอ เรากับคนที่โหยหาและคิดถึงอย่างมาก น้ำฟ้าจึงทำได้เพียงนั่งมองเขาแบบนิ่งๆ ไม่กล้าที่จะดื้อรั้นเหมือนเช่นเคย “...” ท่าเรือ แง๊นๆๆ ผมบิดมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่ริมท่าเรือก่อนจะย่างขาลงจากรถแล้วเดินเตะก้อนหินไปมาระบายอารมณ์ ผมไม่รู้ว่าควรจะเสียใจยังไง ที่ทิ้งให้น้ำร่วมหอไปกับพี่ใหญ่ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคือเมียของผม “มายืนทำอะไรคนเดียววะ” เสียงทักทายจากเบื้องหลังเรียกให้ผมหันดวงตากลับไปมองพบว่าเป็นคนของแก๊งอริพี่ใหญ่ ดูท่ามันจะมิได้มาดี ไหนๆ วันนี้ผมก็อารมณ์ไม่ดีอยู่งั้น ขอระบายกับพวกมันเลยละกัน “เข้ามาดิวะ” ผมตะโกนท้า ก่อนบุกเข้าต่อยตีกับพวกมันห้าสิบคนอย่างบ้าระห่ำ ผมโดนทั้งเท้าทั้งอาวุธฟาดมาที่ร่างกายแต่ผมกลับรู้สึกชาไร้ความเจ็บปวด ผมกระชากคอพวกมันกระแทกกับพื้นปูนก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะถาโถมตกลงมาอย่างหนัก “มันบ้าไปแล้วพี่” เสียงพวกมันตะโกน เมื่อเห็นผมต่อสู้แบบไม่คิดชีวิต “งั้นก็จัดชุดใหญ่ให้มันหน่อยเว้ย” เมื่อพี่ใหญ่ของพวกมันสั่งลูกน้องที่เหลือก็กรูเข้ามารุมกระทืบผม โชคยังดีที่ผม ชิงสปาต้าจากลูกน้องของมันมาได้หนึ่งเล่ม “พวกมึงเข้ามา กูจะฟันให้คอกับตัวอยู่คนละที่กันเลยเข้ามาดิ” ผมเอ่ยตะโกนจนสุดเสียงก่อนที่พวกมันจะวิ่งกรูกันเข้ามาหาผม หากคืนนี้จะต้องตายผมก็ขอให้มันเป็นการตายที่สมเกียรติ อย่างน้อยผมก็ได้ลากคอพวกมันตายไปร่วมกับผม ผมยกมีดสปาต้าฟาดฟันกับพวกมันอย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งเรือนร่างเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดด้วยความเบื่อหน่าย หญิงสาวจึงเดินชมบรรยากาศไปจนทั่วชายหาดแล้วกลับมาที่บ้านก็ยังไร้วี่แววการมาของเซ็น เธอถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่เสียงรถจะขับเล่นเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้า ดวงตาคู่สวยหันไปมองด้วยความอยากรู้ทันทีที่เธอเห็นร่างเล็กของลูกชายย่างลงจากรถ ใบหน้าขาวนวลก็ยกยิ้มร่าดีใจ “ม๊า” เสียงมังกรตะโกนแล้วรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดน้ำฟ้าแน่นเซ็นที่ย่างตามลงมายิ้มมองพวกเขาสองแม่ลูกก่อนจะยักไหล่แบบคนถูกเมินแล้วเดินไปยืนข้างๆ มังกร “ว้า น้อยใจจังมังกรไม่กอดป๊า” ชายหนุ่มเอ่ยจบน้ำฟ้าก็แอบขำเขาเบาๆ แล้วชวนมังกรขึ้นห้อง “ไปเถอะมังกรม๊าคิดถึงลูกจะแย่แล้ว”“อ่าวคุณเดี๋ยวสิ” เซ็นยืนเกาหัวเบาๆ เมื่อเห็นผู้หญิงที่รักเดินขึ้นห้องไปกับลูกชาย “นี่ผมกลายเป็นหมาหัวเน่ารึเปล่านะ” ชายหนุ่มครุ่นคิดในหัวแล้วปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ส่วนตนเองก็ยื่นของในมือให้สาวใช้ “วันนี้ผมจะเข้าครัวด้วยตัวเองนะ” เมื่อเซ็นเอ่ยจบพิงสาวใช้ก็ย่อตัวตกลงเบาๆ แล้วนำของไปจัดการให้เข้าที่ ในระหว่างที่น้ำฟ้าและมังกรอยู่บนห้องพูดคุยกันตามประสาแม่ลูกเซนก็ใช้โอกาสนี้ในการทำอาหารเพื่อใช้สำหรับงานเลี้ยงเล็กๆ ในคืนนี้ เขาอยากจะให้น้ำฟ้
เซ็นโน้มตัวลงเข้าหาเรือนร่างบางของน้ำฟ้า ก่อนจะใช้ปลายนิ้วลูบสัมผัสพวงแก้มเธอเบาๆ “อย่าโกรธผมเลยนะ อาซ้อของผม” น้ำเสียงหนาเอื้อนเอ่ยก่อนจะลงจูบสัมผัส ซอกคอของหญิงสาวเบาๆ ทว่าถูกมือเรียวสวยของน้ำฟ้าผลักอกกว้างรั้งเอาไว้ซะก่อน “อย่าคิดว่าใช้คำพูดหวานมาหว่านล้อมแล้วฉันจะเชื่อคุณอีกนะคะเซ็น” เธอเอ่ยไม่ทันจะจบ เจ้ามือหนาของเซ็นก็จับมือของเธอชูแนบเหนือศีรษะ “งั้นผมขอไถ่โทษเลยละกัน” ท่ามกลางบ้านขนาดใหญ่บนโซฟาหรูริมฝีปากอุ่นๆ ก้มลงซุกไซ้แผ่วเบาๆ มือของเขาซุกซนจนร่างบางไร้ทางหลบหนี จำยอมต้องปรนเปรอเขาตอบด้วยรสจูบที่เร่าร้อน สายลมอ่อนๆ พัดกระทบม่าน ผ้าจนพริ้วไสว ไหล่คู่งามของ หญิงสาวถูกมือเรียวลูบสัมผัสจนเธอรู้สึกอุ่น ดวงตาสีสวยมองเพดานของตัวบ้านพลันโยกย้ายลำตัวขึ้นลงเบาๆ เมื่อเจ้าของแปลกปลอมเริ่มจะทำงาน รุกล้ำกลีบสวาทเข้าไปเพียงครึ่งก็พลันหยุด แล้วค่อยๆ ขยับเขยื้อนถี่ๆ เพราะหากสอดใส่ไปมากกว่านี้้เกรงว่าเจ้าน้ำฟ้าตัวน้อยจะคับแน่นเกินไป เซ็นทำอะไรมักจะทิ้งช่องทางเอาไว้เสมอ ชายหนุ่มไม่อยากจะให้น้ำฟ้าต้องเจ็บกับเจ้าแท่งร้อนอันเบอเร่อของตนเอง ก็เพียงเพราะอยากจะเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้ลงโทษเวลาที
หัวหน้าแก๊งทุกคนทันทีที่ได้เห็นข้อความในเซ็นเอกสารบ้างก็เห็นด้วยแต่มีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย มือหนากำมือก่อนจะตีลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงแล้วลุกขึ้นจนทุกคนหันไปมอง “การทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนที่ไม่มีประสบการณ์ คิดจะมาใช้สัญญาบังคับกับพวกเรางั้นเหรอ” หัวหน้าแก๊งมังกรดำเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อเซ็นเห็นการกระทำของเขาใบหน้าหล่อๆ ก็กระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ แล้วรับแฟ้มเอกสารจากโบตั๋นมาถือไว้ในมือชูขึ้นเบื้องหน้าทุกคน “ผมอยากจะบอกให้พวกคุณทราบว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญญาธรรมดา แต่มันเป็นสัญญาที่จะทำให้พวกเราทั้ง 9 แก๊งกลมเกลียวกัน “มันคือกฎข้อห้ามว่าคนในแก๊งทั้ง 9 ห้ามฆ่ากันเอง” “ฉันเห็นด้วย” ร่างสูงสง่าลุกยืนพลันตะโกน เขาก็คือหัวหน้าแก๊งมังกรเหมันต์ โดยปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับการโต้เถียงมากนัก ทว่าวันนี้กลับยอมเอ่ยปากต่อสู้เพื่อช่วยเซ็น แสดงให้เห็นว่าแก๊งมังกรเหมันต์ยอมศิโรราบต่อเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ต่างเอ่ยซุบซิบก่อนจะลงความเห็นไปทางข้างของหัวหน้าแก๊งมังกรเหมันต์ ทุกคนเห็นด้วยกับสัญญาฉบับนี้ก่อนที่จะมีบางส่วนเริ่มลงมือเซ็นสัญญาลงนามในเอกสาร “ม๊าครับเราจะลงเลยไหมครับ”
ท่ามกลางห้องโถงใหญ่ภายในโรงแรมสุดหรู ขบวนรถมากมายต่างพากันขับเล่นเข้ามาจอดพร้อมกับบอดี้การ์ดคอยติดตามบุคคลสำคัญที่มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ ดังเช่นรถคันแรกที่ขับเล่นเข้ามา บอดี้การ์ดสวมใส่ชุดสูทสีดำรีบวิ่งลงมาเปิดประตูเบาะหลังก่อนที่ชายวัยกลางคนหนวดเคราหนาใบหน้าคล้ายกับชาวลาติน ดวงตาคมเข้มสวมใส่สูทดูดีจะย่างกรายลงมาพร้อมกับภรรยาแสนสวยของเขา แล้วเดินเข้าไปในงานโดยมีบอดี้การ์ด 10 คนประกบหน้าหลังเขาก็คือเซียว หัวหน้าแก๊งมังกรคราม ชายหนุ่มผู้เยือกเย็นเขาเป็นคนนิ่งและสุขุมอย่างมากและที่สำคัญเขาเคารพประมุขแก๊ง 9 เศียรมาโดยตลอด “สวัสดีครับคุณหนูใหญ่” น้ำเสียงหนาเอ่ยทักทายโบตั๋นที่ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าประตูทางเข้าก่อนจะจับมือเธอเป็นการทักทายแล้วพากันเดินเข้าไปในงานรถคันต่อมาก็คือฟางหวน เขาคือหัวหน้าแก๊งมังกรฟ้า ชายวัย 39 ปีเขาเป็นคนอัธยาศัยดีและมีนิสัยอ่อนโยนอย่างมาก ฟางหวนชื่นชอบเรื่องดนตรีแม้เขาจะเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าชื่อดัง ทว่าความอบอุ่นของเขากลับเป็นที่ต้องตาในหมู่มวลสาวๆ มากมาย เขาเป็นชายโสดที่เคยสูญเสียคนรักเมื่อหลายปีก่อน “สวัสดีครับคุณหนูใหญ่” มือหนาจับมือของโบตั๋นขณะเอ่ยทักทาย ดว
เครื่องบินแลนดิ้งลงจอด ณ สนามบินส่วนตัวพร้อมกับบอดี้การ์ดกว่า 20 คนที่ยืนรอรับอยู่เบื้องล่าง “เราจะได้ไปเยี่ยมคุณพ่อกันแล้วนะเซ็น” โบตั๋นเอ่ยกับน้องชายเพราะหลายปีมานี้เซ็นแทบจะไม่ได้เจอกับหยวนเลย ทั้งคู่เดินย่างลงบันไดเครื่องบินส่วนตัวเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่เบื้องล่างก่อนจะขับแล่นออกไปมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลชื่อดังของประเทศฮ่องกง ตลอดทางดวงตาคู่คมของเซ็นยังคงมองออกไปนอกกระจกรถแววตาของเขาครุ่นคิดเป็นห่วงน้ำฟ้าและมังกรลูกชายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะทำอะไรอยู่ การมาครั้งนี้ของเซ็นเป็นความลับเพราะโบตั๋นไม่อยากจะให้เรื่องของการป่วยของหยวนถูกเปิดเผยไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการชิงอำนาจของแต่ละแก๊งได้ รถเก๋งคันสีดำขับเล่นไปบนท้องถนนก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่หน้าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ “เชิญครับ”บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำเดินถือร่มมาเปิดประตูพาพวกเขาเดินเข้าไปภายใน โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ช่วยปกปิดความลับอาการป่วยของหยวน เพราะทางโรงพยาบาลได้รับเงินช่วยเหลือจากหยวนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนโรงพยาบาลของหยวนเอง “ทางนี้ครับ” หมอหนุ่มยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนจะเดินพาไป
เครื่องบินแลนดิ้งลงจอด ณ สนามบินส่วนตัวพร้อมกับบอดี้การ์ดกว่า 20 คนที่ยืนรอรับอยู่เบื้องล่าง “เราจะได้ไปเยี่ยมคุณพ่อกันแล้วนะเซ็น” โบตั๋นเอ่ยกับน้องชายเพราะหลายปีมานี้เซ็นแทบจะไม่ได้เจอกับหยวนเลย ทั้งคู่เดินย่างลงบันไดเครื่องบินส่วนตัวเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่เบื้องล่างก่อนจะขับแล่นออกไปมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลชื่อดังของประเทศฮ่องกง ตลอดทางดวงตาคู่คมของเซ็นยังคงมองออกไปนอกกระจกรถแววตาของเขาครุ่นคิดเป็นห่วงน้ำฟ้าและมังกรลูกชายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะทำอะไรอยู่ การมาครั้งนี้ของเซ็นเป็นความลับเพราะโบตั๋นไม่อยากจะให้เรื่องของการป่วยของหยวนถูกเปิดเผยไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการชิงอำนาจของแต่ละแก๊งได้ รถเก๋งคันสีดำขับเล่นไปบนท้องถนนก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่หน้าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ “เชิญครับ”บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำเดินถือร่มมาเปิดประตูพาพวกเขาเดินเข้าไปภายใน โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ช่วยปกปิดความลับอาการป่วยของหยวน เพราะทางโรงพยาบาลได้รับเงินช่วยเหลือจากหยวนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนโรงพยาบาลของหยวนเอง “ทางนี้ครับ” หมอหนุ่มยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนจะเดินพาไป