คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนถึงกับพูดไม่ออก เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว ชาวต้าเซี่ยน้อยจวนนักที่จะยินยอมให้อนุภรรยาหรืออี้เหนียงคลอดบุตรก่อนฮูหยินเอก นอกจากมีเหตุจำเป็นเช่นตัวของฮูหยินเอกนั้นมิอาจให้กำเนิดบุตรชายได้ จึงสามารถรับสตรีมาเป็นอี้เหนียงให้ตั้งครรภ์แทน ทว่าในกรณีของจีเมี่ยวหลัวนี้ยังไม่ทันร่วมหอหลายชายคนโตของนางกลับใจร้อนคิดจะให้ฮูหยินเอกของตนเองรับเอาบุตรของอนุภรรยาที่แอบไปซุกซ่อนเอาไว้ภายนอกจากจวนถึงสามปีเช่นนี้ จวนเว่ยกั๋วกงก็ผิดกับสกุลจีจริงๆ
"สมรสนี้ไร้ความเป็นธรรม ฝ่าบาทได้โปรดเมตตาน้องสาวของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
จีม่อชงรีบคุกเข่าโคกศีรษะขอร้องผู้เป็นนายเหนือหัวโดยตรงของตนทันทีเมื่อฝ่ายของสกุลหยวนหมดคำจะโต้แย้ง น้องสาวคนเดียวเขาเลี้ยงดูนางได้ หากจะมีสามีแล้วไม่มีความสุขซึ่งจากที่ดูแล้วมียายเฒ่าทั้งโลกแคบและใจคับแคบหากจีเมี่ยวหลัวยังต้องแต่งสะใภ้ก็เหมือนนรกตั้งแต่ยังไม่ตายแล้วจริงๆ
"ผู้บัญชาการจีต้องคิดให้ถี่ถ้วนนะ ปีนี้น้องสาวของเจ้าอายุสิบแปดแล้ว ยิ่งผ่านการแต่งงานเช่นนี้ อนาคตของนางสำหรับออกเรือนเกรงว่าจะยากแล้ว"
ซ่างกวนโทวเอ่ยเตือนสติแม่ทัพใหญ่ในมหานครเสียนหยางออกไปเสียงเรียบถึงสกุลหยวนจะเป็นญาติแต่ที่เคียงบ่าเคียงไหล่เขากับน้องชายคือสกุลจี เช่นไรก็ต้องเห็นกับอนาคตของคุณหนูลิ่วจีมาเป็นอันดับหนึ่ง ถึงจะมองเห็นความไม่เป็นธรรมแจ่มชัดเจนในสายตาของตนเองอยู่ตรงหน้าก็ตามอย่างไรก็อยากให้จีม่อชงกับจีเมี่ยวหลัวได้คิดให้ดีอีกครั้ง
"ก็แค่ออกเรือน จวนจีไท่เว่ยมิได้ยากจน ต่อให้เมี่ยวเมี่ยวไม่แต่งงานไปจนแก่เฒ่ากระหม่อมก็เลี้ยงดูนางได้พ่ะย่ะค่ะ ดีกว่าปล่อยให้นางก้าวผิดแต่งกับบุรุษจิตใจไม่มั่นคง สตรีเราเกิดมาสิบห้าปีเชื่อฟังบิดา หลังสิบห้าปีครบวัยออกเรือน พอแต่งงานให้เชื่อฟังสามี หากได้สามีดีชีวิตราวกับขึ้นสวรรค์แต่สามีเช่นหยวนเค่อเจวี๋ยนั้นหากครองคู่กระหม่อมเห็นแต่ขุมนรกเท่านั้นที่รอคอยน้องสาวของกระหม่อมอยู่เป็นแน่ อีกอย่างผู้หลักผู้ใหญ่ก็ยังหูตาไม่ดีเห็นผิดเป็นชอบฝ่าบาทจะถามอีกกี่ครั้งกระหม่อมก็ขอกล่าวเช่นเดิมพ่ะย่ะค่ะ"
จีม่อชงกล่าวออกไปทุกคำล้วนออกมาจากใจคนเช่นหยวนเค่อเจวี๋ย ยังไม่แต่งงานก็หลอกลวงน้องสาวของเขาแล้ว หากก้มหน้าอดทนจีเมี่ยวหลัวคงเหมือนตายทั้งเป็นเขาที่เป็นพี่ชายคนโต เป็นตัวแทนของบิดาผู้ลาจาก ย่อมไม่ยินดีแน่นอน แล้วยิ่งผู้ใหญ่เช่นเหล่าฮูหยินหยวนเห็นผิดเป็นชอบเข้าข้างหลานชายไม่ลืมหูลืมตายังเป็นหลานสะใภ้น้องสาวของเขาคงอึดอัดใจตายก่อนยายเฒ่าสารพัดพิษเป็น
"หรือเจ้าคิดเห็นเช่นไรเมี่ยวเมี่ยว แต่ต้าเกอจะเตือนสติเจ้าในฐานะที่ตนเองก็เป็นบุรุษ สันดอนยังพอจะขุดได้ หากสันดานนั้นไซร้ ยากแท้จะทำลาย คนเก่าสันดานย่อมไม่เปลี่ยน หากวันนี้เจ้ายอมหวนคืน เจ้าก็จะได้สามีต่ำช้าคนเดิมคิดให้รอบคอบก่อนจะตอบต้าเกอเถิด"
จีม่อชงหันไปถามน้องสาว จีเมี่ยวหลัวซาบซึ้งยิ่ง จะผ่านไปนานเท่าใดหรือว่านางจะพบเจอเรื่องใดปัญหาขนาดไหน พี่ใหญ่ล้วนยืนอยู่ข้างนางเสมอมิใช่เพียงพี่ใหญ่หรอก มารดาและพี่ชายคนที่สามนั้นหากมาอยู่พร้อมหน้าก็คงส่งเสริมนางเช่นนี้ต่อให้ซานเกอของนั้นปกติชอบรังแกน้องสาวเช่นนาง ทว่าซานเกอเป็นคนประเภทน้องสาวของข้าข้ารังแกได้ผู้เดียว หากใครกล้าแตะต้องนางซานเกอมักตามไปจัดการอย่างเด็ดขาดเสมอ!
คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนถึงกับพูดไม่ออก เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว ชาวต้าเซี่ยน้อยจวนนักที่จะยินยอมให้อนุภรรยาหรืออี้เหนียงคลอดบุตรก่อนฮูหยินเอก นอกจากมีเหตุจำเป็นเช่นตัวของฮูหยินเอกนั้นมิอาจให้กำเนิดบุตรชายได้ จึงสามารถรับสตรีมาเป็นอี้เหนียงให้ตั้งครรภ์แทน ทว่าในกรณีของจีเมี่ยวหลัวนี้ยังไม่ทันร่วมหอหลายชายคนโตของนางกลับใจร้อนคิดจะให้ฮูหยินเอกของตนเองรับเอาบุตรของอนุภรรยาที่แอบไปซุกซ่อนเอาไว้ภายนอกจากจวนถึงสามปีเช่นนี้ จวนเว่ยกั๋วกงก็ผิดกับสกุลจีจริงๆ"สมรสนี้ไร้ความเป็นธรรม ฝ่าบาทได้โปรดเมตตาน้องสาวของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ"จีม่อชงรีบคุกเข่าโคกศีรษะขอร้องผู้เป็นนายเหนือหัวโดยตรงของตนทันทีเมื่อฝ่ายของสกุลหยวนหมดคำจะโต้แย้ง น้องสาวคนเดียวเขาเลี้ยงดูนางได้ หากจะมีสามีแล้วไม่มีความสุขซึ่งจากที่ดูแล้วมียายเฒ่าทั้งโลกแคบและใจคับแคบหากจีเมี่ยวหลัวยังต้องแต่งสะใภ้ก็เหมือนนรกตั้งแต่ยังไม่ตายแล้วจริงๆ"ผู้บัญชาการจีต้องคิดให้ถี่ถ้วนนะ ปีนี้น้องสาวของเจ้าอายุสิบแปดแล้ว ยิ่งผ่านการแต่งงานเช่นนี้ อนาคตของนางสำหรับออกเรือนเกรงว่าจะยากแล้ว"ซ่างกวนโทวเอ่ยเตือนสติแม่ทัพใหญ่ในมหานครเสียนหยางออกไปเสียงเรีย
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มารวมตัวกันพร้อมหน้า รวมถึงตัวเจ้าบ่าวด้วย เจ้าบ่าวที่ยังนอนอยู่บนเตียงในสภาพยับเยินเกินบรรยายที่มาพร้อมกับหมอคอยดูอาการ เห็นแล้วจีเมี่ยวหลัวก็เหยียดริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายดูถูก"ฝ่าบาทต้องคืนความเป็นธรรมให้กับสกุลหยวนของพวกเรานะเพคะ ดูสิเพคะ สตรีแซ่จีช่างป่าเถื่อนยิ่งนัก ซ้อมทายาทของจวนเว่ยกั๋วกงของพวกเราจนเป็นเช่นนี้"ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหยวนรีบออกหน้าแทนหลานชายที่นางรักมากที่สุดทันที เมื่อผู้คนพร้อมหน้า ซ่างกวนโทวฟังแล้วคิ้วขมวด แต่ไม่พูดอันใด แต่ถึงเขาไม่พูดสักคำทุกคนต่างรู้แจ้งฝ่าบาทไม่คิดจะเข้าข้างญาติผู้น้องของเขาแน่นอนในกรณีนี้หากใครไม่ตาบอดย่อมเห็นใจฝ่ายเจ้าสาวมากกว่า แล้วฉางตี้ฮ่องเต้เป็นคนโง่หรือเขาจึงจะมองไม่ออกว่าใครผิดใครถูก"ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนคงผิดแล้ว ที่ต้องคืนความเป็นธรรมย่อมเป็นสกุลจีของพวกเรา หมั้นหมายหกปีกว่าจะได้ตบแต่ง แต่พอแต่งเข้ามาแล้วคุณชายใหญ่หยวนเค่อเจวี๋ยนั้นกลับซุกซ่อนอนุภรรยานอกจวนพร้อมบุตรชายถึงสองคน นี่คือยุติธรรมหรือ? "จีไท่เวย หรือจีม่อชง บุรุษหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปี ผู้บัญชาการหน่วยอวี้หลินที่ขึ้นตรงกับฉาง
"ขะ…ขอบคุณเจ้าค่ะ"นางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแต่แววตานั้นดูแล้วนางขอบคุณจากใจจริง สตรีเราไม่ใช่ชีวิตนั้นยิ่งสตรีที่รูปโฉมงดงามแต่มีครอบครัวยากจนหรือมีบิดามารดาที่เห็นแก่ตัว"หรือหากเจ้ากับลูกวันหน้าเกิดลำบาก ก็นำป้ายหยกนี้ไปที่จวนจีไท่เว่ยหากไม่พบข้าก็ขอพบเหล่าฮูหยินจี ท่านแม่ของข้าไม่ใช่คนใจดำ"กล่าวจบจีเมี่ยวหลัวก็หันหลังจากมาทันทีร่างอวบอั๋นถึงจะมีน้ำหนักมาก ทว่าในยามที่ปีนหน้าต่างห้องหอนั้นกลับว่องไวนัก ไม่นานเสียงคนทั้งจวนเว่ยกั๋วกงก็แตกตื่น แต่จีเมี่ยวหลัวไม่สน คิดแค่จะกลับจวนสกุลจีไปหาพี่ชายคนโตเท่านั้นในเมื่อออกจากประตูดูแล้วจะยาก เจ้าสาวตัวกลมจึงได้แต่หันไปปีนกำแพงหลบหนีเท่านั้น ซ้อมเจ้าบ่าวไปขนาดนั้นนางรั้งอยู่ไม่ได้แล้ว ขอกลับจวนสกุลจีไปตั้งหลักก่อนย่อมปลอดภัยกว่า ยิ่งคิดว่าบัดนี้พี่ชายคนโตกับมารดาคงกลับถึงจวนจีไท่เว่ยไปนานแล้วนางยิ่งรอช้าไม่ได้ จวนเว่ยกั๋วกงนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นถึงท่านน้าชายของฉางตี้ฮ่องเต้ ตีสุนัขย่อมต้องดูเจ้าของ แต่มันโกรธจนหน้ามีตีไปแล้วจึงค่อยได้สติหึ! แต่ก็แค่ตีสุนัขมิใช่หรือไร?ถึงเจ้าของจะเป็นปีศาจดำคนโกรธจนหน้ามืดย่อมไม่สนใจอยู่แล้ว จี
แน่นอนว่าผ่านไปครู่ใหญ่สภาพของเจ้าบ่าวเช่นหยวนเค่อเจวี๋ยนั้นไม่น่ามองด้วยสภาพที่กลายเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ที่ถูกใช้คนใกล้หมดอายุ และบอบช้ำจนแทบจะคล้ายกับเศษเนื้อที่ถูกทุบจนแหลกเหลว ตบตีนางมาหนึ่งครั้ง จีเมี่ยวหลัวไม่ซ้อมจนเครื่องในทะลักออกมาทางปากก็นับว่านางไว้หน้าเว่ยกั๋วกงกับฉางตี้ฮ่องเต้ที่เป็นญาติผู้พี่ของไอ้ตัวบัดซบนี่มากแล้ว"ไอ้คนบัดซบ วันเวลาของสตรีนั้นล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำเจ้าอย่าคิดล้อเล่น สามปีไม่ใช้แสนสั้น หากข้าไม่รั้งรอเจ้าป่านนี้คงแต่งงานมีลูกไปแล้ว ไอ้ตัวบัดซบไอ้คนสารเลว!"หลังจากกระทืบคนจนสาแก่ใจจีเมี่ยวหลัวยังด่าไปอีกหลายประโยคก่อนจะหยุดมองภาพของสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตด้วยใบหน้าเรียบเฉย ใจจริงอยากสังหารมันเสียด้วยซ้ำ แต่คนนี้ตายไปคงสบายเกินไปมันสมควรอยู่ชดใช้สิ่งที่ตนเองกระทำ ช่วงชิงวัยสาวสดใสของนางไปสามปี นางย่อมคิดบัญชีแค้นแน่"เจ้า…เจ้ามัน…สตรี!…สตรี…เสียสติ เจ้ามันเป็นนางมารอำมหิต!"หยวนเค่อเจวี๋ยถึงบาดเจ็บหนักช้ำในจนกระอักโลหิตสดๆ ออกมาหลายค่ำ หากกลับยังสามารถปากดีด่าทอจีเมี่ยวหลัวได้อีก หวู่โจวสาวกัดปากเล็กน้อยในใจของนางยิ่งเดือดดาลจึงคิดว่าจัดให้มันสักชุดค
"คือว่า...""หึ! คงดูแลกันไปหลายกระบวนท่าสินะ แค่สามปีจึงมีบุตรชายออกมาถึงสองคน ถามจากใจ แท้จริงสหายที่เจ้ากล่าวอ้างนั้นแท้จริงไม่มีอยู่จริง ทว่าทั้งหมดเป็นเพียงคำลวงที่เจ้าสร้างขึ้นใช่หรือไม่หยวนเค่อเจวี๋ย?!"จีเมี่ยวหลัวนั้นอยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก ดวงตาคู่งามรู้สึกแสบร้อนมากนางไม่ได้เสียใจแต่นางเจ็บแค้น! ทว่ากลับไม่มีน้ำตาสักหยด เขามีสตรีในดวงใจแล้ว เหตุใดไม่พูดกับนางตรงๆ แค่เขาพูด นางหรือจะยังหน้าหนาไม่ยอมถอนหมั้นหลีกทางให้พวกเขานางไม่ใช่คนใจดำเช่นนั้นสักหน่อย"หลอกข้าทำไม เจ้าหลอกให้ข้ารอทำไม เวลาสามปีมันไม่น้อยเลยนะเจิ้งไห่ คำแค่ประโยคเดียว ขอแค่เจ้าบอกกับข้าประโยคเดียว สตรีเช่นจีเมี่ยวหลัวคนนี้ย่อมหลีกทางให้อยู่แล้วแต่นี่...เจ้าหลอกข้าให้รอถึงสามปีได้อย่างไร ไอ้ตัวบัดซบ!"จีเมี่ยวหลัวไม่คิดจะโทษฝ่ายสตรี เพราะมองดูย่อมเห็น สามแม่ลูกนั้นเจียมเนื้อเจียมตัวนัก ที่มีปัญหาก็คือไอ้ผู้ชายบัดซบหยวนเค่อเจวี๋ยที่จับปลาหลายมือ รักสาวงามแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมีจากคุณหนูสกุลดีเช่นกัน เขามันโลภมากจนสมควรตายสักหมื่นครั้ง!“เจ้าก็อย่าเอะอะไปนักเลย แต่แรกเจ้าก็ไม่ยังไม่คิดจะรีบมีทายาทให้สกุลหยวนขอ
วันนี้มหานครเสียนหยาง เมืองหลวงของ ต้าเซี่ย มีงานมงคลเกิดขึ้นจึงคึกคักไปครึ่งเมืองเพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ปราบกบฏองค์ชายรองผ่านไปเมื่อเกือบสองปีเมืองเสียนหยางก็แทบไม่มีงานมงคลจัดขึ้นอย่างเอิกเกริกเช่นนี้บ่อยนักแต่วันนี้กลับมีงานมงคลของสองตระกูลใหญ่แล้วยังจัดขึ้นมาอย่างเอิกเกริกอีกด้วยขึ้นมาชาวบ้านชาวเมืองจึงตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กัน นั่นคงเพราะจวนที่แต่งสะใภ้ คือจวนเว่ยกั๋วกง หยวนเค่อเจียง สกุลหยวนที่เป็นสกุลเดิมของอดีตหยวนฮองเฮาผู้เป็นมารดาแท้ๆ ของฉางตี้ฮ่องเต้กับชินอ๋อง จึงไม่แปลกที่งานแต่งวันนี้ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ใช่เพียงฝ่ายเจ้าบ่าวที่เป็นสกุลใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวเองก็ไม่ธรรมดา สกุลจี นั้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของต้าเซี่ยมาเกินสิบเจ็ดรุ่น จนมาถึงรุ่นของ จีม่อชง ผู้นำตระกูลจีคนปัจจุบันคือรุ่นที่สิบแปด นอกจากตำแหน่งแม่ทัพเขายังได้ดำรงตำแหน่งเป็นจีไท่เว่ย แม่ทัพใหญ่ปกป้องมหานครเสียนหยางหรือหน่วยอวี้หลินที่นับเป็นหน่วยทหารกล้าที่ขึ้นตรงต่อฉางตี้ฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียวขณะนี้ซึ่งน้อยคนนักจะได้นั่งตำแหน่งไท่เว่ยตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบอีกด้วย ซึ่งจีไท่เว่ยผู้นี้นับว่าเขาเป็นกำลังหลักในการช่วยฉางตี้ฮ่