Share

ตระกูลมู๋

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2024-12-11 23:39:19

ณ ห่วงเวลาอีกมิติหนึ่ง

ทรมานเหลือเกิน เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดจนแทบอดทนไม่ไหวอยู่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งอาเจียนออกมาอย่างทรมาน หลังจากดื่มชาเลือดนกนางแอ่นไปได้ไม่กี่อึก ก็รู้สึกทรมานและอาเจียนออกมา

"คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรมากหรือป่าวเจ้าคะ"

ซิงอีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน พลางถ่ายทอดพลังมายังด้านหลังของ มู๋จินเป่า 

ทันใดนั้นความทรงจำมากมายก็ถาโถมเข้ามาโดยไม่หยุดหย่อย

ดรุณีผู้นี้คือมู๋จินเป่า คุณหนูสามตระกูลมู๋ อายุ14ปี แต่ก่อนนางเคยมีวรยุทธอันดีเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนหกขวบนางได้กราบเป็นศิษย์ ในสำนักชื่อดัง แม้นางจะเป็นเพียงลูกอนุ แต่นางก็ได้เข้าสำนักศึกษาชั้นต้นของเมือง เพราะนางมีความโดดเด่นทั้งเรื่องหน้าตาและวรยุทธจึงทำบิดาเอ็นดูเป็นพิเศษกว่าบุตรทุกๆคน มู๋จืออันคือบิดาของมู๋จินเป่า มู๋จืออันเป็นแม่ทัพของวังหลวง มีลูกทั้งหมดสี่คน คนโตเกิดจากฮูหยินเป็นหญิงมีนามว่า มู๋จินฮุย เป็นคุณหนูใหญ่ คนที่สองเกิดจากอนุ มู๋จินเหอ คุณหนูสอง และ มู๋จินเป่าเป็นลูกคนที่สามที่เกิดจากอนุอีกคน เป็นคุณหนูสาม ส่วนคนสุดท้ายเป็นลูกที่เกิดจากฮูหยิน มู๋ฉี่ฉ่าง คุณชายสี่ แม่ของมู๋จินเป่า กับมู๋จินเหอ ตายตั้งนานแล้ว เพราะฮูหยินไม่ต้องการให้ทั้งสองมีชีวิตอยู่จึงได้สั่งฆ่าอนุทั้งสอง มู๋จินเป่า และมู๋จินเหอ มีชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก แต่มู๋จินเหอชอบเข้าหาฮูหยินและพี่หญิงใหญ่มู๋จินฮุย จนกลายเป็นคู่หูกันในการก่อเรื่อง มู๋จินเหอยอมให้มู๋จินฮุยใช้ทุกอย่าง จนฮูหยินยอมรับมู๋จินเหอในฐานะคนรับใช้ของลูกตัวเองและไม่คิดฆ่านาง ส่วนมู๋จินเป่านางมีความสามารมากเกินไป ลูกสาวคนโตของฮูหยิน มู๋จินฮุย มีวรยุทธเพียงขั้นสี่ระดับต้น แต่มู๋จินเป่ามีวรยุทธอยู่ที่ขั้นสี่ระดับสูง มู๋จินเป่านางเด่นกว่าลูกของฮูหยินมากเกินไป อายุแค่นี้มีความสามารถเพียงนี้ถ้าปล่อยเอาไว้พวกเขาไม่มีทางรอดไม่เหลือความรักที่สามีมีให้แน่ๆ เพราะฉะนั้นฮูหยินจึงอยากจะกำจัด มู๋จินเป๋า 

มู๋จินเป่ามีบ่าวรับใช้ที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง ชื่อซิงอี มู๋จินเป่าสอนวิธีฝึกฝนวรยุทธให้ซิงอีด้วยเพราะว่าตอนที่นางไปเรียนที่สำนัก ซิงอีสาวใช้ข้างกายนางชอบถูกคนของฮูหหยินรักแก มู๋จินเป่ารู้ว่าฮูหยินไม่เคยชอบนางเลย นางเลยต้องหมั่นฝึกฝนเพราะนางคิดว่าถ้านางเก่งมากๆ แม่เลี้ยงของนางอย่างฮูหยินจะเอ็นดูนางสักหน่อย แต่ป่าวเลยฮูหยินยิ่งแกล้งนางสารพัดเอาของใสยาพิษมาให้นางกิน แต่มู๋จินเป่านางเรียนการปรุงยามาบ้างนางเลยรู้ กลิ่นของยาทำให้นางไม่ได้กินของพวกนั้นและต้องระวังฮูหยินขึ้นมา แต่ก่อนแม่เลี้ยงแบบฮูหยินไม่ชอบนาง แต่ตอนนี้คือเกลียดนางเลยทีเดียว มู๋จินเป่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้นางต้องระวังตัวให้ดีกว่าเดิมแค่ไหน

ในค่ำคืนอันแสนหนาวเย็นอยู่ในช่วงหน้าหนาว เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในตระกูลมู๋ มีคนไปแจ้งมู๋จินเป่าว่า ท่านแม่ทัพมู๋จืออันบาดเจ็บสาหัสต้องการรอคุณหนูสาม มู๋จินเป่าแต่เพียงผู้เดียว วันนั้นซิงอีก็ไม่อยู่นางไปดูงานเต้นรำนอกจวน มู๋จินเป่าเลยรีบไปหาบิดาคนเดียวพอมู๋จินเป่าเข้าไปในเรือนฮวาของบิดาก็มีผู้ชายกระโดดมาทุกทิศทาง มาจับตัวนางและกดลงไปเอาน้ำยาสักอย่างกรอกไปทีปาก มู๋จินเป่า พยายามต่อสู้สุดชีวิตแต่ไม่เป็นผลทำให้ได้กลืนน้ำไปหลายอึกเลยทีเดียว หลังจากที่แน่ใจว่านางได้ดื่มน้ำแล้วคนทุกคนก็พร้อมใจกันจากไป มู๋จินเป่ามีวรยุธสูงก็จริงแต่ด้วยความที่นางรีบมาหาบิดา และคิดว่าบิดาเจ็บหนักและใกล้จะจากนางไปแล้ว ทำให้นางแทบไม่มีสติ จึงไม่รู้ว่ามีคนรอดักซุ่มอยู่ หลังจากที่ทุกคนไปกันหมดแล้ว มู๋จินเป่ายังไม่ทันได้สำรวจตัวเองก็เข้าไปหาบิดาทันที แต่บิดาไม่ได้อยู่ที่นี่บิดาไปราชการอีกสองสามวันค่อยกลับ เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกให้มาเพื่อดื่มยาพิษ มู๋จินเป่าจึงพยายามทำให้ตัวเองอาเจียนออกมา และนางก็อาเจียนออกมาไม่น้อยแต่ไม่เป็นผลนางรู้สึกอึดอัดหายใจติดขัดนางจึงรีบกลับเรือนทันที เมื่อกลับถึงเรือนซิงอีก็มาถึงก่อนแล้ว ซิงอีกระวนกระวายมากเพราะกลับมานางไม่เจอคุณหนูแต่พอเห็นคุณหนูมาก็ดีใจ แต่ดีใจได้ไม่นานเพราะตอนที่ มู๋จินเป่ามาใกล้ๆมีกลิ่นคาวเลือดหน้าตาซีดเซียว มุมปากมีเหลือดไหลออกมา ซิงอีรีบพาคุณหนูกลับห้องและให้คนไปตามหมอแต่ไม่ได้ผล ไม่มีคนสนใจนางเลย มู๋จินเป่าคุยกับนางด้วยเสียงแหบพร้า

"เจ้าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย หายาที่อยู่ในถุงยามาให้ข้า ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็เงียบเถอะนางแค่ต้องการชีวิตข้า"

ซิงอีร้องไห้และหายามาให้มู๋จินเป่ากิน

เวลาผ่านไปสองวันมู๋จืออันกลับมาก็ได้รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักของตัวเองไม่มีวรยุธอีกแล้ว และไม่สามารถมีวรยุทธอีกต่อไป แต่จะมีชีวิตอยู่แบบนี้แบบคนไร้ค่า มู๋จืออันไล้มู๋จินเป่าไปอยู่เรือนไกลๆที่เก่าและโทรมๆ ซิงอีเลยขอมาตามรับใช้ และมู๋จืออันก็สั่งให้ปิดข่าวเรื่องนี้ และจะหาทางจัดการเรื่องสำนักการศึกษาที่มู๋จินเป่าเรียนอยู่เอง แต่ข่าวก็แพร่ไปเร็วมาจนทำให้ทางสำนักการศึกษารู้และตัดรายชื่อของมู๋จินเป่าทันที ตอนนี้มู๋จินเป่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทางการศึกษาก็ไม่ช่วย พ่อก็ทิ้ง มีแค่บ่าวคนเดียวที่อยู่ข้างๆ เรือนใหม่ของมู๋จินเป่าไม่มีบ่าวคนอื่นเลยนอกจาซิงอี มู๋จินเป่าไม่ยากยอมแพ้ และไม่อยากให้บ่าวอย่างซิงอีอยู่กับนาง แต่ซิงอีไม่จากไปไหน และซิงอีเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นทำให้คุณหนูของตัวเองมีสภาพเป็นแบบนี้ เพราะมู๋จินเป่าไม่เคยบอกอะไรกับนางเลย

พอเหตุการณ์สงบปกติ แต่มู๋จินเป่ายังไม่ตาย ฮูหยินก็ไม่พอใจส่งคนเอาของไปให้ซิงอีให้คุณหนูสามกินบำรุง มีทั้ง ซุปบัวหิมะ โสมร้อยปี ซิงอีจึงคิดว่าฮูหยินรักคุณหนูของนาง และเห็นลูกเลี้ยงลำบากก็เข้ามาช่วย คุณหนูสามก็ไม่รู้ว่าเป็นของฮูหยิน และตอนนี้นางไม่มีวรยุทธนางจึงไม่รู้สักนิดว่าในซุปบัวหิมะมีพิษนางเลยกินเข้าไป นางอาเจียนจึงรู้ว่ามีพิษ และสอบถามซิงอีเลยรู้ว่าเป็นของฮูหยิน มู๋จินเป่าเลยสั่งห้ามไม่ให้รับของฮูหยินอีก ซิงอีเลยรู้ว่าฮูหยินนี่เองที่ต้องการชีวิตของคุณหนูสาม วันนี้มีคนในจวนบอกว่าท่านแม่ทัพมู๋จืออันให้ส่งชาเลือดนกนางแอ่นมาให้มู๋จินเป่าบำรุงร่างกาย พอดื่มเข้าไปก็มีสภาพเช่นนี้ ดี จินเป่า ในร่าง มู๋จินเป่าคิดในใจ แล้วเรา จะเห็

นดีกัน 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ปล่อยให้ชะตากรรมนำทาง

    "ลูกทั้งสองชอบพอกันแล้วผู้เป็นพ่อจะขัดได้อย่างไรกันล่ะ ถึงแม้พวกเจ้าจะเป็นลูกบิดาเดียวกันแล้วอย่างไรหากผู้เป็นพ่อและเป็นแม่ยินยอมให้แต่งกันก็ไม่มีผู้ใดว่าพวกเจ้าทั้งสองได้หรอก"จางเทียนกล่าวขึ้น ทุกคนก็รวมดีใจกับทั้งสอง ผู้เป็นแม่มองบุตรสาวของเขาเอง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้นี้มาเพียงปีเดียวเท่านั้น พบกันอีกทีก็ต้องมอบให้บุรุษผู้อื่นดูแลแล้วหรือ แล้วถ้าแต่งกับคนตระกูลหวัง นางคงไม่ไปตกระกำลำบากที่ตระกูลหวังหรอกหรือ น้ำตาของนางจึงไหลมา"เสี่ยงซิ่วเจ้าเป็นอะไรไป ทำไมเจ้าร้องไห้ไม่ดีใจหรอกหรือที่บุตรสาวของเจ้ามีคนดูแลแล้ว"หนิงฮว่าถามขึ้น"นางคงดีใจที่อยู่ๆบุตรสาวกลับมาพบบิดามารดาก็พาบุตรเขยมาให้นางดูตัวด้วยเลย แล้วเรื่องผู้นำตระกูลล่ะ จางเหมยเจ้ายินดีจะรับหรือไม่"จางเทียนถามขึ้น"ท่านพ่อลูกยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยเจ้าคะ ลูกเพิ่งมาจากมิตินิมิตรเพียงแค่ครึ่งปียังอยากที่จะหาประสบการณ์อยู่ ที่ลูกมาจวนตระกูลจางในวันนี้ก็เพื่อที่จะช่วยท่านพ่อท่านแม่ แล้วลูกอยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่รับรู้ว่าลูกมีคนรัก และเราทั้งสองก็จะออกท่องยุทธภพกัน ลูกคิดว่าหน้าที่ผู้นำตระกูลจางนั้น ท่านพี่จางหยงกับพี่ซิงอีน่าจะทำได้

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไม่ยินดีที่จะเป็นบุตรชาย

    เมื่อจินเป่าไปถึงก็เห็นทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตรายและจางซินที่กำลังใช้วิชาแฝดมิติแผดเผาเพียงลำพัง จึงทำให้เขาต้องยื่นมือเข้าช่วย เขาสั่งการให้อินหย่าหลบไปซ้อนตัวให้รออินบุหลันมาแล้วค่อยออกมาหา และเขาก็ส่งแสงสีเขียวออกไปยังร่างบุรุษคนที่กำลังสู้อยู่กับจางซิน เมื่อแสงวรยุทธสีเขียวนั้นต้องร่างบุรุษผู้นั้นเขาก็ตอบ และร่างของบุรุษผู้นั้นลอยขึ้นถ่อยออกห่างจากจางซิน เมื่อบุรุษผู้นำรับแสงของทั้งสองแล้วแสงสีเขียวของจริงเป่าก็พุ่งลงไปหาจางซิน แสงสีแดงของจางซินก็พุ่งไปหาจินเป่าอย่างคุ้นเคยแสงทั้งสองพันรอบๆตัวของนักพรตและรอบๆตัวของแสงนั้นจึงทำ ให้แสงสีแดงและสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีรุ้ง เมื่อห่าวอู๋อวี่เห็นว่าผู้ที่ยืนส่งแสงสีเขียวนั้นอยู่หน้าประตูทางเข้าตระกูลจางเขาดีใจมาก เขารีบทะยานไปหานางทันที ซิงอีเองก็เห็นเช่นเดียวกัน แม้นตอนนี้เขาจะบาดเจ็บไปทั่วร่างกายแต่เมื่อเห็นน้องสาวผู้นี้แล้วเขาก็เพิ่งไปหานาง"ทุกคนช่วยกันคุ้มกันจินเป่า" ห่าวอู๋มู่ลี่ที่ได้สติรีบกล่าวขึ้น เมื่อสลัดกลุ่มที่กำลังจะจับตัวซิงอีได้แล้ว พวกเขาก็กรูกันเข้าไปเพื่อคุ้มกันจินเป่า เมื่อนักพรตนั้นต่อสู้ไม่ไหวแล้ว พลังภายในของเขาเหมือนถ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แฝดมิติแผดเผา

    ห่าวอู๋อวี่ไม่รอช้า ใช้วรยุทธทุกอย่างที่มี จนในที่สุดเขาก็คิดถึงเคล็ดวิชารำดาบทศทิศพิศดาร เขาพุ่งตัวไปยังผนังของวรยุทที่โปร่งใสเขาเริ่มรำดาบเมื่อเขาเริ่มรำและหมุนไปรอบๆเกาะวรยุทนั้น เมื่อห่าวอู๋อวี่กลับไปตรงจุดเดิมและวาดดาบลงเกราะวรยุทธก็แตกออก พญาหงส์ขาวตกลงทันที นักพรตนั้นตกตลึงไม่น้อยเขาไม่เคยเห็นใครทำลายเกราะวรยุทของตนมาก่อน เขาจึงรีบสร้างเกาะวรยุทธอีกครั้ง จางซินเก็บพญาหงส์ขาวของจินเป่าไว้ในมิติล่องหนของนาง ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่ามีคนที่ทำลายเกราะวรยุทธได้พวกเขารีบไปใกล้ผนังวรยุท"ข้างในนี้มันยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยอยู่ จางหยงเจ้าคุ้มกันทั้งสามอยู่ด้านในนี้ ส่วนคนอื่นๆรีบหาทางออกไปช่วยซิงอี จางซินเจ้าต้องออกไปอย่างปลอดภัย รอรวมพลังกับจินเป่า วรยุทธของคนผู้นั้นต้องเป็นเจ้าสองคนที่ร่วมมือกันได้ข้าเพียงแค่เปิดผนึกก่อนวรยุทธ์นี้ออกไปได้เท่านั้น หากไปสู้กับคนผู้นั้นก็แค่จะรั้งไม่ให้เขาทำร้ายพวกเราไปมากกว่านี้ "ซิงอีละ ข้าเป็นห่วงนางข้าต้องออกไปช่วยนางท่านอาจารย์เพียงลำพังไม่สามารถต้านพวกนั้นได้หรอก"จางหยงกล่าวขึ้น "เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น เจ้าคิดดูสิถ้าบิดามารดาของนางเ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตัวประกัน

    เดิมทีโอวป๋าลู่เพียงรู้สึกถูกชะตาและคับคล้ายคับคาเด็กที่เขาช่วยไว้ แต่เมื่อพูดถึงตระกูลจางเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีคนที่หน้าตาคล้ายกับนางและเขาก็เดาเอาเองบุตรของตระกูลจาง ซึ่งนางก็เคยพูดเรื่องตระกูลจางอยู่ จึงทำให้เขาพานางมาเมืองหลวงด้วยและให้นางอยู่ในตระกูลโอวอย่างเดียว เพื่อปกป้องนาง และตอนนี้ก็ถึงเวลาสำคัญ เขาจึงจำเป็นต้องปกป้องนางอยู่ เขามองดูลูกศิษย์ของเขาที่มีกลุ่มคนมากมายกำลังกรูกันเข้ามาเขายังคิดอยู่ในใจว่าจะลงมือช่วย แต่แล้วคลื่นหนึ่งก็พุ่งเข้าใสกลุ่มนั้น คนของตระกูลซูหลายคนล้มลงกับพื้น ทุกคนจึงหันหน้าไปมองบุรุษผู้หนึ่งที่อยู่ตระกูลอี้ เมื่อซิงอีมองตามก็รู้ว่าเป็นห่าวอู๋อวี่ เขาดีใจที่ห่าวอู๋อวี่ช่วยสหายทั้งสามได้ทัน เขาจึงพยายามมองหาคนข้างกายของห่าวอู๋อวี่ก็ไม่พบกับจินเป่า แต่พบกับสตรีผู้หนึ่งคนผู้นั้นหน้าตาสะสวยเช่นเดียวกับจินเป่า จึงทำให้ซิงอีรู้สึกเคืองอยู่ในใจ"ท่านอาจารย์ทำเขาทำไม คนพวกนี้เป็นคนของตระกูลข้าเอง เขากำลังจะช่วยท่านน้าสะสางปัญหาของตระกูลจาง"ซูซวี่กล่าวขึ้น "งั้นเจ้าก็บอกคนของตระกูลเจ้าให้หยุดก่อเรื่องได้แล้วข้าเพียงไม่ชอบเท่านั้นเอง"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทำให้

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   คืนบิดามารดาให้กับสหาย

    ทางด้านจินเป่านั้นนั่งอยู่บนที่นอนในโรงเตี๊ยมข้างกายของนางนั้นมีเด็กน้อยผู้หนึ่งกำลังกินหมั่นโถวอยู่เด็กน้อยผู้นั้นมองหน้าจินเป่า"พี่สาวท่านไม่ลุกขึ้นมากินข้าวหน่อยหรือ นั่งสมาธิแบบนี้เกือบจะหนึ่งเดือนอยู่แล้วท่านไม่โหยหิวบ้างหรือ"เด็กน้อยพูดออกมาเบาๆ ตั้งแต่วันที่เขาพบกับกลุ่มนั้นที่ข้างล่างเขาก็ไม่ลงไปในเวลากลางวันอีกเลย ได้แต่ไปซื้ออาหารในเวลาตกค่ำแล้วเท่านั้น พี่ชายกับพี่สาวนั้นก็หายไปไม่กลับมาเสียที เป็นนางที่ต้องนั่งเฝ้าคนที่นั่งอยู่บนเตียงเช่นนี้ ไม่นานความปรารถนาของเด็กน้อยก็เป็นจริงเมื่อเขากำลังจ้องหน้าสตรีที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ขนตาของนางกระตุกสามครั้งก็ลืมตาขึ้น "อินหย่า ทำไมเจ้ามากินหมั่นโถอยู่ที่นี้ละ เบี้ยที่มีหมดแล้วหรือ"จินเป่าถามอินหยาเนื่องจากว่าลืมตาขึ้นก็เห็นนางนั่งกินหมั่นโถอยู่"จะหมดได้อย่างไรล่ะพี่สาว ค่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่กี่วันก็พบกับกลุ่มบุรุษและสตรีกลุ่มหนึ่งซึ่งทำให้ข้าลำบากใจ ข้าจึงไม่อยากไปข้างล่างนั้นอีกจึงเลือกที่จะซื้อของที่เก็บไว้กินได้นานมากินในห้องนี้แทน"อินหยากล่าวขึ้น จินเป่าจึงพาอินหย่าไปนั่งกินอาหารด้านล่าง เมื่อมาถึงทั้งสองก็นั่งก

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สถาปนาผู้นำคนใหม่

    ในวันสถาปนาผู้นำคนใหม่ของตระกูลจางนั้นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ท่านผู้นำคนเก่านั้นถูกจับให้แต่งชุดสีขาวขอบทอง มองแล้วยังมีอายของลักษณะผู้นำอยู่ แต่ตอนนี้ทั้งหัวของเขานั้นขาวโพนไปด้วยผมขาว ทำให้ดูแก่ชรามากและเหมาะสมที่จะแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ ส่วนสตรีทั้งสองของเขานั้นถูกจับให้อยู่ในชุดสีขาวราวกับว่านางทั้งสองนั้นได้บวชชี ทั้งสามนั้นถูกบ่าวรับใช้ควบคุมตลอดเวลา เมื่อเวลาสายสายเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งเก้าตระกูลก็เข้ามายังตระกูลจางและประจำตำแหน่งของตัวเองที่ถูกจัดขึ้น เวลานี้เองจางหยงที่ยืนอยู่ที่สูงสุดกับจางเทียนผู้นำคนเก่าที่นั่งอยู่บนสุด ณ เวลานี้จุดนั้นแทบจะมีเพียงเขาสองคน เมื่อกลับมาจากมิตินิมิตรแล้วจางหยงก็เพิ่งได้เห็นผู้นำตระกูลจางเป็นครั้งแรก น้ำตาของเขาเออเต็มหน่วยเขาโค้งคำนับราวกับว่านับถืออย่างมาก จางเทียนยิ้มให้เขาเพราะเขาเองเพิ่งรู้ว่าบุรุษผู้นี้ไม่ใช่บุตรชายแท้ๆของเขา แต่เป็นบุตรชายของหวังจิ้งแต่ในความผูกพันธ์นั้นเขาก็ยังคิดอยู่ว่าบุรุษผู้นี้คือบุตรชายของเขา ถึงแม้จะยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้เขาก็ยินดี วันนี้จางหยงเองมาในชุดสีแดงปักเลื่อมด้วยผ้าชิ้นบางสีทองทำให้เขามองดูมีสง่าเสียเหลือเกิน จ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status