เวลาผ่านไปซักพักเขมราชหายใจเริ่มติดขัดในขณะปารดีเริ่มเปลี่ยนย้ายจากที่แขนขึ้นมาที่ไหล่อีกครั้ง มือเรียวเล็กบีบไล่ไปตามหัวไหล่แข็งแกร่งของเขาอย่างนุ่มนวลชวนจักจี้
"แป้งว่า นวดแบบนี้มันไม่ถนัดเลยนะคะ พี่เขมถอดเสื้อออกดีกว่าค่ะ" เธอว่าพลางพยายามที่จะเอื้อมมาปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ด แต่เป็นเขาเองที่จับหมับเข้าที่สองมือเรียวเล็กนั่น
"แป้งๆๆๆ เดี๋ยวๆ แป้งหยุดก่อน อยู่ดีๆ จะมาจับพี่ถอดเสื้อแบบนี้ได้ยังไงกันพี่ก็อายเป็นนะ"
"พี่เขมมม ทำอย่างกับแป้งไม่เคยเห็นพี่เขมถอดเสื้ออย่างนั้นล่ะค่ะ อย่างตอนว่ายน้ำแป้งก็เคยนั่งดูพี่เขมถอดเสื้อมาแล้ว หรือว่าที่ทะเล หรือแม้กระทั่งในห้องนี้พี่เขมยังเดินโทงๆ ให้แป้งดูมาแล้วเลย นี่พี่เขมทำแป้งขำนะคะเนี่ยรู้ตัวมั้ย กลัวอะไรคะหรือว่ากลัวแป้ง" ปารดีพูดไปก็ขำไป
"แต่มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เราอยู่ในที่ลับตากันสองคนแล้วพี่ก็เป็นผู้ชายแถมตอนนี้เนื้อตัวเราก็แนบชิดพี่เสียขนาดนี้ มันไม่สมควรนะแป้ง" เขมราชพยายามห้ามแล้ว หากแต่ยัยเด็กดื้อก็ยังคงไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด เขมราชนั่งมองยัยเด็กดื้อตรงหน้าที่กำลังนั่งขำเขาตัวโยนอย่างน่าหมั่นเขี้ยวนัก
'เดี๋ยวเถอะแม่ตัวดี อยากเล่นกับไฟดีนัก เดี๋ยวพ่อจะจับตีก้นแล้วกลืนกินลงท้องเสียให้เข็ด'
"งั้นถ้าพี่เขมกังวลมากนักล่ะก็ นอนคว่ำหน้าลงก็ได้ค่ะ จะได้มองไม่เห็นแป้งโอเคมั้ยคะ"
เขมราชยังคงลังเลก่อนจะยอมตามใจเด็กดื้อด้วยการนั่งเฉยๆ ให้เธอปลดกระดุมตรงหน้าออกทีละเม็ด หากแต่ว่าท่าในการนั่งปลดกระดุมของเธอนี่สิคือปัญหา ขณะที่เขานั่งเหยียดขายาวไปและใช้มือท้าวไปทางด้านหลัง ยัยเด็กดื้อที่บอกว่าจะปลดกระดุมให้เขาก็รีบย้ายก้นสวยๆ มานั่งค่อมอยู่บนตักเขาสะงั้น เขาล่ะอยากจะถามเธอออกไปซะเหลือเกินว่าทำไมเธอถึงชอบทำอะไรที่มันคอยแต่จะปลุกเร้าเจ้างูยักษ์ของเขาให้มันตื่นขึ้นมาอยู่เรื่อย แถมท่าที่เธอนั่งทับลงมายังคงแนบชิดมากๆ จนเขารู้สึกว่าลำเอ็นของเขากับกลีบอวบอูมของเธอมันประกบแทบชิดกันได้พอดิบพอดี
นี่ถ้าเขาไม่เคยเลี้ยงดูใกล้ชิดยัยเด็กแสบนี่มาตั้งแต่เด็กๆ เขาคงจะอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าสิ่งที่ปารดีกำลังทำอยู่คือการที่เธอกำลัังตั้งใจอ่อยเขาอยู่ชัดๆ พอเขาว่าเข้าก็อ้างว่าตอนเด็กๆ ก็ทำแบบนี้ประจำทุกที
กระดุมที่อยู่บนเสื้อเขามีกี่เม็ดก็ไม่รู้ แต่เขารู้สึกว่าเวลามันช่างยาวนานเหลือเกินกว่าที่เธอจะแกะเสร็จ สายตาคมยังคงจดจ้องไปยังใบหน้าสวยหวานที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ริมฝีปากเธออมชมพูน่าจูบก่อนที่เธอจะแลบลิ้นเรียวเล็กออกมาเลียที่ริมฝีปาก สร้างความหื่นกระหายให้เขาเป็นอีกเท่าตัว
"เสร็จแล้วค่ะ ทีนี้พี่เขมนอนคว่ำหน้าลงเลยค่ะ"
หลังจากที่เขมราชนอนคว่ำลงไปกลับพื้น ปารดีก็เริ่มนวดจากไหล่ทั้งสองข้างของอย่างละเลียดบรรจง มือเรียวเล็กค่อยๆ บีบนวดเนื้อตัวของเขาไล่ไปตั้งแต่ท้ายทอยลงมายังถึงกลางหลัง จะว่ารู้สึกดีหรือผ่อนคลายลงมั้ยมันก็ดีอยู่หรอก แต่เหลือสิ่งอื่นใดคือตอนนี้ใจเขามันเต้นตุบตับเพราะอยู่ดีๆ แม่หมอนวดตัวดีก็ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา
"นี่เรา...แน่ใจใช่มั้ยว่าปกติเขานวดกันแบบนี้" เขมราชหันกลับมาถาม เพราะท่านวดแบบนี้มันออกจะแปลกๆ ราวกับว่าเป็นการนวดอีกแบบที่ผู้ชายที่ชอบไปอาบน้ำนอกบ้านมักจะรู้จักกันดี
"ก็..พี่เขมตัวใหญ่แป้งนวดไม่ถนัดนี่คะ นั่งทับพี่เขมไว้แบบนี้ถนัดกว่า"
"ได้ยังไงกัน เราเป็นผู้หญิงนะ"
"แหมมม พี่เขมคะไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ค่ะ แป้งรู้แล้วว่าแป้งน่ะเป็นผู้หญิง ตอนเด็กๆ แป้งก็นั่งขี่หลังพี่เขมแบบนี้ประจำไม่เห็นแปลกเลยนี่คะ ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะหันไปค่ะแป้งจะนวดต่อ"
ดื้อ!! ทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะปารดี รู้ตัวอยู่รึเปล่าว่าเธอกำลังทำให้พี่มีอารมณ์ เกิดทนไม่ไหวหน้ามืดจับเธอกระแทกขึ้นมา แล้วพี่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้าคุณย่ากำลังมองอยู่คงกำลังด่าเขาอยู่แน่ๆ
"ด้านหลังเสร็จแล้ว พี่เขมหันหน้ามาสิคะ"
"อะ..อะไรกัน เสร็จแล้วหรอ พอ..พอแล้วก็ได้มั้ง"เขมราชเริ่มมีเสียงตะกุกตะกัก
"ไม่ได้ค่ะ แป้งยังนวดไปแค่สิบห้านาทีเอง ตามสัญญาคือหนึ่งชั่วโมงค่ะ พี่เขมรีบหันมาสิคะ"
เขมราชถึงกับตกใจ หากเขาหันหน้าหาเธอตอนนี้ ความต้องแตกแน่ๆ ใช่ ตอนนี้เขากำลัง'แข็ง'อยู่ จะให้ยัยเด็กแสบนี่เห็นไม่ได้เด็ดขาด แต่ยัยเด็กแสบยังไม่ทันจะได้อ้าปาก ไฟในห้องก็ดับลงพรึ่บทำให้ห้องทั้งห้องถึงกับตกอยู่ในความมืด เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงกับพนักพิงหัวเตียง
"อ้าวไฟดับซะงั้น สงสัยคงนวดต่อไม่ได้แล้วล่ะแป้ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ แป้งนวดได้ คลำๆ ไปนี่ล่ะค่ะ แต่ว่าไหนๆ ก็ไฟดับมืดมองไม่เห็นอะไรแล้ว พี่เขมช่วยถอดกางเกงออกหน่อยสิคะ แป้งจะได้นวดถนัดๆ"
"เอางั้นหรอ แป้งพูดเองนะ"
คราวนี้เขมราชไม่ยักจะปฏิเสธ เขายอมถอดมันออกอย่างว่าง่ายตามคำขอของเธอและเวลานี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาก็ล่อนจ้อนไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ตัวเดียว เพราะโดยปกติแล้วเขามักจะไม่ใส่อะไรนอนอยู่แล้ว วันนี้กะว่าถ้าปารดีนวดเสร็จก็จะถอดชุดนอนออกดังเดิม ไม่ได้คาดคิดสักนิดว่าเธอจะมาจับเขาแก้ผ้าแบบนี้
จากการเพ่งสายตามองผ่านความมืดในตอนนี้ เขาเห็นเงาเธอนั่งตระคุ่มๆ อยู่ที่ปลายเตียง สองมือเล็กเริ่มนวดจากปลายเท้าขึ้นมายังขาของเขาก่อน ก่อนจะค่อยๆ เขยิบขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงโคนขาแถมยังเสียดไปเสียดมาอยู่ข้างๆ ลูกบอลสองลูกทำเอาเสียวซ่านไปหมด ในจังหวะนั้นเองที่มือของเธอจับหมับเข้าไปที่ลำเอ็นของเขาเต็มๆ แน่นอนว่ามันกำลังเเข็ง ปารดีรีบชักมือกลับก่อนจะกล่าวขอโทษเขาเสียงเบา
"ขะ..ขะขอโทษค่ะ มันมืดแป้งมองไม่เห็น"
"เอ่อ..อืมไม่เป็นไร" แล้วเธอก็นวดต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เขารู้สึกเอ๊ะใจคือ ไม่กี่นาที่ต่อมา ปารดีก็จับหมับเข้าไปที่มันอีก
"เอ่อ ขอโทษอีกครั้งจริงๆ ค่ะพี่เขมแป้งมองไม่เห็น"
"อื้ม ไม่เป็นไร"
"งั้นเดี๋ยวแป้งย้ายไปเริ่มนวดที่ศรีษะใหม่ดีกว่าค่ะ เมื่อกี้แป้งนวดไม่ค่อยถนัด"
"อื้ม ได้สิ"
"ไฟดับ แอร์ก็ดับ ร้อนจังเลยค่ะ ขอแป้งถอดชุมคลุมออกแป๊บหนึ่งได้มั้ยคะ"
"ตามสบายเราเถอะ"
และแล้วอีกครั้งกับสิ่งที่ปารดีกำลังทำกลับยิ่งทำให้เขายิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ เมื่อเธอค่อยๆ นั่งลงทับลงมาบนตักและหันประชันหน้ามาที่เขาในขณะที่เขานั่งพิงหัวเตียงอยู่ แถมยังนั่งทับลงไปที่มือเขาเต็มๆ เนื่องจากว่าเขาใช้มือในการกุมแท่งลำเอ็นเอาไว้เพื่อไม่ให้มันผงาดหัวชูคอขึ้นมาอีก
"พี่เขมเอามืออกหน่อยสิคะ แป้งว่าแป้งกำลังนั่งทับมือพี่อยู่ ตัวแป้งไม่ใช่เบาๆ ด้วยเดี๋ยวพี่ก็มือหักกันพอดี"
'ยัง ยังจะมาบอกให้เขาเอามือออกอีก แถมตัวเธอยังมานั่งทับในตำแหน่งเดียวกับมันอีก ได้!! แม่ตัวดี เกิดมังกรยักษ์ของเขาเผลอเรื้อยเข้าไปในถ้ำเธอขึ้นมาแล้วอย่ามาร้องตกใจก็แล้วกัน'
พอเอามือออก แม่หมอนวดคนเก่งก็เริ่มจากนวดคลึงที่บริเวณหน้าผากของเขา โดยเธอลุกบ้างนั่งบ้างขยุกขยิกแถมยังขยับตัวขึ้นลงไปมา ทำให้กลีบอูมๆ ของเธอถูไถอยู่ที่ท่อนเอ็นเขาเต็มๆ
'โอ้มายก้อด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ปารดีกำลังทำอะไรอยู่ นี่มันวันอะไรกันเนี่ย เขากำลังจะทนไม่ไหวแล้ว แถมแม่ตัวดีก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียให้ได้ด้วย...เฮ้อ' เขมราชได้แต่ร้องไห้อยู่ในใจกับความทรมานที่เกิดขึ้น
ปารดีลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นเวลาแปดโมงเช้า แสงแดดที่สาดส่องทะลุผ้าม่านเข้ามาก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการนอนต่อของปารดีได้ หากแต่เป็นบางสิ่งที่กำลังขยุกขยิกอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นต่างหาก ท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครา เนื่องด้วยเธอนั้นรู้สึกว่าใจกลางความเป็นสาวกำลังถูกรุกราน ดอกไม้ กลีบดอกไม้ และเกสรของมันกำลังถูกดูดเลียอีกครั้งอย่างช้าๆ จนปารดีอดครางออกมาเพราะความเสียวไม่ได้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นต่อให้ไม่ต้องเปิดผ้าห่มออกดูก็รู้ได้ว่า 'ใคร' กำลังทำอะไร"อ๊ะ อ๊า เสียวค่ะ" ปารดีกัดฟันร้องครางเสียงเบาก่อนจะอ้าขาออกให้กว้างขี้นอีกพร้อมทั้งแอ่นโหนกนูนๆ กระดกขึ้นรับลิ้นร้อนที่เวลานี้กวาดกวัดที่กลางกลีบเกสรของเธออย่างชำนาญการจนสะโพกงามต้องหมุนส่ายร่อน"ตื่นขึ้นมาเลีย...ตั้งแต่เช้าแบบนี้ หิวอีกแล้วหรอคะผัวขา แป้งนึกว่าพี่เขมกินจนอิ่มไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเสียอีก" ไม่มีคำตอบสำหรับคำถาม มีเพียงก็แต่ความรู้สึกเสียวซ่านเท่านั้นที่กำลังตามมา เพราะหลังจากที่ปารดีพูดจบ ดอกไม้งามของเธอก็ถูกตอกอัดเข้ามาด้วยท่อนเอ็นอุ่นร้อนทันที ขาเรียวงามทั้งสองข้างของเธอถูกเขายกขึ้นไปพาดไว้บนไหล่แข็งแรงทั้งสองข้างพร้อ
เขมราชที่ยืนซี้ดปากตัวเกร็งไปด้วยความเสียวซ่าน ก้มมองดูเรือนร่างเซ็กซี่ขาวโพนของปารดีในท่าคลานเข่ากำลังดูดกลืนตัวตนของเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กๆ กวาดเลียไปทั่วท่อนเอ็นที่เวลานี้ตั้งเด่ชูชัน รสชาติของไวน์ไหลชโลมไปทั่วทั้งขา ไม่มีบริเวณไหนที่จะรอดพ้นเรียวลิ้นของเธอไปได้ กรามแข็งแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนพร้อมด้วยเสียงซู้ดซ้าดในลำคอ ริมฝีปากหนาถูกกัดจนมิดรอยฟันเพื่อระบายความเสียวซ่าน"อ้าาา แป้งพี่จะไม่ไหวแล้วที่รัก" ยิ่งปารดีเร่งจังหวะ ต้นขาแกร่งก็ถึงกับต้องเกร็งตาม ศรีษะทุยงามถูกเขมราชกดกระแทกน้อยๆ อย่างเอาแต่ใจแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ปารดีหยุดชะงักลง มีแต่ยิ่งดูดดึงแน่นขึ้นจนในที่สุดเขมราชก็ไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้ต่อไปอีก จึงต้องปลอดปล่อยความขาวขุ่นข้นให้ออกมาเต็มปากเล็กจนไหลเยิ้มหยดย้อยลงไปตามลำคอลามไปถึงหน้าอก ปารดียกมือขึ้นมาเช็ดขอบปากก่อนจะแลบลิ้นเลียไปรอบๆ"ไวน์ที่พี่เขมซื้อมาเมื่อวันก่อน รสชาติดีจริงๆ ค่ะ""งั้นเหรอ..แน่ใจนะว่าหมายถึงไวน์" เขมราชทำท่าเหล่ตามองยัยเด็กดื้อที่พึ่งกลายร่างเป็นสาวร้อนแรงไปหมาดๆ"วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้ทำราวกับว่าจะกลืนกินพี่ลงไปเสียอย่างนั้น"
หลังจากจัดการเคลียร์เรื่องเอกภพกับนิชากรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขมราชได้มีโอกาสขอบคุณ ขอโทษและปรับความเข้าใจกับคริสเตียนเสียใหม่ เขาต้องยอมรับว่าถ้าวันนี้คริสเตียนไม่ไปพาเอกภพซึ่งเป็นเพื่อนของเขาและมันก็เลือกที่จะปิดปากเงียบมาตลอดมา เรื่องมันก็คงจะวุ่นวายไปไกลกว่านี้เป็นแน่ ถึงตอนนี้ตัวเขาเองคงจะต้องเซ็นสัญญาสงบศึกกับคริสเตียนเอาไว้ก่อนแล้วล่ะ เรื่องราวต่างๆ มันก็ดูท่าจะจบลงและเป็นไปได้ในทางที่ดี แต่จะมีก็เพียงแค่อย่างเดียวที่ตั้งแต่ตอนเย็นนิชากรมาที่บ้านจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ปรับความเข้าใจด้วยเลยก็คือ 'เมีย' นี่แหละ พอเขาเดินออกไปส่งคริสเตียนที่รถแล้วเธอก็อันตธานหายไปเลยเขมราชเดินขึ้นบ้านมา มองหาปารดีแต่ก็ไม่พบ ภายในห้องเวลานี้เขาได้กลิ่นเทียนหอมที่ปารดีชอบจุดเวลาอาบน้ำลอยอบอวลอยู่ ภายในห้องน้ำมีเสียงน้ำไหลพร้อมด้วยเสียงเพลงที่เปิดคลออยู่เบาๆ เขาคิดว่าปารดีคงกำลังอาบน้ำอยู่เป็นแน่ ก็คงจะดีถ้าเขาเข้าไปง้อเธอในเวลานี้ เพราะปารดีคงเริ่มจะใจเย็นลงบ้างแล้ว เขมราชจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ หวังจะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยและปรับความเข้าใจกันทันทีที่เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำเข้า
"ที่รักพี่กลับมาแล้ว"เขมราชเดินตรงเข้ามาในบ้านก่อนจะมองหาเจ้าของเรือนร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้นอนกกกอดทุกคืนเหมือนอย่างเคย หลังจากเลิกงานเขาจะรีบตรงกลับบ้านทันทีไม่มีอยากวอกแวกไปไหนเลยเพราะว่าคิดถึงเมีย พอมาถึงบ้านก็จะเห็นปารดียืนทำกับข้าวรอเขาอยู่ทุกวัน ปารดีเรียนจบแล้วและบ่นว่าอยากเริ่มทำงานแล้วแต่ตัวเขาเองยังอยากเก็บเธอไว้ขย้ำเล่นที่บ้านอีกหน่อยก่อนจึงยังไม่ได้อนุญาตให้เธอออกไปทำงาน อีกอย่างถ้าปล่อยให้ปารดีไปทำงานเขากลัวว่าพวกหนุ่มๆ จะมาแอบเหล่มองเมียเขา เขาหวงชีวิตของเขาช่วงนี้นับว่ากำลีงมีความสุขและแฮปปี้มาก ยังกับว่ากำลังใช้ชีวิตเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามัน มันทำให้ทุกๆ วันของเขาดูกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะ และวันนี้เขาแอบไปรับแหวนเพชรที่แอบไปสั่งทำไว้มา เพื่อจะใช้ขอปารดีแต่งงาน อีกไม่นานเขาจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง เขาพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตเริ่มนับหนึ่งไปด้วยกันกับเธอเขมราชเดินตรงเข้าไปในครัว ก่อนจะเดินเข้าไปกอดหมับเข้าที่เอวบาง แต่เขาก็ต้องรีบผงะออก เพราะกลิ่นน้ำหอมแปลกๆ ที่ฉุนจนเตะจมูก เขารู้สึกคุ้นๆ กับน้ำหอมกลิ่นนี้แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยได้กลิ่นจากที่ไหน แต่ไม่ใช่กลิ่นที่ปารดียัยเด็กแสบข
"สวัสดีจ๊ะทุกคน อยู่กันพร้อมหน้าเชียว" นิชากรเอ่ยทักขึ้นก่อนจะค่อยๆ เอากระเป๋ามาวางเรียงกันทีละใบโดยไม่ได้มีการบอกกล่าวแม้แต่ปารดีที่ยืนอยู่ตรงนั้นแต่อย่างใด ว่าเพราะเหตุใดเธอจึงทำราวกับว่ากำลังจะย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไงอย่างงั้น"นี่พี่นิคกี้จะขนกระเป๋าไปไหนหรอครับ" คริสเตียนรอดูไม่ไหวจึงได้เอ่ยทักขึ้น"อ๋อน้องคริสคงยังไม่รู้ พอดีว่าพี่กับพี่เขมตอนนี้เราตกลงที่จะกลับมาคบกันแล้วน่ะจ๊ะตั้งแต่...ที่เกาะ พี่ก็เลยต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อที่จะได้คอยดูแลเขมเขาได้ง่ายขึ้นน่ะจ๊ะ" นิชากรเอ่ยตอบคริสเตียนไปแต่ก็มิวายหันไปทางปารดีที่ยืนมองอยู่"ขอโทษนะน้องแป้งที่พี่มาแบบปุบปับ แต่คิดว่าเขมคงบอกเรื่องนี้กับน้องแป้งแล้วล่ะใช่มั้ยจ๊ะพี่ว่า" ปารดีซึ่งยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ ในขณะที่สองพี่น้องผู้มาเยือนก็กำลังงงงวยกับข้อมูลที่พึ่งจะได้รับ เพราะว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรกันกับสิ่งที่นิชากรพูด ก็ในเมื่อคริสเตียนเองนั้นรู้ดีว่าคืนนั้นคนที่อยู่กับนิชากรคือใครและเขมราชนั้นอยู่กับใคร เพราะเขาตามไปเจอจนแน่ใจได้เลยว่าเขมราชไม่ได้อยู่กับนิชากรแน่ๆคืนนั้นหลังจากที่เขมราชลากตัวปารดีออกไป ตอนแรกเขาก็กะว
หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นและเรียบร้อยเป็นไปด้วยดี ทุกๆ คนก็ได้พากันเดินทางกลับกรุงเทพเพราะว่างานที่ต้องทำก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่ที่หน้าแปลกก็คือนิชากรซึ่งยังคงแวะเวียนมาหาเขมราชอย่างไม่ขาดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มิหนำซ้ำเธอยังมีท่าทีแปลกๆ กับเขาเข้าไปอีก โดยเธอพยายามจะทำตัวใกล้ชิดเขาอย่างออกนอกหน้า จนหลายครั้งหลายคราที่ทำให้เขาเริ่มจะมีปัญหากับปารดี และยิ่งพอนานๆ เข้าเขมราชก็ชักเริ่มจะอึดอัดถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของนิชากรมากขึ้น เขาจึงเริ่มอยากจะพูดคุยกับเธออย่างจริงจังและตรงไปตรงมา อยากถามหาสาเหตุว่าเหตุใดเธอจึงปฏิบัติตัวกับเขาเยี่ยงนี้ หรือช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะตัวเขานั้นได้มีท่าทีอะไรที่เผลอไผลแสดงออกไปให้เธอได้เข้าใจผิดทำให้คิดเกินเลยไปหรือไม่ วันนี้เขาน่าจะเคลียร์กับเธอเลยให้รู้เรื่อง เขาไม่อยากทำให้ปารดีต้องไม่สบายใจอีก ยิ่งช่วงนี้ยัยเด็กดื้อยิ่งรู้สึกว่าจะขี้งอแงเป็นพิเศษด้วยเขาก็ยิ่งอยากจะเคลียร์ให้มันจบๆ ไป"เขมคะ นิคกี้ถามจริงๆ เถอะค่ะ เขมเป็นอะไรของเขมคะ ทำไมถึงได้ทำท่าเหมือนกับรำคาญนิคกี้ตลอดเลย" นิชากรเองก็อยากรู้ถึงสาเหตุเช่นกัน จึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมาทันทีโดยไม่ต้องรอ