Share

Chapter7.ทาสรับใช้

last update Last Updated: 2024-12-04 14:15:10

          ภายใต้แสงสลัวของราตรีกาล เจ้าของร่างกำยำพลิกตัวกระสับกระส่ายบนเตียงตั่งมุมหนึ่งของห้องพัก  เขาลืมตาขึ้นในความมืดมองไปยังเตียงหลังนั้นที่ม่านมุ้งยังปิดสนิทไม่มีทีท่าว่าคนด้านในจะตื่นขึ้นมา

            กวงหมินนอนหงายยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก  พลางถอนหายใจหนักหน่วง ในความจริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนหลับก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เขาหาใช่มนุษย์และไม่ใช่ทั้งปีศาจ ร่างกายนี้มิใช่ของเขานับตั้งแต่ตนเองขายวิญญาณแลกกับเงื่อนไขบางอย่างไปแล้ว  หากท่านประมุขไม่ยินยอมให้เขาตาย เขาก็ไม่อาจตายได้ เขาเป็นเพียงทาสรับใช้ ซึ่งไม่แตกต่างผู้อื่นที่อยู่ในลัทธิลิขิตจันทรา  แต่เดิมเขาเป็นมือสังหารฆ่าคนโดยไม่ถามเหตุผล รู้เพียงเป้าหมายและต้องสำเร็จเท่านั้น  เขาเคยทำข้อแลกเปลี่ยนกับท่านประมุขมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง เขารู้ดีว่าหากได้ในสิ่งที่ปรารถนาแล้วจะต้องสูญเสียบางอย่างไป  คราวนั้นเขาต้องการเป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง แข็งแกร่งที่สุดจึงยอมพลีกายปรนเปรอปีศาจราคะที่ยามนั้นใช้หญิงสาวผู้หนึ่งเป็นร่างทรง หลังจากนั้นแล้ว เขามีปราณกล้าแกร่งยิ่งขึ้น โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า เขาไม่ต่างจากปีศาจร้าย กระหายการฆ่าคนมากยิ่งขึ้นทวีคูณ  แต่สิ่งที่เขาสูญเสียคือเสียภรรยารัก

            ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างปวดร้าว ใบหน้านางยังแจ่มชัด นางเป็นเด็กสาวที่เติบโตในหมู่บ้านเดียวกัน เขาไม่ยอมทำไร่ทำนาเหมือนผู้อื่นแต่คิดหวังจะเป็นจอมยุทธเก่งกาจ เมื่อมีคนมาหาซื้อเด็กเข้าสำนักเพื่อฝึกยุทธ เขาหนีออกจากบ้านไปทันที อีกไม่กี่ปีต่อมาเขากลับมาหมู่บ้านอีกครั้ง กลับมาครั้งนี้เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำแตกต่างจากคนในหมู่บ้านที่เคยดูแคลนเขา  เขากลายเป็นที่หมายปองของหญิงสาวในหมู่บ้าน แต่เขาเลือกแต่งงานกับนาง

            เขาทำงานให้กับเสนาบดีผู้หนึ่ง ความเป็นอยู่แม้ไม่ได้ดีมากแต่ไม่ได้ยากจน แต่เพราะหน้าที่และความทะยานอยากกระหายเป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง ทำให้เขาละเลยภรรยา เขาเชื่อมั่นว่านางจะไม่มีวันทรยศหักหลังเขา แต่นางหนีไปอยู่กับชายผู้หนึ่งที่ทำเป็นแค่คนขายบะหมี่!

            เขาโกรธนาง แค้นนาง คลุ้มคลั่งเพราะนาง เขาเงื้อกระบี่หมายเด็ดหัวชายชู้ ทว่านางกลับกางแขนปกป้องมัน!

            “ท่านพี่ปล่อยข้าไปเถอะ”

            “เจ้ามันหญิงแพศยา!”

            “ข้ายอมเป็นหญิงแพศยา แต่จะไม่กลับไปใช้ชีวิตกับท่านพี่อีกแล้ว”

            “ทำไม!”

            “ท่านพี่ไม่รู้จริงๆหรือ” 

            แววตาที่ไร้ความหวาดกลัวซ้ำยังมองเขาอย่างเวทนาทำให้เขาลดกระบี่ลง

            “เจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ?”

            “ท่านพี่เคยรักผู้อื่นด้วยหรือ?” นางย้อนถาม “ท่านรักเพียงตัวเอง ท่านเพียงแค่ต้องการไม่รู้สึกโดดเดียว ข้าเคยคิดว่าท่านพี่รักข้า แต่มาบัดนี้รู้แล้วว่าท่านพี่แค่อยากเอาชนะผู้ชายในหมู่บ้านที่หมายปองข้า ท่านต้องการเพียงเอาชนะเท่านั้น”

            “เจ้า!”

            “ปล่อยข้าไปเถิด”

            “ถ้าหากข้าปฏิเสธ”

            “เช่นนั้นก็ฆ่าข้าเถิด สังหารข้าเสีย เรื่องแค่นี้คงไม่ยากเย็นกระมั้งสำหรับมือสังหารเช่นท่าน”

            เขาจำได้ว่าตนคำรามไม่ต่างจากสัตว์บาดเจ็บ เขาไม่ได้ทำร้ายนางและชายชู้  คล้ายหัวใจของเขาถูกควักออกไปตั้งแต่วันนั้น  แม้เขาร่วมรักหลับนอนกับหญิงอื่นแต่ไม่เคยลืมใบหน้าของภรรยาได้เลยสักคราเดียว ความทุกข์ทรมานนี้ทำให้บ้าคลั่งบุกเข้าพบท่านประมุข นางอยู่ในร่างผู้อื่น นั่งบนบัลลังก์ทองคำแล้วหัวเราะเยาะ

            “ลืมไปแล้วหรือไร คราวนั้นเจ้าต้องการเป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าต้องแลกกับบางสิ่งในชีวิตเจ้า นั้นก็คือสูญเสียภรรยารักไป ดีเพียงใดแล้วที่ข้าให้นางไปทั้งที่ยังหายใจ”

            “เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่แรก! เจ้าไม่บอกข้า!”

            “มิใช่เจ้าหรือที่บอกข้าเองว่ายอมแลกกับทุกสิ่งเพื่อได้เป็นมือสังหารอันดับหนึ่ง”  นางแหงนหน้าหัวเราะร่า เขาถึงกับผงะไปทันทีที่รู้ความจริง

            กวงหมินยกมือขึ้นแตะที่หน้าอก ตรงนี้...หัวใจยังเต้นอยู่ แต่มีก็เหมือนไม่มี

            ประสาทสัมผัสตื่นตัวทันทีที่รู้สึกว่ากระแสลมวูบหนึ่งพัดผ่าน เขาลืมตาขึ้นแต่ยังช้าเกินไป ข้อมือสองข้างถูกตรงกับตั่งที่นอนอยู่  ร่างของเขาไม่อาจขยับขืนตัวได้อย่างที่ใจคิด

            “คิดถึงข้าจนนอนไม่หลับเชียวหรือ” เสียงหวานใสถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ หญิงสาวคร่อมร่างของชายหนุ่ม ก้นงามงอนนั่งกึ่งกลางของบุรุษ แม้นางมีรูปร่างเล็กกว่าเขามาก แต่ยามนี้เรี่ยวแรงของนางมหาศาลและควบคุมเขาได้ทุกอย่าง

            “นายหญิง!”

            เหตุใดจู่ๆ นาง ‘ตื่น’ ขึ้นมาในเวลานี้!

            จริงอยู่ ท่านประมุขหรือปีศาจราคะจะใช้ร่างกายของชิงหรูเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ นางคือร่างทรงหน้าที่ของร่างทรงคอรองรับจิตมารของท่านประมุข  แต่เขาไม่คิดว่าจะเป็นเวลานี้ที่ทั้งสองเข้าพักในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง เขาเป็นทั้งบ่าวรับใช้และองครักษ์ประจำกายนาง ยามที่ต้องเดินทางไม่ได้อยู่ในเส้นทางของสำนักก็มักนอนร่วมห้องกันเช่นนี้

            หญิงสาวที่นั่งคร่อมร่างของเขากวงหมินอยู่ในเวลานี้คือ ‘ชิงหรู’ นางสวมชุดนอนรุ่ยร่าย สาบเสื้อแหวกออกเห็นเอี้ยมสีแดงปักลายดอกโบตั๋น  นางโน้มหน้าลงใกล้จนเขาได้กลิ่นกายหอมหวาน ลมหายใจอุ่นร้อนทำให้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน  นางปล่อยมือจากข้อมือของเขาแล้วใช้นิ้ววาดเป็นวงในอากาศ พลันเชือกเส้นหนึ่งตวัดตามปลายนิ้วที่นางวาดแต่รวบข้อมือสองข้างของกวงหมินไว้เหนือศีรษะ  ต่อให้ไม่มัด เขาก็ขยับไม่ได้อยู่แล้ว!

            “คร่ำครวญถึงอดีตอีกแล้วหรือเด็กน้อยของข้า”  นางหัวเราะจับปลายผมของตนไล้ใบหน้าของเขาที่กัดฟันแน่น  นางบดสะโพกกับแก่นกายที่แข็งขันขึ้นมา ลิ้นน้อยๆ ยื่นออกมาเลียริมฝีปากตนเอง  “มาเถิด ให้ข้าปลดปล่อยเจ้าเอง”

            “นายหญิง! ปล่อยข้า!” 

            “ต่อต้านทำไม” นางแสร้งเอียงคอทำหน้าไร้เดียงสา “ข้ากับเจ้าเสพสมกันมากี่ครั้งแล้ว ข้าเมตตาเอ็นดูเจ้าถึงเพียงนี้ไยไม่สำนึกเสียบ้าง ผู้อื่นต้องคลานเข่ามาขึ้นเตียงข้า แต่ข้ามาหาเจ้าถึงที่”

            “นายหญิง!!”  ความร้อนปั่นป่วนช่องท้อง เขาไม่อาจโคจรลมปราณต้านไฟราคะที่ถูกปลุกเร้านี่ได้

            “หรือเพราะร่างนี้เป็นชิงหรู เจ้าจึงไม่ต้องการแตะต้องนาง”  ปีศาจราคะหัวเราะเสียงใส แน่นอนว่านางย่อมรู้ดีและสนุกสนานกับการได้ทรมานทาสรับใช้ผู้นี้

            “หากชิงหรูรู้ความจริงว่าที่แท้แล้วนางเป็นกำพร้าเพราะน้ำมือเจ้า เจ้าคิดว่านางจะมองเจ้าอย่างไร จะเหลือสายตาเชื่อใจอยู่อีกหรือ?”

หญิงสาวหัวเราะร่าพร้อมกับแหวกสาบเสื้อของกวงหมินออก ใช้ปลายเล็บกรีดไปตามแผ่นอกกำยำ ชายหนุ่มหอบหายใจแรง ฝืนสะกดกลั้นสุดกำลัง

            “เด็กโง่ เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเลือกชิงหรูเพราะเจ้า” นางก้มลงกัดยอดอกของเขา

            “นายหญิง!”

            “แต่เหนือความคาดหมาย ร่างกายของชิงหรูเกิดมาเพื่อเย้ายวนบุรุษให้สยบใต้ฝ่าเท้า”  นางพูดชิดยอดอกตวัดลิ้นดูดกลืนและหยอกเย้าซ้ำยังคงบดสะโพกส่ายวนปลุกเร้าให้แท่งหยกนั้นดุนดันกางเกงจนแทบฉีกขาด

            นั้นคือความผิดพลาดที่เขาไม่อาจยอมรับได้

            เขาคิดจะซ่อนนางไว้ แต่มือสังหารเช่นเขาจะซ่อนนางที่ใดได้นอกจากที่เดียวที่เขาอยู่คือลัทธิลิขิตจันทรา ทว่าชิงหรูเหมือนดอกไม้ที่ค่อยๆ เติบโตและเผยความงามของตนเองโดยที่นางไม่รู้เลยว่า  ตนเองครอบครองความงามเย้ายวน เขาดุนาง สั่งสอนนาง แต่ยิ่งนางดูใสซื่อไร้เดียงสา นางกลับยิ่งเป็นที่ปรารถนาของบุรุษ

            เขากัดฟันกรอด ออกแรงกระชากเชือกจนขาด

            ชิงหรูเลิกคิ้วเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงตาของกวงหมิน แม้ในความมืดแต่นางเห็นแววตาเจ็บปวด นางกระตุกยิ้มเล็กน้อย เพียงวูบเดียวดวงตาปิดลงและร่างของนางร่วงผล็อยลงไปบนอกของกวงหมิน

            กวงหมินขยับตัวได้พลิกตัวขึ้นทันที ร่างของชิงหรูอ่อนปวกเปียกลงไปนอนใต้ร่างของกวงหมิน เปลือกตาของนางขยับเล็กน้อยก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้น  หญิงสาวจำได้ว่าเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำด้วยอ่อนเพลียจากการเดินทางและเป็นคำสั่งของกวงหมิน แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด จึงตื่นขึ้นมาเห็นเขาคร่อมร่างนางอยู่เช่นนี้

            ชายหนุ่มผงะไปเล็กน้อย เขารู้ว่าดวงจิตท่านประมุขออกจากร่างของชิงหรูแล้ว แต่เมื่อเห็นนางลืมตามองเขา เขาก็รีบยื่นมือไปปิดดวงตาของนางไว้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 49.  จบ

    “เจ้ารู้หรือไม่ บิดาของเจ้าที่เป็นหมอวิปลาสล้มเหลวกับการสร้างโอสถเลือดมาหลายสิบปีจนยอมเป็นทาสปีศาจเช่นข้า มารดาของเจ้ากลืนไข่มุกหมื่นปรารถนาของข้ายามตั้งครรภ์เจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่รอดตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เจ้ามีปราณบริสุทธิ์ในตัวเองมากเพียงใด”ดวงตาของสาวงามเปลี่ยนเป็นสีแดงโลหิต รอยยิ้มก็ดูน่ากลัวเช่นกัน ริมฝีปากงามคลี่ยิ้มออกมาแล้วเอ่ย“นอกจากเลือดจะเป็นโอสถทิพย์แล้ว พลังปราณไม่จำกัดของเจ้ายังทำลายทุกสิ่งได้ในพริบตา”“พอแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซิงตวาด “นางไม่ควรแบกรับเรื่องเหล่านี้”“อย่ามาแสร้งทำใจดี” ปีศาจราคะหัวเราะในลำคอ “เจ้าใช้นางจนพอใจแล้วจึงทำเป็นมีเมตตารึ”“ไม่! ข้าต้องการให้นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้มีชีวิตที่ดีก็เท่านั้น”“เพราะรู้สึกผิดกับทุกชีวิตที่ตายไปหรือไร” นางหัวเราะร่วน “จู่ๆ ก็อยากเป็นคนดีกันเสียจริง”“เพราะว่า...ข้าพอแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตาหยุดอยู่ที่หลิวชิง “ชีวิตข้า...อยู่มาพอแล้ว”“อวิ๋นเซิง” หลิวชิงเรียกเขาอย่างปวดร้าว เขาย่อมรู้ว่าร่างกายของฟู่อวิ๋นเซิงเป็นเช่นไร หากนับจากนี้ไม่ได้ดื่มเลือดโอสถอี

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 48 ก่อกรรมไว้มากมาย

    “ฟู่อวิ๋นเซิง! เจ้าก่อกรรมทำเข็นมามาก คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปนับร้อย และยังสั่งสมผู้คนจิตใจชั่วช้าไว้อีก เห็นทีหากวันนี้ข้าไม่จัดการเจ้าและพรรคกระเรียนดำให้สิ้นซากก็เกรงว่าจะไม่สามารถทำให้ผู้อื่นอยู่อย่างสงบสุขได้” “นักพรตอี๋” ฟู่อวิ๋นเซิงหัวเราะร่า “วาจาที่เจ้าพ่นออกมาล้วนหาเพียงความชอบให้ตนเอง ข้ากับคนของข้าอยู่ในหุบเขาอู่อี๋มาหลายสิบปี มีแต่คนอย่างพวกเจ้าที่แส่มาหาเรื่องถึงที่ บุกมาถึงบ้านข้าทำร้ายคนของข้าแล้วเช่นนี้จะเรียกว่าอะไร” “ฟู่อวิ๋นเซิง อย่ามาแสร้งทำเป็นพูดดี วันนี้เป็นวันตายของเจ้า” “นักพรตอี๋ มิใช่ว่าท่านต้องการเคล็ดวิชาและโอสถของข้าหรอกรึ” “ข้าจะอยากได้เคล็ดวิชารมารไปเพื่อสิ่งใด!” “มิใช่ว่าท่านสรรหากระษัยยาเพื่อทำยาอายุวัฒนะเพื่อมีชีวิตได้เป็นร้อยปีมิใช่รึ” ฟู่อวิ๋นเซิงคลี่ยิ้มดูแคลน “ได้ยินว่าเพื่อให้ตนมีกำลังวังชาเหมือนเด็กหนุ่ม แม้ต้องขืนใจหญิงพรหมจรรย์ก็ทำได้ เช่นนี้แล้วยังเรียกว่าตัวเองเป็นฝ่ายธรรมะได้อยู่หรือ?” “เจ้า!” นักพรตอี้ตวัดแส้หางม้าชี้ใส่หน้าประมุขพรรคกระเรียนดำ เขาโ

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 47. พายุใหญ่

    ว่ากันว่า ก่อนพายุใหญ่จะมา คลื่นลมมักเงียบสงบ เรื่องราวในหุบเขาอู่อี๋ก็เช่นกัน หลังจากงานวิวาห์ของฟู่เหยียนอวี้และมู่ลี่หยางผ่านไปได้สามวันก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น อาจเพราะเป็นเป็นช่วงที่ทุกคนสนุกสนานกับงานรื่นเริง การคุ้มกันในหุบเขาจึงลดลง แม้แต่ค่ายกลที่สร้างไว้ในหุบเขาก็ถูกทำลายอย่างย่อยยับ หลังออกจากห้องหอ มู่ลี่หยางปรึกษาหารือกับประมุขฟู่ ตั้งใจว่าให้ฟู่เหยียนอวี้พักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงดีแล้วจะกลับไปบ้านหมอมู่จางหมิ่น เพื่อไม่ให้พ่อบุญธรรมเป็นห่วง เขาจึงคิดว่ากลับไปเล่าเรื่องด้วยตนเองดีกว่าเขียนจดหมายส่งไป ฟู่อวิ๋นเซิงใจกว้างกับคนทั้งสอง มิได้บังคับให้อยู่ในพรรคมาร หากพวกเขาสองคนต้องการไปที่ใดก็ไม่ขัด จะใช้ชีวิตที่ใดก็ย่อมได้ ฟู่เหยียนอวี้คิดถึงเด็กกำพร้าที่บ้านหมอมู่ นางเสนอความคิดกับมู่ลี่หยาง นางรู้ว่าเขารักสันโดษ แต่เด็กๆย่อมต้องเติบโตและควรมีบ้านที่อบอุ่น นางจำได้ว่าที่เมืองเหมียนหยางซึ่งมีสาขาของพรรคกระเรียนดำอยู่นั้น พอจะมีบ้านว่างสภาพดีให้พวกนางสามารถอยู่อาศัยได้ ‘เจ้าจะรับเด็กๆ มาเลี้ยงเองรึ” ฟู่อวิ๋นเซิงถามอย่างปร

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 46. รอยยิ้มของเขา

    “ข้าอยากเห็นท่าน”“ข้าก็เช่นกัน”รอยยิ้มของเขาที่สะกดสายตานาง เขาทาบริมฝีปากลงมาอีกครั้งแต่เป็นที่ยอดอกที่ชูชัน ปลายลิ้นร้อนตวัดปลายถันจนเปียกชุ่ม หญิงสาวส่งเสียงครางออกมา ระลอกความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่าง ท้องน้อยปั่นป่วนจนร่างกายบิดเร่า เขาดูดดึงปลายถันทั้งสองข้างสลับกันและยังเคล้นคลึงจนนางแทบทนไม่ไหว สองมือจับที่บ่าของเขาอย่างลืมตัว มือกร้านข้างหนึ่งเลื่อนไปด้านล่างแตะต้องส่วนอ่อนไหวอย่างแผ่วเบาแต่ทำให้นางร้อนรุ่มราวจับไข้ เขาละริมฝีปากจากยอดอดแล้วจูบผิวเนียนละเอียดหอมหวาน ใบหน้าของเขาเลื่อนลงต่ำ สองมือแยกเรียวขาออกกว้าง สายตามองกลีบดอกไม้ที่ผลิบานเบื้องหน้าก่อนยื่นหน้าไปใช้ลิ้นตวัดเลียอย่างชำนาญ ปลายลิ้นเล้าโลมจุดอ่อนไหว ร่างทั้งร่างของหญิงสาวก็สั่นระริกขึ้นมา“ท่าน...ท่านพี่...” ฟู่เหยียนอวี้ได้แต่ครางเรียกชื่อคนรักเพื่อบรรเทาความเสียดเสียวที่เกิดขึ้น แม้นางเป็นหญิงใจกล้าแต่ยามนี้เขินอายไม่กล้ามองว่าเขากำลังทำอะไรกับร่างกายของนาง มู่ลี่หยางดื่มด่ำกับรสชาติของกายสาว กลีบเนื้อสีอ่อนสั่นระริก เขาใช้นิ้วแทรกเข้าไปสำรวจภายในโพรงที่อ่อนนุ่ม ช่องทางอันคับแคบทำให้เขาต้องเตรียมร

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 45.  จำได้

    “ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรก็ได้ ขอให้ข้าเป็นภรรยาของท่านก็พอ” นางหลับตาลง “ข้าชอบฟังเสียงหัวใจของพี่ลี่หยาง ชอบที่ท่านทำหน้าดุแต่เป็นห่วง ชอบที่ท่านแสร้งทำเป็นเย็นชา ข้าชอบพี่ลี่หยางมากจริงๆ” “พอแล้ว” ถ้อยคำของนางทำให้ใบหน้าของเขาแดงเรื่อฟู่เหยียนอวี้ดันกายขึ้นจ้องมองดวงตาของคนรัก“พี่ลี่ หยางก็บอกรักข้าบ้างสิ”คราวนี้มู่ลี่หยางอึกอัก มิใช่ว่าไม่รู้สึก แต่เขาเขินอายและหยาบกระด้างเรื่องพวกนี้ เขาไม่ใช่คนพูดจาหวานหู และที่สำคัญ เขาไม่เคยบอกรักหญิงใดมาก่อน“แม่นางหวงหลันที่หอสุราเจี่ยนตานบอกข้าว่า มีสตรีหมายตาพี่ลี่หยางมากมาย”“หือ? ถ้ามีเรื่องเช่นนั้นจริง ทำไมข้าไม่รู้” วันนั้นเขาหายไปครู่เดียว เหตุใดเหมือนมีเรื่องมากมายที่เขาไม่รู้นักนะ“ก็เพราะว่า...ท่านยังไม่มีคนในดวงใจละสิ” นางยิ้มกว้างอย่างได้ใจ “พี่ลี่หยางคงไม่เคยพูดประโยคเหล่านี้สินะ เช่นนั้น ข้าพูดให้ท่านฟังบ่อยๆ ท่านก็พูดตามข้าก็ได้”“ไป๋เซ่อ” เขาเรียกนางน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าเคยได้ยินการกระทำสำคัญกว่าคำพูดหรือไม่”ยังไม่ทันได้เอ่ยถาม ฟู่เหยียนอวี้ก็ถูกพลิกตัวลงมาอยู่ใต้ร่างของมู่ลี่หยาง ริมฝีปากอุ่นประกบที่ริมฝีปาก

  • ไข่มุกหมื่นปรารถนา    Chapter 44. เจ้าเล่ห์

    คนตัวเล็กแทบจะวิ่งหนี แต่มือใหญ่คว้าคอเสื้อจากด้านหลังของนางไว้ได้ทัน คราวนี้ฟู่เหยียนอวี้เสียหลักหงายหลังลงมานั่งบนตักของเขาพอดี อยากจะตำหนิต่อว่าแต่ก็ทำไม่ลง มู่ลี่หยางได้แต่ถอนหายใจแล้วเอ่ยถาม “เจ้าจำได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” “จำอะไรได้รึ” นางยังแสร้งทำหน้างุนงง “ฟู่เหยียนอวี้” “เจ้าค่ะ” นางยังคงยิ้มจนดวงตาหยีเล็ก “ฟู่-เหยียน-อวี้”“พี่...พี่ลี่หยางมีอะไรหรือ?” มู่ลี่หยางค้อมเอวลงแล้วจ้องมองนางทำเอาหญิงสาวหายใจติดขัด “เจ้าจำได้แล้วสินะว่าตนเองคือฟู่เหยียนอวี้” “เอ่อ...” ฟู่เหยียนอวี้พลันเข้าใจในทันที แท้ที่จริง มู่ลี่หยางแค่ลองหยั่งเชิงกับนางเท่านั้น มิใช่ว่าเขาจำเส้นทางไม่ได้ “จำได้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่เหตุใดยังแสร้งทำเป็นจำไม่ได้” เขายืดตัวขึ้นมองนางอย่างไม่เข้าใจ “ก็ข้ากลัวพี่ลี่หยางไปจากข้า” “ข้าพูดว่าจะไปจากเจ้ารึ” เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ “ข้าจำได้ว่าเคยพูดว่าจะไปเมื่อเจ้าไม่ต้องการข้าแล้ว” ใบหน้างามระบายยิ้มกว้าง นางร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status