ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน... แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน “ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว” ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก “นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า” “ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ” สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่อยู่พอดีเลย หากกำจัดหมอนี่ออกไปชีวิตของเขาคงมีความสุขขึ้นเยอะเลย..ทว่าสิ่งที่ทำให้ในใจของฟาเบียนเกิดความลังเลคือความมั่นหน้ามั่นใจของเขา เขาคิดว่าตัวเองไม่ควรให้ความสำคัญกับจีเซลมากขนาดนั้น หากครั้งนี้เขายินยอมสังหารดยุคแทนนาง..ในอนาคตจะต้องแย่มากแน่ๆ เพราะเขาจะเพิ่มพูนความสนใจที่มีต่อเธอมากเพิ่มขึ้นไปอีก เขาไม่ควรที่จะข้ามเส้นของตัวเองไปมากกว่านี้ “เจ้าไปก่อนเถอะ..ข้ายังไม่ขอให้คำตอบในเรื่องนั้น” ปีศาจไร้หน้ากำลังชอบอกชอบใจในความคิดของฟาเบียน เพราะการลังเลนั้นเท่ากับว่าในใจของฟาเบียนมันเกิดเป็นความหวั่นไหวขึ้นมาแล้ว . . “อย่างนั้นเองสินะครับ เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่ตกใจเรื่องที่ข้าบอกว่าท่านเคาน์กำลังเลี้ยงดูปีศาจล่ะจีเซล มีคนเคยบอกรึเปล่าว่าเจ้าโกหกไม่เก่งเลยนะ” เขายังคงยืนอยู่ใกล้ชิดกับเธอ จนระหว่างเราทั้งสองนั้นมันไร้ช่องว่าง..เสียงกระซิบของเดเมี่ยนทำให้เธอกำลังใจสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ไหนแต่ไรเธอเป็นคนที่ไม่เคยโกหกอยู่แล้ว และจีเซลไม่อยากจะโกหกด้วยหากว่ามันไม่จำเป็น แล้วทำไมลูกรักของเธอถึงได้ฉลาดเป็นกรดขนาดนี้กันนะ ให้ตายสิถึงแม้ว่าจีเซลจะกำลังถูกไล่ต้อนแต่ในใจของเธอกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข.. “ข้าตกใจสิคะ แต่ข้าตกใจมากกว่าที่ท่านดยุคกล่าวว่าข้าให้สัญญาณกับท่านน่ะ” เมื่อกล่าวจบจีเซลก็ถอยหลังออกไปในทันที “ข้าเป็นเพียงแค่สาวใช้เท่านั้น และมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ข้าไม่มีทางเป็นลูกขุนนางอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะว่าข้าจนมากๆ ..ใบหน้าของข้าก็มิได้งดงามอะไรเท่าไหร่หรอก แค่พอดูได้เท่านั้น นักร้องโอเปร่าอย่างโรซาลีนยังงดงามมากกว่าข้าเลย..ท่านดยุคแค่พบเจอข้าในแบบที่แปลกประหลาดไปสักหน่อย นั่นจึงทำให้ท่านดยุคสนใจข้าเป็นพิเศษก็เท่านั้น อีกทั้งท่านสูงส่งมากเกินกว่าจะมาเสียเวลากับสตรีที่เป็นเพียงแค่สาวใช้เช่นข้า..” เมื่อกล่าวจบจีเซลก็ก้มหน้าลงในทันที “จริงอยู่ที่ข้าและเพื่อนๆ สาวใช้ ต่างก็แอบชื่นชมท่านดยุคอยู่ห่างๆ เพราะว่าพวกเรามีสิทธิ์เพียงแค่นั้น ท่านดยุคไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาพูดคุยกับข้าแล้วนะคะ ข้าไม่อยากให้ชื่อเสียงที่ดีงามของท่านต้องด่างพร้อยเพราะท่านลดตัวลงมาพูดคุยกับสาวใช้เช่นข้า” เดเมี่ยนรีบก้าวเท้าเข้าไปหาจีเซลในทันที “ข้าไม่ได้ลดตัว และเจ้าก็ไม่ควรลดทอนคุณค่าของตัวเองลงขนาดนั้นเลย” เมื่อกล่าวจบเดเมี่ยนก็ถอดแหวนและเครื่องประดับของเขาออกมา เขาจับมือของจีเซลอย่างบังคับเพื่อให้เธอแบมือออก หลังจากนั้นเครื่องประดับบนร่างกายของเขาก็ถูกวางลงบนมือของจีเซล “ข้าจะมาใหม่ในครั้งหน้า ข้าจะมาหาเจ้าแน่ๆ แล้วก็..เครื่องประดับเหล่านี้ข้าให้เจ้า มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายแต่ข้าอยากให้เจ้านำไปขายแล้วซื้อของที่เจ้าอยากได้ เพื่อเป็นการขอโทษที่วันนี้ข้า..เสียมารยาทกับเจ้า” “ทะ..ท่านดยุคคะ ข้ารับเอาไว้ไม่ได้..” เดเมี่ยนเพียงส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้จีเซลเท่านั้น “หากอยากจะเอาคืนก็เอาไว้คืนข้าในครั้งหน้าสิ แต่ข้ารับคืนเพียงแค่ครั้งละหนึ่งชิ้นเท่านั้นนะ..นั่นหมายความว่าเราจะต้องพบเจอกันหลายครั้งเลยนะ กว่าที่เจ้าจะคืนเครื่องประดับให้ข้าหมดน่ะ” อะไรของเขากัน หรือว่านี่คือเซอร์วิสจากเกม เพราะเธอเปย์ให้ลูกรัก เดเมี่ยนไม่พักเลยใช่ไหม เขาถึงได้มาเปย์เธอกลับบ้าง แล้วของมีค่าต่อใจพวกนี้ใครจะกล้าเอาไปขายกัน เธอต้องเก็บไว้สิ เพราะนี่คือของที่เดเมี่ยนลูกรักของเธอให้มาเลยนะ หากนำของพวกนี้ออกไปจากเกมได้ก็คงดี เพราะเธอคงเอาไว้ใส่กรอบแล้วตั้งเอาไว้บูชา.. ขณะที่จีเซลกำลังตกใจอยู่นั้น ก็มีเสียงเรียกชื่อของท่านดยุคดังขึ้นมา “ท่านดยุคครับ!!” เดเมี่ยนหันไปตามเสียงเรียกก่อนที่เขาจะหันกลับมาหาจีเซล “รอข้าอยู่ตรงนี้นะ ข้าแค่ออกไปคุยงานแป๊บเดียวเท่านั้น..เรายังคุยกันไม่จบนะจีเซล” เธอกำลังจะบอกปฏิเสธเขา แต่ทว่าท่านเดเมี่ยนกลับวิ่งออกไปในทันที จีเซลจึงทำได้แค่ยืนรอเท่านั้น เธอยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่อยากจะกรี๊ดออกมา.. อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ว่าเดเมี่ยน ของเธอน่ะ เป็นเด็กดีอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ “อย่าบอกนะว่าเจ้าจะยืนรอเขาจริงๆ น่ะ” จีเซลสะดุ้งเฮือกเมื่อผู้ที่เดินออกมาจากด้านหลังของต้นไม้คือท่านเคาน์ที่กำลังจุดซิการ์ “ทะ..ท่านเคาน์มาได้ยังไงกันคะ” “ที่นี่คือคฤหาสน์ของข้า ทำไมข้าจะมาที่นี่ไม่ได้ล่ะ..ดูเหมือนว่า ดยุคนิกซ์จะเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากเลยนะ” ฟาเบียนหยิบอัญมณีในมือของจีเซลขึ้นมาดู “เป็นของมีค่ามากเลยนี่ เพชรสีชมพูเม็ดใหญ่มากขนาดนี้คงจะแพงน่าดูเลยสินะ” เมื่อกล่าวจบฟาเบียนก็มองหน้าของจีเซลก่อนที่เขาจะเขวี้ยงเพชรในมือเข้าไปในสวน.. จีเซลมองการกระทำของท่านเคาน์ด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะรีบซ่อนอัญมณีที่เหลือเอาไว้ข้างหลัง “ของพวกนี้ท่านดยุคให้ข้ามานะคะ อีกทั้งข้าตั้งใจจะเอาไปคืน..” เขาจ้องหน้าเธอก่อนที่ฟาเบียนจะยกมือขึ้นมาปิดปากของจีเซลแล้วลากเธอเข้ามาที่ด้านในสวนของเขา ตรงนี้ถูกบดบังด้วยต้นไม้มากมายและเขามั่นใจว่าคงไม่มีใครหาเราเจออย่างแน่นอน “เจ้ากำลังทำให้ข้าหงุดหงิด ส่งอัญมณีพวกนั้นมาก่อนที่ข้าจะฉีกชุดของเจ้าออก..”
ฟาเบียนไม่รู้ว่าเขาควรจะรับมือกับความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างไรดี..จีเซลมักทำให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาในใจของเขาอยู่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้มันดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอย่างชัดเจนสายตาของดยุคนิกซ์ที่มองมายังจีเซลมันบอกได้เลยว่าหมอนั่นพึงพอใจในตัวของจีเซลมากทีเดียว..แถมยังส่งมอบเครื่องประดับให้มามากมายเช่นนั้นอีกดวงตาของเธอพร่ามัวไปหมด เมื่อริมฝีปากของเขาประกบแนบลงมาซ้ำๆ แผ่นหลังของเธอแนบชิดลงไปบนต้นไม้ขนาดใหญ่ แรงถาโถมของท่านเคาน์ในยามนี้มันมากมายกว่าทุกครั้งที่เธอเคยสัมผัส มันมีทั้งแรงปรารถนาและ..แรงโกรธผสมปนเปกันไปมาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนปลายลิ้นชื้นไล้ผ่านกลีบปากของเธอราว กับฟาเบียนต้องการจะยั่วเย้าให้รอยจูบของเรามันลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาแย่งชิงเครื่องประดับพวกนั้นออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างไม่ไยดีแน่นอนว่าจีเซลตกใจกับการกระทำของเขามากทีเดียว เขามาทำลายสิ่งที่ท่าน เดเมี่ยนมอบให้เธอทำไมกันแต่ยังไม่ได้ทัน ที่จะถาม ริมฝีปากของเขาก็แนบชิดลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่
ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน...แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน“ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว”ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก“นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”“ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ”สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่
ฟาเบียนยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม ที่ข้างกายของเขานั้นมีเสียงพูดคุยของโรซาลีนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน นางเฝ้าถามเขาว่าคนนั้นคือใคร และคนนี้คือใคร..มีขุนนางมากมายเดินเข้ามาเพื่อทักทายเขา พร้อมกับเอ่ยปากชมถึงการจัดงานเลี้ยงที่ดีเยี่ยมในวันนี้เขาได้แต่ส่งยิ้มให้เธอพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้การสนทนาของเขาและผู้อื่นสั้นลงที่สุดในวันนี้เขายืนอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนยิ่งใหญ่ของตนเอง มีนักร้องโอเปร่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองหลวงอยู่ข้างกาย และมีขุนนางมากมายที่ต้องก้มหัวให้เขา..แต่ทว่าไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกที่สุดแสนจะแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมองไปที่ประตูนานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขามองไปทำไม ไม่รู้ว่าไอ้อาการกระวนกระวายใจพวกนี้มันคืออะไรด้วย“ท่านเคาน์คะ..ดูเหมือนว่าท่านจะดื่มมากไปแล้วนะคะ ยังไงเราขึ้นไปบนห้อง..”“วันนี้ข้าอยากอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”โรซาลีนที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับหุบยิ้มในทันที“ท่านเคาน์..”“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงิน ข้าจะส่งให้คอลตันจัดการเรื่องนั้นให้เจ้าเอง..กลับไปซะแล้วถ้าหากว่าข้าไม่ได้เรียกก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”ตั้ง
หลังจากที่ส่งเดเมี่ยนลูกรักเข้าไปในงานแล้ว จีเซลก็ถามตัวเองว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะเข้าไปในงานเลี้ยงหรือว่าจะหายตัวไปเงียบดีล่ะเธอไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านเคาน์ได้ นั่นคือการไปรอเขาอยู่ในห้องเพราะฉะนั้นเธอควรจะหลบหน้าไปสักพัก..ทว่าเธอตัดใจเดินจากไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นห่วงเดเมี่ยนมากเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างเช่นการเปิดโปงท่านเคาน์จีเซลไม่อยากให้เขาถูกหมายหัวจากท่านเคาน์อะไรแบบนั้นเลย เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงเหมือนในเกมจริงๆเธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง จีเซลเดินเข้าไปหาอันนาและคาริที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องในทันที“มาแล้วสินะจีเซล เจ้ารีบมายืนตรงนี้ด่วนเลย จากจุดที่พวกเรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นท่านดยุคได้ชัดเจนเลยล่ะ”คาริรีบโบกมือเรียกให้จีเซลไปยืนอยู่ข้างๆ ตน ท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวใช้ทำให้จีเซลอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลย..หากคาริรู้ว่าที่เธอหายไปนั้น เธอไปใช้เวลาอยู่กับท่านดยุคตั้งนานสองนาน เพื่อนของเธอคงจะตกใจมากทีเดียว“งดงามราวกับภาพวาดเลยนะ..”“ใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของท่านดยุคโดดเด่นมากทีเดียว ไม่ว่าท่านจะยืนอยู่ตรงไหนก็ล้วนแล้วแต
มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้นคำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆเธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไรให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ..จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย“คนสารเลว!”เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ“อะ..โอ
คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา..“ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..”เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา“ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม”อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ..ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัสแน่นอนว่