Masuk“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”
คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง “ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ” การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ “นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค” เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที “สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สายตาที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง มองเข้าไปในร่างกายของท่านเคาน์ ว่ามันจะพอมีหนทางใดบ้านที่จะสามารถทำลายปีศาจตนนั้นเหรือไม่..เหตุผลที่ข้าต้องการทำลายปีศาจตนนั้นคือ..ชีวิตที่ปีศาจตนนั้นต้องการเป็นเครื่องบรรณาการคือข้าและท่าน..และท่านเคาน์ตัดใจสังหารข้าไม่ลง หากว่าเขาไม่เลือกสังหารใคร..จะต้องเป็นท่านเคาน์ที่ถูกสูบชีวิตไป..ได้โปรดเถอะนะคะท่านดยุค ช่วยยืนมือเข้ามาช่วยเหลือข้าสักครั้ง” สีหน้าของเดเมี่ยนนั้นมีอารมณ์มากมายปนเปกันไป เท่าที่เขาได้อ่านเนื้อความในจดหมายฉบับนี้ เขากล่าวได้อย่างเต็มปากเลยว่า จีเซลหลงรักท่านเคาน์ไปแล้วแน่ๆ นี่คือเหตุผลที่นางไม่แม้แต่จะชายตามองเขา ไม่ว่าเขาจะหล่อเหลาหรือว่าชาติตระกูลดีมากแค่ไหน..เพราะในหัวใจของนางมันอัดแน่นไปด้วยความรักที่มีต่อท่านเคาน์ เดเมี่ยนถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะยกจดหมายฉบับนั้นแนบลงมาบนอก เห็นทีว่าครั้งนี้เขาต้องตัดใจจากจีเซลอย่างเด็ดขาดแล้วละสิ เขาไม่ควรทำให้นางอึดอัดมากไปกว่านี้และไม่ควรทำให้ความสัมพันธ์ของนางกับท่านเคาน์..ต้องสั่นคลอนอีกด้วย ข้าจะช่วยเจ้าแน่ๆ จีเซล เพราะในความคิดของข้านั้น สิ่งที่ข้าอยากเห็นมากที่สุดคือช่วงเวลาที่เจ้ามีความสุข.. .................. “ไม่ต้องกังวลหรอกจีเซล ข้าเก่งกาจจะตายไป..ข้าจะต้องหาทางออกเรื่องนี้ได้แน่ๆ ต่อให้ต้องสังหารสตรีทั้งโลกข้าก็จะทำ หากว่ามันสามารถทำให้เรามีชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปเช่นนี้น่ะ ต่อให้ข้าจะต้องแหลกสลายสักกี่ครั้ง แต่ทว่าข้าก็มั่นใจว่าเจ้าจะคอยกอดปลอบโยนข้าอยู่ตรงนี้ไม่หายไปไหน “อยากได้ชาร้อนๆ สักถ้วยไหมคะ” ฟาเบียนไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวของจีเซลเลย “หากถามว่าตอนนี้ข้าอยากได้อะไรมากที่สุด ข้าตอบได้เลยว่าข้าอยากได้เจ้ามากที่สุดเลย..” เมื่อกล่าวจบริมฝีปากของฟาเบียนก็จรดลงมาที่ลำคอของจีเซล เขาพรมจูบพร้อมกับขบเม้มลงไปบนนั้นด้วยความรู้สึกทะนุถนอม เขาไม่เคยต้องการใครมาก่อนเลย และไม่เคยเข้าใจความรักของท่านพ่อและท่านแม่ด้วย แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านพ่อถึงยินยอมเลือกความตายแทนที่จะสังหารท่านแม่.. เพราะความรักมันยิ่งใหญ่มากกว่านั้น..สิ่งที่เรียกว่าความรักมันควบคุมร่างกายและหัวใจของเราไปหมดเลย แถมเขาที่ว่าแข็งแกร่งนักหนายังไม่สามารถควบคุมหัวใจของตัวเองได้เลย เขาพ่ายแพ้ให้กับจีเซลอย่างราบคาบไปหมด..นี่มันไม่สมเป็นเขาแต่จะทำอย่างไรได้เล่าในเมื่อ..เขาเลือกมันเองนี่ จีเซลช้อนสายตามองหน้าเขา หากว่าเธอสามารถโอบกอดทุกความรู้สึกของเขาได้ เช่นนั้นเธอก็ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งเลย..ไม่ว่าเขาจะต้องการสิ่งไหนเธอยินดีหามาให้เขาในทุกสิ่งอย่างอยู่แล้ว และนี่เขาเพียงต้องการร่างกายของเธอเท่านั้น..เธอจะให้เขาไม่ได้ ได้อย่างไร ฝ่ามือของเธอยกขึ้นมาโอบล้อมรอบลำคอของเขาเอาไว้หลวมๆ ริมฝีปากของเธอหว่านพรมความร้อนไปตั้งแต่แก้ม หู และซอกคอ จีเซลยกมือขึ้นมาแล้วเริ่มถอดกระดุมเสื้อของฟาเบียนออกทีละเม็ด สายตาของเราทั้งคู่ต้องมองกันอย่าไม่ละสายตา ดวงตาที่สอดประสานนั้นบ่งบอกให้รู้ถึงความต้องการของเขาและเธอได้เป็นอย่างดีว่าเราทั้งคู่ต้องการกันและกันมากแค่ไหน สัมผัสโอ้โลมทั่วกายส่งผลให้อารมณ์ถูกปลุกเร้าให้พุ่งทะยาน ความรู้สึกวาบหวามจากการสัมผัสปัดป่ายไปทั่วตัวได้กระจายลงสู่เบื้องล่าง “อา..จีเซล” สัมผัสแนบชิดของผิวที่เปลือยเปล่าทำให้เกิดความลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะปลายนิ้วของหรือลิ้นของเธอที่ลากผ่านเรือนร่าง ตรงจุดที่ถูกสัมผัสนั้นก็คล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทันที “ไม่ชอบหรือคะ” ฟาเบียนลดสายตาลงไปมองหน้าของจีเซลที่ในยามนี้เธอกำลังเลียลงไปบนยอดอกของเขา.. “ผิดแล้ว..ไม่ใช่ไม่ชอบแต่ชอบมากต่างหากล่ะ” ทั้งเสียงกระซิบหรือลิ้นที่ลากไล้อย่างเน้นย้ำก็ล้วนแล้วแต่กระตุ้นความต้องการอย่างร้ายกาจ ระหว่างมือลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า ริมฝีปากของ จีเซลก็เลื่อนลงมาจนถึงเป้ากางเกง เธอถอดมันออกอย่างง่ายดายคงเพราะเธอถอดและใส่เสื้อผ้าให้เขานับครั้งไม่ถ้วนแล้วละมั้ง เจ้าสิ่งนั้นดีดผึงขึ้นมาราวกับกำลังรอคอยให้เธอสัมผัสอย่างใจจดใจจ่อ ฝ่ามือของเธอกอบกุมมันก่อนที่จีเซลจะพรมจูบลงไปบนแท่งร้อนนั้น นี่เป็นการสัมผัสที่ไม่รุนแรงแต่ทว่ามันกลับเร่าร้อนเหลือกำลัง และเมื่อเธอใช้ริมฝีปากครอบครองมันฟาเบียนก็ส่งเสียงร้องครางออกมาเสียงดัง แรงกระตุ้นจากริมฝีปากนั้นส่งผลไปกับทุกสิ่งในร่างกาย ความเสียวซ่านเริ่มก่อนตัวเมื่อถูกปลุกเร้าอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง “จีเซล..อื้อ!!” เธอชอบช่วงเวลานี้มากที่สุด ชอบช่วงเวลาที่ชื่อของเธอถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงกระเส่าของเขา ปลายลิ้นของจีเซลสัมผัสส่วนที่อยู่ในปากแล้วเลียไปตามความยาวจนเปียกชุ่ม เธอแสดงความรักต่อส่วนนั้นของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ โลมเลียครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่าเจ้าแท่งร้อนๆ นั้นมันคือขนมหวาน ริมฝีปากดูดดึงส่วนกลางลำตัวอย่างเชื่องช้า ส่งผลให้ความหฤหรรษ์แล่นวาบไปทั่วทั้งตัวเลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







