LOGINฟาเบียนไม่รู้ว่าเขาควรจะรับมือกับความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างไรดี..จีเซลมักทำให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาในใจของเขาอยู่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้มันดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอย่างชัดเจน
สายตาของดยุคนิกซ์ที่มองมายังจีเซลมันบอกได้เลยว่าหมอนั่นพึงพอใจในตัวของจีเซลมากทีเดียว..แถมยังส่งมอบเครื่องประดับให้มามากมายเช่นนั้นอีก ดวงตาของเธอพร่ามัวไปหมด เมื่อริมฝีปากของเขาประกบแนบลงมาซ้ำๆ แผ่นหลังของเธอแนบชิดลงไปบนต้นไม้ขนาดใหญ่ แรงถาโถมของท่านเคาน์ในยามนี้มันมากมายกว่าทุกครั้งที่เธอเคยสัมผัส มันมีทั้งแรงปรารถนาและ..แรงโกรธผสมปนเปกันไปมาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน ปลายลิ้นชื้นไล้ผ่านกลีบปากของเธอราว กับฟาเบียนต้องการจะยั่วเย้าให้รอยจูบของเรามันลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาแย่งชิงเครื่องประดับพวกนั้นออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างไม่ไยดี แน่นอนว่าจีเซลตกใจกับการกระทำของเขามากทีเดียว เขามาทำลายสิ่งที่ท่าน เดเมี่ยนมอบให้เธอทำไมกัน แต่ยังไม่ได้ทัน ที่จะถาม ริมฝีปากของเขาก็แนบชิดลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นมาในทันที ลมหายใจของเธอขาดเป็นห้วงๆ ขณะที่ชุดสาวใช้ของเธอถูกกระชากออกด้วยแรงมหาศาล กระดุมที่ติดอยู่ด้านหน้ากระเด็นออกไปตามแรงดึง ที่เขาบอกว่าจะฉีกทึ้งชุดของเธอนั้น เขาไม่ได้โกหกเลยอย่างนั้นสินะ “ทะ..ท่านเคาน์คะ..” เธอยกมือขึ้นมาเพื่อขวางกั้นเขาเอาไว้ จีเซลมองหน้าท่านเคาน์อย่างไม่ไว้ใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องห้ามเขาเอาไว้ให้ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากทำแต่ว่าที่นี่คือสวนนะโว้ย!! แถมยังเป็นสวนในวันที่จัดงานเลี้ยงขึ้นมาอีกต่างหาก มันมีโอกาสมากทีเดียวที่จะมีผู้คนเดินผ่านไปมา “ที่นี่ในสวนนะคะ..ทำที่นี่คงไม่เหมาะเท่าไหร่” จีเซลต้องเก็บความเขินอายของเธอให้มิดชิด เพื่อที่จะได้กล่าวคำที่แสนน่าอายนั่นออกไป “ในสวนแล้วอย่างไร ที่นี่คือสวนของข้านะ..ไม่มีใครเข้ามาตรงนี้หรอก..ข้าขอทำที่นี่ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?” จีเซลช้อนสายตามองหน้าเขา..ที่เขาร้องขออยากจะทำที่นี่เพราะในห้องนอนของเขายังมีนักร้องโอเปร่าคนงามนั้นอยู่ใช่ไหม “..ที่ท่านเคาน์อยากทำที่นี่คงเป็นเพราะในห้องนอนของท่านยามนี้ มีเลดี้โรซาลีนอยู่ที่นั่นอย่างนั้นสินะคะ..ท่านเคาน์ไม่ควรมาเสียเวลากับข้าด้วยซ้ำ ในเมื่อบนเตียงของท่านมีสตรีที่งดงามผู้นั้นอยู่” คำกล่าวตัดพ้อของเธอทำให้ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาส่ายหน้าเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อหูจริงๆ ว่าจีเซลกำลัง..หึงหวงเขาอยู่ แน่นอนว่านี่มันไม่ถูกต้องเธอเป็นเพียงสาวใช้ เช่นนั้นแล้วจะมาหึงหรือว่าหวงเขาที่เป็นเจ้านายได้อย่างไรกัน แต่ทว่าความรู้สึกเช่นนี้มัน..ดีไม่น้อยเลย “จีเซลนั่นเจ้ากำลังหึงหวงข้าอยู่รึเปล่า?” หัวคิ้วของจีเซลขมวดเข้าหากัน “ข้าไม่กล้ากระทำเช่นนั้นอยู่แล้วค่ะ ข้าเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้นจะกล้าดีอย่างไรไปหึงหวงท่านเคาน์” เธอกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมากำเสื้อตัวเองเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันเปิดออก และเพื่อไม่ให้ส่วนที่ไม่ควรออกมาเผยโฉมหลุดรอดจากเสื้อออกมา แต่ทว่ามีหรือที่ฟาเบียนจะยินยอมให้เธอปิดมันเอาไว้ เนินอกของจีเซลนั้นงดงามมากทีเดียว มันดูคล้ายหยดน้ำขนาดใหญ่ที่ต่อให้เขาใช้มือทั้งมือบีบเคล้นลงไปมันก็แทบจะจับเอาไว้ไม่หมดเลย เขาจับมือของจีเซลเอาไว้ก่อนจะยกขึ้นเหนือศีรษะ ฟาเบียนก้มหน้าลงแล้วใช้มืออีกข้างดึงเสื้อซับในของเธอออกมา เขาไม่โยนเสื้อซับในของจีเซลทิ้งไป แต่ฟาเบียนกลับเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อใช้ลิ้นหยอกล้อกับยอดอกสีหวาน และทันทีที่ปลายลิ้นของเขาสัมผัสลงไปบนยอดอกของเธอ จีเซลก็แทบจะยืนไม่อยู่ เธอขบเม้มริมฝีปากเอาไว้ เพราะไม่ต้องการเปล่งเสียงที่แสนน่าอายนี้ออกไป แต่ทว่ามันก็ห้ามได้ยากมากทีเดียว “บอกข้ามาสิว่าตรงไหนที่รู้สึกดี แค่เจ้าบอกว่าข้าจะทำมันให้หมดเลย หรือเจ้าเป็นพวกชอบการบังคับอะไรแบบนั้น วันนี้ข้าจะใจดียอมทำตามคำสั่งของเจ้าดีหรือไม่” จีเซลหันหน้าหนีในทันที เขายังไม่ตอบเธอเรื่องของเลดี้โรซาลีนเลย..ถึงแม้ว่าเขาจะดูสนอกสนใจเธอมากแค่ไหนแต่ทว่าหากเธอเป็นได้เพียงแค่สตรีที่มีเอาไว้คั่นเวลา เธอจะไปมีความสุขได้อย่างไรกัน “ถ้าไม่รู้ แบบนั้นให้ข้าช่วยหาดีหรือไม่” ปลายนิ้วของเขาไล้ลงไปที่ด้านล่าง กระโปรงสาวใช้ที่จีเซลสวมถูกถอดออกไปกองที่ด้านล่าง ปลายนิ้วของฟาเบียนกำลังไว้วนอยู่ที่ด้านล่าง ถึงแม้ว่าเขาจะสัมผัสเพียงแค่ด้านนอกของกางเกงซับในแต่ทว่าเธอกลับเปียกไปหมดเลย.. “ให้ตายสิ จีเซลของข้านั้นเป็นพวกความรู้สึกไวสินะ แค่จูบไม่กี่ครั้งก็แฉะขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ..” เมื่อกล่าวจบเขาก็ใช้มือแหวกกางเกงชั้นในของเธอไปไว้ที่ด้านข้างก่อนจะแตะสัมผัสกลีบดอกไม้นั้นโดยไร้ที่กั้น “อืม..อื้อ!!” เขาปล่อยมือของเธอให้เธออิสระก่อนที่ฟาเบียนจะนั่งลง เขาพรมจูบลงไปบนกลีบรักที่ชุ่มน้ำ แล้วซุกใบหน้าเข้าหาอย่างไม่รั้งรอ จีเซลไม่รู้ว่าจะรับมือกับความรู้สึกนี้เช่นไร เธอควรจะผลักไสเขาออกไป แต่ทว่ามือทั้งสองข้างกลับไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ หลงเหลืออยู่เลย ปลายลิ้นของเขานั้นประเดี๋ยวส่ายลิ้นประเดี๋ยวดูดชิมของเหลวใส การเคลื่อนไหวนั้นไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป ความชื้นจากน้ำหล่อลื่นและน้ำลายผสมรวมกันจนเป็นเนื้อเดียว จีเซลยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะทำตรงนี้จริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะใช้ปากกับส่วนนั้นของเธออีกครั้งและด้วยท่าทางนี้หากมีใครมาเห็น เธอไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบตรงนั้น ทั้งยังดูดดุนในพื้นที่น่าอายอีก เขาตรึงเธอเอาไว้แล้วลากลิ้นไปมาราวกับว่ากำลังลิ้มรสอาหารอันโอชะมื้อหนึ่ง “ทะ..ท่านเคาน์คะ หากท่านยังทำแบบนั้น..ข้าจะทน..ไม่ไหว..” เธอพยายามผลักเขาออกแต่มันก็ไม่เป็นผลเลย เมื่อมีตัวเขามากั้นกลางในระยะประชิด เรียวขาบอบบางจึงหุบไม่ได้ ทางเดียวก็คือต้องกางขาออกเพื่อให้เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้เช่นนั้น “จีเซล เจ้ายังรอข้าอยู่รึเปล่า” “!!” เสียงเรียกนั้นทำให้เธอสะดุ้งเฮือกในทันที เพราะว่ามันคือเสียงของเดเมี่ยนยังไงล่ะเลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







