Masukเขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไป ความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ.. เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา “อื้อ!!” จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหา เขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค “อ๊า!” เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ “..อีกรอบก็แล้วกัน” มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสามารถทำให้เขารู้สึกดีได้ เช่นนั้นเธอก็ยินยอม “กี่รอบก็ได้ค่ะ ยังไงในคืนนี้ข้าก็เป็นของท่านอยู่แล้ว” นั่นแหละที่อยากได้ยินน่ะ นั่นแหละที่เขาอยากได้ยินที่สุด “ข้าชอบที่เจ้าหลงข้ามากขนาดนั้นนะจีเซล ชอบมากจริงๆ ที่เจ้าหลงรักข้ามากเสียจนยินยอมถวายทั้งชีวิตให้ข้าน่ะ” เธอช้อนสายตามองหน้าเขา ที่ท่านฟาเบียนกล่าวออกมามันไม่ผิดแม้แต่ครึ่งคำ เธอชอบเขามากจริงๆ ..เธอรักเขามากเหลือเกิน “ข้ารักท่านฟาเบียนมากนะคะ..รักท่านมากจริงๆ” เขามองหน้าเธอเงียบๆ ก่อนที่จะพลิกตัวจีเซลให้นอนหงาย.. “บอกรักข้าผ่านทางการกระทำของเจ้าสิจีเซล บอกให้ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการข้ามากแค่ไหน..” ความเร่าร้อนจากครั้งที่แล้วยังไม่ทันจางหาย ความเร่าร้อนครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้วละสิ . . “ทำไมข้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือจากดยุคด้วย อีกทั้ง..มันช่วยอะไรไม่ได้หรอกจีเซล” สองสัปดาห์ผ่านมาก็ถึงวันที่เธอนัดหมายกับเดเมี่ยนเอาไว้ และแน่นอนว่าท่านเคาน์นั้นไม่ยินดีที่จะรับความช่วยเหลือจากเดเมี่ยนเลยสักนิดเดียว “ถึงอย่างนั้นข้าก็อยากจะลองดูค่ะ..ท่านเคาน์ขอร้องเถอะนะคะ ช่วยเห็นแก่ความรักที่ข้ามีต่อท่าน แล้วมาหาทางแก้ไขอย่างอื่นก็น่าจะดีกว่า” “สิ่งที่เจ้ากำลังทำมันไร้ประโยชน์นะสาวน้อย” ปีศาจตนนั้นโผล่ขึ้นมาที่ด้านหลังของฟาเบียน และเขากำลังมองหน้าของเธออยู่ แน่นอนว่าเพราะปีศาจตนนั้นไม่มีหน้าตาทำให้เธอเดาสีหน้าของเขาไม่ออก “ข้าแค่อยากลองดู..อะไรก็ตามที่ทำให้ข้าได้อยู่กับท่านฟาเบียนข้าล้วนแล้วแต่ยินยอมทั้งนั้น!!” เขายื่นมือมากุมมือของเธอเอาไว้ “จีเซลเราจะไม่เป็นไร..” “เป็นแน่ๆ เพราะหากพวกเจ้าไม่ทำตามคำร้องขอของข้า ไม่คนใดคนหนึ่งก็จะต้องตาย..หากฟาเบียนไม่สังหารเจ้า เขาก็จะตาย ซึ่งเขาทำใจสังหารเจ้าไม่ได้อยู่แล้วล่ะ” นี่คือความจริงที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้เลย ท่านฟาเบียนพยายามจะบอกปัดในเรื่องนั้นมาตลอด แต่ทว่าเราก็ทำได้แค่ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ และเท่าที่จีเซลสังเกต ร่างกายของท่านฟาเบียนในยามนี้กำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ เธอไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ไหม “แต่ข้ามีทางเลือกให้เจ้านะจีเซล ทางเลือกที่มีแต่เจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ทำได้ เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเจ้ายินยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เจ้าและเดเมี่ยนได้อยู่ด้วยกันต่อไป เช่นนั้นเจ้ามอบเด็กคนนั้นให้ข้าได้รึเปล่าล่ะ” ปลายนิ้วของปีศาจชี้มาที่ท้องของเธอ และนั่นทำให้จีเซลรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกค้อนทุบที่ศีรษะซ้ำๆ “ข้ามองเห็นเด็กตัวน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในนั้น..เป็นเด็กผู้หญิงที่มีชะตาต้องกันกับข้าเลย ส่งมอบนางมาให้ข้าแค่เท่านั้นข้าจะปล่อยฟาเบียนไป” ฟาเบียนรีบกอดจีเซลเอาไว้ในทันที “ไม่ได้นะ!! เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นกับลูกของข้า” ทั้งๆ ที่นี่คือเรื่องที่เราควรจะยินดีมากแท้ๆ ข่าวการตั้งครรภ์ของเธอมันควรเป็นเรื่องที่เธอและฟาเบียนโอบกอดกันเอาไว้ด้วยความสุข แต่ก่อนหน้านี้เธอกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ จีเซลยกมือขึ้นมากุมท้องของตัวเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกหมดแรง นี่เธอกำลังตั้งครรภ์งั้นหรือ? ให้ตายสิเรื่องมันดำเนินมาถึงตอนนี้ได้อย่างไรกัน “ตอบตกลงไปเถอะครับจีเซล” ดยุคเดเมี่ยนเดินเข้ามาหาจีเซล เขามองหน้าเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะมองหน้าของจอมปีศาจ “ท่านดยุค..” “ข้ามองเห็นครับ ดวงชะตาและอนาคตของเด็กคนนี้..นางเกิดมาเพื่อจอมมารอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนางจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน” จอมมารเดินไปหาเดเมี่ยนอย่างถูกใจ “ข้าเกลียดชังพวกที่มีความสามารถพิเศษจริงๆ ..” “แต่เจ้าก็ตกหลุมรักผู้วิเศษไม่ใช่รึไง ปล่อยท่านเคาน์ไปเถอะ..เจ้าได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วนี่” จีเซลและฟาเบียนมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจในคำกล่าวของ เดเมี่ยน “ข้าควรจะทราบเรื่องที่พวกท่านกำลังคุยกันไหมคะ?” เดเมี่ยนส่งยิ้มจางๆ ให้จีเซล “เดี๋ยวข้าจะเล่าทุกอย่างที่เจ้าฟังเอง แต่ก่อนหน้านั้นจอมปีศาจจะต้องปล่อยท่านเคาน์ไปก่อน ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เด็กคนนี้มีชะตาที่สวนทางกับเจ้าไปตลอดกาล” จอมปีศาจเงียบในทันที เขาเดินเข้าไปหาจีเซลก่อนจะยื่นปลายนิ้วไปแตะที่หน้าผากของเธอ “อีกสิบเก้าปีข้าจะมาที่นี่เพื่อมารับนางไป..เจ้าได้ทำสัญญากับข้าแล้วนะจีเซล” เมื่อกล่าวจบเขาก็กลายเป็นกลุ่มควันพุ่งทะลุร่างกายของฟาเบียนในทันที และในวินาทีนั้นร่างกายที่หนักอึ้งของฟาเบียนก็พลันเบาสบายขึ้นมา “นี่มัน..เกิดอะไรขึ้น?” เดเมี่ยนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “เราไปคุยกันด้านในดีกว่านะครับ” จีเซลมองหน้าของเดเมี่ยนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน เธอทั้งหวาดกลัวและกังวลอย่างบอกไม่ถูก จริงอยู่ที่ตอนนี้เธอมองไม่เห็นเงาปีศาจที่ผูกติดเอาไว้กับร่างกายของท่านเคาน์แล้ว แต่ทว่ามันต้องแลกมากับการที่เธอยกลูกในท้องให้กับจอมมารอย่างนั้นหรือ? แค่คิดก็ดูเหมือนว่าจะทำใจลำบากแล้วละสิ.. “เราจะไม่เป็นไร ข้าบอกเจ้าไปแล้วไงว่าเราทั้งคู่จะต้องผ่านมันไปได้ในทุกขวากหนามน่ะ เพราะอย่างนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าและปกป้องลูกของเราด้วย”
เลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







