Masukเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้นฟาเบียนก็หันหน้ากลับไปมองในทันที เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยราวกับจะบอกสาวใช้ผู้นั้นว่า เขาคนนี้กำลังให้โอกาสนางหุบปากแล้วจากไปซะ
“คะ..คือว่าจีเซลนางไม่สบายค่ะ” ฟาเบียนเดินต่อไปโดยที่ไม่ฟังคำกล่าวรั้งของสาวใช้ผู้นั้นเลยด้วยซ้ำ เขายกมือขึ้นมาแล้วชี้นิ้วไปที่พ่อบ้านคอลตันเพื่อให้พ่อบ้านไปจัดการสาวใช้ที่กำลังทำเรื่องโง่ๆ อยู่ คอลตันเดินเข้าไปหาอันนาก่อนที่เขาจะจับข้อมือของเธอเอาไว้ “อันนา..ขอร้องล่ะอย่าทำแบบนี้ นายท่านของเรากำลังโกรธและเจ้าไม่ควร..ทำเรื่องอันตรายอย่าการขัดขวางท่าน” อันนามองหน้าของท่านพ่อบ้านด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก “แต่ว่าจีเซล..” “ให้นางแก้ปัญหาที่นางสร้างเอาไว้ด้วยตนเองเถิด เจ้าไปทำงานของเจ้าต่อซะ แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้อีก” แล้วอันนาเลือกอะไรได้ไหมล่ะ..นอกจากการก้มหน้าลงเพื่อยอมรับคำกล่าวของพ่อบ้าน . ฟาเบียนหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ที่นี่คือพื้นที่ที่มีเอาไว้เพื่อให้สาวใช้ในคฤหาสน์ได้พักผ่อน นี่คือแนวคิดของท่านพ่อ นั่นคือการสร้างบ้านหลังเล็กๆ หลายๆ หลังเพื่อให้สาวใช้ได้อยู่ ไม่ใช่ตึกแต่เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเล็กน้อย เพื่อให้สาวใช้เหล่านั้นคิดซะว่าที่คฤหาสน์ซากอสคือบ้าน พวกนางจะได้ยินดีอยู่ที่นี่และตายที่นี่ด้วย.. เมื่อเปิดประตูเข้าไปเป็นบ้านโล่งๆ ที่มีสองห้องนอน ที่นี่สะอาดมากกว่าที่คิดเอาไว้นิดหน่อย เขาเดินไปในห้องที่ปิดประตูอยู่ เมื่อฟาเบียนเปิดเข้าไปก็พบเจอกับจีเซลที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเปิดประตูเข้ามาแล้ว.. เป็นสตรีที่นอนหลับโดยที่ไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาเลยจริงๆ เขาที่กำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้าถึงกลับชะงักเมื่อเห็นท่าทางที่กำลังนอนหลับสบายของเธอ แล้วนี่เขา..ควรทำอย่างไรดีนะ หยิบมีดขึ้นมาแล้วจัดการสังหารเธอซะ หรือว่าเขาควรจะส่งเสียงดังเพื่อให้เธอตกใจตื่นก่อนดี.. “จะเอาอย่างไรดีฟาเบียน..สตรีผู้นี้แม้แต่ยามที่นางนอนหลับก็ยังคงงดงามมากจริงๆ ..ไหนเจ้าบอกว่าข้าตาต่ำล่ะ แล้วไอ้ท่าทีเคลิบเคลิ้มพวกนี้มันคืออะไรกัน” ฟาเบียนกลอกตาไปมา เขาไม่พอใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินว่าเขากำลังเคลิบเคลิ้มอย่างนั้นหรือ “ไสหัวไปซะ ข้าไม่อยากให้เจ้าอยู่ด้วยในช่วงเวลาเช่นนี้หรอกนะ..” ปีศาจตนนั้นถึงแม้ว่าจะไร้หน้า แต่ทว่าฟาเบียนก็กำลังสัมผัสได้ว่าเจ้าปีศาจกำลังยิ้ม “ข้าไปก็ได้..แต่ครั้งหน้าข้าจะต้องอยู่ด้วยในช่วงเวลาที่เจ้า..กัดกินร่างกายนั้นของนาง..” “ไม่รับปาก” เมื่อฟาเบียนกล่าวจบเขาก็วาดมือไปในอากาศในทันทีเพื่อให้ปีศาจตนนั้นหายไป เตียงนอนของเธอช่างคับแคบยิ่งนัก ขนาดสตรีตัวเล็กๆ อย่างเธอนอนคนเดียวยังเต็มเลย เช่นนั้นหากเขาจะนอนบนเตียงนี้เราทั้งสองก็ควรจะนอนซ้อนกันอย่างนั้นสินะ ถึงจะสามารถนอนลงไปได้น่ะ “ยะ..อย่านะคะ..” จีเซลยกมือขึ้นมาปัดป่ายไปในอากาศด้วยความตกใจราวกับว่าเธอกำลังฝันร้าย เขามองเธอด้วยสายตาที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง..ก่อนที่ฟาเบียนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่กำลังปกคุลมร่างกายของเธอลงมาเล็กน้อยเพื่อให้เขาซุกตัวเข้าไปในนั้นได้ “....” นี่คือเหตุผลที่สาวใช้ผู้นั้นกล้าออกมาห้ามเขาอย่างนั้นสินะ เพราะว่าจีเซลนอนทั้งๆ ที่นางสวมเพียงกางเกงซับในเท่านั้น.. เมื่อเห็นภาพที่แสนงดงามนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฟาเบียนถึงรู้สึกคอแห้งไปหมด สายตาของเขากำลังกลืนกินเธอทั้งตัว มันเต็มไปด้วยความร้อนแรงและแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนเร้น เนินเนื้อเบียดชิดคู่นั้นหากรวบแล้วคงเกินฝ่ามือ หรือหากบีบเคล้นมันคงปริออกมาตามร่องนิ้วเป็นแน่ ปลายยอดสีชมพูอ่อนอวดโฉมล่อตา ช่างน่าดูดดึงให้ติดปากยิ่งนัก.. จากความรู้สึกที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง ในตอนนี้เขาถูกหลอมละลายอย่างช้าๆ จนสัมผัสได้ถึงจุดเดือดที่อยู่ด้านใน “ขะ..ข้า..ขอโทษค่ะ..อย่า..ยะ..อย่าทำร้ายข้าเลยนะคะ..ได้โปรด ..นายท่านคะ ข้ายังไม่อยาก..ตาย” ฟาเบียนล้มตัวนอนลงข้างๆ จีเซล เขายกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเธอเอาไว้ เขาใจดีถึงขนาดที่ยินยอมใช้ไหล่ของตนเป็นหมอนหนุนให้แก่เธอ แต่ทว่าเธอกลับเรียกชื่อของเขาออกมาอย่างนั้นหรือ? แล้วเธอรู้ได้อย่างไรกันนะว่าเขา..อยากจะฆ่าเธอมากแค่ไหนน่ะ มืออีกข้างของฟาเบียนปลดกระดุมเสื้อของตนเองออก กระดุมเสื้อตัวนี้จีเซลเป็นผู้ติดกระดุมให้เขาเองกับมือ ปกติแล้วเธอต้องเป็นคนถอดมันออก แต่ไม่เป็นไร เขาใจดีมากถึงขนาดยินยอมถอดกระดุมเสื้อพวกนี้ออกด้วยตัวเองเลยนะ จากที่เดินมาที่นี่ด้วยความโกรธแค้นที่เขาในตอนนั้นอยากจะสังหารจีเซลให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ทว่าในตอนนี้เขากลับ..ไม่มีความคิดเช่นนั้นอีกแล้ว แต่ยังคงอยากทรมานเธอไม่แตกต่างไปจากตอนแรกเลย เขาวางมือลงเบาๆ บนทรงอกของเธอ โดยที่สายตาของฟาเบียนกำลังจ้องมองไปยังใบหน้าที่สุดแสนจะทรมานของจีเซล เธอกำลังเผชิญหน้ากับฝันร้าย เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเขาคือการทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเอง..และไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ใจดีขนาดนั้น ปลายนิ้วของเขาไล้ผ่านผิวเนียนนุ่มที่ทรงอก สร้างความสั่นไหวในทุกอณูของความรู้สึกเธอ.. จีเซลขมวดคิ้วในทันที เธอกำลังรู้สึกหวาดกลัวต่อนายท่านที่ยืนอยู่เบื้องหน้า แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายถึงได้ร้อนขึ้นมาเช่นนี้.. “อย่าได้ริอาจขัดคำสั่งของข้าอีก!!” จีเซลเอ่ยตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ มันราวกับว่ามีใครบางคนกำลังสัมผัสร่างกายของเธออยู่ ที่ยอดอกคล้ายถูกปลายลิ้นตวัดเลียไปมา จนเธอต้องยกมือขึ้นมาจับมันเอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงปลายลิ้นของเขาผู้นั้น “เป็นอะไรไปจีเซล..ทำไมทำหน้าเช่นนั้นล่ะ หรือว่าเจ้าเองก็ต้องการนอนกับข้า..” อา..พระเจ้าคงกำลังลงโทษเธออยู่สินะ เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเลือกที่จะเป็นนางบำเรอของเขาแทนที่จะเลือกสาวใช้ แน่นอนว่าด้วยใบหน้าของท่านเคาน์ฟาเบียน จีเซลคิดว่าการได้เป็นนางบำเรอของเขามันคงจะเหมือนอยู่บนสวรรค์เลย แต่ทว่าเธอคงลืมไปว่าถึงเขาจะหล่อโดนใจมากแค่ไหน แต่ทว่าเขาคือตัวร้ายนะ.. “หากต้องการเช่นนั้นเจ้าก็ถอดชุดออกซะสิ” นี่เธอกำลังฝันบ้าบออะไรกันอยู่วะ หากตอนที่เธอตื่นขึ้นมาเธอจะกล้ามองหน้าท่านเคาน์ได้อย่างไรกัน “มะ..ไม่..” ฟาเบียนแค้นหัวเราะออกมาเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังครอบครองยอดอกของเธอเอาไว้.. “อยากรู้จังเลยนะว่าหากเจ้าตื่นขึ้นมาเห็นสภาพของเราเป็นแบบนี้เจ้าจะทำหน้าแบบไหนกันจีเซล..หรือว่าข้าควรจะปลุกเจ้าขึ้นมาดีนะ..”เลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







![I'll follow Apollo [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)