Share

บทที่ 14

ฉันเอาความคิดของผู้ชมไปพูดกับทั้งสองคน แน่นอนว่าหยินเฉิงเหยาไม่รู้ว่าฉันกำลังไลฟ์สดอยู่

หยินเฉิงเหยาหน้านิ่ง “ผู้จัดการชองโรงแรมเอมส์ คนปัจจุบันก็คือลูกเขยของประธานโรงแรม ว่ากันว่าตอนแรกเขาเข้ามาทำงานที่โรงแรมในตำแหน่งผู้จัดการล็อบบี้อยู่ไม่กี่วัน ต่อมาถูกลูกสาวของประธานชอบเข้าเลยแต่งงานในเวลาต่อมา”

และจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ “ไม่แปลกใจเลยที่เข้ารับตำแหน่ง เขาบอกว่าเขาต้องการทำลายความเชื่อเรื่องศักดินาและไม่เชื่อเรื่องผี ที่แท้ก็กลัวคนอื่นจะรู้เรื่องไม่ดีของเขา”

ถังหมิงหลีพูดต่อ “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องพวกนี้ พวกเรามาช่วยกันคิดดีกว่า ว่าจะออกจากที่นี่ยังไง”

จุนเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางเอ่ย “ฉันมีวิธี แต่ไม่รู้จะใช้ได้ไหม ต้องลองดู”

ทั้งสองคนมองมาที่ฉันด้วยสายตาประหลาดใจ มือเรียวหยิบตะปูที่ทำจากต้นท้อมาเจ็ดอันและหยิบค้อนออกจากกระเป๋าเป้ ขาเรียวเดินไปที่ประตูบันไดแล้วพูดว่า “เมื่อก่อนฉันเคยเรียนจากนักปราชญ์มานิดหน่อย นี่คือการใช้คาถาไล่ผี และเพื่อจัดการกับผีที่มาจากกำแพง แต่ฉันไม่รู้ว่าจะสามารถกำจัดพื้นที่ของผีคนนี้ได้ไหม”

พูดจบ ร่างบางก็ท่องคาถาอย่างละเอียดเข้าไปในค้อนและตะปู แล้วตอกลงไปบนพื้น

แน่นอนว่าบนพื้นเต็มไปด้วยดินโคลน ฉันตอกลงไปอย่างง่ายดาย ชายทั้งสองถึงกับตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยินเฉิงเหยา ดวงตาของเขาส่องแสงเป็นประกายเล็กน้อย

ฉันตอกตะปูไม้ท้อทั้งเจ็ดอันตามตำแหน่งของดาวทางโหราศาสตร์ แล้วทาซินนาบาร์ลงบนตะปูไม้ เมื่อทำเสร็จก็รู้สึกหอบและเหงื่อออกที่หน้าผาก

ถังหมิงลียื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ฉันยิ้มให้เขาพร้อมเอ่ยขอบคุณ ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าหยินเฉิงเหยาดูเหมือนจะไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ปกติเขาก็เป็นคนหน้าตายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าหน้าตาของเขาจะหล่อแค่ไหนบนใบหน้าก็ยังไร้ความรู้สึกอยู่ดี

ทันใดนั้น ฉันก็อาเจียนออกมาอย่างอนาจ หลังจากทำท่าทางการวาดตามในหนังสือของราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางเสร็จ ฉันรีบตัดสินใจให้เด็ดขาดพลันท่องคำอ่านเสียงดัง “ท่านฮกเต็กเจี้ยสิน เจอเรื่องเข้าใจ ให้พรคนในหมู่บ้าน ดูแลคนผ่านไปมา กลางคืนเดินไม่ง่าย ช่วยชี้ทางให้ถูกทาง ทำตามคำสั่งทันที” ทันทีที่สิ้นเสียง ตะปูไม้ท้อทั้งเจ็ดก็สว่างขึ้น พุ่งออกมาเป็นไฟสีขาวเจ็ดดวง และพุ่งไปยังทางเดินข้างหน้า

ถ้าหากผีออกมาจากกำแพง แสงนี้จะพุ่งออกมาและจะปัดเป่าภาพลวงตาทันที

แต่ในเวลานี้ แสงสีขาวที่ส่องเข้ามาก็เหมือนวัวดินปั้นตกทะเล ไม่มีเสียงตอบกลับแม้แต่น้อยและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ประตูทางเดินยังคงเป็นทางเดินบนชั้นสิบแปดแทนที่จะเป็นบันได

หน้าฉันซีดทันที ที่ทำไปทั้งหมดมันไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆ

หยินเฉิงเหยาหัวเราะเยาะ “ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถมากมาย แต่ก็งั้น ๆ แหละ”

ร่างเล็กไม่พอใจมาก ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่จิตใจต่ำช้า ปากของเขายังเสียมากด้วย

สุดท้ายถังหมิงหลีก็พูดขึ้นมาว่า “งั้นนายก็มาทำ?”

หยินเฉิงเหยาเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ฉันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้กับถังหมิงหลี

เมื่อฉันกลับมาที่ห้อง สายตาก็เหลือบไปมองที่ม่านกระสุนอีกครั้ง มีผู้ชมที่ชื่อ “ลมตะวันออก” ดึงดูดความสนใจของฉันให้เข้าไปอ่าน

[แอดมิน ฉันมาจากเมืองซานเฉิง ฉันรู้โรงแรมที่คุณกำลังพูดถึงคือโรงแรมไหน ตอนนี้ฉันมาถึงโรงแรมแล้ว ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยคุณออกมาให้ได้]

พูดจบเขายังให้มงกุฎแก่ฉันเป็นรางวัล

[คนก่อนหน้านี้เป็นคนที่กล้าหาญจริง ๆ ! สู้ ๆ นะ ต่อสู้เพื่อฮีโร่ของเราพาแอดมินหญิงกลับบ้าน]

[พี่ของฉันเก่งมาก ในผู้ชมทั้งหมดฉันขอคารวะคุณ]

ลมตะวันออกส่งข้อความมาอีกแล้ว

[ฮ่า ฮ่า พวกคุณรอดูฉันอุ้มคนสวยกลับบ้านเป็นไง]

ฉันหัวเราะพลางคิด ถ้าเขารู้ว่าฉันหน้าตาแบบนี้ เขาคงไม่มาที่โรงแรมเอมส์อย่างแน่นอน

พวกเรากลับไปที่ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสี่และศพบนพื้นก็ยังอยู่ ดูเหมือนจะเริ่มพองแล้ว ถังหมิงหลีฉีกผ้าปูที่นอนเพื่อเอามาคลุมศพไว้ “พวกเราไปที่ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสองกันเถอะ อยู่ร่วมกับศพแล้วไม่ค่อยสบายเท่าไหร่”

ไม่ค่อยสบายที่ไหนกัน ฉันว่าจริง ๆ กลัวจนฉี่จะราดมากกว่า

ทว่าขณะที่เรากำลังหันหลังกลับนั้น จู่ ๆ ศพที่อยู่บนพื้นก็ขยับได้

มันยืนขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับผ้าปูที่นอนสีขาว

สีหน้าของหยินเฉิงเหยาเปลี่ยนไป เขาหันกลับมาถีบตัวศพจนมันกระเด็นออกไปหลายเมตร

ทำให้ผ้าปูที่นอนที่พันรอบตัวเธอหลุดออก เผยให้เห็นใบหน้าสีขาวหม่นหมองของเธอ มีรอยช้ำที่คอ

เธอใช้มือไล่ตามจับพวกเรา ฉินเฉิงเหยาหันกลับมาและเตะออกไปด้วยเท้าข้างหนึ่งเข้าไปที่หัวของศพอย่างดุเดือด แต่เธอหลับทัน

จะไม่พูดคงไม่ได้ ขณะที่เขาถีบ เจ้าตัวก็ยังหล่อมาก ๆ

“รีบไปกันเถอะ” ถังหมิงหลีตะโกนออกไปเสียงดัง พวกเราสามคนรีบวิ่งไปทางประตูห้อง ศพผู้หยิงคนนั้นก็ยังตามมา เล็บทั้งสองของเธอส่องประกายด้วยแสงสีดำสนิท

หยินเฉิงเหยารีบปิดประตูทันที ประตูโรงแรมถูกล็อคโดยอัตโนมัติ มีเสียงเกาประตูเอี๊ยด ๆ ดังมาจากด้านใน

พวกเราถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้จึงทำได้แค่ไปที่ห้องหนึ่งแปดหนึ่งสอง ทันทีที่ฉันนั่งลงก็รู้สึกปวดท้องเล็กน้อยและต้องการจะไปเข้าห้องน้ำ หรือว่าปิ้งย่างเมื่อคืนนี้ไม่สะอาดเหรอ?

ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดกับ ถังหมิงหลีอย่างลับ ๆ ว่า “ฉันมีธุระด่วนนิดหน่อย นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?”

ห้องน้ำทั้งสองห้องสามารถเปิดผ่านกันได้ ฉันไม่อยากเจอภาพที่ยังทำธุระยังไม่เสร็จ จู่ ๆ ผีผู้หญิงคนนั่นก็โผล่มา มีคนอยู่ข้างกายก็ดีจะได้รับมือได้

“ไม่มีปัญหา” หลังจากถังหมิงลีพูดจบ เขาก็หันไปเหลือบมองหยินเฉิงเหยา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย หยินเฉิงเหยาขมวดคิ้วแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

ห้องน้ำในโรงแรมระดับห้าดาวนั้นหรูหรามากและมีโซฟาตัวเล็กอยู่ด้วย ฉันนั่งบนชักโครก โซฟาตัวเล็กหันหลังฉันอยู่ ทำให้เขามองไม่เห็นฉัน

ร่างบางถอนหายใจด้วยความโล่งอกและทำธุระอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานโทรศัพท์ก็สั่น สายตาเหลือบมองเห็นว่า "ลมตะวันออก" ต้องการเพิ่มฉันเป็นเพื่อน ฉันก็เลยรับเขา

เสียงตะโกนของเขาดังขึ้นในหูฟัง “แอดมินครับ ผมคือลมตะวันออกนะ คุณได้ยินเสียงผมไหม?”

“ได้ยิน” ฉันรีบตอบ

เสียงของลมตะวันออกสั่นเล็กน้อย และดูเหมือนตกใจ

“แอดมิน ตอนนี้ผมอยู่ชั้นที่สิบแปด ตอนนี้ผมเจอคนคนหนึ่ง เขาก็ตามหาคุณอยู่เหมือนกัน”

“ใคร?” ฉันถามด้วยความสงสัย

“ถ้าผมบอก คุณก็อย่ากลัวก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องเล่นลิ้นแล้ว รีบพูดมา”

อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ผมเจอจอมเผด็จการ !”

ฉันมือสั้นจนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเกือบจะร่วงลงพื้น

จุนเหยาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองถังหมิงหลีที่กำลังหันหลังให้ตนอยู่ ลมตะวันออกต้องอยู่ที่ชั้นสิบแปดจริงแน่ ๆ แต่ถ้าคนที่เขาเห็นคือถังหมิงหลี แล้วคนที่อยู่ข้างหน้าฉันนี่คือใคร?

“คุณแน่ใจเหรอ?” เพื่อไม่ให้เขาตกใจ ฉันเลยเปลี่ยนมาเป็นการพิมพ์แทน

ลมตะวันออกบอกว่า “ฉันได้คุยกับจอมเผด็จการแล้ว...”

ทว่าก่อนที่เสียงจะจบลง โทรศัพท์ถูกแย่งไป และเสียงของถังหมิงหลีก็ดังมาจากหูฟังแทน “จุนเหยา คุณอยู่ที่ไหน?”

คือถังหมิงหลีจริง ๆ !

มือของฉันเริ่มสั่นหนักเข้าไปอีก ถังหมิงหลีพูดอย่างกังวล “ฉันโทรบอกเธอแล้วว่า คืนนี้ฉันมีธุระไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอยังไปอีก?”

นัยย์ตาคมเบิกกว้างรีบพิมพ์ตอบ “คุณโทรหาฉันเมื่อไหร่?”

ถังหมิงหลีพูดว่า “ก็ประมาณทุ่มกว่า ๆ เธอบอกว่าเธอรู้แล้วไม่ใช่เหรอ? พอฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ก็ร้อนใจจนรีบมา“

ฉันมือสั่นยิ่งกว่าเดิม ฉันไม่เคยรับสายโทรศัพท์ของเขาเลยด้วยซ้ำ !

หรือจะพูดได้ว่า นี่คือถังหมิงหลีตัวปลอมตั้งแต่ต้น !

พอคิดอย่างละเอียด ก็รู้สึกน่ากลัวจนขนลุก!

ที่แท้ฉันใช้ชีวิตร่วมกับผีนานขนาดนี้เลยเหรอ?

“จุนเหยา ยังไม่เสร็จอีกเหรอ?” ถังหมิงหลีที่อยู่ตรงหน้าฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฉันหนาวไปทั้งตัว แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้พลางเอ่ยตตอบ “กำลังจะเสร็จ”

ร่างเล็กใส่กางเกงเสร็จก็ยืนมองดูอีกฝ่ายอย่างละเอียด ทั้งรูปร่าง หน้าตา และท่าทางของเขาเหมือนกับถังหมิงลีทุกอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

เขาเป็นผีที่แปลงร่างมาจริงเหรอ?

ฉันคิดในใจ เดี๋ยวนะ ลมตะวันออกอาจไม่น่าเชื่อถือ บางทีทุกอย่างเป็นกับดัก

ยังไงก็ต้องทำให้แน่ใจก่อน

ฉันทำตามที่บอกไว้ในหนังสือคือ ฉันต้องปล่อยพลังงานจิตจากดวงตาของฉันและมองขึ้นไปที่เขาอีกครั้ง

สิ่งที่เห็นทำฉันรู้สึกตกใจมาก ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเป็นผีสาวหน้าซีดและมีเชือกคล้องคอเธอ!

จุนเหยาระงับความกลัวทันทีและรีบเดินออกจากห้องน้ำ ฉันมองไปยังหยินเฉิงเหยา ตาของฉันมองออกไปทำทีสะดุดกับเท้าของตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือเข้ามาช่วย ฉันเลยเขียนคำสองสามคำลงบนฝ่ามือเบา ๆ ว่า

“เขาคือผี”

พลันรีบเอามีดที่ทาซินนาบาร์ใส่มือหนาอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของหยินเฉิงเยาสั่นไหว จากนั้นเขาก็โยนฉันออกไปและพูดอย่างเย็นชา “ยืนขึ้นเองแล้วกัน ผู้หญิงนี่ปัญหาเยอะจริง ๆ “

มุมปากของฉันกระตุกสองครั้ง และฉันใช้ความกล้าหาญที่จะหันไปพูดกับถังหมิงหลีตัวปลอมว่า “ผู้ชายคนนี้เกลียดผู้หญิง เขาต้องเป็นเพื่อนที่ดีแน่ ๆ “

ถังหมิงหลีตัวปลอมหัวเราะ แต่ร่างกายของหยินเฉิงเหยาแข็งชะงักอย่างเห็นได้ชัด เขาหรี่ตาจ้องมาที่ฉันอย่างเชือดเฉือนจนรู้สึกหนาวไปทั่วหลัง

ฉันเดินไปเปิดตู้เย็น ข้างในมีเบียร์อยู่หลายชนิดและมีไวน์แดงอยู่สองสามขวด มือบางดึงออกมาหนึ่งขวด “ดื่มด้วยกันสักแก้วไหม? ให้หายตกใจ”
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Tanancha Thitham
สนุกมากมาย
goodnovel comment avatar
Boonta Tomya
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status