LOGINหลังจากที่นั่งทำงานอย่างเหม่อลอยและนั่งจิ๊บไวน์ไปได้มากพอสมควรตอนนี้ฉันพอมีสติอยู่บ้างและรีบเดินออกมาจากบริษัททันทีเพื่อที่จะกลับบ้านในตอนนี้
ฉันโทรบอกให้คนรถที่บ้านมารับเพราะฉันขับไปเองไม่ไหวแน่ๆ เลยไม่อยากเสี่ยงและกลัวรุ่นน้องคนนั้นอีกด้วย ฉันยืนรอลุงขับรถที่หน้าบริษัทคนเดียวและมีสายตาของรุ่นน้องคนนั้นที่จ้องมองมาและค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันทีละน้อยๆ
ฉันทำเป็นไม่สนใจและควานหาเครื่องช็อตไฟฟ้าอย่างลนลานจนกระทั่งจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนเดินเข้ามาแตะที่หัวไหล่ของฉันทำเอาฉันทรุดลงกับพื้นทันที ฉันหลับหูหลับตาพนมมือไหว้อย่างสั่นกลัว
"ฮือออ อย่าทำอะไรฉันเลยฉันกลัวแล้ว"
"เป็นอะไรหรอครับคุณแอลลีน ผมเห็นอันนี้คุณแอลลีนตกเลยเอามาให้ครับ"
"ขะ....ขอบใจ"ฉันรีบรับพวงกุญแจที่พลูโตเคยเอาให้จากพนักงานคนนั้นทันทีและรีบเช็ดนํ้าตาทำให้เป็นปกติ
พนักงานชายคนนั้นยืนมองฉันอยู่สักพักและเดินเข้าไปในบริษัทอย่างเร็วรี่ก่อนที่รถของทางบ้านฉันจะมารับ
ฉันไม่ได้พูดหรือถามอะไรเลยแม้แต่น้อยและพยายามนั่งข่มตานอนเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาเพื่อที่จะได้ไปสู้รบกับคนที่บ้านอีก
@ คฤหาสน์ของพ่อแอลลีน
พอมาถึงที่บ้านคนแรกที่เห็นก็คือแม่เลี้ยงของฉันนั่นเอง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเธอเลยด้วยซํ้าถึงแม้จะมีรอยยิ้มที่มอบให้แต่ฉันก็ทำหน้าบึ้งตึงแทน
"แม่นมสวัสดีค่ะ คิดถึงแม่นมจังเลย"ฉันเดินเข้าไปสวมกอดแม่นมที่ตอนนี้กำลังถือถาดอะไรบางอย่างอยู่ไม่ไกลจากแม่เลี้ยงของฉันมากนัก
"คุณหนูคะ ไม่น่ารักเลยนะทำไงก่อนคะ"
"เด็กมันนิสัยเสียจะให้ทำไงล่ะนม คุณทำอะไรอยู่หรอให้ผมช่วยไหม"คุณพ่อของฉันที่เดินลงมาจากชั้นบนและเดินตรงดิ่งไปหาแม่เลี้ยงและสวมกอดเธอจากด้านหลัง
"คุณหนูเป็นอะไรรึเปล่าคะ ทำไมดูแปลกๆ"
"คือหนูโดน....."
"จะอะไรล่านมก็เรียกร้องความสนใจไง"
"คุณอเนก!! หนูแอลลูกเดี๋ยวลงมาทานข้าวนะลูกเดี๋ยวน้าจะทำเสี่ยวหลงเปาของโปรดหนูไว้ให้"เธอยังคงยิ้มและแสนดีกับฉันเสมอ จนฉันยืนกำหมัดแน่นข่มหัวใจของตัวเองและจํ้าก้าวขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองทันที
ตุ๊บ!!!!
"ทำไมต้องมาทำดีกับฉันด้วย!!"ฉันใช้มือทุบโต๊ะด้วยความโมโหเมื่อภาพเมื่อกี้มันติดตาอยู่ตลอดเวลา คนแสนดีอย่างเธอต้องมารับมือกับเด็กสารเลวอย่างฉันที่เอาแต่เย็นชาและนิสัยร้ายใส่เธอแต่เธอก็ยังคงดีกับฉันมาตลอดเวลา
"หนูจะไม่ใจอ่อนใช่ไหมคะแม่"พอตั้งสติอะไรได้ฉันก็เดินเข้าไปอาบนํ้าแต่งตัวเพื่อที่จะลงไปทานข้าวตามเวลาปกติที่เคยลงไป
ตอนนี้ทุกคนนั่งรออยู่ที่โซนห้องรับแขกกันหมดและเวลานี้พี่ชายต่างสายเลือดของฉันก็ได้กลับมาที่บ้านแล้วเป็นที่เรียบร้อย
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เดินเข้าไปในห้องรับแขกนั้นจู่ๆ ก็มีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามายื่นกล่องอะไรบางอย่างให้กับฉัน
ฉันยิ้มตอบรับเธอไปและรีบแกะกล่องปริศนานั้นอย่างไม่เร่งรีบ ในกล่องคือกล่องดนตรีอันหนึ่งที่มีรูปร่างแปลกๆ และกระดาษที่เขียนติดไว้ว่าให้เปิดดูก่อนที่ฉันจะทิ้งกล่องนั้นลงกับพื้นพร้อมกับเสียงร้องกรี๊ดที่ดังขึ้นมา
ฉันทรุดตัวลงนั่งใช้มือปิดหูตัวเองเมื่อเปิดออกมาและมันคือเสียงร้องครางที่น่าเกลียดของผู้ชายและร้องเรียกชื่อฉันอยู่ออกมาและด้านหลังของกล่องปริศนาก็มีทั้งใบมีด รูปน่าเกลียดลามกอันนั้นของผู้ชายรวมไปถึงรูปที่ฉันสวมใส่ชุดทูพีชสีขาวชวนเช็กซี่อีกด้วย
แต่มันยังไม่จบเพราะรูปที่มีฉันอยู่มันดันมีคราบสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนอยู่ด้วยพร้อมกับนํ้าเลือดสีแดงที่เปรอะเปื้อนเต็มไปหมด
"กรี๊ดดดดดดด"
"อะไรอ่ะ"
"อะไรกันลูก แอลลีนหนูเป็นอะไร"ทุกคนเมื่อเดินออกมาและได้ยินเสียงนั้นต่างพากันตกใจและรีบวิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันนั่งร้องไห้ปิดหูปิดตาตัวเองและสั่นกลัวเอามากๆ ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นรุ่นน้องคนนั้นแน่ๆ ที่คอยตามมาราวีฉันอยู่
"กรี๊ดดดด ปิดมันสิ!! ฮือออ ฉันกลัวแล้วนะ"ฉันทั้งร้องไห้และวิงวอนเมื่อพ่อและพี่ชายกำลังยืนดูโน๊ตอะไรสักอย่างและสภาพของภายในกล่องพัสดุนั้นอย่างสะอิดสะเอียน
พอฉันบอกออกไปก็เป็นพี่จอมพลที่ก้มลงไปปิดกล่องเสียงนั้นและหยิบโน๊ตขึ้นมาอ่าน
'ชอบไหมครับ ครั้งนี้ส่งแค่เสียงไปก่อนครั้งหน้าอาจจะได้ทั้งตัวแน่ครับ'
"ชอบไหมครับ ครั้งนี้ส่งแค่เสียงไปก่อนครั้งหน้าอาจจะได้ทั้งตัวแน่ครับ"พี่จอมพลพูดออกมาและค่อยๆ แผ่วเบาลงเมื่อประโยคสุดท้าย ก่อนที่จะมีแม่บ้านเดินเข้ามาจัดทำความสะอาด ส่วนฉันนั้นที่ทั้งกลัวและสั่นเทาก็ถูกแม่เลี้ยงเดินพามาที่ห้องรับแขก
"ฮึก ฮือออออ"
"ไม่เป็นอะไรแล้วนะหนูแอล"
"นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน!!"ฉันไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาเพราะกลัวรุ่นน้องคนนั้นอย่างจับใจ ฉันค่อยๆ ละตัวออกมาจากแม่เลี้ยงของฉันและพยายามจะขยับตัวเข้าไปหาพ่อแต่ท่านกลับเบนหน้าหนีและขยับออกห่างฉันอีกต่างหาก
ฉันจ้องมองพ่ออยู่เงียบๆ เมื่อเห็นท่านขยับออกไปมือเรียวบางค่อยๆ กำหมัดนั่นอย่างแน่นเพราะขนาดฉันสั่นกลัวขนาดนี้พ่อยังไม่เคยโอบกอดหรือปลอบฉันเลยก่อนที่แม่นมจะเดินเข้ามานั่งลงกับพื้น
ฉันที่เห็นแบบนั้นจึงวิ่งเข้าไปสวมกอดแม่นมและร้องไห้ออกมา เธอโอบกอดและลูบไหล่ของฉันไว้อย่างอบอุ่นเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ
"ฮือออ แม่นมแอลกลัวอ่ะ"
"พี่จะลากคอมันมาลงโทษเอง"
"ไม่ต้องกลัวแล้วนะหนูแอล ช่วงนี้ก็ให้บอดี้การ์ดตามดูแลหนูไปก่อนเนาะ"ฉันทำได้แค่พยักหน้าตอบกลับแม่เลี้ยงของฉันไป
"ฉันจะเร่งรัดงานแต่งของแกให้เร็วที่สุด"และคำนั้นของพ่อทำเอาฉันถึงกับหยุดนิ่งไปเลย แค่ฉันต้องถูกโดนตามจนข่มขู่แบบนี้พ่อของฉันยังจะมาคุยเรื่องแต่งงานบ้าบอนี้อีก
"คุณคะ"
"พรุ่งนี้พ่อจะนัดตารัฐมาคุย"
"หนูเป็นขนาดนี้พ่อยังจะมาคิดเรื่องแต่งงานอยู่งั้นหรอคะ!! สุดท้าย...พ่อก็เห็นแก่เปอร์เซ็นต์บ้าบอนั่นมากกว่าหนู!! หนูเคยอยู่ในสายตาพ่อบ้างไหมหรือที่ผ่านมาพ่อเห็นหนูเป็นแค่เครื่องจักรที่คอยทำงานรับใช้พ่อหรอคะ"ฉันพูดออกมาทั้งนํ้าตาก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปบนห้องของตัวเอง
ฉันไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กฉันต้องคอยทำตามคำสั่งของพ่ออยู่ตลอดเวลาเพราะอยากอยู่ในสายตาของท่านบ้างและหลายครั้งที่ฉันพยายามเรียกร้องความสนใจของพ่ออยู่ตลอดเวลาแต่ท่านก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจฉันมากอย่างที่คิด
เพราะในสายตาของท่านไม่เคยมีฉันอยู่ในนั้นเลย ตั้งแต่แม่เสียพ่อก็เอาแต่งานแทบจะหมกตัวอยู่กับงานตลอด24ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ จนพ่อมาเจอกับแม่ของพี่จอมพลในสายตาของท่านก็มีแต่เธอและลืมฉันอยู่บ่อยครั้ง
ฉันนั่งกอดเข่าคลุมโป่งอยู่ใต้ผ้าห่มภายในห้องที่มืดมนนั้นอย่างขาดสติ ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นและไขประตูเข้ามาในห้องของฉัน
ฉันค่อยๆ เปิดผ้าห่มออกมาเพราะคิดว่าผู้เป็นพ่อจะเดินเข้ามาหาแต่ก็ไม่เพราะนั้นคือพี่ชายต่างสายเลือดของฉันเองที่เดินเข้ามาหาฉัน
"เรื่องนี้จะเอาไง พี่ว่าควรบอกแฟนเรานะ"
"แอลจัดการเองได้ เรื่องของแอล"ฉันเลือกที่จะเมินหน้าหนีและปาดนํ้าตาแห่งความพ่ายแพ้และอ่อนแอนั้นออกไปจากร่างกาย
"พี่สัญญาว่าพี่จะจัดการไอ้สารเลวนั่นมาลงโทษต่อหน้าแอลให้ได้"
"คงไม่ต้องพึ่งพี่จอมพลหรอกค่ะ แฟนแอลเค้ามีอิทธิพลมากพอ แอลให้เค้าจัดการได้ ออกไปเถอะค่ะแอลอยากอยู่คนเดียว"เขาทำได้แค่พยักหน้าและค่อยๆ เดินออกไปอย่างไม่ได้พูดอะไรออกมา ความเป็นห่วงของเขาที่ฉันไม่ต้องการแต่เขาก็คงแอบทำอย่างเงียบๆ เพื่อปกป้องน้องสาวสารเลวอย่างฉัน
ฉันได้แต่นั่งเฝ้ารอผู้เป็นพ่ออยู่ในห้องอย่างใจจดใจจ่อ จนแล้วจนเล่าแต่ก็ไม่มีวี่แววของท่านที่เดินเข้ามาเลยฉันจึงตัดสินใจเดินไปปิดไฟและโทรระบายอารมณ์ให้กับนํ้าขิงฟัง
บางทีคนนอกครอบครัวก็เป็นห่วงฉันดีกว่าคนในครอบครัวที่ฉันรักเอาซะอีก พวกเขาดูเป็นห่วงและตามดูแลฉันมากกว่าคนในครอบครัว พวกเขาคอยพูดและโอบกอดฉันมากกว่าคนในครอบครัว
จนบางทีกำแพงหัวใจฉันมันก็ค่อยๆ พังทลายลงและเริ่มก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกครั้งและสูงมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
พอวางสายจากนํ้าขิงฉันยังคงนั่งรอประตูบานนั้นที่จะเปิดเข้ามาโดยฝีมือของผู้เป็นพ่อจนฉันเผลอหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวซะอีก
การรอคอยตั้งแต่เด็กจนโตที่ศูนย์เปล่าและไร้ประโยชน์เอามากๆ แต่ฉันก็ยังคงนั่งรออยู่เสมอแม้ว่าจะรู้ผลลัพธ์ของมัน
หลังจากตื่นนอนขึ้นมาฉันก็ทำอะไรแบบซํ้าๆ เดิมๆ เหมือนกับทุกๆ วัน ฉันขอให้คนขับรถไปส่งฉันที่บริษัทตั้งแต่เช้าเพราะไม่อยากเจอใครและขอให้เขารอฉันด้วยในระหว่างที่กำลังรอเพื่อนสนิทของตัวเองพอนํ้าขิงมาถึงฉันก็รีบเดินเข้าไปในบริษัทพร้อมกับเพื่อนและปิดม่านภายในห้องจนหมดตอนนี้ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วรอมร่อไม่รู้เลยว่าควรทำอย่างไงต่อดี"แกโอเคไหมแอล""ฉันกลัวอ่ะขิง ครั้งก่อนยังดีที่พวกแกมาช่วยทัน แต่ครั้งหน้าถ้าพวกแกมาช่วยไม่ทันล่า"นํ้าเสียงสั่นคลอนฉันร้องไห้ออกมาเมื่อความหวาดกลัวมันถาโถมฉันแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยด้วยซํ้ากะจะแจ้งตำรวจก็แจ้งไม่ได้เพราะพวกมันมีอิทธิพลมากกว่าพ่อฉัน ถึงแม้ว่าจะเพียงนิดน้อยแต่พ่อฉันก็สู้อะไรไม่ได้อยู่ดีฉันต้องทนอยู่กับความกลัวมานักต่อนักพอบินไปต่างประเทศก็เหมือนเป็นเซฟโซนอย่างหนึ่งของฉัน เพราะมันปลอดภัยเอามากๆ และไม่ต้องมาคิดหนักอะไรอีก"แกไม่ต้องห่วงฉั
หลังจากที่นั่งทำงานอย่างเหม่อลอยและนั่งจิ๊บไวน์ไปได้มากพอสมควรตอนนี้ฉันพอมีสติอยู่บ้างและรีบเดินออกมาจากบริษัททันทีเพื่อที่จะกลับบ้านในตอนนี้ฉันโทรบอกให้คนรถที่บ้านมารับเพราะฉันขับไปเองไม่ไหวแน่ๆ เลยไม่อยากเสี่ยงและกลัวรุ่นน้องคนนั้นอีกด้วย ฉันยืนรอลุงขับรถที่หน้าบริษัทคนเดียวและมีสายตาของรุ่นน้องคนนั้นที่จ้องมองมาและค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันทีละน้อยๆฉันทำเป็นไม่สนใจและควานหาเครื่องช็อตไฟฟ้าอย่างลนลานจนกระทั่งจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนเดินเข้ามาแตะที่หัวไหล่ของฉันทำเอาฉันทรุดลงกับพื้นทันที ฉันหลับหูหลับตาพนมมือไหว้อย่างสั่นกลัว"ฮือออ อย่าทำอะไรฉันเลยฉันกลัวแล้ว""เป็นอะไรหรอครับคุณแอลลีน ผมเห็นอันนี้คุณแอลลีนตกเลยเอามาให้ครับ""ขะ....ขอบใจ"ฉันรีบรับพวงกุญแจที่พลูโตเคยเอาให้จากพนักงานคนนั้นทันทีและรีบเช็ดนํ้าตาทำให้เป็นปกติพนักงานชายคนน
และหลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนว่าแฟนเก่าของฉันจะได้ห่างหายไปจากชีวิตฉันสักที เขาไม่แม้แต่ที่จะมาเจอหน้าฉันเลยด้วยซํ้าแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อหัวใจของฉันเอามากๆ ที่จะได้ไม่ต้องมาทนคิดถึงและเผลอใจไปรักเขามากกว่านี้อีกแล้วฉันได้แต่ทำงานของบริษัทตามที่พ่อได้บอกไว้และทำเป้าให้สูงขึ้นตามที่พ่อบอก มันทำเอาฉันกดดันตัวเองมากยิ่งขึ้นเพราะบริษัทที่พ่อฉันให้ฉันมาดูแลนั้นคือบริษัทที่ท่านเปิดทิ้งไว้เและกำลังจะล้มละลายไปแล้วด้วยซํ้าจึงทำให้ฉันต้องกระตือรือร้นมากขึ้นหลายเท่าตัวและวิ่งเต้นหางานขายงานให้ได้มากที่สุดต่อเดือนวันนี้ชีวิตฉันมันก็ยังคงดำเนินเหมือนเดิมในทุกๆ วัน ฉันเดินเข้ามาในบริษัทอย่างปกติก่อนที่จะเจอเข้ากับเพื่อนสนิทของฉันที่จ้องมองมาอย่างบอกไม่ถูก"มีอะไรขิงมองอยู่ได้""นั่นไอ้โจ้ใช่ไหมแก ฉันรู้สึกว่ามันตามดูแกอยู่นะเว้ย"ฉันเหลียวหลังหันไปมองตามที่เพื่อนบอกเพราะโจ้คือร
เช้าวันต่อมาวันนี้ฉันต้องตื่นเช้าเพราะมีนัดประชุมจากที่เลื่อนมาจากเมื่อวานฉันรีบลุกขึ้นมาในยามเช้าอย่างเงียบๆ และทิ้งโน๊ตไว้ให้เขาแทนการไลน์หาเพราะไม่อยากพูดคุยอะไรมาก"งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันก็ขอให้ทุกคนกลับไปประสานงานต่อให้สำเร็จ แล้วยื่นแผนมาให้ก่อนวันมะรืนนะคะ มีใครมีคำถามไหมคะ""คุณแอลลีนครับ แผนที่เรานำไปนำเสนอให้กับลูกค้ามีปัญหาเล็กน้อยและต้องแก้ส่งลูกค้าให้ทันภายในอาทิตย์นี้ ผมเกรงว่า....แผนที่เราทำใหม่คงจะไม่ทันครับ"ใช่ที่ฉันต้องรับงานและรีบนำเสนอเพราะจะได้กำไรมากู้บริษัทได้บ้างจึงรีบเร่งให้พนักงานทุกคนทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด"งั้นเราแบ่งกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งทำแผนงานของลูกค้าให้เสร็จ! ส่วนอีกฝ่ายรีบทำงานแผนใหม่ให้ทัน ไม่ดีหรอคะ""ทำไมเราต้องรีบขนาดนั้นล่ะคะคุณแอลลีน""ตอนนี้บริษัทเรากำลังคงตัวได้ไม่ใช่หรอครับ"
บ่ายวันต่อมาพอฉันเริ่มรู้สึกตัวได้บ้างจากที่เมามายเมื่อคืนฉันก็รู้สึกเจ็บระบมร่างกายไปทั่วทั้งตัว ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาทั้งสองข้างที่หนักอึงขึ้นและพบเข้ากับเพดานห้องที่แทบจะไม่คุ้นเคยเลยฉันพยายามมองไปรอบๆ ห้องรวมถึงชายหนุ่มที่นอนข้างกายฉันด้วยพอมองเข้าไปดีๆ ก็พบเข้ากับเขาพลูโตแฟนเก่าของฉันเองและเรือนร่างกายที่เปลือยเปล่าของฉันและเขา มันเดาไม่ยากเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นฉันค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ความเจ็บมันก็ถาโถมเข้ามาจนแทบขยับไปไหนไม่ได้เลยทั้งนั้น แต่ด้วยความปลอดภัยของตัวเองฉันจึงต้องจำเป็นฝืนร่างกายให้เดินออกไปจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด ฉันหยิบชุดของตัวเองขึ้นมาใส่แต่ก็พบกับรอยต่างๆ ที่อยู่บนเรือนร่างจึงโฉบฉวยโอกาสหยิบเสื้อแจ๊คเก็ตยีนสีดำออกมาสวมใส่อย่างถือวิสาสะฉันเดินออกมาจากห้องของพลูโตทันทีและรีบต่อแท็กซี่เพื่อที่จะกลับคอนโดของตัวเองและเดินเข้าไปอาบนํ้าชำระล้างเรือนร่างกายและเข้านอนทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะกินยาเพื่อป้องกันตัวเองความเจ็บปวดและอ่อนเพลียเข้าเล่นงานทำเอาฉันทำอะไรไม่ได้เลยในตอนนั้นแค่แบกสังขารตัวเองกลับมาได้ก็ถือว่าดีสักเท่าไหร่แล้วPART PRUTOในตอนนี้เป็นช่
"อย่าเ_ือก!!!"เสียงคุ้นเคยที่ดังออกมาจากทางด้านหลังและจับตัวฉันไว้ดึงให้ไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างอ่อนโยน ฉันค่อยๆ เหงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูงที่โฉบฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวฉัน พอส่องสายตาเหงยขึ้นไปมองก็พบเข้ากับพลูโต และนั่นแหละเลยทำให้ฉันเห็นว่าคนที่ฉันจะจูบด้วยเมื่อกี้คือชายหนุ่มที่เลี้ยงโต๊ะเรานั่นเองไม่ใช่พลูโตเลยสักนิด"ยุ่งไรวะ!!!""นี่เมียกู!! อย่าเ_ือกให้มากนัก ส่วนเธออ่ะถ้าอยากมากเดี๋ยวฉันสนองให้ ถ้าจะร่านยืนจูบคนอื่นได้แบบเนี้ย"คำพูดของเขาทำเอาฉันยืนนิ่งมองหน้าของเขาไปก่อนที่พลูโตจะลากฉันให้ออกไปจากผับตรงนั้นอย่างเร็วที่สุดโดยมีบอดี้การ์ดยืนคุมอยู่ด้านหลังด้วย"เดี๋ยว! ขิงอ่า ขิงยังอยู่ด้านใน""ฉันให้ไอ้บอสไปดูแลแล้ว เมาอย่างกับหมา ส่วนเธออ่ะไม่ต้องไม่ห่วงใครหรอกนะห่วงตัวเองไม่ดีกว่ารึไงจะแหกอยู่แล้วยังห่วงคนอื่นอีก"พูดจบพลูโตก็ยัดฉันใส่ในรถหรูสีขาวของเขาทันที ก่อนที่จะเดินอ้อมกลับมาที่คนขับ สายตาของฉันจ้องมองเขาอย่างนิ่งๆ เมื่อภาพลวงตาที่เห็นกับความเป็นจริงที่เป็นอยู่มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแฟนเก่าสุดแสนดีของฉันมันคงได้หายไปจริงๆ ซะแล้ว เหลือแต่พลูโตคนชั่วที่เอาไม่เลือก







