All Chapters of ชายาอสรพิษ: Chapter 141 - Chapter 150

166 Chapters

แผนแตก

เรือนใหญ่ตระกูลหลิน แสงโคมไฟสว่างวาบไปทั่วโถงใหญ่ ทุกสายตาต่างจับจ้องยังสตรีผู้หนึ่งที่คุกเข่าอยู่กลางโถง สตรีซึ่งเพิ่งถูกนำตัวกลับมาจากการหายสาบสูญหลายวันหลินอู่ซวง เจ้าสาวที่ถูกลักพาตัวนั่นเองนางมิใช่ผู้สูงศักดิ์อันใด เพียงสตรีที่ถูกเลือกมาเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินกับตระกูลหนาน แต่การแต่งงานครั้งนี้กลับล่มสลายลงต่อหน้าผู้คนนับร้อย ตอนนี้ใบหน้านางซีดขาว แววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ผู้อาวุโสตระกูลหลินตวาดเสียงดังลั่น“บอกมาตลอดเวลาที่เจ้าหายตัวไป ใครคือผู้บงการเบื้องหลัง หากเจ้ากล้าปิดบัง อย่าหวังว่าจะเหลือที่ยืนในตระกูลนี้อีกต่อไป!”นางสะอื้นสะท้าน นางกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาสั่นระริกมองผู้คนรอบด้านที่จ้องมาด้วยสายตาอำมหิตในที่สุด เสียงสั่นเครือก็หลุดออกมา “เป็น…หอสิบทิศ…พวกเขาคือผู้ลักพาตัวข้าไป”เพียงคำเดียว โถงใหญ่ทั้งโถงเงียบกริบ ต่างพากันตกตะลึง ก่อนระเบิดเสียงโห่ร้องโกรธเกรี้ยวขึ้นพร้อมกัน“หอสิบทิศงั้นรึ!”“พวกมันบังอาจลบหลู่เกียรติของสองตระกูลเรา!”“มิหนำซ้ำยังทำให้พิธีแต่งล่ม เหตุใดพวกเราจึงต้องอดทนต่อไป!”เหล่าผู้อาวุโสตระกูลหนานที่นั่งร่วมในพิธีสอบสวนครั้ง
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more

สุสานน้ำแข็ง

เสียงลมหนาวพัดแผ่วผ่าน เส้นผมของหลี่หลิงเฟิ่งพลิ้วไหวเบาตามแรงลมเย็นจัดในสุสานใต้ดินนางก้าวเข้าใกล้แท่นหินสูงกลางห้อง ดวงตาเต็มไปด้วยแววครุ่นคิด ใต้เปลวไฟสั่นไหวจากตะเกียงในมือ แสงสะท้อนบนผิวน้ำแข็งกระทบใบหน้าบุรุษตรงหน้าให้ยิ่งดูราวกับไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นเทพเจ้าที่หลับใหลอยู่ในกาลเวลา“พลังปราณในร่างเขายังไม่ดับสิ้น” หลี่หลิงเฟิ่งเอ่ยแผ่ว นัยน์ตาเปล่งแสงวาบ “เขายังมีชีวิตอยู่?”“อื้อ นายท่าน ข้าก็รู้สึกได้” นุ่มนิ่มยกหัวขึ้น ดวงตากลมแดงเรื่อสะท้อนแสงตะเกียง “กลิ่นพลังของเขาเก่าแก่มาก เหมือนเคยเห็นในยุคโบราณ กลิ่นพลังนี่หนาวเสียยิ่งกว่าน้ำแข็งพันปีอีก นายท่าน แน่ใจหรือไม่ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ ข้าไม่อยากกลายเป็นมังกรแช่แข็งนะ”หลี่หลิงเฟิ่งไม่ตอบทันที นางเพียงก้าวเข้าใกล้อีกก้าวชายผู้นี้คือใครกันแน่เหตุใดจึงถูกแช่แข็งไว้ในสุสานตระกูลเป่ยเช่นนี้…หรือว่าจะเกี่ยวกับถิงถิง…เพียงแค่เอ่ยชื่อนั้น ความเจ็บปวดแปลกประหลาดก็วูบเข้ามาในหัวใจ ถิงถิง สัตว์วิญญาณที่อยู่กับนางมาตลอด แต่กลับจำไม่ได้ว่าตนเองเคยเป็นใคร เคยผ่านเรื่องราวใดมา หากชายลึกลับตรงหน้ามีส่วนเกี่ยวข้องจริง บางทีอาจจะเป็นเบาะแสเ
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more

ค่ายกลสั่นสะเทือน

ณ เรือนคุณชายสามหลายวันผ่านไปหลังจากหลี่หลิงเฟิ่งพบสุสานน้ำแข็งใต้ดิน ทุกอย่างภายนอกดูเหมือนเดิม เสี่ยวไป๋กับนุ่มนิ่มผลัดกันเฝ้าสังเกตพลังในสุสานไม่ให้แปรปรวน ส่วนหลี่หลิงเฟิ่งเองกลับไปยังเรือนชั้นในเพื่อดูแลคุณชายสามเป่ย ผู้ยังคงหลับใหลหลี่หลิงเฟิ่งประคองข้อมือคุณชายสาม ตรวจชีพจรก่อนจะวางลงข้างหมอน “ชีพจรเริ่มนิ่งกว่าก่อนหน้ามากแล้ว อีกไม่นานน่าจะฟื้น”นางพึมพำกับตนเอง ขณะมือข้างหนึ่งยกชาถ้วยเล็กขึ้นจิบ แต่ความสงบสุขมักเป็นเพียงภาพลวงตาก่อนพายุเสมอเย็นวันนั้น ขณะเงาจันทร์เริ่มทอดผ่านยอดหลังคา จู่ ๆ เสียงกึกก้องราวแผ่นดินสะเทือนก็ดังขึ้นจากทิศตะวันออกของจวนหลี่หลิงเฟิ่งเงยหน้าขึ้นแทบจะทันที สัมผัสพลังไหลวนแปรปรวนอย่างฉับพลัน พลังปราณธาตุน้ำกระเพื่อมปั่นป่วนจนพื้นเรือนสั่นสะเทือน“เกิดอะไรขึ้น” นางพุ่งตัวออกจากเรือนมาถึงบ่อน้ำใหญ่ที่ปกติใช้เป็นศูนย์กลางกระแสปราณของค่ายกลป้องกันจวน สิ่งที่เห็นทำให้นางต้องขมวดคิ้วแน่นกลางบ่อน้ำใสราวกระจก บัดนี้กลับปั่นป่วนกลายเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ ราวกับมีสิ่งใดดูดกลืนพลังอยู่เบื้องล่าง น้ำที่เคยใสกลับกลายเป็นสีเงินหม่น สะท้อนแสงวิบวับประหลาด“น้ำวนนี้ป
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more

ตื่น

ปลายนิ้วของชายหนุ่มแตะลงบนผิวน้ำแข็งเบา ๆ เท่านั้นเองเสียง “แครก” ดังลั่นก้อง รอยร้าวสีฟ้าเข้มแล่นออกจากจุดสัมผัสอย่างรวดเร็ว ราวกับใยแมงมุมขยายครอบคลุมทั้งแท่งน้ำแข็งในพริบตา“ถอยออกมา!” เป่ยเหยียนคว้าตัวหลานชายดึงกลับแทบไม่ทัน คลื่นพลังเย็นจัดระเบิดออกมาจากแท่นน้ำแข็งทันทีแสงสีน้ำเงินสว่างวาบไปทั่วทั้งสุสาน ความเย็นยะเยือกพุ่งออกมาราวกับพายุหิมะ น้ำแข็งเกาะจับบนผนังหินและพื้นทางเดินในพริบตา ยันต์ทองที่ติดอยู่ตามเสาหินรอบโถงเริ่มสั่นสะเทือน เส้นอักขระบนผนังเปล่งแสงกระพริบถี่รัวราวกับหัวใจของใครบางคนกำลังเต้นแรงเป่ยเหยียนกัดฟันแน่น ใช้พลังปราณกางโล่ป้องกันลูกน้องไว้ “ผนึกแตกแล้ว รีบรายงานเบื้องบนเดี๋ยวนี้!”แต่ไม่มีใครทันได้ก้าว เพราะจากภายในแท่นน้ำแข็งที่แตกร้าวนั้น เสียงทุ้มต่ำแผ่วเบา ดังลอดออกมา เสียงที่ไม่ควรมีอยู่ในสุสานที่ถูกปิดตายมานับศตวรรษ“เจ้าทั้งหลาย... ยังมีชีวิตอยู่กันงั้นหรือ”เพียงคำพูดนั้น เสียงพายุหิมะในสุสานก็สงบลงอย่างประหลาด อุณหภูมิรอบตัวตกลงอย่างรวดเร็ว จนลมหายใจทุกคนกลายเป็นควันขาวเหนือแท่นน้ำแข็ง รอยแตกสุดท้ายแตกออกพร้อมเสียงสะท้อนทั่วห้องโถง แสงสีน้ำเงินส
last updateLast Updated : 2025-10-14
Read more

ตาอยู่

คืนนั้น หลังเหตุโกลาหลกลางวันสิ้นสุดลง จวนตระกูลเป่ยกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งเสียงฝีเท้าผู้คนจางหาย เหลือเพียงแสงโคมที่ไหวระริกอยู่ตามเฉลียง กลิ่นควันจากยันต์ที่เผาเพื่อซ่อมค่ายกลยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ แฝงกลิ่นสมุนไพรจาง ๆ จากเรือนของหลี่หลิงเฟิ่งที่ยังไม่ดับไฟหลี่หลิงเฟิ่งนั่งอยู่ตรงระเบียงไม้ด้านใน สายลมเย็นพัดชายแขนเสื้อของนางกระเพื่อมเบา ๆ บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันดวงเล็ก ส่องแสงอุ่นสลัวสะท้อนเงาเรียวของผู้เป็นเจ้าของเงาร่างโปร่งของเด็กน้อยปรากฏขึ้นในมิติมายา เสียงของเขาแผ่วเบา“นายท่านวันนี้ค่ายกลใหญ่สั่นสะเทือนมากทีเดียว ข้าคิดว่า..”“ข้ารู้” หลี่หลิงเฟิ่งตอบพลางหมุนถ้วยชาในมือเล่น “แต่เจ้าสังเกตหรือไม่ ยันต์ปกคลุมที่ใต้สุสานกับค่ายกลใหญ่ มันไม่ได้มาจากของยุคเดียวกัน”เสี่ยวมู่ชะงัก “ท่านหมายถึง?”“ค่ายกลที่ผนึกสิ่งนั้นไว้ใต้ดิน ไม่ใช่ผลงานของคนตระกูลเป่ย” เสียงของนางดังแว่ว ดวงตาที่ทอดมองแสงตะเกียงเต็มไปด้วยประกายคิดคำนวณ“ลายอักขระและเส้นเชื่อมพลังนั้น ข้าจำได้ คล้ายกับ
last updateLast Updated : 2025-10-15
Read more

ปลดผนึก

ลมยามดึกพัดหวิว หลี่หลิงเฟิ่งยังคงนั่งอยู่บนระเบียง แต่กระแสจิตของนางกลับล่องลอยไกลออกไปกว่ากำแพงจวนบางสิ่งในอากาศแปรปรวนเล็กน้อย“มาเร็วกว่าที่คิด” แววตาเยือกเย็นพลันเข้มขึ้นเสี่ยวมู่เงยหน้า “นายท่าน รับรู้ได้หรือ ทำไมข้าไม่รู้สึกอะไรเลย”“อืม มีคนแตะยันต์ตรวจพลังที่จุดเหนือสุสาน พวกนั้นใช้ยันต์พรางตัวชั้นสูง ไม่แปลกที่เจ้าจะสัมผัสไม่ได้”เสี่ยวมู่ชะงักไปชั่วครู่ “อาจเป็นคนของจวนเองหรือไม่”หลี่หลิงเฟิ่งส่ายหน้าเบา “ไม่ใช่ พลังพวกนั้นไม่ใช่สำนักสายพลังธาตุทั่วไป มันมีร่องรอยของกลิ่นน้ำค้างจากแดนฟ้า”แดนฟ้า?เสี่ยวมู่เบิกตา “คนของตำหนักธิดาสวรรค์”หลี่หลิงเฟิ่งไม่ตอบ เพียงยกมุมปากเล็กน้อย “ให้ข้าตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนก็แล้วกัน”นางลุกขึ้นจากระเบียง เงาร่างเคลื่อนไหวไร้เสียงราวสายน้ำ ปลายนิ้วแตะยันต์พรางกาย ก่อนเหยียบปลายหลังคา เรือนทั้งเรือนดูเหมือนเพียงสั่นไหวตามลม ไปมาไร้ร่องรอยเส้นทางที่นางเลือกลงไปนั้นคือเส้นเดียวกับที่วางแผนไว้ก่อนหน้า ใต้น
last updateLast Updated : 2025-10-15
Read more

ตำราเล่มหนึ่ง

กว่าค่อนคืนที่พวกหลี่หลิงเฟิ่งติดอยู่ในสุสานบรรพบุรุษ จนกระทั่งเสียงระฆังเตือนภัยของตระกูลเป่ยดังสะท้อนขึ้นกลางรุ่งเช้า “ยันต์สั่นสะเทือนขึ้นมาอีกแล้ว พลังค่ายกลรั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนรีบมารวมตัวด่วน!” แสงแรกของวันยังไม่ทันลอดผ่านยอดไม้ หมอกจางเหนือจวนก็พลันไหวระริก แสงยันต์ที่ล้อมค่ายกลใหญ่เรืองขึ้นเป็นเส้นสีเงินวาบวับ ราวกับแสงดาวสุดท้ายถูกกลืนกินทุกเส้นพลังใต้พื้นหิน แรงสั่นสะเทือนสะท้านในอกของทุกคนจนใจหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พื้นดินใต้ลานหลักรับแรงสั่นสะเทือนแทบไม่อยู่ เส้นยันต์แตกแขนงแผ่ซ่านราวรากไม้ที่กำลังดิ้นรนมีชีวิตพลังพุ่งสวนทางขึ้นสู่ท้องฟ้า ทะลุผ่านหมอกยามเช้าอย่างบ้าคลั่ง “แปลกนัก พลังนี้ไม่ควรเป็นเพียงของค่ายกล แต่มันเหมือนมีพลังจากภายนอกแทรกเข้ามา เป็นผู้ใดกันกล้าบุกรุกพื้นที่ของข้า สงสัยพวกมันคงเบื่อชีวิตกันแล้ว!” เสียงของหนึ่งผู้อาวุโสร้องขึ้น ขณะพลังสีเทาพุ่งไหลเข้าหากันกลางลานเพื่อตรวจสอบมหาโจรที่ลาดตาข่ายเข้ามา พวกมันเก่งกาจหรือตระกูลเป่ยของข้าอ่อนแอลงกันแน่นะ ยามนี้เหล่าคนในตระกูลต่างก็ไม่มีความมั่นใจในตนเองเสียแล้ว
last updateLast Updated : 2025-10-15
Read more

ปะทะ

“เหอะ ข้าก็ว่าแล้ว เหตุใดคุณชายสามจวนข้าถึงได้นอนหมดสติหลังจากร่วมงานยอดยุทธ์อันดับหนึ่งครานั้น ที่แท้ก็เป็นฝีมือของพวกเจ้าตำหนักธิดาสวรรค์ วางแผนทำลายตระกูลเป่ยของข้า กล้าดียิ่งนัก” ทันทีที่หมอกควันสลาย คนตระกูลเป่ยก็ตาสว่างขึ้นทันใด พวกผู้ดีจอมปลอม ริอ่านแสดงเป็นโจรร้องจับโจร คิดว่าตระกูลเป่ยของข้ารังแกกันได้ง่ายนักหรือ“มดปลวกอย่างพวกเจ้าจะร้องโวยวายไปไย น่ารำคาญชะมัด” หนึ่งในสตรีตำหนักธิดาสวรรค์แสดงอาการหงุดหงิดออกมา “แต่เอาเถิด เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาหลายปีของพวกเรา วันนี้ข้าจะละเว้นพวกเจ้าครั้งหนึ่ง หลีกทางซะ”“รังแกกันเกินไปแล้ว! หากวันนี้ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ อย่าเรียกข้าว่าเป่ยฮั่น” เป่ยฮั่น รุ่นเยาว์ผู้มากพรสวรรค์ของรุ่นนี้ทนฟังไม่ไหว ถึงกับเลือดพุ่งขึ้นหน้า ถลาเข้าไปสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นนภาระดับสูงสุดหลี่หลิงเฟิ่งซึ่งทำตัวเป็นบุคคลที่สามชมศึกด้านหน้าถึงกับทอดถอนใจ สมองอัจฉริยะของรุ่นนี้ใช้การไม่ได้เสียแล้ว อยู่ดีไม่ว่าดี ถึงกับรนหาที่ตาย“อั่ก!” ไม่ทันขาดคำ ร่างของเป่ยฮั่นลอยละลิ่วไปไกลหลายจั
last updateLast Updated : 2025-10-16
Read more

ศาสตร์ธาตุ

 เสียงระเบิดพลังยุทธ์สะเทือนผนังหินหนาทึบภายในสุสานบรรพชน คลื่นพลังของศาสตร์ธาตุปะทะกันจนอากาศแปรปรวนเป็นสีขุ่นมัว แรงสั่นสะเทือนรุนแรงเพียงพอจะบดขยี้กระดูกของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นต่ำให้แหลกละเอียดภายในชั่วอึดใจเดียวศาสตร์ลึกลับหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าศาสตร์ โดยแบ่งตามคุณสมบัติของผู้ใช้ธาตุต่างๆ ได้แก่ ปฐพี วายุ วารี อัคคีเป่ยเหยียนยืนอยู่หน้าโลงศพบรรพชนเซถลาไปครู่หนึ่ง โลหิตคั่งขึ้นคอแต่เขากลืนมันลงอย่างรวดเร็ว ก่อนเหวี่ยงกระบี่สีเงินขึ้นเหนือศีรษะอีกครั้ง พลังยุทธ์แผ่กระจายออกจากปลายกระบี่ ดั่งคลื่นน้ำปกคลุมทุกสิ่ง แต่ยังไม่ทันรวมเป็นรูปกระบี่ร้อยเล่ม เสียงหัวเราะต่ำเย็นของชายชุดดำก็พลันดังขึ้นในห้วงความเป็นตาย“ต่อให้เจ้าจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย ก็ไม่พ้นเงื้อมมือศาสตร์ปฐพีของข้าได้หรอก อย่าฝืนให้เสียเวลาเลย” ปลายเท้าของชายชุดดำเหยียบย่ำลงบนพื้นแผ่วเบา พื้นหินที่มั่นคงราวศิลาอัสนีพลันบิดงอขึ้นมาเป็นหลุมวงกว้าง ลมปฐพีกระหน่ำหมุนรอบโลงศพบรรพชน ราวกับโลกทั้งใบเริ่มโอบรัดตนเองเข้าสู่ความมืดมิดสองสตรีจากตำหนักธิดาสวรรค์ที่ยืนต้านอยู่ทางทิ
last updateLast Updated : 2025-10-16
Read more

ดูดกลืน

ค่ายกลเริ่มโอบล้อมโลงศพบรรพชน ขานรับกันเป็นชั้นราวท่วงทำนอง พื้นดินที่เคยกลืนผู้อื่น บัดนี้กลับถูกกลืนเสียเองเสียงหวีดร้องของคนตระกูลไป๋สะท้อนลั่น พลังของพวกเขาถูกดูดกลับอย่างไร้ทางขัดขืนเมื่อค่ายกลโอบล้อมสมบูรณ์ สุสานทั้งผืนเปล่งแสงฟ้าครามนวลตา พลังเย็นสายหนึ่งแผ่กระจายกันเป็นชั้น เหล่าคนตระกูลเป่ยลุกเริ่มตั้งหลักได้ ใบหน้าอาบเหงื่อแต่ยังยิ้มออก“ใครกันที่ช่วยพวกเราเอาไว้” แม้จะสงสัยมากเพียงใด แต่ก็จนปัญญาหาคำตอบควันฝุ่นจากพื้นหินที่แตกร้าวลอยคลุ้งขึ้นท่ามกลางกลิ่นคาวเลือด พลังยุทธ์ที่ปะทะกันเมื่อครู่คล้ายฝนที่เทกระหน่ำ เมื่อสงบลงจึงเห็นซากปรักและร่างกลุ่มคนที่ไม่อาจลุกขึ้นอีกต่อไปเป่ยเหยียนพิงกระบี่ หอบหายใจรุนแรง รอบกายเขาเต็มไปด้วยร่างของเหล่าผู้คนในตระกูล ผู้อาวุโสท่านหนึ่งล้มพับข้างเขา โลหิตสีแดงเจิ่งนองเต็มพื้น ชวนสะอิดสะเอียน“อาเฉิง เจ้าทำได้ดีแล้ว” เขาเอื้อมมือแตะไหล่เย็นชืดนั้น ริมฝีปากสั่นระริก “หลับให้สบายเถิด บรรพชนจะปกปักเจ้าเอง ต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้า”เสียงกรีดร้องยังดังต่อเนื่อง หญิงสาวตำหนักธิดาสวรรค์คนหนึ่งถูกซัดขึ้นกลางอากาศ ก่อนร่างกระแทกเสาศิลาจนหักครึ
last updateLast Updated : 2025-10-18
Read more
PREV
1
...
121314151617
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status