All Chapters of อาศิรวิษ: Chapter 31 - Chapter 40

42 Chapters

9-บ่วงกรรมแห่งตรีภพ

ฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใต้เท้าคือพื้นศิลาของ วิหารเงานาคากำลังแตกแยกจากแรงอาคมสะท้อนของคำสาป ในมือยังอบอุ่นจากการกุมของอาศิรวิษ พลังในร่างกายเปลี่ยนไปคล้ายมีบางสิ่งแฝงตัวในเลือดและลมหายใจ เห็นบางอย่างในเงาสะท้อนของผืนน้ำ...นัยน์ตาแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเรืองแสง มีอักขระคล้ายเกล็ดนาคาซ้อนกันอยู่“นี่คืออะไร ทำไมมันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”อาศิรวิษยกมือประคองบ่าของฉันเบา ๆ ดวงตาคมเหมือนพญานาคที่หลับใหลมานานมองฉัน“มันคือตัวตนแท้จริงของท่านเจ้านางน้อย ข้ารู้ว่าท่านสงสัย เพียงแต่ตอนนี้เราต้องไปช่วยตรีภพเสียบัดเดี๋ยวนี้ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป”ฉันกับอาศิรวิษรีบเดินทางผ่านประตูเงานาคาชั้นใน อาศิรวิษเล่าว่านี่เป็นช่องว่างที่เชื่อมระหว่างภพมนุษย์กับแดนพันธนา สถานที่ที่ตรีภพถูกคุมขังด้วยตราอาคมของครุฑ และฉันมองเห็นเขาตรีภพ นั่งคุกเข่าอยู่กลางวงแหวนอาคม มีเสาเทพครุฑ ปักไว้สี่ทิศ อาคมค่อย ๆ ดูดพลังชีวิตเขาทีละหยด ผิวของตรีภพเริ่มซีดเผือด ริมฝีปากแตก แต่แววตายังแน่วแน่“เกี่ยวกับเวนไตยด้วยอย่างนั้นเหรอเนี่ย ซับซ้อนเกิน” ฉันพึมพำในใจฉันเลิกคิดเรื่องกวนใจ แล้วพุ่งเข้าไปแต่กลับถูกม่านครุฑศิลป์ต้า
last updateLast Updated : 2025-05-03
Read more

9-บ่วงกรรมแห่งตรีภพ 2

หลายพันปีก่อน เอกวรา นาคินีแห่งรัก ผู้เป็นที่รักยิ่งของเหล่านาค แต่หัวใจของเธอกลับมิได้อยู่ในวิมานบาดาล เธอตกหลุมรัก อริยะ พญาครุฑหนุ่มผู้กล้าหาญ ผู้ขึ้นสู้กับทวยเทพเพื่อขอความยุติธรรมให้เหล่าสัตว์ครึ่งอสูร ความรักของทั้งคู่ต้องห้ามเด็ดขาด แต่เอกวรายอมเสียทุกสิ่ง แม้กระทั่งบัลลังก์สูงสุดเพื่อใช้ชีวิตกับอริยะในดินแดนลับแล ไม่นานเอกวราก็ให้กำเนิด เวนไตย ทารกผู้มีปีกทองแดงเหมือนครุฑ แต่ดวงตาสีแดงเรืองแสงเหมือนพญานาคทว่า...พลังที่เวนไตยถือกำเนิดมานั้น คือพลังของครุฑพันคำสาป การรวมคำสาปจากสองภพ คำสาปแห่งการหวงแหนและคำสาปแห่งการพลัดพราก“ข้าไม่อาจควบคุมเขาได้...เวนไตยเติบโตมาพร้อมความแค้น และอำนาจที่แม้แต่ข้าก็เกรงกลัว”เอกวราจึงตัดสินใจ ผนึกวิญญาณตนเองไว้ใน ดาบบุษบง เพื่อเป็นดาบที่สามารถหยุดเวนไตยได้ แต่แลกกับการที่ลูกอีกคนหนึ่ง...ต้องแบกภาระอันโหดร้ายนี้ไว้“ตรีภพ...เจ้าคือผู้สืบสายเลือดของข้า ลูกแห่งความรัก และเจ้าจะต้องเลือกระหว่างคำสาบานหรือความรัก” //ปัจจุบัน//ตรีภพลืมตาขึ้น ท่าม
last updateLast Updated : 2025-05-04
Read more

10-เสียงเงียบของคนที่ไม่มีวันถูกเลือก

ลมเย็นพัดแผ่วผ่านลานศิลาใต้แสงจันทร์ ฉันเดินเคียงข้างอาศิรวิษ บรรยากาศเงียบสงบอย่างประหลาด แสงไฟวาวจากโคมนาคายามค่ำ ค่อย ๆ ส่องสะท้อนระยิบบนพื้นน้ำ เขายังคงเดินอย่างเงียบขรึมตามแบบของเขา แต่ฉันจับได้ว่าทุกครั้งที่ฉันชะงักฝีเท้า...เขาจะหยุดก่อนฉันเสี้ยววินาทีเสมอ“อาศิรวิษ” ฉันเอ่ยเบา ๆ “ท่านเคยกลัวบ้างไหม ว่าวันหนึ่งทุกอย่างจะหายไปหมด”เขาหยุดเดิน แล้วหันมามอง ดวงตาสีทองนวลวาวใต้แสงจันทร์“เคย...กระหม่อมเคยกลัวจะสูญเสียท่านทั้งที่ตอนนั้นท่านยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าคือใคร” คำพูดนั้นทำให้ฉันเผลอยิ้ม“แล้วตอนนี้ล่ะยังกลัวอยู่ไหม?”“ไม่แล้ว” เขาตอบก่อนจะเอื้อมมือมาแตะที่มือฉัน“เพราะกระหม่อมจะไม่ยอมปล่อยเจ้านางน้อยไปไหนอีก”“อยู่กันแค่สองคน เราเคยคุยกันแล้วว่าจะไม่พูดคำเป็นทางการไง”“...”“แต่ช่างเถอะอยากพูดยังไงก็พูด ข้าเคยคิดว่าท่านเย็นชาแต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า...ท่านแค่ไม่เคยมีใครให้เปิดหัวใจ”เขายิ้มเบา ๆ แล้วพูดช้า ๆ“และพี่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครอยากเปิดหัวใจให้เช่นกัน” มืออุ่นของเขาจับมือฉันไว้แน่น ไม่ใช่เพราะกลัวจะหลุดจากกัน...แต่เพราะอยากจะอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดแต่ในขณะเดียวกัน พญานา
last updateLast Updated : 2025-05-05
Read more

10-เสียงเงียบของคนที่ไม่มีวันถูกเลือก

พิธีเริ่มต้น กลางทะเลสาบวิญญาณ ณ ผืนป่าหิมพานต์เราเริ่มพิธีในคืนที่ดาวทั้งหมดดับลง ฉันเปล่งเสียงเรียกชื่อตรีภพ เสียงนั้นทะลวงผ่านขอบฟ้ามิติ อาศิรวิษหลั่งเลือดลงกลางพิธีเกล็ดทองสว่างระยิบ ร่วงหล่นเข้าวงเวท และฉันร่ายบทสวดเรียกเสี้ยวจิต ในวินาทีที่เงาเงียบทั้งหมดรวมกัน...เศษวิญญาณของตรีภพ ปรากฏขึ้นในรูปของลูกแก้วเรืองแสงสีฟ้าอ่อน พลังของเขาไม่สามารถกลับมาเป็นคนได้อีกแล้ว แต่เขายังอยู่…ในรูปของ ดวงจิตเฝ้ามอง ฉันนำลูกแก้วนั้นไปวางไว้ใต้ต้นอโศกสีทอง ที่ขึ้นจากน้ำตาหยดแรกของฉันในวันเขาจากไป มีเขาอยู่กับฉัน แม้จะไม่ใช่แบบเดิม แต่ฉันรู้ว่า...ดวงจิตเขายังมองพวกเราจากใต้แสงฟ้านั้นอาศิรวิษยืนเคียงข้างฉัน เขาไม่เคยทวงคืนสิ่งใด“แม้เจ้านางน้อยไม่ได้รักข้าอย่างที่ข้าเคยหวัง แต่ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ข้างเจ้านางน้อยเสมอ”ฉันจับมืออาศิรวิษแน่น แล้วหันหน้าพูด“รู้ได้ไงว่าไม่เคยรัก”“?”“หรือว่าท่านไม่เคยใส่ใจกันแน่”“เจ้านางน้อย” อาศิรวิษเอ่ยเสียงแผ่ว แววตาของเ
last updateLast Updated : 2025-05-06
Read more

10-เสียงเงียบของคนที่ไม่มีวันถูกเลือก 3

ฉันไม่เคยคิดว่า…เสียงของบ่วงนาคบาศจะเหมือนเสียงหัวใจ มันไม่ได้ดังกังวานอย่างศาสตรา แต่มันเต้นในจังหวะเดียวกับจิตของผู้ถือมัน ราวกับกำลังฟังเสียงความจริงจากเงาลึกในตัวเอง หลังจากปลดผนึกครุฑานนท์ โลกเริ่มเปลี่ยนเส้นพลังแห่งสมดุลเริ่มเคลื่อน แต่...บางอย่างกลับต้านไว้จากเบื้องหลัง“ผณินทร...โลกนี้ยังไม่ปลอดภัย ยังมีเงาหนึ่งที่เฝ้าจ้องอยู่หลังม่านกรรม...ในวิหารไร้เงาที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยชื่อ”เสียงจิตตรีภพกระซิบในยามค่ำ แม้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่คนที่ฉันสัมผัสได้ตรงหน้า เขาคือพลังเงียบที่คอยคุ้มครองฉัน…ไม่ว่าวันคืนจะเลื่อนลับไปไกลเพียงใดอาศิรวิษและฉันร่วมทางกันอีกครั้ง“หากเจ้านางน้อยเข้าไปในวิหารนั้นแล้ว จะไม่สามารถเป็นคนเดิมได้อีก” เขาเตือนเบา ๆ“ข้าไม่เป็นคนเดิมตั้งแต่วันที่ได้รู้จักท่านแล้ว…” ฉันตอบดวงตาเขาสะท้อนแสงดาวในราตรีนั้น ก่อนจะเบือนสายตาลงต่ำแต่ก่อนที่เราจะก้าวข้ามเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ มีกำแพงหนึ่งที่พวกเราต้องเผชิญ ประตูแห่งกรรม ประตูนั้นไม่มีมือจับ ไม่มีกล
last updateLast Updated : 2025-05-07
Read more

11-ใต้ร่มบุษบัน ในใจนั้นคือเจ้า

เวลาผ่านไปหลายวันหลังจากพวกเรากลับมาจากการเดินทางอันยาวไกล มคธนครเริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง แต่หัวใจของฉันกลับค่อย ๆ ก่อเกิดบางอย่างใหม่ในความเงียบ...ความรู้สึกอ่อนโยน ความอบอุ่นค่อย ๆ แทรกเข้ามาจากอาศิรวิษ เขาไม่เคยพูดคำว่ารัก ไม่เคยขออะไรจากฉัน แต่เขาอยู่ตรงนั้นเสมอ แม้ยามฉันเงียบ แม้ยามฉันหวั่นไหว เขาก็ยังอยู่วันนี้ฉันเดินไปยังสวนบุษบันอันสงบ ท่ามกลางเสียงของสายน้ำและกลิ่นหอมจาง ๆ ของเกสรดอกไม้ ที่นั่นมีอาศิรวิษยืนรออยู่ก่อนแล้ว“ข้ารู้เจ้านางน้อยชอบที่นี่ เลยเก็บดอกไม้ที่เจ้าชอบมาด้วย” เขายื่นดอกบุษบันสีชมพูอ่อนให้ ฉันรับมันมาเงียบ ๆ หัวใจอบอุ่นโดยไม่ต้องมีคำใด พวกเรานั่งข้างกันใต้ร่มไม้“อาศิรวิษ…ท่านเคยรู้สึกไหม ว่าเราทั้งคู่ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว”เขายิ้มอ่อนเมื่อฉันพูดจบ“เพราะเราเติบโตขึ้นพร้อมกัน…” อาศิรวิษเอ่ยขึ้น  ฉันมองมือของเขาเงียบ ๆ วางไว้ใกล้มือของฉัน มือที่เคยปกป้อง เคยดึงฉันขึ้นจากความกลัว แล้วฉันก็วางมือลงไปบนมือนั้น...ด้วยความรู้สึกวูบไหว“ข้าไม่รู้ว่าความรัก
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more

11-ใต้ร่มบุษบัน ในใจนั้นคือเจ้า2

หลังจากที่เข้าพบเจ้าหลวง ในคืนเดียวกันฉันรู้สึกถึงแรงบางอย่างที่กำลังเริ่มคืบคลานเข้ามา...อาศิรวิษพาฉันมายืนใต้แสงจันทร์ เขาเงียบอยู่นาน ก่อนจะพูดขึ้น“พี่มีเรื่องจะถาม…ถ้าวันหนึ่งเจ้าพบว่ามีบางคนจากอดีตชาติ กลับมาทวงคำสัญญา…เจ้าจักเลือกอะไร?”ฉันชะงักทันที คำถามนั้นแฝงความกลัว...ไม่ใช่ต่ออดีตแต่ต่อการสูญเสีย ฉันไม่ตอบ แต่กุมมือเขาไว้แน่น แล้วกระซิบเบา ๆ ว่า“อดีตอาจมีคำสัญญา แต่ปัจจุบันคือความรู้สึก และในวันนี้...ข้าเลือกท่าน”อาศิรวิษหลับตาแน่น ดวงตาเขาเปียกชื้นเล็กน้อยแล้วกอดฉันไว้ เหมือนกลัวว่าฉันจะหายไปแต่ในเงาจันทร์เหนือสระบูชา เงาดำรูปหนึ่งก้าวออกจากเงาสะท้อนของน้ำ เขายืนเงียบ ใบหน้ายังปิดด้วยผ้าดำ...แต่เสียงแผ่วนั้นดังก้องในเงามืด เหมือนในฝันคืนก่อน“อ อาศิรวิษดูนั่น” ฉันเรียกให้เขาเงยมองเบื้องบน อาศิรวิษเจ้ามือฉันแน่น เหมือนสื่อว่าไม่ต้องกลัวตราบใดที่เขายังอยู่ตรงนี้“ในที่สุดเจ้าก็เลือกทางของเจ้า เยี่ยงนั้นข้าก็จะเลือกทางของข้าเช่นกัน...ผณินทร”
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more

12-เงารักในภพชาติ

คืนหลังศึกใหญ่...สายลมพัดเบา ใบไม้ไหวคล้ายลมหายใจแห่งพงไพร ฉันยืนอยู่ริมระเบียงเรือนรับรองของมคธนครจ้องมองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นเหนือผืนน้ำเบื้องล่าง มือยังอบอุ่นจากสัมผัสสุดท้ายของใครบางคน เสียงฝีเท้าแผ่วเบา... แต่ฉันรู้ทันทีว่าเป็นเขา“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตื่นอยู่” เสียงของเขาเบาราวกระซิบ“ข้ารอท่านอยู่ต่างหาก...”ฉันหันไปยิ้มอ่อนให้ชายตรงหน้า อาศิรวิษเดินเข้ามาใกล้ ยังสวมชุดนาคาธิคุณที่ซีดจางไปเล็กน้อย แผลบนร่างเขาเกือบหายดีแล้ว แต่ในดวงตายังมี ความอ่อนล้า...และบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่าเดิม“ท่านรู้ไหม… ตอนที่ท่านกางแขนป้องข้าไว้ข้างหลัง ข้าคิดว่า…ข้ากำลังจะเสียท่านไป” เสียงของฉันเบาราวเสียงสายฝนแรกของปี “แต่ท่านก็ยังอยู่ตรงนี้…ยังอยู่กับข้า”เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้“ข้าเคยคิดว่า ความรักของข้า…ต้องจางหายไปเหมือนละอองควัน แต่ท่านทำให้ข้ารู้ว่า ความรักไม่ต้องดัง ไม่ต้องร้อนแรง แค่อยู่ตรงนั้นเสมอ…ก็พอแล้ว”ฉันรู้สึกได
last updateLast Updated : 2025-05-10
Read more

13-เสียงกระซิบจากเงามืด

ฉันก้าวเดินผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง หัวใจหนักอึ้งด้วยความสูญเสีย ในมือยังคงกำผ้าผูกข้อมือสีทองของอาศิรวิษและจี้หยดครามของตรีภพไว้แน่น ความทรงจำของพวกเขายังคงชัดเจนในจิตใจ​ ฉันตัดสินใจเดินทางสู่แดนต้องห้าม สถานที่ซึ่งเล่าขานว่าเป็นที่สถิตของ ผู้เฝ้าประตูแห่งวิญญาณ  เชื่อกันว่าผู้เฝ้าประตูสามารถนำวิญญาณกลับคืนสู่โลกได้ แต่ต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุดการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย ฉันต้องฝ่าฟันผ่านป่าทึบที่มีสัตว์ร้ายและกับดักมากมาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่มีต่ออาศิรวิษและตรีภพ จึงไม่ยอมแพ้​ เมื่อมาถึงประตูแห่งวิญญาณ ฉันพบกับผู้เฝ้าประตู เธอเป็นหญิงสาวลึกลับที่มีดวงตาสีเงินเปล่งประกาย เธอมองฉันด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก"เจ้าปรารถนาจะนำวิญญาณกลับคืนหรือ?" เธอถามด้วยเสียงเย็นชาฉันพยักหน้าและตอบด้วยเสียงสั่นเครือ​"ข้ายอมแลกทุกอย่างเพื่อให้พวกเขากลับมา"ผู้เฝ้าประตูยิ้มบางๆ และกล่าวว่า​"การแลกเปลี่ยนนี้ เจ้าต้องสละสิ่งที่เจ้ารักที่สุด เจ้าพร้อมหรือไม่?"ฉันนิ่งคิด ความรักที่มีต่ออาศิรวิษและตรีภพคือสิ่งที่มีค่
last updateLast Updated : 2025-05-11
Read more

13-เสียงกระซิบจากเงามืด2

“ความลับที่อยู่ในใจของอาศิรวิษ... คือกุญแจสุดท้าย”และก่อนที่ฉันจะถามต่อ เสียงระเบิดพลังพุ่งเข้ามาจากทิศตะวันตก เสียงร้องเตือนจากทหารของมคธนครดังสนั่น“มีเงามืดบุกเข้ามา! พวกมันมีตราเหมือนกับศศินา!”ฉันเบิกตากว้าง“หมายความว่าไง?!”เสียงของอาศิรวิษตะโกนมาอย่างรีบเร่ง“เจ้านางน้อย! อยู่ข้างหลังข้า!”เขาคว้าฉันไว้ในอ้อมแขน ดึงออกจากระเบียงก่อนเปลวพลังจะระเบิดฟาดผ่านจากเงามืด...ศศินาค่อยๆ เดินออกมาอีกครั้ง“ข้า...ไม่ใช่ศศินาคนเดิมอีกต่อไปแล้ว อาศิรวิษ”และเบื้องหลังนางคือเงาในคราบอดีตของอาศิรวิษ ที่เขาไม่เคยเปิดเผยกับใคร...ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้าไม่ใช่เพียงศศินา หากแต่คือใครบางคนที่มีเงาทาบซ้อนอยู่เบื้องหลัง นัยน์ตานางไม่ใช่ศศินาอีกต่อไปแต่คือผู้ที่ครอบครองนางอาศิรวิษหน้าถอดสี ฉันสัมผัสได้ว่าเขากำลังสั่นเล็กน้อย“นางคือ...อาคิรนัย”เสียงของอาศิรวิษหลุดเบาออกมาราวกับวิญญาณเขาจะหลุดจากร่าง ฉันหันไปมองเขาด้วยความสงสัยปนสั่นไหว
last updateLast Updated : 2025-05-12
Read more
PREV
12345
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status