จางอวิ๋นเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้เธอลุกขึ้น สูดน้ำมูกเบา ๆ พูดกับเสิ่นชิงซู “ฉันเลี้ยงเขามาตั้งนาน ไม่เคยคิดว่าเขาจะมีพัฒนาการมากขนาดนี้ภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน คุณเสิ่น คุณกับเสี่ยวอันหนิงคงจะเป็นผู้อุปถัมภ์ของคุณชายน้อยเราที่ฟ้าลิขิตมาจริง ๆ”“ฉันดูออก ว่าคุณเอาใจใส่เสี่ยวเนี่ยนอันมาก” เสิ่นชิงซูมีความรู้สึกที่ดีต่อจางอวิ๋นอยู่ไม่น้อย เพราะว่าสายตาที่จางอวิ๋นมองเสี่ยวเนี่ยนอันนั้นมีความรักและความเป็นห่วงเป็นใยแม่เลี้ยงที่เฟิงอวิ๋นเฉียนหาให้เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ได้เรื่องเท่าไร แต่ครูพี่เลี้ยงคนนี้หามาได้ถูกคนแล้วเวลานี้เอง จู่ ๆ เฟิงอวิ๋นเฉียนกับฟู่ซือเหยียนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวก็ลุกขึ้นเส้าชิงอยากก้าวเข้าไปประคองฟู่ซือเหยียน แต่ฟู่ซือเหยียนบอกว่าไม่ต้องจากนั้น เขากับเฟิงอวิ๋นเฉียนก็กอดคอกัน ทั้งสองเดินโงนเงนออกไปนอกประตูเสิ่นชิงซูกับจางอวิ๋นเห็นภาพนี้แล้ว ก็ถึงกับงงเช่นกันเมื่อครู่ยังประจันหน้ากันอยู่เลยไม่ใช่หรือ ทำไมในชั่วพริบตาก็กอดคอกันแล้วล่ะ?เส้าชิงเกรงว่าเดี๋ยวไม่นานทั้งสองคนก็อาจจะตีกันขึ้นมา จึงรีบติดตามไปผ่านไปสักพัก เส้าชิงก็กลับมาอีก เดินตรงมาที่ห้องรับแขกทัน
Baca selengkapnya