All Chapters of หวง ฤทธิ์ รัก: Chapter 71 - Chapter 80

124 Chapters

ปั่นหัว (100%)

ยิ่งนานวันดูเหมือนว่าปานระพียิ่งขยับเข้าหาภาวะเครียด ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการมาอยู่ในที่ต่างถิ่นในสภาพตาบอด แถมยังไม่คุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ รวมทั้งการเอาใจใส่อย่างผิดปกติของผู้เป็นสามีที่มันเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ จนเธอกลัวว่ากำแพงที่สร้างไว้ป้องกันตัวเองจะพังทลายลงสักวัน เช้านี้เธอก็ยังคงตื่นมาในอ้อมอกของเขาเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าก่อนนอนจะทำปั้นปึ่งใส่ บ้างตวาด ไม่ก็อาละวาด หวังจะทำให้เขารำคาญ แล้วรีบส่งตัวเธอกลับเมืองไทย แต่กลับคิดผิดถนัด มหรรณพหนังหนาหน้าทนกว่าที่คิดไว้เยอะ สุดท้ายก็ไม่พ้นถูกอีกฝ่ายลากไปกกเอาไว้ในวงแขนทุกคืน หลังจากแกะวงแขนแกร่งออกจากเอวอ้อนแอ้น ร่างบางก็สลัดผ้าห่มให้พ้นตัว มุ่นคิ้วเมื่อควานมือหาไม้เท้าไม่เจอ จากนั้นก็ค่อยๆ กระเถิบไปริมเตียง แล้วก้าวขาลงไปยืนที่พื้น ยืนระลึกทิศทางไปห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง ถึงได้ค่อยๆ สืบเท้าไปข้างหน้า หากแต่ดูเหมือนทางที่เธอคิดว่าถูกแล้วจะไม่เป็นดังคาด เพราะร่างบางชนตู้เข้าอย่างจัง “โอ๊ย!”เสียงอุทานลั่น ตามมาด้วยเสียงล้มตึงกระแทกพื้นไม่เป็นท่า ทำให้คนประสาทไวซึ่งเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่ถูกแกะ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ห่างกันสักพัก? (25%)

ยามสายของกลางสัปดาห์ มหรรณพก็ให้ช่างตัดเสื้อจากร้านดังมาวัดตัวเธอเพื่อตัดชุดอะไรต่อมิอะไรให้เยอะแยะมากมาย โดยให้เหตุผลว่าชุดเก่าของเธอมันใหญ่ไป พอเธอผอมลงมันจึงดูหลวมโพรกและเทอะทะ ใส่แล้วไม่สวย และอาจจะไม่สบายตัวอีกด้วย ต่อให้เธอจะห้ามปรามจนเมื่อยปากเขาก็ยังทำเป็นหูทวนลม แต่อะไรก็คงไม่ทำให้อารมณ์กรุ่นๆ ของเธอแย่ลงได้เท่ากับแม่สาวเจ้าของร้านที่มาด้วยตัวเอง ฟังจากการพูดคุยอย่างถูกคอและดูเป็นกันเองของมหรรณพกับหล่อน บ่งบอกได้ว่าทั้งคู่สนิทสนมกันพอสมควร แถมช่างเสื้อที่กำลังวัดตัวเธออยู่ยังกระซิบกระซาบอีกว่า ทั้งคู่เหมาะสมกันมาก ทั้งฐานะทางสังคม การศึกษา หน้าที่การงาน และชาติตระกูล เพราะแม่สาวที่ว่าเป็นถึงลูกสาวของผู้นำประเทศ“เที่ยงนี้เราไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ” เสียงหวานหยดของแม่สาวแหม่มเอ่ยขึ้น หลังจากช่างประจำห้องเสื้อของหล่อนทำการวัดตัวให้ปานระพีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคนที่กำลังจะตกเป็นส่วนเกินอย่างเธอก็ตั้งท่าจะออกไปจากห้องรับแขกทันที หากแต่มือกระด้างกลับรั้งข้อศอกน้อยเอาไว้ แล้วค่อยๆ ดึงร่างบางเข้าหาอย่างนุ่มนวล “ผมไม่ว่าง ต้องกินข้าวเป็นเพื่อนภรรยา” “เธอโตขนาดนี้แล้ว คงกินข้า
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ห่างกันสักพัก? (50%)

พอได้พูดคุยกับปิยฉัตรเธออาจผ่อนคลายได้จริง แต่ยังไม่ถึงที่สุด เพราะมันยังมีบางอย่างที่เธอไม่สะดวกใจที่จะคุยอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะสนิทสนมและรักใคร่ประดุจพี่น้อง แต่มันก็ยากจะอธิบายในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ให้อีกฝ่ายได้เข้าใจ และหากจะให้นับเอาความเข้าอกเข้าใจเป็นหลักจิตแพทย์อย่างพงษ์สวัสดิ์ คือคนที่เธอต้องการปรึกษามากที่สุดในเวลานี้ค่ำวันเดียวกัน ทันทีที่รู้ว่ามหรรณพกลับมาจากที่ทำงาน แต่ยังไปขลุกคุยงานกับลูกน้องในห้องทำงานตรงปีกซ้ายของบ้าน ปานระพีก็ขอให้สาวใช้พาเธอมาส่งหาเขา หลังจากเสียงฝีเท้าของวิชัยถอยออกไปจากห้องทำงาน ตามด้วยเสียงปิดประตูเบาๆ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ คนที่ถูกประคองมานั่งบนเก้าอี้ โดยมีเขายืนอยู่ใกล้ๆ เอ่ยออกมาในที่สุด“คุณหวงคะ”อา…แค่เมียเรียกชื่อ แค่เมียเป็นฝ่ายเข้าหา ทำไมเขาต้องรู้สึกเป็นสุขขนาดนี้ด้วยวะ มหรรณพคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ปากหยักโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างไร้การควบคุม“หืม ว่าไงครับพิกกี้”เขาคงไม่รู้หรอกว่าน้ำคำเสนาะหู ฟังดูให้เกียรติ สุภาพ และอ่อนโยน ก็ทำเอาเธอใจสั่นไม่น้อยเหมือนกัน หากแต่ปานระพียังพยายามปั้นหน้านิ่ง เอ่ยเสียงราบเรียบ“ถ้าฉันอยากขอร้อง
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ห่างกันสักพัก? (75%)

จากที่อยู่ด้วยกันมา ทำให้ปานระพีรู้ว่าการเอาคืนมหรรณพไม่ต้องออกแรงเสียด้วยซ้ำ แค่เธอนั่งเฉยๆ ทำท่าเย็นชา ไม่พูดไม่จา ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน หรือถามคำตอบคำ แค่นั้นก็ปั่นประสาทเขาได้มากแล้ว แต่ที่ต้องการปรึกษาพงษ์สวัสดิ์เพราะไม่อยากทำตัวเป็นผู้หญิงงี่เง่า เอาแต่ใจ ขี้แย จนเหมือนคนไร้วุฒิภาวะ “มันน่าอายมากเลยนะ คุณลองคิดดูสิ ว่าหากวันหนึ่งฉันมีโอกาสได้ตาใหม่ จนสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่อยู่ๆ ก็ดันไปแสดงพฤติกรรมอย่างที่บอกใส่เพื่อนร่วมงาน หรือนักศึกษา คนอื่นเขาจะคิดยังไง ถ้ารองศาสตราจารย์แพทย์หญิงปานระพี กลายเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ดีไม่ดีเขาจะคิดว่าฉันเป็นบ้า” เธอเอ่ยอย่างเป็นกังวล เกรงว่าการควบคุมอารมณ์ไม่ได้จะหนักขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลไปถึงอนาคต ด้วยตระหนักดีว่าหน้าที่การงาน และตำแหน่งทางวิชาการ ต้องมาพร้อมกับความน่าเชื่อถือ “การที่คุณมีภาวะอารมณ์ไม่ปกติ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ คนเราทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะเป็นเช่นนั้นได้ แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าอาการเหล่านั้นจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต จำไว้นะหมอแพร…คุณไม่ได้เป็นโรคจิต คุณไม่ได้บ้า คุณปกติดีทุกอย่าง แค่อารมณ์แปรปรวนในบางครั้ง ซึ่งมันก็เ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ห่างกันสักพัก? (100%)

อาทิตย์ถัดมา มหรรณพก็อุ้มเธอขึ้นเครื่อง ตั้งแต่มาอยู่กับเขารู้สึกว่าตัวเองแทบจะไม่ต้องคิดตัดสินใจทำอะไรเอง เขาจะคิดและทำให้จนหมด ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นเธอจะไม่ต้องการเลยก็ตาม “เราจะไปไหนกันคะ”ถึงแม้จะถูกวางลงบนตักแกร่ง แต่ปานระพีก็รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเครื่องบิน เพราะแว่วได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งแน่ใจว่าไม่ใช่รถยนต์ “อเมริกา”เขาตอบสั้นๆ จากนั้นก็ย้ายก้นเธอไปวางยังที่นั่งข้างกัน แล้วโน้มตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ เธอรับรู้ได้เพราะเอวคอดถูกรัดรึง ขณะที่ลมหายใจอุ่นๆ เป่าราดรดพวงแก้มนุ่ม “ไปทำไม” ถามพลางทำหน้าฉงน“ไม่พาไปขายก็แล้วกันล่ะน่า พยศแบบนี้เก็บไว้กินเองดีกว่า”เสียงห้าวทุ้มกระซิบเย้า แล้วจูบขมับอิ่มเบาๆ จากนั้นก็แนบปากอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ไม่พูดอะไร ขณะเงี่ยหูฟังว่าเธอจะตอบโต้ว่ายังไง “…”เงียบหน้าตูมเขาเริ่มรู้ว่าเธอกำลังโกรธ จึงวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มสลวย แล้วยีเบาๆ ก่อนจะเปรยออกมา“แพรอยากได้สุนัขนำทางไม่ใช่เหรอ” “อยากค่ะ!”ท่าทีแง่งอนปลิวหายไปโดยพลัน เธอเอ่ยอย่างกระตือรือร้นในรอบสัปดาห์ เงยหน้าตาเป็นประกายมองเขา จนมหรรณพอดไม่ไหวต้องโยกหัวน
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

เอาใจใส่ (30%)

“เมื่อไหร่คุณจะให้ฉันออกไปวาดรูปที่สวนสาธารณะได้เสียที?”พอไม่มีหมา นั่นจึงเป็นคำถามบ่อยที่สุดที่หลุดออกมาจากปากของคนช่างประหยัดคำพูด ส่วนคำตอบของเขาก็ยังคงเอื่อยเฉื่อย และใจเย็นจนน่าโมโหดังเดิม “ใจเย็นๆ สิพิกกี้ ช่วงนี้หิมะยังตกหนักอยู่เลย” “อย่ามาโกหก!”เสียงเย็นๆ สวนกลับ ตั้งแต่ได้ลองนั่งสมาธิเธอก็ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ถึงแม้จะโกรธขึ้งอย่างที่กำลังเป็นตอนนี้ก็ไม่ออกอาการโวยวายจนดูเหมือนไร้วุฒิภาวะ “โกหกที่ไหน หิมะตกหนักจริงๆ” “ถึงฉันจะตาบอดแต่ฉันไม่ได้โง่! และฉันก็ถามแอนนาแล้ว เธอบอกว่าช่วงนี้อากาศปลอดโปร่งมาก”คนถูกหลอกมาตั้งนานสวนกลับอย่างฉุนๆ แอนนาที่ว่า ก็คือสาวใช้คนสนิทของปานระพี หญิงสาวจากชนบทที่มหรรณพจ้างมาคอยดูแลภรรยาอย่างใกล้ชิด เพราะเห็นว่าทั้งคู่วัยใกล้เคียงกัน คนถูกจับได้กลอกตามองบน ถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วลุกจากเก้าอี้ในฝั่งตรงข้าม ไปทิ้งกายลงนั่งข้างๆ แม่คนหัวดื้อที่กำลังนั่งเม้มปากหน้าตึง“รอก่อนเถอะน่าคนดี” “รอ! รอ! รอ! คุณบอกแบบนี้ไม่รู้ตั้งกี่หน แล้วฉันต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ คุณจะปล่อยให้ฉันหายใจทิ้งไปวันๆ แบบนี้ไม่ได้ ฉันอยากทำอะไรเป็นชิ้นเป็
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

เอาใจใส่ (70%)

ปานระพีเดินฝ่าฝูงชนลูกย่อมๆ ที่เพิ่งจะก่อตัวขึ้น เมื่อมีใครคนหนึ่งเห็นเธอถือไม้เท้า แล้วเรียกคนที่อยู่บริเวณนั้นให้มามุงดู อยากจะถามนักว่าไม่เคยเห็นคนตาบอดหรือไง หากแต่ปานระพีกลับไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว เธอใช้ไม้เท้านำทางไปยังจุดประชาสัมพันธ์ตามที่วิชัยบอกได้อย่างแม่นยำ “เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณพอจะช่วยไปเรียกคุณมหรรณพให้ฉันได้ไหม”ทันทีที่มาถึงปานระพีก็เอ่ยกับพนักงานที่ประจำอยู่ตรงนั้นอย่างสุภาพ ภาษาอังกฤษสำเนียงแบบผู้ดี ทำให้แม่สาวงามประจำบริษัททำหน้าฉงนเล็กน้อย หากแต่ยังมองเธออย่างเหยียดๆ “ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรกับท่านประธานเหรอคะ”รู้ทั้งรู้ว่าเธอมากับนายใหญ่ แต่หล่อนก็ยังไม่วายเอ่ยรวน เพราะมั่นใจเป็นอย่างมากว่าคนอย่างมหรรณพไม่มีทางคว้าผู้หญิงตาบอดมาแนบข้างแน่ อย่างมากคนตรงหน้าก็คงเป็นได้แค่ญาติ ไม่งั้นคนเย็นชาอย่างมหรรณพคงไม่ทำท่าเอาใจใส่ ประคับประคองอย่างทะนุถนอมหรอก วาจาดูเหมือนพยายามที่จะสุภาพ แต่น้ำเสียงนั้นแข็งกระด้างชอบกล จนปานระพีต้องย่นคิ้วเข้าหากัน เธอก็แค่ถาม มีอะไรที่อีกฝ่ายต้องทำเหมือนไม่ชอบเธอด้วย“เขาบอกให้ฉันรออยู่แถวนี้ แต่นานแล้วเขาก็ยังไม่กลับมา คุณช่วย
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

เอาใจใส่ (100%)

“ไม่เลย ผมไม่ทันมอง เธอคงไปตอนที่ผมมาถึงล่ะมั้ง” เขาบอกไปตามความเป็นจริง เพราะช่วงเวลาที่ว่า มหรรณพเดือดจัดจนแทบคลั่ง ฉะนั้นจึงไม่ได้สนคนที่เข้ามาช่วยภรรยาของตัวเองด้วยซ้ำ เห็นแวบๆ แค่ข้างหลังว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ทว่าพอทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติคนที่ว่าก็อันตรธานไปจากบริเวณนั้นเสียแล้ว “ว้า…เสียดายจัง”“เดี๋ยวผมจะให้คนลองสืบดูให้ก็แล้วกัน” เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างเอาใจใส่ ขณะไล้แขนเรียวของคนที่นั่งอิงแอบแนบชิดอย่างเพลินๆ จากนั้นก็รับปากว่าเขาจะให้คนไปดูกล้องวงจรปิด และจะสั่งให้คนตามหาผู้หญิงคนที่ว่า หากเจอจะหาโอกาสนัดเธอมาพบกับปานระพีสักครั้ง หรือไม่ก็ขอเลี้ยงข้าวแม่สาวคนนั้นเป็นการตอบแทนน้ำใจสักมื้อ ยามสายของวันหยุดสุดสัปดาห์ ปานระพีตื่นมาด้วยความเกียจคร้าน เพราะนอนไม่หลับติดกันมาหลายคืน มหรรณพไม่อยู่ เขาบอกว่าไปทำธุระสำคัญที่อเมริกา แต่พอไม่มีคนกวนเธอกลับนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย กระวนกระวายใจ และรู้สึกไม่อบอุ่นปลอดภัย จนต้องลุกขึ้นมานั่งจมกับความมืดอยู่หลายหน นี่คงไม่ใช่อาการติดสามีและขาดเขาไม่ได้หรอกนะ!คิดอย่างท้อแท้ใจ แล้วเอื้อมมือไปคว้าไม้เท้าอัจฉริยะ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ไม่อาจทนห่าง (25%)

สองอาทิตย์ถัดมา มหรรณพก็หลอกล่อคนที่ลั่นวาจาว่าจะไม่มาบริษัทกับเขาอีก มาที่บริษัทเป็นหนที่สอง ซึ่งครั้งนี้ปานระพีได้รับการต้อนรับจากพนักงานเป็นอย่างดีในฐานะภรรยาของท่านประธาน จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าถูกเขาหลอกล่อหรอก แต่ปานระพีมีแผนในใจต่างหากล่ะ เพราะหลายวันในก่อนหน้าเธอพาเจ้าซีซาร์เดินและใช้เวลาร่วมกันอยู่แต่ในบริเวณบ้าน วันนี้จึงอยากออกมาทดสอบความสามารถข้างนอกบ้าง ระหว่างที่นั่งมาในรถ โดยมีหมานอนหลับตาอยู่แทบเท้า คนที่จับมือนุ่มอยู่ก็เอาอะไรสักอย่างมาสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ จากความรู้สึกค่อนข้างจะแน่ใจว่ามันคือแหวน แต่กระนั้นก็ยังไม่วายเอ่ยแก้เก้อ “อะไรคะเนี่ย?”“แหวน” เสียงทุ้มเจือละมุนกระซิบชิดขมับอิ่ม แล้วกดจูบหนักๆ“แหวน?”“อ่าฮะ แหวนแต่งงาน”คำอธิบายขยายความทำให้คนฟังใจสั่น“เรายังไม่ได้แต่งงานกันซะหน่อย”เธออุบอิบ แก้มแดงๆ แต่มือยังไม่วายลูบแหวนป้อยๆ และท่าทางแถแบบน่ารักน่าชังก็ทำให้เขาอดที่จะเอาปลายนิ้วเคาะที่สันจมูกรั้นไม่ได้ ก็เมียเขาน่ามันเขี้ยวชะมัด “ถึงไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน แต่จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้อง และเป็นสามีภรรยากันทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย”“…”คนฟังเถียงไ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more

ไม่อาจทนห่าง (50%)

ไม่นานอาหารกลิ่นหอมเตะจมูกยั่วน้ำลายก็ถูกลำเลียงออกมาเสิร์ฟ เธอได้ยินเสียงเจ้าซีซาร์ขยับตัวอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าอาหารของมันก็คงถูกนำมาเสิร์ฟแล้วเช่นกัน “เฮ้! หวัดดีคะ เราเจอกันอีกแล้วนะ”ในจังหวะที่จัดการกับอาหารคาวจนหมดเกลี้ยง เรียกได้ว่าเจริญอาหารอย่างที่ไม่เคยเป็นในรอบหลายเดือน เสียงหนึ่งซึ่งเป็นภาษไทยก็ดังขึ้น ทำให้มือที่กำลังจะเอื้อมไปควานหาของหวาน ซึ่งเจ้าของร้านใจดีอุตส่าห์มากระซิบกระซาบบอกว่าอยู่ตรงไหน ชะงักลง คิ้วเรียวเหนือดวงตากลมโตขมวดเข้าหากันเล็กน้อย“เอ่อ…เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ”“ฉันเป็นคนที่เข้าไปช่วยคุณไว้ ตอนคุณถูกแม่สาวพีอาร์ของบริษัทที่อยู่ตรงข้ามแกล้งไงคะ…จำได้ไหม?” น้ำเสียงหวานใสทำให้คนฟังพยักหน้า แล้วเอ่ยอย่างยินดี“ดีใจจังที่ได้เจอคุณ ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” “ยินดีค่ะ”“เชิญนั่งก่อนสิคะ ให้ฉันได้เลี้ยงข้าวคุณสักมื้อเป็นการตอบแทน”คนที่นึกอยากจะตอบแทนผู้ที่ช่วยตัวเองอย่างจริงใจเอ่ยด้วยท่าทางกระตือรือร้น“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเรียบร้อยมาจากในครัวแล้ว และฉันต้องไปแล้ว พอดีว่ามีงานอีกที่น่ะ ไปแล้วนะคะ แล้วเจอกัน” คนที่ว่าปฏิเสธอย่างละมุนละม่อม จากนั้นเธอก็
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
PREV
1
...
678910
...
13
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status