All Chapters of หลังถูกถอนหมั้นฉันก็ได้ดี: Chapter 11 - Chapter 20

30 Chapters

บทที่ 11

“ยังจะมัวอึ้งอยู่ทำไม รีบลุกขึ้นเร็ว”คนในห้องเอ่ยเตือนสวีหว่านหนิง ส่วนใหญ่น่าจะรู้สึกว่าประธานเกาทำเกินกว่าเหตุ เข่าของเธอเจ็บร้าวไปหมด ตอนลุกขึ้นร่างกายซวนเซจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองลู่เยี่ยนเป่ย ได้แต่กล่าวขอบคุณเสียงเบา แล้วรีบหนีออกจากห้องไป“ทะ... ท่านรอง...” ประธานเกาเริ่มลนลาน ยกมือขึ้นปาดเหงื่อเย็นบนใบหน้า“น่าเบื่อชะมัด”ลู่เยี่ยนเป่ยพูดจบ ก็เดินออกจากห้องไปทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาอุตส่าห์นัดลู่เยี่ยนเป่ยมาได้ เดิมทีคิดจะเอาใจเขา แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแบบนี้......ตอนที่สวีหว่านหนิงออกจากโรงแรม ท้องฟ้าก็เริ่มมีฝนโปรยปรายลงมาอีกครั้ง ฤดูฝนช่วงดอกเหมยบานของเมืองเจียงมาถึงแล้ว ความอบอ้าวผสมกับสายฝน ชวนให้คนรู้สึกหงุดหงิดขาเธอเจ็บ ช่วงนี้เลยไม่ได้ขับรถ โรงแรมเซิ่งเม่าก็อยู่ห่างจากตัวเมือง ฝนตกแบบนี้ยิ่งหารถยากเข้าไปใหญ่ต่อให้เรียกรถได้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีตอนที่ลู่เยี่ยนเป่ยออกมาจากโรงแรม เขากำลังก้มหน้าดูวิดีโอที่ผู้เฒ่าที่บ้านส่งมา ในคลิปเจ้าตัวเล็กกำลังแอบเอาแครอทหมกไว้ก้นชาม แถมยังคิดเองเออเองว่าไม่มีใครเห็น ทำเหมือ
Read more

บทที่ 12

จังหวะที่ลู่เยี่ยนเป่ยขยี้บุหรี่ดับลง สวีหว่านหนิงก็นั่งลงบนตักของเขาอย่างว่าง่ายแล้วทั้งสองนั่งหันหน้าเข้าหากัน เธอไม่กล้าสบตาเขา ได้แต่หลุบตาต่ำ มือของลู่เยี่ยนเป่ยวางอยู่บนเอวของเธอ ลูบไล้เสียดสีเบาๆ ทว่าสัมผัสนั้นกลับรุนแรงชัดเจน ร่างกายของเธอเกร็งไปทั้งตัว เผลอกัดริมฝีปากแน่น ขนตาสั่นระริก“สถานที่แบบนั้น เธอไม่ควรไป” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าแต่สวีหว่านหนิงเงยหน้าขึ้น สบสายตากับเขา“ท่านรองคะ ในโลกนี้ไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตยังไงหรอกนะคะ”มีเพียงคนสูงส่งอย่างเขาเท่านั้น ที่ก่อนจะลงมือทำอะไร ถึงค่อยคิดว่าควรไม่ควร เต็มใจหรือไม่เต็มใจแต่คนอย่างเธอ ไม่มีทางเลือกลู่เยี่ยนเป่ยยกมุมปาก ก้มหน้าลง ขบเม้มที่ซอกคอของเธอเบาๆ จนร่างของเธออดไม่ได้ที่จะหดเกร็ง “ปากเก่ง...”“แต่ตัวกลับนุ่มเชียว”ใครเขาก็ว่าท่านรองสกุลลู่มักน้อยในกามรมณ์ แต่ถ้อยคำที่เอ่ยออกมา ทุกคำช่างยั่วยวนใจมือของเขาเลื่อนไล้ไปทั่วเอวเธอ จุดไฟปรารถนาอย่างเอาแต่ใจ สวีหว่านหนิงจะทานทนไหวได้อย่างไรได้แต่กำเสื้อตรงหน้าอกเขาไว้แน่น“เมื่อก่อนเธอเคยไปเมืองหลวงไหม?”สวีหว่านหนิงไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เขา
Read more

บทที่ 13

สายตาของเฉินไป่อันเต็มไปด้วยความขบขัน เยาะเย้ย และดูถูกเหยียดหยามสวีหว่านหนิงไม่อยากเสวนากับเขา หันหลังเตรียมจะเดินหนี แต่กลับถูกเขากระชากแขนเอาไว้ “เหล้าบนขากางเกงคนอื่น อร่อยไหมล่ะ?”“เกี่ยวอะไรกับนาย!”สวีหว่านหนิงสะบัดแขนอย่างแรง ปัดมือเขาออกไป“ส่งหลานสาวแท้ ๆ ไปปรนเปรอชายแก่ ตระกูลสวีของพวกเธอนี่เพื่อเงินแล้วทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ยั่วยวนลู่เยี่ยนเป่ยเสร็จ แม้แต่คนอย่างประธานเกาก็ยังเอาลง สวีหว่านหนิง เธอนี่มันต่ำจริง ๆ”ผู้ชายที่รักมาตั้งหลายปี กลับพูดจาแบบนี้ออกมาได้ สวีหว่านหนิงเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงหัวใจจมูกแสบรื้น ขอบตาร้อนผ่าวเธอสูดหายใจเข้าลึก เงยหน้าขึ้นมองเขา “ฉันต่ำงั้นเหรอ? คุณชายเฉิน ตอนที่นายคอยจูงม้าให้คุณหนูใหญ่ตระกูลลู่ ฉีกยิ้มประจบสอพลอขนาดนั้น นายไม่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยบ้างหรือไง?”ใบหน้าของเฉินไป่อันถมึงทึงน่ากลัวเขากำหมัดแน่น เส้นเลือดที่หน้าผากเต้นตุบ ๆ “พูดอีกทีซิ!”“ฉันมันต่ำ ตราบใดที่เป็นผู้ชาย ฉันเอาได้หมดแหละ ยกเว้นนาย!”“สวีหว่านหนิง อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”เฉินไป่อันสีหน้ามืดครึ้ม สะบัดมือเดินจากไปน้ำตาของสวีหว่านหนิงเอ่อคลอเ
Read more

บทที่ 14

คนที่ทักทายเธอ คือคนข้างกายของลู่เยี่ยนเป่ย ชื่อลู่หมิง“สวัสดีค่ะ” สวีหว่านหนิงทักทายอย่างมีมารยาท“ที่แท้คุณก็ทำงานที่โรงพยาบาลนี้นี่เอง” ลู่หมิงมองสำรวจเธอ “ตอนนี้คุณกำลังจะ...”สวีหว่านหนิงเพียงแค่ยิ้ม ลู่หมิงช่างสังเกตสีหน้าท่าทางอยู่แล้ว จึงไม่ได้ถามต่อ เพียงแต่แววตาเป็นประกายวูบหนึ่ง แล้วพูดว่า “คุณหนูสวีครับ รบกวนช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ?”“เกรงว่าฉันคงไม่มีอะไรช่วยคุณได้หรอกค่ะ”“คุณช่วยผมได้แน่นอนครับ”“อะไรเหรอคะ?”“ผมอยากเชิญคุณไปตรวจอาการให้ท่านรองของผมหน่อยครับ”สวีหว่านหนิงอึ้งไปหลายวินาทีก่อนหน้านี้เธอมีความคิดที่จะยั่วยวนลู่เยี่ยนเป่ยจริง ๆ แต่หลังจากผ่านเรื่องเมื่อคืน เธอก็รู้ชัดว่าลู่เยี่ยนเป่ยไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว การที่เธอจะหน้าด้านตื๊อเขาต่อไปก็ไม่มีความหมายเพราะถึงอย่างไร ถ้าไม่ถูกบีบคั้น ใครจะอยากทำตัวไร้ค่าลู่หมิงดูออกว่าเธอลังเล จึงพูดต่อว่า “ด้วยสถานะของเขา เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรเอิกเกริก คงต้องรบกวนคุณแล้วล่ะครับ”“คุณเป็นหมอ คงไม่แล้งน้ำใจปล่อยให้คนตายหรอกนะครับ”“ชีวิตท่านรองของผมนี่น่าเวทนาจริง ๆ”ลู่เยี่ยนเป่ยจะตายเหรอ? จะเวอร์เกินไปไห
Read more

บทที่ 15

สวีหว่านหนิงก็อึ้งไปกับคำพูดของเขา “ถอดเสื้อเหรอคะ?”“เธอจะดูแผลฉันไม่ใช่เหรอ? ไม่ถอดเสื้อจะดูได้ยังไง?” ลู่เยี่ยนเป่ยถามกลับคำพูดนี้ถูกต้องจนไม่สามารถโต้แย้งได้ สวีหว่านหนิงพยักหน้า ก็เห็นลู่เยี่ยนเป่ยยกผ้าห่มลงจากเตียงเขาสวมชุดอยู่บ้านแขนสั้นสีเทาควันบุหรี่ เขาเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อจากล่างขึ้นบน ตอนนั้นเองลู่หมิงก็รีบปิดม่านหน้าต่าง แล้วทิ้งท้ายประโยคว่า “พวกคุณรีบจัดการธุระเลยนะครับ” ก่อนจะวิ่งออกจากห้องนอนไปสวีหว่านหนิงขมวดคิ้ว จัดการธุระอะไร? ฟังดูแล้ว ทำไมมันแปลก ๆ ชอบกลพอปิดม่านแล้ว บรรยากาศก็แปลกประหลาดขึ้นมาในทันที ลู่เยี่ยนเป่ยถอดเสื้อชั้นบนออก แม้แต่ผู้ชายที่ถอดเสื้อไปจนถึงเปลือยกายทั้งตัว สวีหว่านหนิงก็เห็นมาไม่น้อย แต่เธอก็ต้องยอมรับว่า ลู่เยี่ยนเป่ยแตกต่างจากคนอื่น ๆกล้ามเนื้อที่เพรียวและแข็งแกร่ง ร่องรอยบาดแผลที่ตื้นลึกไม่เท่ากัน เอวคอดกิ่วแข็งแรง ร่องซิกแพ็กและหน้าท้องปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าใครเห็น ก็คงต้องมองซ้ำแล้วซ้ำอีก“คุณสวี” ลู่เยี่ยนเป่ยขยับเข้าไปใกล้เธอ กดเสียงต่ำ “เธอเตรียมจะดูยังไง?”“คุณเจ็บตรงไหนคะ?”“บั้นเอวและแผ่นหลัง”ตอนที่ลู่เยี่
Read more

บทที่ 16

แววตาของลู่เยี่ยนเป่ยมืดดำลงเล็กน้อย เขาดึงมือเธอออกจากเสื้อของตัวเอง เขาจ้องใบหน้าที่งดงามของเธอ แม้ในยามป่วยไข้ก็ยังเป็นความงามที่เปราะบาง แลดูเชื่อฟัง ถึงแม้เธอจะตัวเล็ก แต่กลับสามารถกระตุ้นความปรารถนาที่อยากจะทำลายล้างอันบ้าคลั่งของผู้อื่นได้อย่างง่ายดายหากไม่ใช่เพราะเธอป่วย เขาก็อยากทำลายเธอให้ย่อยยับจริง ๆ เขาออกจากห้องนอน แล้วเดินไปที่ริมหน้าต่าง ก่อนสะบัดบุหรี่มวนหนึ่งออกจากซอง แล้วคาบไว้ที่ปาก จากนั้นก็ยกไฟแช็กขึ้นจุด“ผมบังเอิญเจอคุณหนูสวีตอนที่ไปหาหมอในโรงพยาบาล” ลู่หมิงอธิบาย “เหมือนเธอกำลังถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล” เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งได้ยินสวีหว่านหนิงเรียกชื่อของเฉินไป่อัน ดังนั้นจึงรู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย มิน่าล่ะคนในเมืองเจียงถึงได้บอกว่า สวีหว่านหนิงนั้นรักเฉินไป่อันอย่างหัวปักหัวปำดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นความจริง ลู่เยี่ยนเป่ยตอบรับหนึ่งเสียง เดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นฝีมือของใคร จากนั้นก็มีเสียง “คลิก” หนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นประกายแสงจากไฟแช็กก็สะท้อนเข้าที่ใบหน้าของเขา ก่อนเขาจะดับมันลงลู่หมิงชะงักไปเล็กน้อย ท่านรองของเขาเป็นสิงห์อมควัน แต่นี่กลับเป็น
Read more

บทที่ 17

สวีหว่านหนิงแทบจะไม่พูดคำหยาบ แต่เฉินไป่อันกลับใช้วิธีการเลวทราม ทำให้เธอลาออก นั่นทำให้เธออดทนไม่ไหวอีกต่อไป ต่อให้อยู่ต่อหน้าลู่เยี่ยนเป่ยเธอก็ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง และระเบิดคำหยาบออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ยังไม่ทันถึงเขตวิลล่าอวี้หลงวานอันเป็นที่พักอาศัยของตระกูลสวี สวีหว่านหนิงก็เรียกให้เขาหยุดรถ “ยังไม่ถึง” ลู่เยี่ยนเป่ยพูด“จอดตรงนี้ก็พอแล้วค่ะ หากคนอื่นเห็นฉันลงมาจากรถของคุณ อาจจะทำให้เกิดข่าวลือที่ไม่จำเป็นได้” สวีหว่านหนิงพูด หลังขอบคุณเสียงเบา จากนั้นเธอก็ลงจากรถพร้อมอุ้มกล่องเอกสาร แสงอาทิตย์ตกทอดยาวสะท้อนเงาร่างของเธอจนเป็นเส้นตรงแผ่นหลังเหยียดตรง ท่าทางดื้อรั้น “ท่านรอง คุณหนูสวีคนนี้น่าสนใจมากทีเดียว” ลู่หมิงหัวเราะคิกคักชอบใจ เดิมทีการที่ท่านรองจะมาส่งใครนั้นก็เป็นเรื่องที่ประหลาดมากพออยู่แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่ให้เขาไปส่งที่หน้าประตู “น่าสนใจตรงไหน?”ลู่หมิงชะงักไป จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุย “อวี๋เหล่าบอกว่าอีกสองวันเขาจะมาที่เมืองเจียง”ลู่เยี่ยนเป่ยพยักหน้า เขามองแผ่นหลังของสวีหว่านหนิงอีกครั้ง จากนั้นก็สั่งให้ลู่หมิงออกรถ **ตอนที่สวีหว่านหน
Read more

บทที่ 18

สวีหว่านหนิงใบหน้าซีดขาว ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่หน้าประตู ที่นี่คือเรือนหอที่เธอกับเฉินไป่อันซื้อมาด้วยกันตั้งแต่สามปีก่อน อาศัยเพียงแค่การรีโนเวทก็ทำให้เธอเหนื่อยมากแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับกกกอดผู้หญิงอีกคนในห้องของเธอแม้ในใจเธอจะบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าอย่าไปเสียใจให้ผู้ชายสารเลว แต่หัวใจของเธอก็ยังแตกสลายอยู่ดี ผู้หญิงที่นั่งคร่อมตัวเฉินไป่อันสังเกตเห็นว่าเขาหยุดการกระทำไป เธอจึงยื่นมือโอบรอบคอของเขา เสื้อผ้าของเธอหลุดไปครึ่งหนึ่ง แล้วพูดออดอ้อนเสียงหวานว่า “คุณชายเฉินคะ…”“ออกไปก่อน” เฉินไป่อันตีก้นเธอ แม้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่พอใจ แต่ก็ยอมสวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป ขณะที่เธอกำลังเดินผ่านสวีหว่านหนิง เธอก็ยังตั้งใจกระแทกตัวชนเรียกร้องความสนใจ!สวีหว่านหนิงจำผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ แต่ดูจากท่าทางแล้ว เธอน่าจะเคยทำแบบนี้อยู่เป็นประจำพวกเขาหมั้นมาห้าปี แต่เฉินไป่อันไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ทว่าเธอได้ยินมาว่า เขายอมจ่ายเงินให้คนนอกเพื่อจัดการปัญหาทางด้านกายภาพเหล่านี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอ ดังนั้นจึงระงับความตกใจไว้ไม่ได้ “นายเรียกฉันมาหา เพราะอยากให้ฉันดูอะไรแบบนี้เหรอ?” มุมปา
Read more

บทที่ 19

เฉินไป่อันหัวเราะเยาะคำพูดของเธอ ท่าทางไม่ใส่ใจ “ข้อแม้ในการถอนหมั้นฉันก็บอกไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูแล้วว่าตระกูลสวีของเธอจะทำยังไงต่อไป”“ฝันไปเถอะ!”สวีหว่านหนิงพูด ก่อนหมุนตัวเดินจากไป เฉินไป่อันก็ไม่ได้คิดจะรั้ง ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเธอเป็นคนที่เงียบขรึม นอกจากหน้าตาดีและฉลาดแล้ว อย่างอื่นไม่ได้เรื่อง การที่เขาเสนอเงื่อนไขแบบนี้ เดิมทีก็เป็นแค่การกวนประสาทตระกูลสวีเท่านั้นแต่ตอนนี้เขากลับพบว่าเธอน่าสนใจมากทีเดียวเธอเป็นเด็กกำพร้า สำหรับเธอแล้วตระกูลสวีนั้นมีความหมายมากขอเพียงแค่สามารถบีบตระกูลสวีได้ ต่อให้สวีหว่านหนิงไม่มาขอร้องเขา แต่นิสัยหัวแข็งแบบนี้ก็สามารถสั่งสอนได้ ผู้ชายน่ะ มักจะชอบการทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนมาก**ตอนที่สวีหว่านหนิงออกมาจากเรือนหอ เธอก็ได้บังเอิญเจอกับผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่ชั้นล่างอีกฝ่ายแต่งหน้าเข้ม สวมเสื้อเกาะอกกระโปรงสั้นแบบที่แทบจะปิดก้นได้พอดี ผู้หญิงคนนั้นกำลังยืนพ่นควันบุหรี่อยู่ใต้ไฟริมทาง เมื่อเธอเห็นสวีหว่านหนิง เธอก็หัวเราะเยาะ “คุณชายเฉินไม่ยอมให้เธอค้างคืนด้วยหรือไง?”สวีหว่านหนิงไม่สนใจเธอ จากนั้นก็เดินไปที่รถของตัวเองผู้หญิงคนน
Read more

บทที่ 20

เฉินไป่อันลงมือโหดเหี้ยม บีบบังคับเธอหนักหน่วง ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน บริษัทของตระกูลสวีก็ไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้ ก่อนหน้านี้ตระกูลสวีร่ำรวย อำนาจล้นฟ้า ทุกคนล้วนเข้าหา แต่ตอนนี้เมื่อกำแพงเริ่มคลอนแคลนผู้คนก็ช่วยกันผลักให้ล้ม ทุกคนหลีกหนีไม่อยากเข้าใกล้ การที่จะหาใครสักคนมาลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นราวกับขึ้นสวรรค์หลังสวีเจิ้นหงออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ขายอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งเพื่อหมุนเงิน สวีหว่านหนิงยื่นเรซูเม่สมัครงานไปทั่วทุกที่ เพราะเธออยากแบ่งเบาภาระของครอบครัว ตอนนั้นมีคนมาติดต่อเธอ และต้องการให้เธอไปเป็นแพทย์ประจำตัว โดยที่ค่าตอบแทนรายชั่วโมงนั้นน่าดึงดูดมาก เขานัดเธอให้ไปพบกันที่บ้าน เมื่อถึงคฤหาสน์เหล่าสาวใช้ก็ชี้นิ้วไปด้านบน “คุณหนูรอคุณอยู่ข้างบนค่ะ”สวีเจิ้นหงเดินขึ้นไปบนบันไดทันทีโดยไม่ได้เอะใจ เพียงแต่เมื่อขึ้นไปได้ไม่กี่ก้าว ลู่ซินอวี่ก็เดินลงมาเจอเธอ “เธอมาสมัครเป็นแพทย์ประจำตัวอย่างนั้นเหรอ?”สวีหว่านหนิงตัวแข็งทื่อและต้องการจะหมุนตัวเดินจากไปเมื่อเผชิญหน้ากับลู่ซินอวี่ เธอไม่มีทางสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ “คุณหนูสวี ไม่อยากได้งานแล้วเหรอคะ?” ลู
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status