ลู่เยี่ยนเป่ยไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ เขาไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น หลังการจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จ พวกเขาก็ออกจากสถานีตำรวจไปพร้อมกัน “ท่านรอง ขอบคุณนะคะ”“ขึ้นรถ” ลู่เยี่ยนเป่ยยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่แยแส “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกรถกลับบ้านเองได้”ลู่เยี่ยนเป่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เขายังเงียบเสียงรอเธอต่อไป เมื่อนึกถึงความช่วยเหลือของเขาเมื่อครู่นี้ สวีหว่านหนิงก็ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ขึ้นรถไปกับเขาอยู่ดี รถขับมาถึงที่โรงพยาบาล สวีหว่านหนิงถูกส่งไปตรวจร่างกายหลายรายการ คุณหมอแนะนำให้เธออยู่ดูอาการสักสองสามวัน เนื่องจากศีรษะด้านหลังได้รับการกระทบกระเทือน จำเป็นต้องตรวจซ้ำอีกครั้งตอนที่พยาบาลเข้ามาทำแผลให้เธอ ลู่เยี่ยนเป่ยก็ยืนมองอยู่ด้านข้าง น่องของเธอมีรอยฟกช้ำเป็นสีเขียว ข้อศอกทั้งสองมีรอยถลอก เมื่อน้ำยาฆ่าเชื้อสัมผัสกับแผล เธอก็สูดลมหายใจเข้าด้วยความเจ็บปวด แต่ก็กัดฟันทนไม่ยอมร้องออกมาบอบบาง แต่ดื้อรั้น ช่างน่าสงสารและน่าเอ็นดู เมื่อพยาบาลออกไปแล้ว ลู่เยี่ยนเป่ยก็เดินเข้ามาที่ข้างเตียง จากนั้นก็เหลือบสายตามองเธอแล้วถามว่า “ไม่เจ็บเหรอ?”สวีหว่านหน
อ่านเพิ่มเติม