ในมุมของผม ชอบเริ่มจากงานที่มีโลกขนาดใหญ่และการสร้างสรรค์ตัวละครชัดเจน เช่น 'The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring' เพราะงานภาพและดนตรีช่วยพาเข้าสู่โลก Middle-earth ได้ทันที ส่วนใครอยากได้โทนแฟนตาซีผสมคอมเมดี้กับความโรแมนติกแบบผู้ใหญ่ผมมักแนะนำ 'Stardust' ที่มีความสนุกแบบนิยายเทพนิยายสำหรับผู้ใหญ่
อีกสองเรื่องที่มักจะเจอเวอร์ชันพากย์ไทยเต็มเรื่องตามช่องทางฟรีคือ 'Howl's Moving Castle' ของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งเป็นแฟนตาซีอบอุ่นหัวใจที่เหมาะกับการดูซ้ำ และถ้าต้องการบรรยากาศแบบผจญภัยในโลกใหม่ลอง 'The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe' ดู—มันให้ความรู้สึกย้อนวัยและมีมิติของจริยธรรมที่เด็กดูแล้วโตได้
บอกเลยว่า 2021 ทิ้งผลงานที่ยังค้างในหัวฉันไว้หลายเรื่อง แต่ถ้าต้องคัดสามเรื่องที่นักวิจารณ์ชอบพูดถึงมากที่สุด จะหยิบ 'The Power of the Dog', 'Drive My Car' และ 'Dune' มาเล่าให้ฟัง
ความเงียบและแรงกดดันใน 'The Power of the Dog' ทำให้หัวใจเต้นไม่เหมือนเดิม—การแสดงของนักแสดงนำถูกถ่ายทอดด้วยน้ำหนักที่ทำให้ฉากธรรมดากลายเป็นระเบิดเวลา หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าบางครั้งความรุนแรงที่สุดคือสิ่งที่ไม่ต้องพูดออกมา ผู้กำกับวางจังหวะได้เยือกเย็นจนฉันต้องนั่งนิ่ง ๆ และติดตามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สะท้อนตัวละคร