หลังอ่านฉากบทสรุปของ 'แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องราง
ยมทูต' ครั้งแรก ความเงียบหลังจากประตูรถไฟปิดลงทำให้ผมคิดถึงภาพรวมของจักรวาลวิเศษนี้ในระดับสังคมมากกว่าความโรแมนติกหรือโชคชะตาของตัวละครแต่ละคน
ฉากตอนท้ายที่ย้ายไปเป็นภาพเด็กๆ รอขึ้นรถไฟที่สถานี 19 ปีถัดมา ทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายการเปลี่ยนผ่าน: จากยุคปฏิวัติ การต่อต้าน และการสูญเสีย มาสู่อีกยุคหนึ่งที่เต็มไปด้วยการเยียวยาและการฟื้นฟูทางสถาบัน สิ่งที่ผมชอบคือมันให้ความรู้สึกว่าโลกเวทมนตร์ไม่ได้ยุติปัญหาแค่การปราบ
จอมมาร แต่องค์กรอย่างกระทรวงเวทมนตร์จะต้องฟื้นตัว ปรับโครงสร้าง และเผชิญหน้ากับผลกระทบจากการรัฐประหารของวอลเดอมอร์ ทั้งเรื่องสิทธิของ
มักเกิ้ล-เกิด ตลอดจนสถานะของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในสังคมวิเศษ
นอกจากนี้ ฉากบทสรุปยังมีผลในเชิงวัฒนธรรมและการเล่าเรื่อง: มันปิดฉากให้บทประวัติศาสตร์กลายเป็นตำนานภายในจักรวาลเอง คนรุ่นหลังจะเล่าถึง 'เด็กผู้รอดชีวิต' แบบเดียวกับที่เรารู้จักตำนานฮีโร่ในงานอย่าง 'The
lord of the rings' แต่ความต่างคือโฟกัสที่เลือกจะอยู่ที่ความธรรมดาของชีวิตประจำวันที่ตามมา—ความเป็นพ่อแม่ ความสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ และการคืนสภาพปกติให้กับสังคม ซึ่งทำให้ภาพรวมของเรื่องมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ผมก็มีคำถามค้างไว้เหมือนกันว่าการจบบทแบบนี้ทำให้ประเด็นบางอย่างถูกกลบ เช่น ผลกระทบระยะยาวต่อผู้ที่ถูกกดขี่หรือถูกทรมาน หรือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ลึกซึ้งกว่านั้น เรื่องราวจบด้วยความอบอุ่นและมั่นคงทางอารมณ์ แต่ในแง่การเมืองและสังคมยังมีช่องว่างให้แฟนๆ และนักเขียนท่านอื่นๆ มาเติมเต็มต่อได้ ซึ่งก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของจักรวาลนี่แหละ