ฉากเล็กๆ ใน 'Blue Box' ที่ทำให้ใจพองและสะกิดความทรงจำของคนอ่านมักไม่ได้มาในรูปแบบฉากใหญ่โต แต่เป็นช่วงเวลาที่ความเงียบและการจ้องตาเอ่ยแทนคำพูด ฉันรู้สึกประทับใจกับการจัดจังหวะของมังงะเรื่องนี้—การเว้นช่องว่างระหว่างคำให้ผู้อ่านได้หายใจและเติมอารมณ์เอง—ซึ่งแปลไทยก็ทำหน้าที่คล้ายเครื่องย้ำความรู้สึกได้ดี เพราะแปลเลี่ยงการใส่คำอธิบายเกินความจำเป็น ให้บทพูดสั้น ๆ และเสียงนิ่ง ๆ ของตัวละครสื่ออารมณ์ได้ชัดเจน
ฉากที่ฉันคิดว่าชัดเจนที่สุดคือโมเมนต์หลังการแข่งขันหรือซ้อม เมื่อความตึงเครียดและความคาดหวังถูกปลดลง เหลือเพียงสองคนที่ยังยืนอยู่ด้วยกันในพื้นที่คับแคบ การสัมผัสมือโดยไม่พูด มากไปกว่านั้นคือมุมกล้องในภาพที่ซูมเข้าหน้า ทำให้เห็น
แววตาแดง ๆ เล็กน้อยหรือบางครั้งเป็นเงาใบหน้าที่แทบจะไม่ต้องมีบทพูดเลย การแปลไทยที่เลือกใช้คำเรียบ ๆ แต่ตรงประเด็นช่วยให้ผู้อ่านไทยรับอารมณ์นั้นได้ง่ายขึ้น เพราะคำพูดไม่เยิ่นเย้อเกินกว่าจะบดบังความเงียบที่เป็นเสน่ห์ของฉาก
อีกชุดฉากที่โดนใจและต่างจากโมเมนต์หลังแข่งคือฉากใกล้ชิดในพื้นที่ส่วนตัว เช่นการเดินกลับบ้านด้วยกันหรือแชร์ร่มในวันฝน
พรำ ตอนเหล่านั้นมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ—กลิ่นไอของอากาศ การจัดแสง เสียงฝน—ที่ทำให้ความสัมพันธ์ค่อย ๆ ก่อตัวและทำงานได้ดีกับการพรีเซนต์ภาพแบบสโลว์ไทม์ ฉันชอบการแสดงออกของผู้วาดที่ใช้เส้นสายละเอียดกับพื้นหลังกระจัดกระจาย เพื่อเน้นความอบอุ่นระหว่างคู่พระนาง ฉากพวกนี้ในฉบับแปลไทยมักถูกพูดถึงเพราะมันใกล้ตัวและเข้าถึงง่าย จบด้วยความรู้สึกพอดีที่ไม่หวานเจี๊ยบ แต่ทรงพลังพอจะทำให้อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า