ดิฉันมักจะกลับไปอ่าน 'เสียงเพลงระหว่างทาง' เวอร์ชันรวมเรื่องสั้นบ่อยครั้ง เพราะเป็นเล่มที่แสดงมุมมองหลากหลายของผู้เขียนได้ชัดเจนที่สุด การเอาเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันมาขยายเป็นบทเล่าเรื่องที่มีน้ำหนักทางอารมณ์เป็นของเล่นชิ้นโปรด ความเรียบง่ายในภาษาแต่แฝงความคมทำให้บทสั้นแต่จำได้ยาว ทั้งโครงเรื่องและภาพฉากที่ถูกวางไว้ส่งให้ผู้อ่านไหลตามอารมณ์ได้สะดวก
งานอีกชิ้นที่ดิฉันคิดว่าไม่ควรพลาดคือ 'ดาบแห่ง
รุ่งอรุณ' ซึ่งออกแนวแฟนตาซีผสมดราม่า ผู้เขียนเล่นกับธีมหน้าที่และการไถ่บาปได้อย่างลงตัว ฉบับพิมพ์ของสองเล่มนี้มักมีวางในร้านหนังสืออิสระหรือบูธงาน
หนังสือ แนะนำให้เช็กที่ 'Kinokuniya' เมืองใหญ่บางสาขามีสต็อก หรือถ้าชอบสะดวกสบายก็มีสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ในร้านออนไลน์อย่าง 'Shopee' และ 'Lazada' ที่ผู้ขายอิสระนำมาจำหน่าย รวมถึงเว็บไซต์ร้านหนังสือท้องถิ่นที่มีระบบสั่งจอง — วิธีเลือกขึ้นกับว่าอยากได้ปกหรือความสะดวกแบบไหน