ฮาเร็มในงานบันเทิงเป็นแนวที่ฉันติดตามมานานและมักจะสร้างความรู้สึกสองขั้วให้กับแฟนๆ ทั้งรักและวิจารณ์ มันโดยทั่วไปหมายถึงเรื่องราวที่มีตัวเอกคนหนึ่งซึ่งล้อมรอบด้วยตัวละครเพศตรงข้ามหลายคนที่มีความสนใจเชิงโรแมนติกหรืออารมณ์ผูกพันต่างๆ กัน ฝั่งชายที่มีสาวๆ รอบตัวมักถูกเรียกว่าฮาเร็ม ส่วนฝั่งหญิงที่มีหนุ่มๆ รอบตัวเรียกว่าฮาเร็มกลับกันหรือreverse
harem แนวนี้เกิดจากแนวคิดเรื่องความฝันของผู้ชมว่าจะมีคนมาทุ่มเทต่อคนเดียว ทำให้มันกลายเป็นพื้นที่ให้แฟนตัวยงสร้างจินตนาการและความผูกพันแบบแฟนฟิคและแฟนอาร์ตได้ง่าย ตัวอย่างคลาสสิกเช่น 'Tenchi Muyo!' หรือ 'Love Hina' แสดงภาพฮาเร็มในแบบคอมเมดี้และฟานเซอร์วิส ขณะที่งานบางชิ้นจะผสมดราม่าและการเติบโตของตัวละครเข้าด้วยกัน
นักวิจารณ์มักชี้ว่าฮาเร็มมีผลต่อพล็อตในหลายทางทั้งบวกและลบ ด้านหนึ่งมันสามารถทำให้พล็อตยืดเยื้อเพราะโฟกัสถูกแบ่งไปกับความสัมพันธ์หลายเส้น ทำให้จุดพีคทางเรื่องและความขัดแย้งหลักถูกเลื่อนหรือจางลงได้ นอกจากนี้ถ้าเขียนไม่ดี ตัวละครฝ่ายที่เป็นเป้าหมายของฮาเร็มมักถูกลดบทบาทให้เป็นสัญลักษณ์แทนคนจริงๆ—มีคุณสมบัติซ้ำซากเช่น 'เงียบๆ น่ารัก' หรือ '
ซึนเดเระ' ซึ่งทำให้ความลึกของตัวละครหายไป นักวิจารณ์จึงมักวิจารณ์ว่าฮาเร็มกดทับการพัฒนาตัวเอกหรือทำให้การตัดสินใจเชิงโรแมนติกกลายเป็นการผูกเชือกไว้กับแฟนเซอร์วิสมากกว่าการเติบโตเชิงอารมณ์
แต่ในมุมกลับ ฮาเร็มก็มีประโยชน์ต่อพล็อตเมื่อผู้เขียนใช้เป็นเครื่องมือเล่าเรื่อง ไม่ใช่แค่แผงโชว์ความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่นงานที่นำแนวฮาเร็มไปผสมกับภารกิจหรือการเติบโตส่วนบุคคล จะทำให้แต่ละความสัมพันธ์กลายเป็นกระจกส่องแง่มุมต่างๆ ของตัวเอก 'The World God Only Knows' ใช้ธีมการจีบเป็นกลวิธีขับเคลื่อนพล็อตและให้ตัวละครหญิงแต่ละคนมีอาร์คของตัวเอง ขณะที่งานอย่าง 'Bakemonogatari' แม้จะมีองค์ประกอบหลายคนล้อมรอบตัวเอก แต่กลับใช้บทสนทนาและการสำรวจตัวตนเพื่อขยายความลึกของเรื่อง ดังนั้นผลลัพธ์ขึ้นกับทักษะการเขียน: ถ้าโฟกัสที่การพัฒนาตัวละครและความหมายแนวโรแมนติก ฮาเร็มสามารถเพิ่มมิติให้เรื่องได้ แต่ถ้าหวังแค่ความตึงเครียดเชิงรักปั่นป่วน มันก็อาจบั่นทอนพล็อตและทำให้เนื้อเรื่องกลายเป็นการวนลูปซ้ำ
โดยส่วนตัวฉันคิดว่าฮาเร็มเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่คำตัดสินงานที่แน่นอน ถ้าอยากได้พล็อตที่แน่นและตัวละครมีน้ำหนัก ต้องให้ตัวละครทุกคนมีแรงขับและผลต่อเรื่องจริงๆ เมื่อเรื่องทำแบบนั้นได้ ฮาเร็มก็กลายเป็นพื้นที่สนุกสำหรับการสำรวจความสัมพันธ์และบุคลิกที่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเจอฮาเร็มที่เขียนผิวเผิน ฉันมักจะรู้สึกว่าเสียโอกาสในการเล่าเรื่องไปมาก