เราแทบรอไม่ไหวที่จะบอกภาพรวมสั้น ๆ ของภาค 3 ของ '
shangri-la frontier' ที่จะพาเราเข้าไปลึกขึ้นในโลกเกมและความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับระบบเกมมากขึ้นกว่าครั้งก่อน
ในภาคนี้เส้นเรื่องหลักจะโยงกับการผลักดันขีดจำกัดของตัวละครเอก—การทดสอบใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของสกิลหรืออาวุธ แต่เป็นการอ่านเกม การจัดการทรัพยากร และการเข้าใจเมต้าเกมของโลกเสมือนจริงมากขึ้น เราจะได้เห็นการปะทะกับผู้เล่นระดับสูง การเจอบอสที่มีกลไกซับซ้อนกว่าเดิม และฉากที่ต้องอาศัยการวางแผนเป็นทีมมากกว่าการพึ่งพาความเก่งของคนเดียว
มุมเล็ก ๆ ที่น่าสนใจคือความสัมพันธ์นอกเกมของตัวละครบางคนจะถูกขยายให้เห็นชัดขึ้น ทั้งปมจิตใจและแรงจูงใจที่ทำให้หลายคนเลือกเล่นเกมแบบสุดโต่ง อีกฟากหนึ่งคือการเปิดเผยเบื้องหลังบางอย่างของผู้พัฒนาเกม ซึ่งมีผลต่อเส้นทางของเหตุการณ์ในเกมมากกว่าที่คิด ภาพรวมจึงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นเรื่องของอุดมการณ์ การแข่งขัน และการยอมรับว่าบางครั้งการแพ้ในเกมก็ผลักดันให้คนเติบโตได้
ถ้าชอบบรรยากาศที่ผสมระหว่างความฮาร์ดคอร์ของระบบเกมและการขัดเกลาตัวละคร ภาค 3 จะตอบโจทย์ได้ดี มันให้ความรู้สึกคล้ายช่วงที่เกมใน 'Sword Art Online' เปลี่ยนจากการเอาตัวรอดเป็นการคิดเทคนิคระดับสูง แต่ยังคงกลิ่นอายตลกร้ายและมุมมองชาญฉลาดของต้นฉบับไว้ได้อย่างสนุกสนาน