เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์
บ้านเกียรติภูมิ ช่วงค่ำ ภายในบ้านหลังเดิมที่เคยเต็มไปด้วยเสียงเถียง เสียงขัดแย้ง เสียงของใครบางคนที่คอยบ่นอยู่ไม่ไกลนัก ตอนนี้กลับเงียบจนได้ยินแม้แต่เสียงน้ำหยดจากก๊อกในครัว... สิงโตนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม มือถืออยู่ในมือตลอดเวลา หน้าไทม์ไลน์ I* เปิดค้างอยู่ตรง Story ของกระทิงกับกวาง 🎥 [Story กระทิง]: “วันซ้อมอีกวันกับตัวแทนดาวเดือนของผม! #กวางยิ้มเก่ง” กวางในคลิปหัวเราะเบาๆ กับปลาขณะถือไม้เซลฟี่ ทั้งร่าเริง ทั้งสวย ทั้ง…ห่างจากเขา สิงโตเลื่อนผ่านไปเงียบๆ ก่อนจะกดล็อกหน้าจอแรงๆ แล้วโยนมือถือบนโต๊ะ “เชี่ยเอ๊ย…” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นแบบไม่มีเหตุผล เปิด…แล้วปิด หงุดหงิดทั้งที่ไม่มีอะไรจะหงุดหงิด มหาวิทยาลัย วันที่ 15 ของการซ้อม พระพาย ปลา และกวางกำลังเดินลงจากหอประชุมหลังซ้อม “เก่งมากวันนี้ เดินได้ตรงจังหวะเป๊ะแล้วนะกวาง” กระทิงเอ่ยชมกวางพร้อมกับยื่นน้ำเปล่าให้ “จริงเหรอ? เรานึกว่าตัวเองสะดุดอีกแล้วซะอีก” กวางถามไปอย่างไม่มั่นใจในตัวเองมากนัก “ไม่เลย เราว่ากวางดูมั่นใจขึ้นเยอะ” กระทิงเอ่ยชมกวางไม่ขาดสาย “ก็มีเทรนเนอร์ดีนี่จ๊ะ กระทิงมองตาปร๊าดแทบละลายทั้งเวทีแล้ววันนี้!” พระพายแซวทันที กวางหัวเราะแล้วส่ายหน้า พยายามกลบเกลื่อนแต่เธอเองก็รู้ตัว…ว่าเธอเริ่มรู้สึกดีๆ กับคนคนนี้มากขึ้นในทุกวัน . . . บ้านเกียรติภูมิ เวลาล่วงเลยไปถึงเกือบหนึ่งทุ่มสิงโตยังไม่กินข้าวเย็นแม้กับข้าวจะวางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดเขานั่งหงุดหงิดอยู่ที่ระเบียงบ้านมองไฟหน้าบ้าน…แล้วมองนาฬิกา…แล้วถอนหายใจ “ไปไหนนักหนาวะ…” แม้จะรู้ดีว่าเธอไปซ้อมดาวเดือน แม้จะไม่มีสถานะอะไรแต่เขากลับเริ่มรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันเงียบเกินไป…เวลาที่น้องสาวไม่อยู่ ทันใดนั้น…เสียงประตูรั้วเปิดออกรถของกระทิงมาส่งกวางหน้าบ้านอีกครั้ง เสียงหัวเราะเบาๆ ของทั้งคู่ลอยมากับลมเย็น เธอกล่าวขอบคุณแล้วโบกมือลาอย่างเป็นมิตรโดยไม่ทันรู้เลยว่า…สายตาเจ้าของบ้านที่แอบมองอยู่บนระเบียง มันแทบจะลุกเป็นไฟ “มึงยังจะให้มันมาส่งอีกเหรอวะ…” เขาพึมพำก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านอย่างหัวเสีย เสียงประตูถูกปิดแรงอีกครั้งไม่ต่างจากหัวใจที่เริ่มสับสนจนควบคุมไม่อยู่ ห้องนอนสิงโต ในความมืดของห้องนอนที่ไฟสลัวๆ เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้น ข้อความจากกวางปรากฏบนหน้าจอ: “หนูกลับถึงบ้านแล้วค่ะ ขอโทษที่กลับค่ำนะคะพี่ชาย” เขาจ้องจออยู่สักพักมือเลื่อนไปถึงปุ่มพิมพ์ข้อความตอบกลับ…แต่กลับหยุดไว้แค่นั้นก่อนจะกดปิดหน้าจออีกครั้ง “กูจะรู้สึกอะไรวะ…ก็แค่น้อง…แค่เด็กน่ารำคาญคนหนึ่ง…” เขาหันตัวลงนอนหันหลังให้แสงไฟแต่นอนไม่หลับทั้งคืน วันฟิตติ้งชุดจริงก่อนวันประกวด 3 วัน ในห้องฟิตติ้งหลังคณะนิติศาสตร์กระทิงเดินออกมาก่อนในชุดสูทเรียบหรูแล้วจึงถึงตาของกวาง...เธอก้าวออกมาพร้อมชุดราตรีเว้าหลังสีขาวไข่มุก ผมถูกรวบขึ้นเปิดต้นคอขาวเนียน ทุกคนในห้องหันมองเป็นตาเดียว วันก่อนประกวด ลมเย็นพัดแรงขณะพวกตัวแทนดาวเดือนซ้อมเดินกลางลาน กวางตัวสั่นเล็กน้อยหลังซ้อมจบกระทิงเอาผ้าพันคอจากตัวเองไปคลุมให้โดยไม่พูดอะไร และเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข รับไว้โดยไม่เกี่ยง ห่างออกไปใต้ต้นไม้ริมลานสิงโตยืนกอดอกมองเหตุการณ์ทั้งหมด เขาไม่พูด ไม่ขยับ แต่ขากลับบ้านคืนนั้น ขับรถเลยทางเข้าบ้านตัวเองไปอีกสองแยกแล้วเพิ่งรู้ว่าหลง วันก่อนประกวดคืนสุดท้าย โต๊ะทานข้าวเงียบ จานที่เคยมีของโปรดของเขา…ไม่มีเพราะไม่มีใครทำ สิงโตเดินออกจากห้องครัวเปิดตู้เย็นหาของกินมีแต่อะไรแช่แข็งกับน้ำเปล่า “นี่แค่เด็กไม่อยู่บ้าน 3 วัน ถึงกับลืมวิธีหุงข้าวเลยเหรอวะ…” เขาหัวเราะหยันๆ ให้ตัวเองแล้วทิ้งตัวลงโซฟา เงียบ…มาก มือถือเขาสั่นเบาๆ “พระพาย: กวางฝากบอกว่าอย่าลืมมาดูวันประกวดนะคะ :)” เขาพิมพ์จะตอบกลับ แต่ลบ จะพิมพ์ใหม่อีกก็ลบอีก สุดท้ายแค่ปิดหน้าจอ แล้วพึมพำว่า… “ใครจะไปสน” แต่ในใจ…ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน วันประกวดหาดาวคณะนิติศาสตร์ บรรยากาศคึกคัก เสียงกรี๊ดดังทั่วหอประชุมกวางก้าวออกมาพร้อมกระทิงในชุดประจำตำแหน่ง สวย เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย กระทิงเดินเคียงข้างอย่างมั่นใจ จับมือเธอแน่นก่อนจะหมุนเธอให้ยืนกลางเวทีตอนประกาศผล เสียงผู้ประกาศดังขึ้น “ตัวแทนดาวเดือนคณะนิติศาสตร์ปี 1 ได้แก่… คุณกระทิง และคุณกวาง!!” เสียงกรี๊ดระเบิด คนดูส่วนหนึ่งลุกขึ้นปรบมือ รวมถึง…สิงโตเขาปรบมือช้าๆใบหน้าไร้อารมณ์แต่มือกลับกำแน่นอยู่ใต้โต๊ะไม่รู้เพราะอะไร ไม่รู้ทำไม…จู่ๆ ก็อยากให้เธอหันมามองตรงนี้ อยากให้เธอเห็น…ว่าเขาก็มา แต่เธอมองแค่กล้อง…แล้วหันไปยิ้มให้กระทิง หลังเวที “ถ้าเราถ่ายคู่กันแบบส่วนตัวอีกซักรูปจะได้มั้ย?” กระทิงขอกวางถ่ายรูปนอกรอบอีกครั้ง “ได้สิ!” กวางพยักหน้าส่งยิ้มให้กระทิง กระทิงยกมือถือขึ้น กวางทำท่าชูสองนิ้วใส่กล้องทันใดนั้น…เสียงฝีเท้าเดินผ่านหลังเวที สิงโตที่กำลังเดินผ่านเห็นภาพนั้นพอดีแต่ไม่หยุด ไม่พูด แค่เดินเร็วขึ้น…เพื่อหลบความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถนิยามได้ บ้านเกียรติภูมิ กวางเปิดประตูเข้าบ้านเงียบๆเจอไฟห้องครัวเปิดไว้กับข้าววางอยู่ มีโน้ตเขียนว่า “กินซะ เดี๋ยวก็เป็นลมอีก กูไม่ว่างไปรับที่โรงพยาบาล” เสียงช้อนกระทบจานเบาๆ ในห้องครัวกลางดึกกวางนั่งกินข้าวด้วยรอยยิ้ม ทั้งที่ตาแดงจากความเหนื่อย เธอหยิบโน้ตขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วยิ้มมุมปาก “ก็แค่ไม่ว่างไปโรงพยาบาลเองล่ะสิ…แหม ทำเป็นห่วง…” เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังมาจากบันไดเจ้าของเสียงคือพี่ชายปากร้ายที่ลงมาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม ขยี้ผมยุ่งๆ อย่างเพิ่งลุกจากเตียง “มึงทำอะไรวะ ดึกป่านนี้” เสียงดุดันมาเต็ม แต่หน้าดูง่วงชัด “กินข้าวค่ะ หิว” กวางหันหน้ามาตอบยิ้มๆให้พี่ชาย “มีคนบ้านไหนมันไปเดินเวทีทั้งวันแล้วยังไม่ยอมแดกอะไรซักอย่างก่อนกลับบ้าน” พี่ชายบ่นให้น้องสาว “ก็หนูรีบ… แล้วขอบคุณสำหรับข้าวนะคะ” กวางฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้พี่ชาย สิงโตเดินผ่านทำเหมือนไม่ได้ยินแต่ไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำมากระดกแล้วพูดขึ้นโดยไม่หันกลับมา “กูไม่ได้ห่วง กูแค่รำคาญ ถ้ามึงเป็นลมขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ? กูต้องเสียเวลาขับรถ” “ค่า…หนูเข้าใจแล้วค่ะพี่สิงโตที่แสนไม่ห่วงหนูเลย” กวางหัวเราะเบาๆ แล้วลุกไปเก็บจาน “ไปนั่งลง เดี๋ยวกูล้างให้” แต่เธอยังไม่ทันเดินไปที่ซิงก์…เขากลับคว้าไปจากมือ “หืมมมม~ โหหห พี่สิงโตคนปากหมาล้างจานให้หนู! บันทึกไว้เลยค่ะ คืนนี้แปลกมาก!” กวางยิ้มไม่ยอมหุบตั้งแต่เดินเข้ามาที่บ้าน เธอเหนื่อย แต่กลับมาเจอแบบนี้ก็หายเหนื่อย เพราะพี่ชายยอมสงบศึกกับเธอวันนี้ ปกติจะด่ากันทุกวันเลย “กูแค่ไม่อยากให้ห้องมันเหม็นข้าวบูด…” เขาว่าพลางหันหลังให้ แต่เธอกลับยืนมองเขาล้างจานอย่างตั้งใจ…เงียบๆพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดขึ้นในหัวใจ .........พี่ชาย.........คืนแรกของ “การพาลูกออกไปเที่ยวข้างนอก” ครั้งแรกในชีวิต พ่อสิงโตที่เคยเข้มงวดวันนี้กลายเป็นแด๊ดดี้มือใหม่ที่อุ้มกระเป๋าผ้าอ้อมแน่นกว่าใคร ส่วนกวาง…แม้จะเตรียมของมาพร้อมแต่หัวใจก็ยังเต้นแรงเพราะทุกอย่างคือครั้งแรกของครอบครัวคืนแรกของการพาลูกออกเที่ยวฉากนี้เกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำของวันหยุดสุดสัปดาห์พวกเขาเลือก “Night Market เล็กๆ” ที่ไม่พลุกพล่านแต่มีไฟระยิบระยับและเสียงดนตรีสดบางเบาในอากาศตลาดกลางคืน เวลาประมาณ 18:45 น.“แน่ใจนะคะว่าพี่สิงโตเอาขวดนมมาแล้ว?” กวางถามพร้อมเช็คกระเป๋าของลูกซ้ำอีกที“ขวดนม ผ้าเปียก ผ้าอ้อมสำรอง ขวดน้ำร้อน ผ้าเช็ดหน้า เป้อุ้ม มีหมดครับ!” สิงโตพูดด้วยเสียงมั่นใจเหมือนกำลังรายงานต่อที่ประชุมบอร์ดมหาวิทยาลัย“แล้วตุ๊กตาปลาหมึกขอกระต่ายน้อยล่ะคะ?”“………..อยู่บนโซฟา”กวางหันไปมองเขา…สิงโตยกมือยอมแพ้ทันที“โอเคๆพี่จะวิ่งไปเอาเดี๋ยวนี้!”เดินในตลาดกระต่ายอยู่ในเป้อุ้มที่หน้าอกสิงโตเสียงเพลงเบาๆจากนักร้องริมทางดังคลอ ร้านค้าข้างทางประดับไฟด้วยแสงเหลืองอุ่นผู้คนเดินกันอย่างไม่เร่งรีบและกระต่ายน้อยลูกสาววัยไม่กี่เดือน ก็หลับตาพริ้มซบอกพ่อสิงโตยืนกุมมือลูกไว้หนึ่งข้า
ช่วงท้องเดือนที่ 6กวางนอนอยู่บนโซฟาหน้าท้องเริ่มโตจนลุกไม่คล่องพี่สิงโตเดินเข้ามาเช็ดเหงื่อให้ถามเบาๆ“ลูกดิ้นยัง”กวางยิ้มพลางวางมือเขาลงบนท้อง“ดิ้นแล้วค่ะ….รู้สึกเหมือนเขารู้ว่าใครแตะเลยนะ”สิงโตก้มลงจูบท้องเบาๆ“พ่อมันเคยโง่มามาก ขอให้หนูฉลาดเหมือนแม่แล้วกัน”ช่วงเวลานี้คือ “ของขวัญ” ที่ทั้งสองคนแลกมาด้วยการผ่านทุกสิ่งด้วยกันและไม่มีรางวัลไหนล้ำค่ากว่านี้อีกแล้ว...บ้านหลังใหม่เสร็จสมบูรณ์ระเบียงหันทางพระอาทิตย์ตกหน้าบ้านมีต้นทับทิมสองต้นที่ยังเตี้ยๆ แต่ยืนต้นมั่นคงในดินและนั่นคือคำมั่นสัญญาที่เขาเคยพูดไว้…วันที่ยังไม่มีอะไรแน่นอนวันนี้มันกลายเป็นความจริงโรงพยาบาล เวลา 02:13 น.“พี่สิงโต…มันเจ็บ…เจ็บจริงๆ…” เสียงของกวางสั่นเธอจับมือเขาแน่นในห้องรอคลอดน้ำตาซึมทั้งที่เธอพยายามจะเข้มแข็งและสิงโต…แทบจะหายใจไม่ออก“พี่อยู่นี่ๆ…กวาง พี่อยู่นี่” เขากระซิบซ้ำๆไม่หยุดเหมือนพยายามกล่อมเธอ กล่อมตัวเอง และกล่อมเวลาให้ผ่านไปเร็วขึ้นพยาบาลเปิดประตูเรียก“คุณพ่อคะ ต้องออกไปนั่งรอข้างนอกแล้วค่ะ”เขาไม่ขยับจนมือของกวางบีบเขาอีกครั้ง“พี่สิงโต…ขอบคุณนะคะที่อยู่กับกวางจนถึงวันนี้”เขาสะอึก
วันถัดไปห้องครัวเวลาเช้าเสียงน้ำจากกาต้มน้ำกำลังดังขึ้นเบาๆขณะกวางยืนหั่นผักบนเขียง ใส่แว่นตากรอบใส ชุดนอนลายเรียบๆที่พับแขนขึ้นครึ่งท่อน หน้าสดแต่กลับเป็นภาพที่ทำให้สิงโตยืนมองเธอเงียบๆอยู่ที่กรอบประตู“พี่สิงโตจะยืนดูแบบนี้ทุกเช้าเลยไหมคะ” กวางถามโดยไม่เงยหน้าแต่ยิ้มมุมปาก“ก็อยากดูทุกวันไปจนแก่” เขาตอบตรงๆแล้วเดินเข้ามาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ก่อนจะช่วยหยิบจานมาวางเตรียมเสิร์ฟอาหารเช้าชีวิตในบ้านหลังเดิม แต่มี “สองคน” จริงๆแล้วในที่สุด ไม่ใช่คนหนึ่งอยู่ อีกคนหนี หรือคนหนึ่งห่วง อีกคนเงียบ เขาเริ่มตื่นเช้าขึ้นไม่ใช่เพราะต้อง แต่เพราะอยากให้เธอเห็นเขาตื่นก่อนบ้างเธอเริ่มไว้ใจพอที่จะวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะโดยไม่ล็อกหน้าจอเพราะเขากลับกลายเป็นคนที่เธอ “ไม่ต้องระวังใจ”ในวันที่ต่างคนต่างมีงาน…แต่ก็ยังเป็นทีมเดียวกัน“กวาง พี่พรีเซนต์งานเสร็จแล้วนะมารับเลยไหม หรือจะให้ไปรับที่สำนักงานกฎหมาย?” สิงโตโทรมาหาตอนบ่ายหลังจากรู้ว่าเธอมานั่งเตรียมแฟ้มงานที่มูลนิธิ“ไม่ต้องค่ะ พี่สิงโตไปกินข้าวกับเพื่อนเลย กวางจะกลับช้าหน่อยเดี๋ยวซื้อของกินกลับบ้านนะคะ”“โอเค งั้นพี่จะรีบกลับไปก่อน ไปเช็ดบ้านให้ แล้
สวนเล็กๆในมหาวิทยาลัย ช่วงเย็นกวางนั่งอยู่ที่ม้านั่งไม้ใต้ต้นจามจุรีที่เริ่มผลัดใบ อากาศอุ่นๆต้นฤดูร้อนกำลังเปลี่ยนภัทรเดินเข้ามาเงียบๆพร้อมกับกาแฟเย็นสองแก้วในมือ ยื่นให้เธอหนึ่งแก้ว“เธอชอบกินกาแฟแบบนี้เสมอเลยนะ” ภัทรยิ้ม“ขอบคุณค่ะ” กวางรับไว้เบาๆ“…เราเคยคิดนะ ว่าถ้ารู้จักกันเร็วกว่านี้ อะไรๆ อาจจะไม่เหมือนเดิม”เธอนิ่ง ไม่ตอบ สายตาเหมือนจะมองกาแฟ แต่จริงๆกำลังหนีตาเขา“แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่ากวางไม่ได้ ‘มองไม่เห็น’ เรา…แต่กวางแค่มีคนอยู่ในใจอยู่แล้ว และเราคงไปอยู่ตรงนั้นแทนเขาไม่ได้”“…ขอโทษนะคะภัทร” กวางตอบเสียงเบา“ไม่ต้องขอโทษหรอก…เราต่างหากที่ควรขอบคุณ ที่เธอไม่เคยหลอกเราเลยแม้แต่นิดเดียว” ภัทรยิ้มบางเธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาสีหน้าอ่อนโยน เศร้าและซาบซึ้งในคราวเดียวกัน“เราจะถอนตัวนะ ไม่ใช่เพราะแพ้…แต่เพราะเราอยากให้เธอได้รักอย่างที่เธอสมควรจะได้” ภัทรพูดด้วยเสียงที่เหมือนถอนใจ“ขอบคุณค่ะ….ที่เข้าใจ” กวางเสียงสั่น“แต่ถ้าเขาทำให้เธอร้องไห้อีกครั้ง… เรายังจะยืนอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ไปไหน” ภัทรหัวเราะเบาๆบ้านเกียรติภูมิกวางกลับมาถึงบ้านท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน เธอวางกระเป๋าไว้
กวางมองหน้าพี่สิงโตแววตาเขาไม่เร่ง ไม่ดึง ไม่บังคับ…แค่เฝ้ารอหญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นอยู่ครู่ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ“หนูแน่ใจแล้วค่ะ…หนูอยากกลับมาอยู่ที่นี่”เสียงของเธอไม่ดังนักแต่หนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เคยพูดสิงโตไม่พูดอะไรอีกแค่ก้าวลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งเธอมือเขายื่นมาข้างหน้าไม่ใช่เพื่อจับ ไม่ใช่เพื่อฉุด แต่เพื่อ ขอ ขอให้เธอเดินกลับเข้าบ้านนั้นไปพร้อมเขาอีกครั้งกวางยื่นมือไปจับช้าๆ สัมผัสอุ่นๆที่เธอเคยกลัวว่าจะเจ็บซ้ำ แต่ตอนนี้…มันไม่ใช่แล้ว มันคือการจับมือของคนที่ไม่ใช่แค่สำนึกผิด แต่เปลี่ยนแปลงเพื่อ คู่ควรกับการอยู่ข้างเธอเมื่อเปิดประตูบ้านเสียงทุกอย่างเงียบลงกลิ่นหอมที่คุ้นเคยโถงบ้านที่เคยว่างเปล่า…ดูอุ่นขึ้นเพียงเพราะ “เขาและเธอ” ยืนอยู่ในนั้นพร้อมกันอีกครั้ง“ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิมนะ” สิงโตพูดเบาๆขณะถอดรองเท้ากวางก้มลงวางรองเท้าข้างๆเขาก่อนจะเงยหน้ามองสบตา“ไม่ค่ะ…มันเปลี่ยนไปแล้ว” กวางพูด“ยังไง?” เขาถาม“มันไม่ใช่บ้านของพี่สิงโตคนเดียวอีกต่อไปแล้วมันคือบ้านของเรา”และในวินาทีนั้น...สิงโตหลับตาลงเหมือนแบกรอคำนี้มาทั้งชีวิตเขาโน้มตัวไปโอบเธอไว้แน่น ไม่มีจูบ ไม่มีคำสัญ
ลานสวนหลังคณะนิติศาสตร์ ยามเย็นกวางเพิ่งออกจากห้องเรียนพิเศษนักศึกษาค่อยๆทยอยกลับ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นส้มอ่อนก่อนจะกลืนเข้ากับเงาไม้ ภัทรยืนรออยู่ตรงม้าหินเขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้งแต่ครั้งนี้…รอยยิ้มของเขาดูต่างออกไปเล็กน้อยนิ่งขึ้น จริงจังขึ้น.“กวาง…ผมขอเวลาสักสิบนาทีได้ไหมครับ วันนี้…ผมอยากพูดอะไรบางอย่าง”กวางพยักหน้าแม้จะรู้สึกว่ามีบางอย่างจุกอยู่ในอก“ผมรู้ว่าเราเพิ่งกลับมาทำงานด้วยกันไม่นาน และผมก็รู้ว่าคุณไม่ได้มีใจให้ผมตั้งแต่แรก…คุณสุภาพกับทุกคนแบบนี้” เสียงนุ่ม สุภาพ แต่แน่วแน่กวางนิ่ง ไม่พูดแทรก“แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครง่ายๆ คุณไม่ได้เป็นแค่คนเก่ง คุณเป็นคนที่ผมสบายใจเวลาอยู่ด้วย ผมไม่อยากเร่งคุณ ไม่อยากแข่งกับใคร…แต่อยากอยู่ข้างๆในวันที่คุณรู้สึกว่าเหนื่อย” เขาพูดจบพร้อมรอยยิ้มจริงใจและสายตาที่ไม่ขออะไรเลย นอกจากโอกาสกวางใจเต้นแรงเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาก่อนที่กวางจะได้ตอบอะไรเสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นทางเดินก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงที่กวางจำได้ดี เสียงที่ทำให้หัวใจเธอเหมือนหยุดเต้นไปชั่วครู่“พี่สิงโต…”เขายืนอยู่ตรงนั้นใต้เงาต้นชมพู