Home / แฟนตาซี / Undisclosure / สงครามน้ำลาย

Share

สงครามน้ำลาย

last update Last Updated: 2025-02-12 13:37:19

คาเลบสาบานได้เลยว่าเห็นเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อกล้ำกลืนคำพูดและโทสะที่สาดเข้ามาราวกับห่ากระสุนลงไปเฮือกใหญ่ เธอใช้ความพยายามอย่างมากที่จะคงสีหน้าและอารมณ์ของตัวเองไม่ให้เดือดตาม หญิงสาวที่ตะโกนอยู่นั้นชื่อ แมรี่ คาร์เตอร์ เป็นแม่ของเบลินดา คาร์เตอร์ ประธานสภานักเรียนและหนึ่งในผู้เข้าร่วมชิงทุนรัฐบาล ลูกสาวของเธอสอบติดวิทยาลัยเดียวกับอเล็กซิส และตอนนี้ คุณนายคาร์เตอร์กำลังเบี่ยงประเด็น ไม่ว่าลูกสาวของเธอจะเคยอยู่ที่นั่นหรือไม่ ความจริงก็คือ หากลูกสาวของเธอเป็นแขกในงานนั้นก็เป็นเหตุผลที่ตำรวจจับเด็กสาวเอาไว้ แต่ก็นะ ทุกคนก็อยากจะช่วยลูกตัวเองกันทั้งนั้น

“เราคุมตัวลูกสาวของคุณเพื่อสืบสวนค่ะ คุณนายคาร์เตอร์ ลูกสาวของคุณรายงานพวกเราว่า มีการกระทำที่บ่งบอกว่าเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงตามรัฐบัญญัติปี 2966 พวกเราภูมิใจที่เธอทำหน้าที่พลเมืองที่ดี แต่ตามกฎหมาย เรายังต้องสอบสวนเธอเพื่อขอข้อมูลและสืบหาความจริงอีก โปรดเข้าใจพวกเราด้วยค่ะ ขอให้คุณใจเย็น ๆ แล้วนั่งรอนะคะ”

คาเลบและเจสซี่มองหน้ากันทันที พวกเขาบังเอิญทราบตัวการของเรื่องยุ่ง ๆ นี้แล้วสิ

“แล้วทำไมถึงจับลูกฉันไว้ในคุก!”

ผู้ปกครองทั้งหมดลุกขึ้นยืนอย่างเหลืออด ทั้งหมดจ้องหญิงสาวอย่างโกรธเคือง โดยเฉพาะคุณมิลเลอร์ พ่อของเวด “หยุดโวยวายได้แล้ว! เอาล่ะครับทุกท่าน ทีนี้เรารู้กันสักทีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นในวันนี้ คุณนายคาร์เตอร์ ลูกสาวของคุณโกหกคำโตเลยทีเดียว แถมยังทำให้พวกเราลำบากกันทั้งหมด"

คุณนายคาร์เตอร์จ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตที่มัดเป็นมวยอยู่ข้างท้ายทอยหลุดลุ่ยเมื่อเธอหันซ้ายหันขวา มองหน้าแต่ละคน หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น ไม่แยแสสายตาคนอื่น “ประทานโทษนะคะ ลูกสาวของฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”

นายมิลเลอร์เปลี่ยนสายตาจากโกรธเคืองเป็นเหยียดหยามทันที “งั้นคุณควรทราบไว้นะครับ ว่าพวกเขากำลังถ่ายวิดีโอแกล้งเพื่อนกันอยู่ มันเป็นมายากล ผมมองพวกเขาอยู่ตลอด ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงบ้าบออะไรนั่นสักหน่อย ไม่ใช่แม้แต่กลุ่มต้องสงสัยด้วยซ้ำ ลูกคุณปากมากแล้วยังโง่อีก!”

“นี่คุณกล้าดียังไง!”

“ลูกสาวคุณโกหก” พวกผู้ปกครองที่อยู่ข้างคุณมิลเลอร์เริ่มตะโกนใส่หญิงสาว แต่ละคนต่างมีอารมณ์เดือดกันทั้งนั้น เมื่อคุณมิลเลอร์เห็นว่ามีหลายคนสนับสนุนเขา จึงไม่ยอมหยุดโจมตีคู่กรณีง่าย ๆ เขาโพล่งความคิดแย่ ๆ หนึ่งขึ้นมา “รู้แล้ว ลูกสาวคุณก็เข้าชิงทุนเหมือนกันนี่นา เธอคงอยากจะป้ายสีลูกชายผมสินะ ใช่สิ ผมแน่ใจว่าเพราะเหตุผลนี้แน่ ๆ” พลันเขาหันมาสบตากับคาเลบพอดี “เธอป้ายสีลูกสาวของคุณหมอด้วยนะครับ”

คาเลบอยากหายตัวไปเดี๋ยวนั้น เขาโกรธแมรี่ คาร์เตอร์หรือไม่ แน่นอนสิว่าโกรธมาก แต่การที่พวกเขามานั่งทะเลาะกับคาร์เตอร์ไม่เป็นผลดีต่อเด็ก ๆ เอาเสียเลย ตรงกันข้าม มันอาจจะทำให้เรื่องแย่ลงมากขึ้นไปอีก

ทว่าคุณนายเจสเซ่นส์ แม่ของออสโล่ยกมือขึ้น “ลูกชายของฉันก็ด้วยค่ะ ลูกสาวคุณจงใจแกล้งลูกชายฉันชัด ๆ” เธอคิดไม่เหมือนคาเลบ เธอขอเข้าร่วมสงครามน้ำลายนี้

คาเลบเหลือบมองเจสซี่ น่าแปลกใจที่ลูกชายหัวร้อนกลับยังคงสงบนิ่ง ไม่มีท่าทางโกรธเคือง สายตาของเขาจับตามองคนทั้งหมดแล้วรับฟังคนทะเลาะกันอย่างประเมินสถานการณ์ ริมฝีปากเผยอรอยยิ้มน้อย ๆเหมือนพอใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

“ลูกคิดว่าไง เจสซี่”

“อย่ายุ่งกับพวกเขาเลยพ่อ นั่งเฉย ๆ ดีกว่า” เขากระซิบเตือนคาเลบ ทั้งที่ปกติแล้ว คำพูดนี้ควรเป็นฝ่ายคาเลบที่พูดเตือนเขามากกว่า “กฎหมายนี้ให้อำนาจกับพวกตำรวจเต็มที่ ถ้าเราเชื่อฟัง ทำตัวเรียบร้อย ก็จะดูดีในสายตาเจ้าหน้าที่ แถมยังเป็นประโยชน์กับอเล็กซ์ด้วย” เขาอธิบาย

“ตอนนี้ ผมแน่ใจแล้วว่าน้องจะปลอดภัย ไม่ต้องกังวลนะครับพ่อ มันชัดเหลือเกินว่าเด็กสาวคนนั้นโกหกคำโต พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของอเล็กซ์ ผลการเรียนเอย ประวัติการรักษาพยาบาลเอย แล้วพอพวกเขาไม่พบสิ่งผิดปกติ บวกกับเมื่อเบลินดาสารภาพ ก็เป็นปัญหาของพวกเธอแล้ว ไม่เกี่ยวกับน้อง”

คาเลบหลบตาลูกชาย ผู้เป็นพ่อหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่ได้โล่งใจเหมือนกับเจสซี่ การตรวจสอบประวัติการรักษา นี่แหละปัญหาใหญ่ เขานึกถึงแมรี่ สตีเว่น พยาบาลที่บันทึกข้อมูลเท็จให้กับเด็ก ๆ ถ้าพวกเขาสืบสวนถึงขั้นตอนนี้ แมรี่กับอเล็กซิสแย่แน่ ๆ หากถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ไม่ได้เบาไปกว่าถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรอก

เขาเห็นภาพทะเลสีดำอันมืดมัว...ได้โปรดเถิดพระผู้เป็นเจ้า ปกป้องลูกสาวของลูกด้วย อย่าให้เธอจมหายไปในทะเลนั้นเลย

“พวกเขาแค่อ่านข้อมูลใช่ไหม” เขาถามลูกชายอีกครั้ง อยากให้ตัวเองแน่ใจว่าฝันร้ายจะไม่มีวันเป็นจริง สองพ่อลูกเดินหนีออกห่างจากสงครามอารมณ์ระหว่างนางคาร์เตอร์ นายมิลเลอร์ และผู้ปกครองคนอื่นเพื่อถกเถียงเรื่องของอเล็กซิสได้สะดวก

“ผมไม่แน่ใจนัก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ถ้าเบลินดาสารภาพความจริง เราคงรับน้องกลับบ้านได้ภายในพรุ่งนี้ แต่เมื่อไหร่ ผมไม่แน่ใจ อาจจะตอนบ่าย หรือไม่ก็ช่วงเย็น”

คาเลบกอดคอลูกชาย พวกผู้ปกครองเริ่มถกเถียงกันรุนแรงมากขึ้น แต่เพราะทั้งสองถูกเรียกตัวให้เข้าไปหาลูกสาวได้ก่อน จึงเป็นโอกาสดีที่จะหนีออกจากฉากนั้น

เจ้าหน้าที่พาพวกเขาไปยังห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง ห้องเยี่ยมค่อนข้างเล็กกะทัดรัด มีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวกับเก้าอี้อีกสาม อเล็กซิสนั่งรออยู่แล้ว หน้าตาสะลึมสะลือเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เมื่อเธอเห็นทั้งสองก็ลุกขึ้นยืนทันที แต่เพราะแขนถูกกุญแจมือล็อกเข้ากับโต๊ะ เธอจึงหงายหลังล้มลงไปกับเก้าอี้ หัวใจของเขาฟีบลงเมื่อเห็นแบบนี้ อเล็กซิสยิ้มให้ทั้งสองอย่างเหนื่อยอ่อน

“หนูขอโทษนะคะที่รบกวนพ่อกับพี่ แถมยังปลุกเวลานี้อีก”

“อย่าห่วงพวกเราเลย เธอเป็นไงบ้าง ได้นอนบ้างหรือยัง” เจสซี่ถาม เห็นชัด ๆ ว่าเขาเป็นห่วงน้องสาวมาก

อเล็กซิสสั่นหัว “นอนไม่ได้เลย พวกเขาจับพวกเราขังรวมไว้ในห้องขัง มีคนเยอะมากอยู่อัดกันเป็นปลากระป๋อง แล้วพวกเราก็คุยกันตลอดเวลา ตอนแรกพวกเรารู้สึกกลัวนะ อย่างเปปเปอร์กับเกรต้าร้องไห้ตั้งแต่ถูกจับจนถึงตอนนี้ ดูสิ ไหล่หนูเปียกหมดเลย เกิดเรื่องแบบนี้ ใครจะหลับลง ทุกคนมัวแต่ถกเถียงกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    เพื่อนหายไป

    เปล่า ไมเคิลแน่ใจว่าอเล็กซ์ไม่ได้รู้สึกแบบเขา อีกฝ่ายเข้าใจไปอีกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะพูดกับอเล็กซิสเดี๋ยวนี้ บางที...มันอาจเป็นพลังของเธอ แต่ทำไมอเล็กซ์ไม่รู้สึก หรือเพราะเขายังไม่ได้สู้ เขายังไม่ได้ใช้พลัง แล้วพลังของอเล็กซิสเป็นแบบไหนกันแน่ เพิ่มพลังให้คนอื่นงั้นหรือ หรือปลดล็อกให้อีกฝ่ายรู้จักใช้พลังของตัวเอง“บรรยากาศไม่ดี” อาคุสะพูดขึ้น“กลับไปดูพวกเทสซ่าก่อนกันเถอะ” อเล็กซิสตบไหล่แฟนหนุ่มสองสามทีเพื่อให้เขาออกไปจากตัว “ถ้าพวกมันแห่ไปที่นั่น ทุกคนแย่แน่” ทั้งหมดพยักหน้า เด็กสาวกำลังจะขยับเท้าก็หันมาไมเคิล “ไว้อธิบายว่าเมื่อกี้นายทำอะไร” เธอยกมือตีหน้าผากตัวเองแต่ก่อนจะไปไหนได้ ทั้งหมดได้ยินเสียงกรีดร้อง...*****เทสซ่าไม่เคยยินดีเท่านี้มาก่อนที่ได้เจอพวกบลูในเวลานี้ เธอผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็มีมนุษย์รูปร่างคล้ายหุ่นยนต์สองตนตรงเข้ามา ทีแรกเธอคิดว่าพวกเขาต้องการจะสังหารฝ่ายต่อต้าน แต่ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขามาเพื่อลักพาตัวโคดี้เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังนอน

  • Undisclosure    สัมผัสพิเศษ

    “หาเองสิวะ” เขาตะโกน ทว่าไม่ทันระวังเพราะมันดาปาอาวุธกลับมา เมื่อหันหน้ากลับไปก็เห็นรอยเท้าเต็มหน้ากระแทกเข้าที่หน้า ร่างของเขากระเด็นกระแทกกำแพงตึก ไมเคิลส่ายหัว มึนไปมันหมด อเล็กซิสวิ่งเข้ามาช่วยพยุงตัวขึ้น“พวกมันไม่บอก อย่าเสียเวลา” เขาได้ยินดังนั้นคิ้วขมวดกันทันที เดี๋ยว... กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งหมดจำต้องรั้งพวกมันให้สู้กับตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกเทสซ่าแย่แน่ เขาไม่รู้ว่ามีกลุ่มอื่นตามหาโคดี้อีกหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้พวกมันไป พอเห็นเขายืนได้ อเล็กซิสตัดสินใจค่อย ๆ เดินตรงไป มือยังยิงปืนไม่หยุด “เก็บไฟแช็ก” เธอสั่งเขา “ห้ามทำมันหายเด็ดขาด”“อย่าไป” เขาร้อง แต่เธอไม่ฟัง อเล็กซิสหยิบดาบของไมเคิลขึ้นมาอีกข้างแล้วโถมตัวใส่มันแล้วไมเคิลเห็นดังนั้นรีบตะครุบไฟแช็กแล้วจุดมันขึ้น“อเล็กซิส” เขาร้องเมื่อเห็นเธอบ้าบิ่นจะสู้กับมันตัวต่อตัว พลันร่างเธอก็กระเด็นล้มไปทางเรมีที่กำลังรับมือกับอีกตัวคู่กับอาคุสะ อเล็กซ์สบถอะไรบางอย่าง แล้วจัด

  • Undisclosure    โคดี้อยู่ไหน

    เฒ่าทรอยนอนฟุบลงกับพื้นจนหน้าคลุกไปกับหิมะสกปรกบนพื้น ไม่มีใครคิดช่วยให้เขาลุกขึ้นมา และถ้าใครทำแบบนั้น ไมเคิลจะเป็นคนกระชากคอออกมาเอง เด็กหนุ่มยืนพักหอบหายใจ กว่าจะพาทรอยออกมาได้ยากลำบาก หุ่นยนต์ถูกตั้งโปรแกรมให้กำจัดใครก็ตามที่อยู่ในสถานะเจ้าพนักงานของทอยซิตี้ ก่อนหน้านี้ เขาขอให้ฟีบี้รีเซตพวกมันใหม่เป็นหน่วยทหารแทน แต่เพราะเธอยืมพลังมาจากโคดี้ ประสิทธิภาพของมันไม่แน่ไม่นอน เมื่อเซตได้ตัวหนึ่งก็ต้องเซตตัวอื่น เธอไม่สามารถทำได้ทีเดียว พอทำงานซ้ำไปซ้ำมา หญิงสาวก็เริ่มหมดความอดทน ฟีบี้บอกว่าเธอไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ แต่เพื่อสานงานของโคดี้และเพื่อปกป้องพวกเราทุกคนต่างหาก ศูนย์กลางของทอยซิตี้คือ เดอะ วาล และถ้าหากเจาะเข้าไปยังศูนย์บัญชาการได้ พวกทหารจะแพ้ราบคาบ นั่นคือสิ่งที่เธอบอก แต่ไมเคิลเข้าใจว่ามันคือการคาดเดามากกว่า และเขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่มันมาจากลูไมเคิลเดินตรงไปแล้วดึงคอเสื้อทรอยขึ้นมาอีก คราวนี้เขาลากเข้าไปในตึกของเมลิสซ่า ที่พักเก่าของตนกับเรมี ตอนนี้แทบไม่มีใครอยู่ในตึกแล้ว ประชากรในเดอะ วาลบางส่วนที่ไม่อยากต่อสู้ก็อพยพไปยังเขตอื่น เนื่อง

  • Undisclosure    ในเงามืด

    ขณะนั้นริงโก้ตัดสินใจอุ้มเอมอนขึ้นมาคนเดียว เพียซจึงอุ้มเดสซิเรตามมา เบลินดาเห็นพวกเขาเดินตรงมาก็ลุกขึ้น เธอส่งขวดน้ำดื่มให้อย่างรู้งาน ระหว่างนั้นเพียซก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากประตูเปิด พวกเขาก็บุกเข้าไปข้างในเพื่อหาตัวเอมอนกับเดสซิเร ทั้งสองถูกจับสวมกุญแจมือ อาวุธโดนยึดหมด แต่เดสซิเรและเอมอนก็ทำให้กำลังพลภายในนั้นปั่นป่วนไปมาก พวกเขาเจอศพทหารหลายราย คงเป็นฝีมือของทั้งสอง ตอนไปถึง หญิงสาวยังพอมีสติจึงเล่าว่า ทั้งคู่พยายามหาห้องควบคุม แต่ภายในมีระบบเชื่อมต่อกับชุดสูทที่เอมอนสวม เพียงย่างก้าวไปในส่วนที่เป็นสำนักงาน หน้ากากจึงถูกปลดออกอัตโนมัติ ทั้งสองจึงต้องสู้และพยายามจะออกมา ทว่าก็สู้จำนวนคนและอาวุธไม่ได้ จากนั้นจึงถูกจับทรมาน อาจเป็นโชคดีในโชคร้ายของเดสซิเรที่ไม่มีแผนอะไรอยู่แล้ว บวกกับพลังพิเศษที่ทำให้พวกนั้นไม่อาจสัมผัสหรือเข้าใกล้ได้มากนัก ส่วนเอมอนนั้นแย่หน่อยเพราะพอรู้แผนของลูคร่าว ๆ แต่ไม่ได้ปริปากออกไปเลย ดังนั้นเขาจึงโดนซ้อมหนักที่สุด“แล้ว...ทำไมพวกเธอมานั่งอยู่ตรงนี้” โอลิแวนถาม “พวกอเล็กซิสล่ะ ฉันได้ยินกว่าทั้งกลุ่มเข้าไปในเขตเธอไม่ใช่หร

  • Undisclosure    คลำหาทาง

    ไมเคิลสบตากับเรมี อีกครั้งที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเธอวางแผนอะไรกัน“ฉันต้องการคำอธิบาย ตั้งแต่เช้า พวกเราวุ่นจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยังไม่นับเรื่องที่พวกเธอทำโดยไม่บอกก่อน”ฟีบี้กลอกตา เธอไม่ได้มีท่าทีสำนึกหรืออ่อนข้อลงแบบเทสซ่า แต่กลับยักไหล่ไม่สนใจ แม้บุคลิกหญิงสาวจะเป็นแบบนี้ และปกติก็ไม่มีใครถือสา (ยกเว้นเทสซ่า) แต่เวลานี้ เขาอดฉุนไม่ได้“ทำไมฉันต้องบอกพวกนายด้วย โต ๆ กันแล้ว อีกอย่างก็ใช่ว่าฉันจะรู้ก่อนหน้าอะไรนักหนา ถ้าไม่ใช่เพราะโคดี้ ฉันก็อาจจะนั่งทำหน้าโง่เหมือนพวกนายนี่แหละ” อาคุสะทำเสียงจุ๊ ๆ แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปรามเรื่องคำพูด เธอยักคอไปมาอย่างกวนประสาท “เฮ้อ เอาเป็นว่าตอนนี้โคดี้ต้องพัก ส่วนฉันก็ยืมพลังเขามาใช้ จะพยายามเปิดไอ้ประตูยักษ์นั่น” พูดจบก็ถูมือ“ฟีบี้...” อเล็กซิสพูดขึ้น “ฉันเดินผ่านศูนย์อนามัย...เห็นศพพยาบาลเต็มไปหมด ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ไม่ใช่ทหารอีก...”หญิงสาวเงียบไปเมื่อเจอคำถามนี้ เทสซ่าก็เม้มปากแน่น เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นทั้งสองมองหน้ากันอย่างเข้า

  • Undisclosure    มุ่งหน้า

    11:45 PM หน้าประตูเขตเครสเตอร์ - เดอะ วาลกระแสไฟฟ้าแผ่กระจายเป็นวงกว้าง มันส่งแรงต้านผลักก้อนคอนกรีตชิ้นโตหล่นกลับลงมบนพื้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไมเคิลทึ่งที่โคดี้สามารถป้อนชุดคำสั่งพิลึกพิลั่นให้กับหุ่นพิฆาต หรืออันที่จริงคือ ใครจะคิดว่าเขาจะป้อนคำสั่งแบบนั้นในเวลารีบเร่งเช่นนี้ ทุกครึ่งชั่วโมงจะมีหุ่นสองสามตัวเดินกลับมาปาก้อนหินหนักขึ้นไป กำแพงกั้นเขตแน่นหนาจนแม้แต่พวกมันข้ามไปไม่ได้ จึงใช้วิธีนี้เช็กดูว่าระบบรักษาความปลอดภัยของทอยซิตี้สั่นคลอนแล้วหรือยัง จะว่าเป็นเพราะระบบถูกออกแบบมาดีก็ว่าได้ ถ้าหากไม่ใช้เพราะโคดี้มีพลังพิเศษ ไมเคิลไม่เห็นหนทางเลยว่าพวกเขาจะออกไปได้ ต่อให้เครสเตอร์และนอร์ธพังทลายเพียงใด มันก็ยังไม่ลามไปถึงอีกฝั่งที่ถือว่าเป็นศูนย์กลาง และเมื่อนั้น ถ้าหากพวกเขาจะล้างศัตรู ก็อาจปล่อยระเบิดลงมาลูกเดียว แบบที่เคยเกือบล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปเมื่อหลายพันปีก่อนยุคก่อนหายนะ...พี่สาวฝาแฝดเคยเล่าให้เขาฟังเข้าเที่ยงคืนกว่าแล้วหรือ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น อเล็กซิสจะกินอะไรแล้วหรือยัง เขานั่งนับวันแล้วเหงื่อตก พวกเขาทำปฏิทินเช็กความถี่ว่าอะวีซีจะออกฤ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status