แชร์

บทที่ 2 แรกรู้จัก

ผู้เขียน: มินิซ่าส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 16:01:10

เช้าวันถัดมา ผมก็รีบมาโรงพยาบาลแต่เช้าครับ พร้อมกับซื้ออาหารเช้ามาอีกนิดหน่อย ทั้งของผมและของคนป่วยที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ ผมไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นรึยัง แต่ซื้ออะไรไปเผื่อหน่อยก็ดี ผมเดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ผมทำการแจ้งชื่อและนามสกุลของคนป่วยตามชื่อในบัตรประชาชนของเขาไป และเดินตรงไปยังห้องที่นางพยาบาลแจ้งมา

เมื่อผมเปิดประตูไปแล้วก็พบกับชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างผอมบาง นั่งเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าด้านนอก ผมเห็นเพียงเสี้ยวหน้าของเขาเท่านั้น ชายคนนั้นสะดุ้งนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู และผินหน้ากลับมาช้าๆ ทำให้ผมได้พบหน้าเขาเต็มๆ อีกครั้ง ดวงตากลมโต ราวกับดวงดาวระยิบระยับ จมูกรั้นนิดๆ ทำให้ดูก็รู้ว่าคงดื้อไม่น้อย ปากบางสีชมพูเล็กๆ นั้นรับเข้ากับรูปหน้า ผิวออกขาวซีดอย่างคนได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่กลับดูนุ่มนวลน่าสัมผัส ชายคนนั้นมองนิ่งมายังผมที่ยืนอยู่หน้าประตู ผมจึงเดินเข้าไปวางของที่ซื้อมาตรงโต๊ะด้านข้างประตู และนั่งลงบนโซฟารับแขกภายในห้อง

“เป็นยังไงบ้าง” ผมเอ่ยถามเสียงนิ่ง และจ้องมองไปยังคนบนเตียงที่กำลังสบตาผมอยู่

“อ่อ ไม่เป็นอะไรแล้วครับ” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยออกมา หากแต่ก็ยังน่าฟังอยู่ในที

“อืม ชื่ออะไร” แม้ผมจะรู้ชื่อจริงของเขาแล้ว แต่ผมอยากรู้ชื่อเล่นมากกว่า จึงได้เอ่ยปากถามออกไป

“ผมชื่อนายครับ ชื่อจริง เจ้านาย” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ

“ทำไมถึงตัดหน้ารถแบบนั้น ไม่รู้รึไงว่ามันอันตราย”

“ผมขอโทษครับ ผมเห็นรถของคุณขับผ่านมา ผมแค่อยากให้คุณช่วยเฉยๆ ผมขอโทษจริงๆ ครับ”

“คุณอยากให้ผมช่วยอะไร” ผมถามกลับและขมวดคิ้วอย่างสงสัย ผมก็เข้าใจอยู่หรอก ถนนเส้นนั้นเป็นเส้นออกต่างจังหวัด แม้รถจะเยอะในช่วงหัวค่ำ แต่พอดึกเข้าหน่อยก็แทบจะไร้ผู้คน ชานเมืองก็แบบนี้ เข้านอนแต่หัววัน ไม่เหมือนในเมืองกรุง ที่มีรถวิ่งผ่านอย่างคึกคักทุกช่วงเวลา

“คือ ผม ผมอยากขอติดรถคุณไปที่สุสานวัดนาไพรน่ะครับ ไม่ได้คิดจะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุนะครับ ผมขอโทษจริงๆ”

วัดนาไพร อืม มันก็เป็นทางผ่านไปบ้านผมละนะ แต่มันต้องเข้าซอยเล็กๆ เข้าไปอีกหน่อยหนึ่ง จึงจะถึง

“อืม พักรักษาตัวให้หายก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมอาหารที่ผมนำมา ทั้งของเขาและของผม เพราะเวลานี้ ล่วงเลยเวลาอาหารเช้ามาสักพักแล้ว

“คือ ผม... ผมขอไปอยู่ห้องธรรมดาได้ไหมครับ ห้องแบบนี้ผมไม่มีตังค์จ่าย” นายเอ่ยออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ และแสดงท่าทีเกรงใจออกมา

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะจ่ายให้เอง แม้นายจะเป็นสาเหตุให้ฉันเกือบเกิดอุบัติเหตุก็เถอะ”

“แต่ผมเกรงใจครับ ห้องนี้คงจะแพงมาก ผมไม่อยากรบกวน”

“ผมรวย” ผมว่าและหันไปมองหน้าเขานิ่งๆ เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง

“ทานซะ อย่างน้อยมันก็อร่อยกว่าอาหารโรงพยาบาล” ผมว่าและเลื่อนโต๊ะทานอาหารเข้าไปวางไว้ตรงหน้าเขา พร้อมกับปรับระดับให้พอดี ก่อนจะปล่อยให้เขาทานเอง

“ขอบคุณครับ” เจ้านายเริ่มตักโจ๊กหมูร้อนๆ ที่ผมซื้อมาเผื่อเขาขึ้นมาทาน เมื่อได้ทานแล้วก็เผยรอยยิ้มนิดๆ และเงยหน้ามองผม

“อร่อยมากเลยครับ คุณใจดีจัง” รอยยิ้มของเขาทำให้ผมรู้สึกใจกระตุก ผมมั่นใจว่าผมไม่ใช่พวกเกย์แน่ๆ เพราะที่ผ่านมา ผมมีแต่หญิงสาวรายล้อมนับไม่ถ้วน เธอเหล่านั้นขยันมาขายขนมจีบให้ผมอยู่เรื่อย ผมก็แค่ยิ้มรับหรือตอบรับไปบ้างในบางที เพื่อให้การทำธุรกิจมันง่ายยิ่งขึ้น แน่นอนมันก็จะมีพวกผู้ชายหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก แวะเวียนเข้ามาบางเช่นกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับทำให้ผมรู้สึกรำคาญ แต่ไม่เคยมีใครทำให้ใจผมกระตุกได้เลย ไม่เหมือนกับคนตรงหน้านี้ คนที่ชื่อว่าเจ้านาย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ผมได้สติและหันไปทางประตู พร้อมกับเอ่ยปากอนุญาตให้คนข้างนอกเข้ามาได้

“เชิญครับ”

“ไอ้เนม ไง มาแต่เช้าเลยนะมึง” ชายรูปร่างสูงใหญ่ แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ตามสไตล์คุณหมอเดินเข้าห้องมาและเอ่ยทักผม คนนี้มันชื่อ ไผ่ ครับ เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย แม้เราจะเข้ามหาลัยคนละคณะ แต่ก็ยังมหาลัยเดียวกันอยู่ดี มันเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลครับ ก็เลยต้องเรียนหมอเพื่อรับหน้าที่ต่อจากพ่อของมัน

“เออ ว่าไงมึง โทษทีว่ะ เมื่อวานเหนื่อยๆ เลยกลับก่อน”

“เออๆ ไม่เป็นไรมึง แค่จะเข้ามาดูคนไข้เฉยๆ เป็นยังไงบ้างครับ มีอาการเจ็บหรือปวดตรงไหนไหม” มันตอบผมกลับและหันไปถามเจ้านายเพื่อสอบถามอาการ

“อ่อ ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงไหนด้วยครับ” เจ้านายตอบกลับพร้อมกับยกแขนทั้งสองขึ้นดูเพื่อสำรวจและทดสอบอาการของตัวเอง

“ว่าก็ว่าเถอะ เมื่อวานพอส่งเขาให้แกแล้วก็กลับเลย ฉันยังไม่รู้สาเหตุเลย ว่าทำไมเขาถึงสลบ ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่ได้ชนเขาสักหน่อย” ผมเอ่ยปากถามไอ้ไผ่อย่างนึกขึ้นได้

“ก็ไม่ได้ชนจริงๆ นั่นแหละ แต่ที่สลบเพราะว่าขาดสารอาหาร ร่างกายเลยอ่อนเพลีย ให้นอนพักอีกสักคืน พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วล่ะ” ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น

“งั้นฉันไปก่อนนะ ต้องไปตรวจคนไข้คนอื่นต่อ ไว้ว่างๆ หาเวลาไปดริ้งกันเพื่อน ไม่ได้ไปนานแล้วว่ะ”

“เออ ไว้หาวันว่างแล้วนัดไอ้พวกนั้นมาด้วยเลย” ผมตอบกลับและคิดไปถึงเพื่อนๆ อีก 3 คนที่เหลือ ในกลุ่มผมมีกัน 5 คนครับ สนิทกันเหนียวแน่น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม เพื่อนๆ ในกลุ่มผมคนแรกก็ไอ้ไผ่ อย่างที่แนะนำไปแล้วนั่นละครับ

คนถัดมาคือไอ้ซอ บ้านมันทำพวกดอกไม้ส่งออกครับ ปลูกดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ แล้วส่งออกไปขายต่างประเทศ ช่างขัดกับรูปร่างหน้าตามันเหลือเกิน ตัวมันใหญ่อย่างกับหมี หน้าตามันก็เหมือนโจร แต่ก็หล่อคมคาย ตามสไตล์หนุ่มมาดเข้ม คิดดูเอาแล้วกันครับ คนหน้าตาเหมือนโจร แต่มานั่งปลูกดอกไม้ มาดูแลทะนุถนอมดอกไม้ ผมยังแปลกใจที่มันไม่ทำธุรกิจครอบครัวเจ๊งไปตั้งแต่มันเข้ามาดูแลได้ยังไง

คนต่อมาก็ไอ้ต้อง มันเป็นเจ้าของผับ มีหลากหลายสาขา ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดทุกอย่างครับ ไอ้ต้องนี่พ่อแม่มันทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แต่ตัวมันดันทะลึ่ง ไม่อยากเดินตามรอย ขอถอยออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ก็สมกับตัวมันแหละครับ เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ อ่อยสาวๆ ไปทั่ว ได้เขาแล้วก็ทิ้งเป็นว่าเล่น

ส่วนคนสุดท้าย ไอ้ไนท์ ทำงานเป็นพวกโปรแกรมเมอร์ครับ เขียนโปรแกรม ซอฟต์แวร์ ออกแบบระบบ เน้นด้าน IT เป็นหลัก รับช่วงต่อจากพ่อแม่ของมันมาอีกที ไอ้ไนท์นี่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้น จึงกลายเป็นน้องเล็กของกลุ่มไปโดยปริยาย

“ไว้เดี๋ยวกูนัดพวกมันเองแล้วกัน มึงไปทำงานเถอะ”

“เออๆ ไปละ” ไอ้ไผ่เดินออกจากห้องไปแล้ว ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่บนเตียง และยังมองค้างมาทางผมอยู่

“มองอะไร ทานข้าวไปสิ” ผมพูดและก้มหน้าทานข้าวของตัวเองต่อ เจ้านายถึงได้เริ่มทานข้าวของตัวเองบ้าง

“คุณชื่ออะไรหรอ”

“เนม”

“อื้อ คุณอายุเท่าไหร่หรอ”

“25” ผมตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เพราะเริ่มจะรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ พร้อมจ้องหน้าของเขาไปด้วย

“ผมขอเรียกว่าพี่เนมได้ไหมครับ” เจ้านายยังคงถามคำถามผมต่อ

“แล้วแต่คุณ” ผมตอบไปแค่นั้น และไม่ได้สนใจเขาอีก ก้มหน้าทานข้าวของตัวเองไป เมื่อเจ้านายเห็นผมตัดบทสนทนา เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วก้มหน้าทานข้าวไปเงียบๆ ผ่านไปสักพักเราทั้งคู่ก็ทานข้าวเช้าเสร็จครับ ผมก็ทำหน้าที่เก็บถ้วยเก็บจานไปล้างและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

“ผมจะกลับแล้ว คุณอยู่ได้ใช่ไหม” ผมเอ่ยถามคนที่นอนพักอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขาหันมามองทางผม และเอ่ยปากตอบกลับมา

“ผมอยู่ได้ครับ พี่เนมกลับไปเถอะครับ ขอบคุณครับที่แวะมา”

“อืม ไว้ตอนเย็นผมจะเข้ามาดูคุณอีกที” ผมพูดจบและหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ผมว่าเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายเท่าไหร่ ไม่ถึงกับขนาดที่ต้องนั่งเฝ้า 24 ชั่วโมงสักหน่อย สู้ผมเอาเวลานั่งเฝ้า ไปนั่งทำงานที่บริษัทยังจะดีเสียกว่า อีกอย่างผมกับเขาเองก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่ต้องมาเฝ้าใกล้ชิดขนาดนั้น คิดได้อย่างนั้นแล้วจึงต่อสายไปหาลุงชาญ และแจ้งกับคุณลุงว่าผมเปลี่ยนใจจะเข้าบริษัท แต่น่าจะเข้าช่วงสายหน่อย แล้วจึงเดินทางออกจากโรงพยาบาลเพื่อตรงเข้าบริษัททันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย

    “ใจเย็นๆ มึง” ไอ้ซันไอ้เบสลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจผม ให้คลายความตื่นเต้นลง เมื่อตอนนี้กำลังเตรียมตัวเดินผ่านเข้าประตูบานใหญ่ มีซุ้มดอกไม้จัดแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งดอกไม้ที่ใช้ ก็คือ เยอบีร่า ไฮเดรนเยีย ดอกลิลลี่สีชมพู ทิวลิปสีแดงและขาว เหมือนกับตอนที่พี่เนมขอผมแต่งงาน....งานในครั้งนี้พี่เนมขอเป็นคนจัดการเรื่องสถานที่ การจัดตกแต่ง อาหารและรูปแบบตรีมของงาน ในขณะที่ผมดูเรื่องเสื้อผ้า ของชำร่วย การถ่ายภาพ และเราก็ช่วยกันดูรายชื่อแขกด้วยกัน เราจัดเตรียมงานด้วยความวุ่นวาย หัวแทบหมุน วิ่งไปวิ่งมาไม่หยุด ถึงจะอย่างนั้น เราก็มีความสุขเมื่อวันงานใกล้เข้ามามากขึ้นตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่หน้าประตูโรงแรมในเครือของวรโชติวาทิน ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด และชั้นบนสุดของห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม มือของผมเย็นเยียบเต็มไปด้วยเหงื่อ กำช่อดอกไม้ในมือไว้แน่น มีเพื่อนสองคนคอยปลอบอยู่ไม่ห่าง หลังบานประตูมีอากันต์ที่คอยยืนรอให้ผมเดินคล้องแขนเข้างาน ผมพยายามระงับความแตกตื่นของตัวเอง พยักหน้าช้าๆ เมื่อพร้อมแล้ว เพื่อนทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปภายใน

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ สวัสดีปีใหม่ NC+++

    ...Name Part“พี่เนมครับ มาเร็ว” เสียงของคนตัวเล็กที่ร้องตะโกนเรียกผมให้เร่งสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ ตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตครับ และครับ ตอนนี้เป็นช่วงที่ปี พ.ศ. ใหม่กำลังจะเริ่มต้น จึงพาคนตัวเล็กออกมาเที่ยวบ้าง หลังจากที่ผมกรำงานจนเหนื่อยล้า และทะเลาะกับคนตัวบางไปเมื่อคราวนั้น ทำให้ผมดาวน์งานลงทันที กระจายงานออกไปให้ลุงชาญบ้าง ให้มาคัสบ้าง แต่อำนาจการตัดสินใจยังอยู่ที่ผมอยู่ดี ทำให้มีเวลาให้เจ้านายได้มากขึ้น ซึ่งเจ้าตัวเองก็ดูแฮปปี้ขึ้นมาก“เดินดีๆ เดี๋ยวก็ล้มหรอก” ผมเอ็ดเจ้านายนิดหน่อย เมื่อเจ้าตัวเดินไปกระโดดโลดเต้นไปด้วย ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปที่เกาะแห่งหนึ่ง เป็นเกาะส่วนตัวที่อำนวยความสะดวกสบายครบครันของครอบครัวผมเอง เรากำลังเดินทางไปที่เรือสปีดโบ๊ทที่กำลังจอดรอเทียบท่าอยู่ อาจจะแปลกที่มันเป็นหน้าหนาว แต่พวกเราดันเลือกที่จะมาทะเล แต่ก็เป็นเพราะเรามีเกาะส่วนตัวอยู่ จึงเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ๆ ห่างไกลผู้คน หลบหนีความวุ่นวาย ไปพักผ่อนสบายๆ ซัก 3-4 วันเจ้านายหันมายิ้มเผล่ให้ ก่

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ ลอยกระทง NC+++

    ครับ วันนี้วันลอยกระทงครับ เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดนักขัตฤกษ์ พี่เนมจึงไม่ได้หยุดงาน ตัวผมเองก็ยังต้องไปเรียนตามปกติ แต่วันนี้ผมรีบกลับบ้านมา ชวนป้านุ่มกับเด็กๆ มาทำกระทงด้วยกัน โดยที่ผมทำกระทงอันใหญ่อันเดียว แต่มี 2 ชั้น เอาไว้ลอยกับพี่เนม ผมกับพี่เนมคุยกันแล้วครับ เราจะไปลอยกันที่มหาลัยของผม เพราะมีการจัดงานลอยกระทงและออกร้านค้าต่างๆ มากมาย แต่จนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ทุ่มแล้วแต่พี่เนมก็ยังมาไม่ถึงบ้าน ผมก็ไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่น มองออกไปนอกหน้าต่างก็พบกับพระจันทร์ดวงโตที่มีกระต่ายตัวน้อยอยู่ภายใน ผมนั่งมองอยู่สักพักแล้วเหลือบดูเวลา เกือบจะ 3 ทุ่มแล้ว พี่เนมก็ยังมาไม่ถึง แต่แล้วแสงไฟจากรถยนต์ก็สาดส่องเข้ามา บ่งบอกว่าพี่เนมมาถึงแล้ว“นาย! พี่ขอโทษนะครับ ที่พี่มาสาย พอดีติดประชุมยาวไปหน่อย แล้วก็รถติดอีก เรารีบไปกันเถอะ” พี่เนมพูดไป ถอดชุดสูทไปพลาง ปลดเนกไทและกระดุมเสื้อไปพลาง ผมหันไปยิ้มให้น้อยๆ แล้วพยักหน้าลุกขึ้น เราเดินไปที่รถด้วยกัน พี่เนมก็ออกรถด้วยความรวดเร็ว ตรงดิ่งไปที่มหาลัยทันที กว่าเราจะมาถึงก็เป็นเวลา 3 ทุ่มครึ่งแล้วครับ ร้านค้าต่างๆ ก็พากันปิดหมดแล้ว

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ คนไม่มีเวลา EP2 NC+++

    “เพราะนายเมาแล้วเกเร แถมยังแต่งตัวแบบนี้มาอีก ต้องโดนลงโทษนะครับ หึหึหึ พี่รับรองว่ามันจะทำให้นายทรมานจนแทบขาดใจ” พี่เนมกล่าวด้วยเสียงพร่าแหบ นัยน์ตาประกายวาววับ ตาของผมเสมองหลบดวงตาคมกล้า มองออกไปรอบๆ ห้อง เมื่อเห็นอะไรๆ ชัดขึ้นในห้องที่ผมอยู่ ตรงกลางห้องเป็นเตียงขนาดใหญ่ ถูกล้อมด้วยลูกกรงที่เป็นวงกลม ห้องทั้งห้องถูกทาสีดำมืดทึบ ให้เข้ากับบรรยากาศ มีไม้เป็นรูปกากบาทตั้งอยู่ที่มุมกำแพง และมีสายรัดทั้งบนล่างดูก็รู้ว่าเอาไว้รัดอะไร ตามแต่ละซี่ของลูกกรง มีของแขวนไว้เต็มไปหมด โซ่ แส้ กุญแจมือ เชือก และพวกเซ็กส์ทรอย ทำให้ผมตาเหลือกทันทีเมื่อหันกลับมาเจอพี่เนมที่กำลังยกยิ้มแบบจิตๆ อยู่“มะ มะ ไม่เอา ไม่เอาห้องนี้” ผมส่ายหน้าไปมาระรัว จนผมกระจาย“หึหึหึ” พี่เนมหัวเราะเสียงต่ำ จ้องมองเหมือนสิงโตที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ ก่อนจะพูดต่อ“เสียใจด้วยนะครับ พี่เลือกห้องนี้ไปแล้ว” จบคำคนตัวโตพี่เนมก็ก้มหน้าลงฉกวูบมาที่ซอกคอของผม ขบกัดรุนแรงเป็นการลงโทษ“อะ จะ เจ็บ” ผมบอกเสียงสั่น เอามือดันอกแกร่งให้ออกห่าง

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ คนไม่มีเวลา EP1

    “มึงว่างมากรึไง”ผมหันไปตามเสียงของเพื่อนที่ดังขึ้นอย่างเบื่อหน่าย เมื่อผมนั้นมาหามันแทบจะทุกวัน เพื่อนคนนั้นก็ไม่ใช่ใคร ไอ้ซันกับไอ้เบสครับ ตอนนี้พวกผมทั้ง 4 คนเรียนจบแล้วครับ และกำลังอยู่ในช่วงเอื่อยๆ พักผ่อนหลังเรียนจบ เพื่อรอให้ถึงวันรับปริญญาในอีก 2 – 3 เดือนข้างหน้านี้เอง“เออ กูว่าง” ผมหันไปตอบมันกวนๆ และว่างในที่นี้คือว่างจริงๆ ครับ ผมขออากันต์ไว้แล้วว่าจะเข้าไปช่วยงานหลังรับปริญญาเสร็จ ซึ่งอากันต์ก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากนี้หลังจากรับปริญญาแล้ว ผมกับพี่เนมมีแผนว่าจะแต่งงานหลังจากนั้นกันด้วย แต่รายละเอียดยังไม่ได้ลงลึกสักเท่าไหร่ส่วนสาเหตุที่ผมมาหมกตัวอยู่กับพวกมันก็เป็นเพราะว่าผมว่างจริงๆ และพี่เนมเองก็ทำงานอย่างหนักหน่วงอีกด้วย เนื่องจากตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์ที่คอยส่งให้กับบริษัทของคุณรอลเลนอยู่เพิ่มปริมาณมากขึ้น และยังมีโปรเจ็คใหม่ๆ ที่จะทำร่วมกัน ทำให้ต้องบินไปๆ มาระหว่างประเทศไทยกับลอนดอน ถามว่าทำไมถึงไม่เอาผมไปด้วย เพราะผมไปแล้วพี่เนมไม่มีเวลาให้เลย สรุปคือผมไปแล้วก็ไปนั่งรอพี่เนมในห้องเฉยๆ หรืออาจจะออกไปเที่ยวคนเด

  • We're the same นายกับฉันเหมือนกันเลยนะ   ตอนพิเศษ ลงโทษเด็กไม่ดี NC+++

    หลังจากที่พี่เนมขอผมแต่งงาน ในค่ำคืนวันนั้นเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืน เฝ้าเพียรบอกรักกันไม่ขาด กระซิบถ้อยคำหวานหูคลอเคล้าไปกับเสียงครางรัญจวนและในตอนนี้ผมก็เดินทางกลับประเทศไทยแล้วครับ ที่ๆ ผมยืนอยู่ตอนนี้มีสายลมพัดมาเอื่อยๆ กระทบกับผิวกายให้พอเย็นๆ ไม่ได้รู้สึกร้อนมากมายเท่าไหร่นัก และมีคนตัวสูงยืนอยู่ข้างกัน ในมือของเราถือดอกไม้ไว้คนละช่อที่เบื้องหน้าคือแผ่นหินแกะสลักชื่อของผู้ที่เป็นบิดาและมารดา ครับ ตอนนี้เราอยู่กันที่สุสานวัดนาไพร พี่เนมวางดอกไม้ในมือลงให้กับหลุมศพตรงหน้า เราจุดธูปกันคนละหนึ่งดอก เพื่อทำความเคารพให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว“พ่อครับ แม่ครับ ผมพาสะใภ้มาหานะ” คำพูดของพี่เนมทำให้ผมหน้าแดง ก่อนจะหันไปมองค้อนให้หนึ่งที คนตัวสูงสบสายตากลับมา ก่อนจะยกยิ้มให้เบาๆ ก่อนที่ผมจะเริ่มพูดบ้าง“ขออนุญาตให้ผมได้ดูแลพี่เนมด้วยนะครับ แม้เราจะมีลูกกันไม่ได้ แม้ผมจะช่วยงานของพี่เนมไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมมั่นใจคือไม่ว่าเมื่อไหร่ เวลาไหน ผมก็จะยืนเคียงข้างพี่เนมเสมอ ผมขออนุญาตนะครับ.... ถือว่าพวกท่านตกลงแล้วนะครับ” ผมว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status