7. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (1)
ฉันกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาพร้อมยัยพาย วันนี้มีการประชุมประจำเดือนมีนาคม ยัยพายเสนอว่าให้แจกการ์ดแต่งงานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ฉันรู้สึกประหม่าที่ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานถ้ามีคนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง? เจอกันครั้งแรกที่ไหน? ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงมันเป็นคำถามพื้นฐานที่ทุกคนต้องถามอยู่แล้ว
“เรื่องอื่นๆมีไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” ท่าน ผ.อ.ชนินทร์กล่าวปิดการประชุม ยัยครูพายยกมือรัวๆ
“ครูมนต์พระพายมีเรื่องอะไรครับ”
“ครูเดือนเด่นเป็นสง่ามีเรื่องจะพูดค่ะ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน สายตาทุกคนในที่ประชุมจับจ้องมาที่ฉันราวกับมีไฟสปอทไลท์บนเวทีส่องมาที่ฉันคนเดียว ยิ่งทุกคนเงียบฉันยิ่งเกร็ง
“ว่าไงครับครูดาว” ท่าน ผ.อ.คงขี้เกียจเรียกชื่อจริงที่แสนจะยาวของฉันเลยเรียกชื่อเล่นแทน
“พูดสิแก” ยัยครูดาวล้วงปึกซองสีชมพูออกจากถุงผ้า
“วันที่ ยี่สิบมีนาคม ดิฉันจะ...เอ่อ..” บทจะพูดก็พูดไม่ออกซะงั้น...
“ขึ้นบ้านใหม่เหรอคะน้องดาว?” ครูพี่ลี่ ครูสาวโสดวัยสามสิบปลายเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
“หรือน้องชายจะบวช” ทุกคนเดาไปต่างๆนานา ฉันมีน้องชายที่ไหนกันเล่า..ไม่มีใครคิดว่าฉันกำลังจะแต่งงานแน่ๆ เพราะตั้งแต่มาบรรจุรับราชการครูที่โรงเรียนนี้ฉันไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้ชายมาก่อน จนหลายคนจับฉันกับยัยครูพายเป็นคู่จิ้นกัน โชคดีที่เพื่อนสาวที่หลังเลิกเรียนบางวันมีหมอหนุ่มหล่อมารับที่โรงเรียนทุกคนถึงเลิกจับคู่ฉันกับยัยครูพาย ยัยพายจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด ไม่ใช่พูดไม่ออกแต่กำลังคิดถึงสเตปต่อไป ถ้าบอกว่าแต่งงาน ทุกคนก็ต้องถามแต่งกับใคร เรื่องราวเป็นมายังไงคือฉันยังไม่ได้เตรียมจะตอบอะไรทั้งนั้น
“ครูดาวจะแต่งงานค่ะ นี่ค่ะซองเชิญทุกคนเลยนะคะ” เป็นครูพายที่เอาการ์ดเดินแจกทุกคน ครูพี่นัท ครูหนุ่มที่ทำงานหน้าที่โสตทัศนูปกรณ์ของโรงเรียน ฉายภาพการ์ดงานแต่งงานขึ้นจอโปรเจคเตอร์
“ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรส นายแพทย์มหาสมุทร จึงรุ่งเรืองสกุล และ นางสาวเดือนเด่นเป็นสง่า พัฒนพงศ์”ชื่อของพี่ซายน์และฉันโชว์หราในการ์ดใบนั้น ฉันเองก็เพิ่งรู้ชื่อจริงของพี่ซายน์วันที่ได้รับการ์ดแต่งงานนั่นแหละ
ครูทุกคนในห้องประชุมต่างพากันฮือฮาและส่งยิ้มด้วยความยินดีให้ฉัน
“โห เป็นหมอด้วยนามสกุลคุ้นๆ เหมือนนามสกุลครูน้องพาย เป็นญาติน้องพายเหรอคะ?” ครูพี่ลี่ถามขึ้น
“เป็นพี่ชายพายเองค่ะ”
“น้องพายมีพี่ชายเป็นหมอไม่แนะนำให้พี่รู้จักเลยนะ แนะนำให้แต่น้องดาวสองมาตรฐานนะเนี่ย” ครูพี่ลี่ทำปากคว่ำแบบน่ารักๆ ยัยพายหัวเราะเสียงใส
“พี่ชายของพายเจอดาวครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลยค่ะ เร่งงานแต่งกลัวดาวเปลี่ยนใจ” ยัยครูพายโกหกคำโต นางส่งสายตามาทางฉันพลางยกนิ้วแสดงสัญลักษณ์โอเค
“ดาวจัดงานที่กรุงเทพฯ ถ้าครูท่านไหนสะดวกเชิญนะคะ” ฉันพูดสรุปสั้นๆ ท่านผู้อำนวยการจึงกล่าวปิดการประชุม
“ครูดาวยินดีด้วยนะครับ ผมเห็นซองที่ครูพายถือ นึกว่าครูพายจะแต่งงานใจหายแว่บเลย” ครูเอจิที่ตอนนี้ก็ยังพูดหยอดพูดแซวยัยครูพายเป็นครั้งคราวแต่น้อยลงจากที่เพื่อนสาวของฉันเปิดตัวคบกับหมอฟินเป็นแฟนจริงจัง
“พายก็อยากแต่งค่ะ แต่ตี๋ฟินยังไม่มาขอเลย รอนานจะแต่งกับคนอื่นซะเลย”
“แต่งกับผมก็ได้นะครับผมพร้อม” ครูเอจิยิ้มพรายสายตามองมาที่ยัยครูพายเหมือนแทบจะกลืนกิน
“ช่วยหลีกทางหน่อยค่ะ” เสียงแข็งๆของครูน้องแอนที่มีคนเม้ากันว่าแอบกิ๊กกับครูเอจิพูดขึ้น นางกระแทกรองเท้าส้นสูงแถมเดินชนไหล่ยัยครูพายอย่างจงใจ
“ครูเอจิ เลิกหยอดยัยพายซะทีเถอะค่ะ รังสีอำมหิตเริ่มเปล่งแสงแล้ว” ฉันกลัวว่าวันหนึ่งครูน้องแอนอาจจะเอามีดมาแทงเพื่อนรักของฉันเข้าสักวัน...
Sine talks
“ซายน์ ช่วงนี้ไม่ว่างเลยนะ” เสียงหวานๆของหมอพลอยเอ่ยถาม ขณะที่เราราวน์วอร์ดช่วงเช้าเสร็จและพักกลางวันอยู่ในห้องพักแพทย์สองคน
“ช่วงนี้ผมเข้าเวร ผมจะลายาวห้าวัน” ผมถอนหายใจหนักๆ ไม่รู้จะบอกคนรักยังไง
“ลาทำไมเหรอซายน์หรือว่าที่เรานัดกันไปเที่ยวญี่ปุ่น แอบเซอร์ไพร้พลอยใช่ไหม? ทำไมไม่บอกดีๆพลอยจะได้ลาด้วย” ดวงหน้าหวานคมยิ้มพราย นิ้วเรียวแตะแก้มผมเบาๆ
“ซายน์จะแต่งงาน” ผมตัดสินใจบอกหมอพลอย หญิงสาวทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
“โห นี่มันเรื่องสยองหนึ่งบรรทัดเลยนะ ล้อพลอยเล่นใช่ไหม?” ผมหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋า
“เชิญนะครับยี่สิบมีนาคมที่บ้านซายน์” หมอพลอยล้วงการ์ดข้างในมาอ่าน ใบหน้าแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น หัวใจผมชาหนึบ แต่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมจำเป็นต้องแต่งงานตามคำสั่งของครอบครัว
“ซายน์ทำแบบนี้กับพลอยได้ยังไง นังนั่นเป็นใครดีกว่าพลอยรึเปล่า” เสียงหวานที่คุ้นเคยเริ่มจะเป็นเสียงตะคอก ผมตกใจเพราะไม่เคยเห็นคนรักแสดงท่าทางแบบนี้มาก่อน แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของเธอ การที่คนรักต้องไปแต่งงานกับใครไม่รู้มันเจ็บปวดแค่ไหน
“ผมต้องแต่ง แต่ผมไม่ได้รักเธอ คนที่ผมรักคือพี่พลอยคนเดียว” ผมกุมมือหมอพลอยแน่น ใบหน้าหวานคมเต็มไปด้วยน้ำตาจนผมอยากคว้าเธอมากอดถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาล
“ถึงซายน์จะแต่งงานเราก็ไม่เลิกกันใช่ไหม?” ดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำใสๆเอ่ยถามพลางสะอื้นไห้
“ไม่มีวัน..ซายน์จะหย่าให้เร็วที่สุด” ผมบอกอย่างมั่นใจ ถ้าดาวอยากแต่งงานกับผมก็แต่งไป ผมจะร้ายให้เธอทนไม่ไหว ยอมเดินออกไปจากชีวิตผมไป...
“ไอ้ซายน์ แม่พั้นซ์จอดรถรอที่หน้าโรงพยาบาล” ไอ้หมอตามเดินเข้ามาในห้องพักแพทย์ มันเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงจนผมปล่อยมือที่กุมหมอพลอยแทบไม่ทัน
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ช่วงนี้ผมไม่ได้อยู่ตามลำพังกับพลอยเลย วันๆ ต้องเข้าเวร พอวันว่างอย่างวันนี้ก็ต้องไปลองชุดแต่งงาน ผมเปลี่ยนเสื้อกาวน์และสวมเสื้อเชิร์ตเดินขึ้นมานั่งในรถ ในนั้นนอกจากแม่พั้นซ์ยังมียัยพายกับ..เจ้าสาวของผมนั่งอยู่ด้านใน ผมแทบไม่อยากมองหน้าเธอเลยเรียกว่าเกลียดยันเงาก็ว่าได้
Dao talks
ร้านแต่งงานแบรนด์จุนิตาอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก พวกเราทั้งหมดเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านสาวสองวัยกลางคนที่ยังสวยอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงออกมาต้อนรับ
“เชิญค่ะคุณพั้นซ์ ชุดที่สั่งตัดเรียบร้อยแล้ว”
“หนูดาวไปลองชุดเลยจ้า จะได้มาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง” แม่พั้นซ์รุนหลังให้ฉันเดินไปกับคุณจุนิตาด้านใน มีพนักงานสาวสองคนช่วยฉันแต่งตัว ชุดแต่งงานที่ปักด้วยคริสตัลแทบทุกตารางนิ้วสวยงามอลังการสมราคาสองล้าน ฉันใช้เวลาแต่งหน้าและแต่งตัวเกือบสองชั่วโมง พอเดินลงมาจากบันไดชั้นบน แม่พั้นซ์ยัยพายมองด้วยแววตาชื่นชม
“สวยมากดาว ยังกะเจ้าหญิงแหน่ะ” ยัยดาวหยิบมือถือมาถ่ายรูป ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวนอนหลับอยู่ที่โซฟาตัวยาว
ร่างสูงในชุดสูทสีขาวนอนหลับลึกสังเกตได้จากลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอ แม่พั้นซ์เขย่าตัวพี่ซายน์แรงๆ
“ตื่นได้แล้ว มาดูเจ้าสาวคนสวยเร็วเข้า” พี่ซายน์งัวเงียตื่นขึ้นมา ดวงตาสีเข้มชะงักมองฉันแค่ไม่กี่วินาทีจากนั้นจึงเบือนหน้าไปทางอื่น ที่ร้านมีบริการถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอ ร่างสูงในชุดสูทสีขาวดูดีราวกับเจ้าชายเสียแต่ที่เขาไม่ยอมยิ้มและมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนโดนบังคับให้แต่งงาน ใช่แล้วก็โดนบังคับให้แต่งงานจริงๆนี่นา
“เจ้าบ่าวช่วยยิ้มด้วยครับ” พี่ซายน์ทำหน้าตึงจนช่างกล้องต้องบอก เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายและยิ้มตามที่ช่างกล้องร้องขอและฉันเพิ่งเคยเห็นพี่ซายน์หน้าเดียวยิ้มเป็นครั้งแรก ตึกตักตึกตัก หัวใจฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพิ่งจะรู้ว่าพี่ซายน์มีลักยิ้มด้วย
“เจ้าสาวโอบคอเจ้าบ่าวนะครับ เจ้าบ่าวมองเจ้าสาวเอาจมูกมาชนกัน” นี่ฉันต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอ? ฉันทำตัวไม่ถูกยืนนิ่งไปนาน จนพี่ซายน์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
“รีบๆทำจะได้เสร็จไวๆ เหนื่อย..” พี่ซายน์พูดเสียงเบาราวกับกระซิบ ดวงตาสีเข้มมองฉันอย่างไม่ชอบใจ ฉันค่อยๆใช้มือโอบรอบคอพี่ซายน์ เขาค่อยๆ โน้มตัวลงมาจนจมูกเราชนกัน ใกล้มาก..จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่กำลังเป่ารดใบหน้าของฉัน...แล้วหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัวอีกครั้ง..
31. ตอนพิเศษ เอเธนส์ & บอสตัน“พี่ซายน์ ดาวฝากซื้อของหน่อยค่ะ” ฉันหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอกับไหล่ สองมือกำลังใช้ครีมอาบน้ำเด็กถูไปตามลำตัวป้อมสั้นแต่ทว่าจ่ำม่ำกว่าเด็กวัยเกือบสามขวบกว่าทั่วไป“แม่ดาว อาบให้บอสมั่งฮะ” เสียงใสๆของเด็กชายตัวน้อยอีกคนดังขึ้น“ได้ครับ จัดไปทั้งคู่เลย” ฉันจัดการอาบน้ำเด็กแฝดทั้งสองหลังจากที่สองพี่น้องไปเล่นดินหลังบ้าน โดยมีคุณยายเดือนคอยดูอย่างห่างๆ เสื้อผ้าของเอเธนส์กับบอสตันเปื้อนดินโคลน ใบหน้ามอมแมมจนฉันแทบจะจำลูกตัวเองไม่ได้“คุณดาวคะ เดี๋ยวป้าช่วยนะคะ” ป้าสมใจคงเห็นว่าฉันทั้งคุยโทรศัพท์ทั้งอาบน้ำเด็กๆทั้งสองดูทุลักทุเลจนเกินไป“น้องไนท์หลับแล้วเหรอคะ?” ฉันถามถึงเด็กหญิงวัยสองขวบลูกของน้องมิ้นท์ ซึ่งพลาดพลั้งตั้งท้องตอนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เด็กสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษพอคลอดลูกสาวตัวน้อยคือน้องไนท์ก็เสียชีวิตทันที ฉันรู้สึกเวทนาจึงรับลูกสาวของน้องมิ้นท์เป็นลูกบุญธรรม น้องไนท์วัยสองขวบกำลังหัดพูด ผิวขาวเนียนละเอียดจ่ำม่ำน่ารักน่าเอ็นดูแถมยังบังเอิญหน้าคล้ายฉันอีกด้วย ถ้าพาเด็กๆทั้งสามคนออกไปเที่ยว คนรู้จักยังคิดว่าเป็นลูกของฉันกับพี่ซายน์ทั้งหมด “
30. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (2)ในความฝันที่กึ่งๆเหมือนความเป็นจริง ฉันยืนอยู่ที่มืดๆ พี่ซายน์ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาดูเศร้าเขายืนมองหน้าฉัน อยู่ๆก็หันหลังและเดินหนีฉันไป“พี่ซายน์จะไปไหนคะ” ฉันร้องตะโกนถาม ทว่าร่างสูงยังคงก้าวเท้าห่างฉันออกไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังตามเขาไปอย่างไม่ลดละ จากเดินเร็วๆกลายเป็นวิ่งตาม เสื้อเชิร์ตสีขาวของพี่ซายน์มีสีแดงเป็นจุดเล็กๆจากนั้นสีเข้มของเลือดกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากเสื้อเชิร์ตสีขาวกลายเป็นสีแดงช้ำเลือดจนน่ากลัว พี่ซายน์หยุดเดินและหันหน้ากลับมา“ดาวไม่ต้องตามพี่มา”“ทำไมคะ พี่ซายน์จะไปไหน”“ไปที่ๆไกลมาก ดาวดูแลลูกๆของเราด้วยนะ” จากนั้นร่างของพี่ซายน์ก็โปร่งแสงและแตกกระจายกลายเป็นผีเสื้อนับพันนับหมื่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตากับแสงสว่างในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองฝันร้าย เลือดที่อยู่บนเสื้อของพี่ซายน์กระจายตัวเป็นวงกว้าง มันคงไม่ใช่เรื่องจริง ฉันรู้สึกเหนื่อยหอบเพราะในความฝันฉันทั้งเดินทั้งวิ่งตามเขา“ดาวฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงของแม่เดือนดังขึ้น แม่กำลังนั่งกุมมือฉันอยู่ข้างๆเตียง“ดาวเป็นลมอีกแล้วใช่ไหมคะ
29. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (1)ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนหัวพอยืนขึ้นก็รู้สึกเหมือนบ้านหมุน คิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคเกี่ยวกับความดันแน่ๆ แต่ก็ยังฝืนเดินลงมาทำอาหารตามปกติ ป้าสมใจกำลังย่างกะปิเพื่อตำน้ำพริก ฉันย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นกะปิ“คุณดาวหน้าซีดนะคะ” ป้าสมใจทัก“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นความดัน เดี๋ยวป้าสมใจย่างกะปิค่อยเรียกดาวนะคะ” ยิ่งได้กลิ่นกะปิยิ่งเวียนหัว อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นมาอีก รู้สึกกลืนไม่เข้าและไม่น่าจะคายอะไรออกมาได้ ทั้งๆที่ยังไม่กินข้าวเช้าแต่เหมือนร่างกายอยากจะขับอะไรออกมา ฉันวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและอาเจียนออกมา ซึ่งมีแต่น้ำลายเหนียวๆใสๆ ป้าสมใจรีบตามมาลูบหลัง“คุณดาวไหวมั้ยคะ ไปหาหมอไหมคะ” และในตอนนั้น..ฉันรู้แล้วว่าอาการที่ว่ามันคืออะไร..ฉันรีบไปที่ร้านขายยาและซื้อที่ตรวจครรภ์มาทุกแบบ ทั้งแบบหยดแบบจุ่มและแบบปากกา ครั้งแรกลองตรวจด้วยที่ตรวจแบบหยดก่อน แค่หยดปัสสาวะลงไปสี่หยดผลก็ปรากฏชัดแบบไม่ต้องสงสัย พอตรวจครบทุกแบบฉันก็จัดการเอาที่ตรวจทุกอันใส่กล่องและห่อด้วยกระดาษสีหวาน จากนั้นก็รอเวลา ราวๆหกโมงเย็นเสียงรถก็มาจอดที่โรงรถ ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์แขน
28. รักแท้แพ้อะไร (2)ฉันเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องนอน สามีของฉันปิดไฟมืดเอาผ้าห่มคลุมตัว เขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาผนังห้อง“พี่ซายน์เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ฉันนั่งลงที่เตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบาๆ อุณหภูมิก็ปกติตัวไม่ได้ร้อน“พี่ปวดหัว” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวพูดเสียงเรียบ“แค่ปวดหัวใช่ไหมคะ มีอะไรจะบอกดาวไหม?” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นความผิดปกติของเขาตั้งแต่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พี่ซายน์ไม่พอใจที่น้องต้นพูดจากับฉันอย่างสนิทสนม“......” เขายังเงียบ..“งั้นดาวลงไปหาเพื่อนๆนะคะ” ฉันทำทีจะออกจากห้องนอน“ดาว...พี่ไม่ชอบครูต้นเลย” แล้วพี่ซายน์ก็คายความในใจออกมาจนได้“พี่ว่ามันชอบดาว พี่กลัว...”“พี่ซายน์กลัวดาวจะไปชอบครูต้นเหรอคะ?” ฉันแอบกลั้นยิ้มแต่พี่ซายน์คงไม่เห็นเพราะห้องมืดมาก“ก็ดาวทำงานกับครูต้นทุกวัน ส่วนพี่อยู่กรุงเทพฯแถมยังไม่มีเวลามาหาดาวบ่อยๆ พี่กลัวว่าดาวจะชอบคนอื่น” น้ำเสียงที่พูดดูจริงจังและคนตัวสูงก็ถอนหายใจ ฉันล้มตัวลงไปนอนข้างๆ เอื้อมมือไปสวมกอดพี่ซายน์จากทางด้านหลัง“ลองคิดกลับกันนะคะ พี่ซายน์ทำงานใกล้ชิดกับหมอ พยาบาลสาวๆสวยๆ ดาวก็ต้องคิดใช่ไหมคะว่าพี่ซายน์อาจจะไปชอบคนอื่นเพ
27. รักแท้แพ้อะไร (1)พอฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าร่างสูงที่นอนกอดตลอดคืนก็หายไปแล้ว พี่ซายน์ผู้ที่ชอบนอนขี้เซาและคอยให้ปลุกตลอดหายไปไหนกันนะ พอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่า หมอหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลิ่นของทอดลอยมาเตะจมูก เขาคงได้ยินเสียงฝีเท้าของฉันที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าขาวเนียนยิ้มอวดลักยิ้ม ผมหน้าม้าที่ยุ่งไม่เป็นทรงแต่กลับทำให้คนตรงหน้าดูหล่อเหลาไปอีกแบบ “ดาวตื่นแล้วเหรอ?” คงเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันตื่นสายตอนนี้หกโมงเช้าแล้วถือว่าสายสำหรับฉัน ปกติวันทำงานฉันจะตื่นตีห้าลุกมารดน้ำต้นไม้และพวกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รอบๆบริเวณบ้าน เมื่อคืนคนตัวสูงก่อกวนตลอดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอนจึงรู้สึกเพลียจนตื่นนอนตามเวลาปกติไม่ได้“พี่ซายน์ทำอะไรกินคะ” ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ซายน์กำลังทอดไส้กรอก ในจานที่ทอดเสร็จแล้วมีไข่ดาวทั้งแบบสุกและไม่สุกหลายฟอง มือหนาจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋และมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง“ดาวนั่งเฉยๆ พี่จะบริการดาวเอง สลับกันบ้างดาวดูแลพี่มามากพอแล้ว” ฉันอมยิ้ม คุณชายแห่งบ้านจึงรุ่งเรืองสกุลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?“พี่ซายน์ให้ใครไปซื้ออ
26. ไตหาหัวจาม (2)เลิกเรียนฉันก็รีบกลับบ้านพักทันทีปกติจะนั่งคุยชิลๆกับครูพี่ลี่ก่อน ช่วงบ่ายฉันมัวแต่เป็นห่วงว่าพี่ซายน์จะอยู่ได้ไหมเพราะอากาศร้อนมาก แต่พอถึงบ้านฉันเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้าน บนหลังคามีคนกำลังติดจานดาวเทียมสีส้มและตรงระเบียงห้องนอนมีช่างกำลังติดแอร์และไม่ได้ติดแค่จุดเดียว พี่ซายน์ติดแอร์ทั้งบ้าน ห้องนอนที่ฉันนอนห้องเดียวอีกห้องใช้เก็บของเขาก็ติดมันหมดทั้งสองห้อง ห้องนั่งเล่นชั้นล่างก็ติดแอร์ รวมไปถึงครัวเล็กๆนั้น ทีวีจอแบนจอใหญ่ถูกนำมาตั้งแทนทีวีจอเล็กๆอันเก่า ตู้เย็นสี่ประตูเครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในครัว ร่างสูงยืนชื่นชมผลงานพอเห็นเจ้าของบ้านมาถึง ก็ทำแบบสอบถามความพึงพอใจ“ดาวชอบไหม สมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดบลูทูธต่อกับมือถือได้เลย เผื่อดาวอยากดูหนังฟังเพลง” หมอหนุ่มอวดอ้างสรรพคุณของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคซึ่งเจ้าตัวภูมิใจนำเสมอมาก“ตู้เย็น พี่ซื้อเครื่องดื่มกับผลไม้ไว้ให้แล้ว”“พี่ซายน์ เกินไปไหมคะ ดาวว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป” ฉันไม่เห็นด้วยกับของแต่ละอย่างที่เขาซื้อให้ฉันเลย“พี่อยากให้ดาวอยู่สบายๆ ดาวไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดาวเป็นเมียพี่ถึงดาวจะไม่ยอมรับ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นสามีภร