คิดถึงแฟนเก่า
Tong rak
'ต้อง เป็นแฟนกับพี่นะ'
'พี่รักต้องนะครับ'
'พอต้องเรียนจบ เราแต่งงานเลยดีไหม'
ฉันนั่งมองรูปภาพเก่า ๆ และคำพูดของแฟน(เก่า)ฉันที่ได้พูดไว้ เขาเป็นที่ฉันฝันและคิดถึงเขามาโดยตลอด แล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ภาพที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากก็ผุดเข้ามาในหัว
'ต้อง เราเลิกกันเถอะ'
'ตะ ต้องทำอะไรผิด ทำไมพี่ถึงอยากเลิกกับต้อง'
'ต้องไม่ได้ทำอะไรผิด....พี่ผิดเอง'
'ไม่ ยังไงต้องก็ไม่เลิก...เรายังรักกันอยู่ไม่ใช่เหรอคะ'
'พี่ไม่ต้องการต้องแล้ว..เราจบกันแค่นี้เถอะ'ระหว่างที่เขาจะหันหลังเดินจากไป ฉันก็รีบคว้าแขนแกร่งแล้วเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
'ขอร้อง อย่าทิ้งต้องไป...'ฉันพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน
'...พี่ไม่พอใจอะไรต้อง พี่บอกมาได้เลยต้องจะปรับปรุงตัว อย่าทิ้งต้องไปเลยนะ ฮือออ'เจ้าของใบหน้าหล่อหลุบตาลงมองที่มือฉันที่จับท่อนแขนของเขาไว้แน่น ก่อนจะแกะมือฉันออก
'เราจบกันแค่นี้เถอะนะ'เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วค่อย ๆ เดินจากไป
'พี่ทอย กลับมา ฮือออ พี่ทอยอย่าไป ฮือออ'ฉันร้องเรียกเขาจนสุดเสียง แต่เขาก็ไม่หันกลับมามองฉันเลย
หลังจากนั้นฉันก็พยายามไปหาเขาเพื่อพูดคุยแล้วขอร้องให้กลับมา แต่เขาก็หนีหน้าฉันตลอด ฉันคอยไปดักเจอเขาร่วมสามเดือน เขาก็ยังใจแข็งไม่ยอมคืนดีกับฉัน แถมยังไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมา
'นี่น่ะเหรอคนที่เคยรักกัน'
'กลับไปซะ...ไม่งั้นพี่จะให้ รปภ ลากเธอออกไป'
'ทำไมพี่ใจร้ายกับต้องแบบนี้'
'กลับไป!'
ช่วงนั้นฉันไม่สนใจอะไรเลยแม้กระทั่งการเรียน ทั้งที่อีกแค่ปีเดียวก็จะเรียนจบแล้ว ทำให้ฉันพ่อโกรธมากที่รู้จากอาจารย์ว่าฉันไม่ยอมเข้าเรียนเลย เพราะปกติแล้วฉันไม่เคยขาดการเข้าเรียนแล้วยังเป็นนักศึกษาดีเด่น เรียนเก่งที่สุดในคณะ ที่เป็นแบบนั้นเพราะถูกกดดันจากพ่อ ที่ฉันขยันเรียนก็เพราะกำลังใจที่มาจากคนรัก ที่คอยให้คำปรึกษา และสนับสนุน จนทำให้ฉันมีความมุ่งมั่นที่จะเอาเกียรตินิยมไปให้พ่อ แต่ทว่าตอนนี้เขาทิ้งฉันไปแล้ว และฉันก็คอยแต่ไปดักเจอเขาที่บริษัทเพื่อขอคืนดีจนไม่ยอมเข้าเรียนเลย
'ถ้าแกยังไม่ไปเรียนฉันจะส่งแกไปอยู่กับอาเพียว!'เป็นคำขู่ของพ่อฉัน
'ต้องไม่ไป ต้องจะอยู่ที่นี่'
'ถ้าจะอยู่ที่นี่ แกก็ต้องไปเรียนแล้วเอาเกียรตินิยมมาให้ฉัน'พ่อของฉันคาดหวังกับการเรียนของลูกมากจนทำให้...
'อยากให้ต้องตายตามพี่ตั้งไปงั้นเหรอ'
'ต้องรัก!'
'ก็เพราะไอ้เกียรตินิยมบ้า ๆ นั้นไม่ใช่เหรอถึงทำให้พี่ตั้งต้อง...'เพียะ ! ฉันยังพูดไม่จบประโยคฝ่ามือหนาก็ฟาดเข้ามาที่ใบหน้าฉัน
'....'ฉันยกมือจับที่ใบหน้าแล้วจ้องมองผู้เป็นพ่ออย่างแค้นใจ
'ไปเก็บเสื้อผ้า....ฉันจะส่งแกไปอยู่กับอาเพียว'
สุดท้ายแล้วฉันก็ได้ถูกส่งมาให้อยู่กับอาเพียวซึ่งเป็นน้องของพ่อที่อังกฤษ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ฉันหลุดออกจากเรื่องอดีตในหัวแล้วรีบเก็บรูปภาพใส่ไปในลิ้นชักก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูห้อง
"เก็บของเสร็จหรือยัง"พอประตูเปิดก็ปรากฎร่างหญิงวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐาน
"เหลืออีกนิดนึงก็จะเสร็จแล้วค่ะ"มือบางยกขึ้นลูบที่หัวฉันอย่างอ่อนโยน
"ดีใจไหมที่จะได้เจอพ่อแล้ว"
"เหอะ! อาเพียวน่าจะรู้ว่าต้องดีใจหรือเปล่า"พอฉันเรียนจบ พ่อก็ออกคำสั่งให้ฉันกลับไทยทันที
"ยังไม่หายโกรธพ่ออีกเหรอ"
"...."ฉันก้มหน้างุดแล้วเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภาพที่พี่ชายฉันก็ผุดเข้ามาในหัว
"พ่อของต้องก็เสียใจไม่แพ้ต้องหรอก"ฉันเงยหน้าขึ้นมองอาสาวที่มีสีหน้าเศร้าลง
"เพราะพ่อ พี่ตั้งถึงต้องตาย"ฉันกัดฟังพูดด้วยความโกรธ
"เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ลืมมันไปเถอะนะ"
สนามบินสุวรรณภูมิ
ฉันเดินทางมาถึงประเทศไทยด้วยเพียงคนเดียว ซึ่งอาเพียวไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วย ที่เธอย้ายไปอยู่ที่นั้นก็เพราะมีหน้าที่ที่ต้องบริหารบริษัทสาขาที่อังกฤษ
"คุณหนูต้องครับ ทางนี้ครับ"เป็นเสียงของชายสูงวัย พอฉันหันไปก็พบกับลุงคนขับรถของที่บ้านจึงรีบลากกระเป๋าเดินไปหา
"สวัสดีค่ะ ลุงกร"
"คุณหนูดูเปลี่ยนไปมากเลยนะครับ"ชายสูงวัยพูดขึ้นแล้วเอื้อมมาดึงกระเป๋าลากฉัน ด้วยสีหน้าที่ดูกังวลเมื่อเห็นสีผมของฉัน
"สวยขึ้นใช่ไหมคะ"ฉันพูดพร้อมกับลูบผมสีบลอนทองโชว์
"ถ้าคุณท่านเห็นน่าจะไม่พอใจนะครับ"คุณท่านที่ลุงกรพูดถึงหมายถึงพ่อของฉัน และที่ลุงกรหนักใจไม่ใช่แค่สีผมรวมถึงการแต่งตัวของฉันที่ดูเซ็กซี่ต่างจากเมื่อก่อนมาก
"ช่างเขาสิ"ฉันสบถออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
"คุณหนู..."
"รีบไปกันเถอะค่ะ ต้องอยากกินอาหารไทยฝีมือป้าจันจะแย่อยู่แล้ว"สิ้นเสียง ฉันก็เดินนำหน้าลุงกรคนขับรถทันที ระหว่างที่เดินไปยังที่จอดรถของสนามบิน ฉันก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้เห็นชายหนุ่มรุ่นน้องที่คุ้นเคย ภาพแฟน(เก่า)ของฉันก็ผุดขึ้นในหัวทันที
'ต้อง นี่น้องชายพี่ เทมโป'แฟนเก่าฉันเคยแนะนำให้รู้จักชายหนุ่มหน้าใสเมื่อตอนที่คบกัน
"เทมโป"ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สายตาจ้องไปที่ชายหนุ่มคนนั้น จนกระทั่งเขาได้หันมาสบตากับฉันเข้า
"พี่ต้อง"ชายหนุ่มรุ่นน้องร้องเรียกพร้อมกับเดินมาที่ฉัน
"กลับมาแล้วเหรอ แล้วจะอยู่ที่นี่ถาวรเลยไหม"มาถึงก็ยิงคำถามใส่ฉันพร้อมกับใช้สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าแปลกใจ ใช่สิ เพราะฉันเปลี่ยนการแต่งตัว
"พี่ดูเปลี่ยนไปเยอะเลยแหะ แต่แบบนี้ก็สวยดี"ฉันยังไม่ทันได้ตอบคำถามแรก เทมโปก็พูดขึ้นมาอีก
"พี่..เอ่อ...."ฉันกำลังจะพลั้งปากถามถึงแฟนเก่าก็ต้องรีบกลืนคำนั้นลงคอ
"....สบายดีไหม"
"สบายดีครับ แล้วพี่จะมาอยู่ถาวรเลยไหม"
"อืม คงจะแบบนั้น"ฉันคงจะตัดสินใจอะไรเองไม่ได้หรอก เพราะมีพ่อเป็นคนบงการ
"คุณหนูครับ"ฉันหันไปที่ลุงกรแล้วผงกหัวรับ ก่อนจะหันมาที่เทมโป
"พี่ไปก่อนนะไว้เจอกัน"
"ครับ"สิ้นเสียง ฉันก็เดินมาขึ้นรถแล้วลุงกรก็ขับออกไป
Toy
ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง จู่ ๆ ประตูก็เปิดพรวดพราดเข้ามาพร้อมกับร่างชายหนุ่มหน้าใส
"ไอ้เทม หัดมีมารยาทบ้าง สอนกี่ครั้งแล้วเวลาจะเข้าห้องใครควรจะเคาะประตูก่อน"ทินภัทรรองประธานบ่นเทมโปคนเป็นน้องอย่างหัวเสียง แต่เทมโปก็ไม่ได้สำนึกเดินฉีกยิ้มมาที่โต๊ะทำงานพี่ชาย
"รู้ป่ะว่าผมไปเจอใครมา"คนเป็นน้องนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามอย่างวิสาสะพร้อมกับยกขาพาดขาอีกข้างท่าทางสบายใจ
"กูต้องรู้?"รองประธานเงยหน้าเลิกคิ้วพูดกับน้องชายต่างมารดาอย่างไม่ใส่ใจ
"เหอะ!..."เทมโปกลั้วหัวเราะแล้วเบือนหน้าหนีก่อนจะหันกลับมา
"....ผมไปเจอพี่ต้องรักมา"สิ้นเสียง ทินภัทรก็นิ่งแล้วเบือนหน้าไปลอบหายใจเบา ๆ
"เห็นว่าจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวร"
"แล้วมึงจะมาบอกกูทำไม"คนเป็นพี่สวนขึ้น
"เผื่อพี่อยากจะรู้ไง...ก็คนเคย ๆ"
"ออกไปได้ล่ะ กูจะทำงาน"
"หึ..ทีกับผมพูดจาไม่เคยเพราะทีกับพี่รณไม่เคยมีคำหยาบสักคำ"
"มึงกับรณไม่เหมือนกันนิ ไปได้แล้วกูจะทำงาน"คนเป็นพี่กวักมือไล่น้องแล้วก้มหน้าทำงานต่อ