บทที่ 3 หาเรื่องใส่ตัว
19:00
ขุนเขานั่งทำความสะอาดโต๊ะวางอุปกรณ์การสักอยู่ในห้องทำงานคนเดียว มีเพียงเสียงเพลงคลาสสิคเบา ๆ เท่านั้นที่ทำให้ความเงียบไม่ก่อตัวขึ้น
กริ่ง!
เสียงกระดิ่งตรงประตูทางเข้าร้านดังขึ้นทำใหเขาต้องปลีกตัวออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว "มีอะไรเหรอครับ" ขุนเขาถามอย่างสุภาพ
"มาเจอคนชื่อขุน"
"ครับ ผมเอง" เขาถอดถุงมือยางสีดำออกแล้วหันมาสบตากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่ทว่ากลับมีผู้ชายสองคนเปิดประตูเข้ามาก่อน บดินทร์กับปกป้องเอียงคอมองขุนเขาอย่างมึนงงที่เห็นเขากำหมัดแน่นก่อนที่ทั้งสองจะซอยเท้าถี่ ๆ มายืนข้างเพื่อน
"มีไรวะ" ปกป้องกระซิบถาม
"ไม่รู้ คุณเขาน่าจะมาผิดที่มั้ง"
"งั้นพรุ่งนี้มาหาใหม่!" ว่าจบชายคนดังกล่าวก็เดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียอย่างหนักที่ถูกขัดจังหวะ
"มันคงไม่ได้หลงมาหรอก คงตั้งใจมาหาเรื่องกู" ขุนเขานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้รับลูกค้าแล้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองซึ่งกำลังมองเขาอยู่ตอนนี้ "ก็นี่ไง กำลังจะพูดแล้วนี่ไง"
"ไปมีเรื่องกับใครมา" บดินทร์ถามหน้าเครียด ปกติขุนเขาไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเมาแล้วไปก่อเรื่องไว้
"ไปช่วยเด็กคนหนึ่งจากการถูกทำร้ายมา พวกนั้นไม่ชอบใจมั้งเลยส่งคนมาหาเรื่องกูที่นี่"
"เดี๋ยวนะ เด็ก? เด็กที่ไหนวะ ทำไมต้องช่วย ทำไมต้อง..กูงงไปหมดแล้ว" ปกป้องทำหน้ามึนงงพร้อมกับเกาหัวเบา ๆ บดินทร์ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วกอดอกฟังขุนเขาพูดต่อ
"แล้วเวลามึงเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายต่อหน้ามึงทนได้ป่ะถามจริง กูก็ช่วยตามที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้อะ" เขาอธิบายให้ปกป้องฟังจนเขายอมพยักหน้าตามอย่างเข้าใจ
"แล้วก็ถูกคุกคามแบบนี้น่ะเหรอ? คุ้มค่าไหม" บดินทร์ถามเสียงเรียบถ้าพวกนั้นบุกมาหาเรื่องขุนเขาถึงที่นี่ก็แสดงว่าพวกมันไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น "กูไม่ได้จะด่านะ แค่เป็นห่วงมึง แล้วถ้าพวกกูมาไม่ทันจะทำยังไง"
"ก็ต้องสู้" เขามีคำตอบสั้น ๆ แค่นี้ ไม่สู้ก็ถูกพวกมันกระทืบมีอยู่สองทางเลือกแค่นี้เองและแน่นอนขุนเขาไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียวแน่
"เออ ๆ ช่างเหอะกูว่ารีบเก็บของแล้วไปแดกเตี๋ยวดีกว่า" ว่าจบปกป้องก็เดินเข้าไปเก็บโต๊ะทำความสะอาดช่วยขุนเขาจนเสร็จ ส่วนบดินทร์รับหน้าที่ปิดร้านให้เขาเรียบร้อย
"ใครเลี้ยง"
"กู" บดินทร์ตอบแทบจะทันที
"โอเค"
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ คลับหรูที่ประจำ
เพียงเธอเดินโซเซเข้ามาในห้องแต่งตัวด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อยเท่าไหร่
"ไม่สบายเหรอ"
"เป็นหวัดนิดหน่อยค่ะ" เธอตอบรุ่นพี่ที่สนิทกันก่อนจะลงมือแต่งหน้าและทำผมด้วยตัวเองจนเสร็จก็ใช้เวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เพียงเธอหมุนตัวรอบหนึ่งเพื่อเช็กความพร้อมแล้วเดินไปสวมรองเท้าที่รุ่นพี่เลือกไว้ให้
หมับ!
"เดี๋ยวก่อน" รุ่นพี่จับแขนเธอไว้แน่น
"มีอะไรเหรอคะ"
"ไอ้เสี่ยแก่นั่นอาจจะมาระรานเพียงอีก พี่ว่าเรา.." รุ่นพี่ลำบากใจที่จะบอกให้เพียงเธอกลับบ้านไปพักผ่อนแต่ก็เข้าใจว่าต้องกินต้องใช้ ไม่ทำงานก็ไม่ได้เงิน "ระวังตัวด้วยนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติรีบมาหาพี่"
"ได้ค่ะ เพียงขอบคุณพี่มากนะคะที่เป็นห่วงมากขนาดนี้"
"จ้ะ" ทั้งสองสาวแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ตัวเอง และแน่นอนว่าเพียงเธอเดินขึ้นมาชั้นสองโซนวีไอพีอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความระแวงขณะเดียวกันก็มองหาคนคนหนึ่งด้วย เมื่อไม่เห็นเขาเธอจึงมุ่งเป้าไปแขกอีกโต๊ะหนึ่งแล้วเดินเข้าไปเอนเตอร์เทนพวกเขาด้วยการชงเหล้าให้ อย่างน้อย ๆ เธอก็ได้ทิปวันละสองสามพันดีกว่านอนซมเพราะพิษไข้ไม่ได้เงินแถมยังอดอีก
กึก!
เท้าเรียวเล็กบนรองเท้าส้นสูงหยุดชะงักที่จะเดินลงบันไดไปชั้นล่าง เธอก้าวถอยหลังเรื่อย ๆ เพราะคนที่กำลังเดินขึ้นมาชั้นสองคือไอ้เสี่ยอ้วนพุงพลุ้ยคนนั้น มันจะซวยอะไรขนาดนี้เนี่ย เพียงเธอคิดในใจพลางมองหาทางหนี ก่อนจะวิ่งไปลงบันไดอีกฝั่งแต่บอดีการ์ดของเสี่ยก็วิ่งตามมาจนกระทั่งเธอชนกับใครบางคนแล้วล้มลง
"อีกแล้วเหรอ" ขุนเขาที่เพิ่งมาถึงคลับเอ่ยถามเด็กสาวที่ล้มพับลงกับพื้นก่อนจะตวัดสายตาดุดันมองคนที่กำลังวิ่งตามหลังเธอมา มือหนาคว้าได้เรียวแขนเล็กแล้วกระชากตัวเธอลุกขึ้นพาหนีออกมาทางด้านหลังคลับ
"คะ..คุณช่วยเพียงอีกแล้ว" เพียงเธอซึ้งจนไม่รู้ว่าคำขอบคุณจะเพียงพอสำหรับการที่เขายื่นมือมาช่วยเธอไหม
"ก่อนจะซึ้งช่วยดูสถานการณ์ด้วย รีบขึ้นรถดิ!" เพียงเธอหันขวับไปมองด้านหลังแล้วรีบกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันเดินที่เคยนั่งแล้ว ขุนเขารีบสตาร์ทรถแล้วขับออกมาจากคลับด้วยความเร็วมุ่งตรงไปที่ห้องเช่าเธอ
เสียงเบรกรถดังเอี๊ยดที่ตรงหน้าซอยห้องเช่าเพียงเธอ ขุนเขาขมวดคิ้วยุ่งเพราะตอนนี้หน้าห้องเธอมีพวกไอ้เสี่ยนั่นยืนสังเกตการณ์อยู่น่ะสิ "เอาไงดีวะ" เขาพึมพำกับตัวเองแล้วขับรถพาเธอไปที่ที่หนึ่ง
"เพียงขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะคะ" ทั้งรู้สึกผิดและอยากขอบคุณเขาในคราวเดียวกัน
"บางทีฉันเองที่เสือกไปยุ่งเรื่องของเธอ" ขุนเขาพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ จนเพียงเธอหน้าเสีย เขาจะพูดจาร้ายกาจแบบนั้นก็ไม่ใช่ความผิดเขาเลย เธอเองต่างหากที่พาเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ไปเจอเขาเอง "เธอมีญาติไหม" ขุนเขาหันมาถาม
"ไม่มีค่ะ.."
"แล้ว..ไม่มีคนรู้จักเหรอ"
"คนรู้จักมีค่ะ แต่…เพียงไม่อยากรบกวนเขาเพราะเขาไม่ค่อยชอบเพียงเท่าไหร่ เอาแบบนี้ไหมคะ ให้เพียงกลับไปที่ห้องแล้วเคลียร์กับเสี่ยนั่นให้จบ"
"ฮึฮึ.." กลับกลายเป็นว่าขุนเขาหัวเราะเสียงแข็ง ๆ ออกมา "เก็บความคิดนั้นไว้เถอะ แค่นี้ยังดูไม่ออกเหรอว่ามันกะเล่นเอาถึงตายอะกลับไปก็เท่ากับตาย" เพียงเธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอเองก็คิดไม่ตกหมือนกันว่าจะเอายังไงต่อ จู่ ๆ ก็ได้ยินขุนเขาสบถคำหยาบเบา ๆ
'แม่งเอ๊ย..'
เพียงเธอเม้มริมฝีปากแน่น
"อ๊ะ!" เธอถูกเขากระชากแขนเบา ๆ ให้กลับไปที่รถก่อนที่เขาจะพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง พอมาถึงขุนเขาก็เดินนำเธอไปเข้าลิฟต์ เพียงเธอรู้แค่ว่าที่นี่คือคอนโดราคาหลายล้านบาทและเขาพาเธอมาทำไม(?) ไม่กี่อึดใจลิฟต์ก็เปิดที่ชั้นยี่สิบ ขุนเขาเอี้ยวหน้ามามองคนที่ยืนอยู่ตรงมุมในห้องโดยสารเพียงนิดแล้วก้าวเดินออกมาทำให้เพียงเธอรีบเดินตามเขา
"นี่ห้องฉันเอง ถ้าไม่รังเกียจก็อยู่ที่นี่ก่อน หาห้องใหม่ได้ค่อยย้ายออกไป"
"ให้เพียงอยู่ที่นี่เหรอคะ"
"อืม" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"เพียงไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไง…" เพียงเธอบีบมือตัวเองไว้แน่นแล้วค่อย ๆ ปลดสายชุดเดรสออกทีละข้างในขณะที่ขุนเขายืนหันหลังเธออยู่ เขาหันมาแล้วหันกลับก่อนจะสะบัดหน้ากลับมาอีกครั้ง
"ทำบ้าอะไร" เขารีบก้าวออกมาจากตรงนั้นก่อนจะสั่งให้เพียงเธอใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย "ใส่เสื้อผ้าดิวะ"
"เพียงไม่มีอะไรตอบแทนพี่เลยนะคะ มีแค่..ร่างกาย"
"ฉันบอกให้ใส่เสื้อผ้าไง ถ้าไม่งั้นฉันจับเธอโยนออกไปจากห้องแน่!"
"ค่ะ.." เด็กสาวรีบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เธอคิดผิดที่ว่าเขาต้องการเรื่องแบบนั้น
"เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า" ขุนเขาปรับอารมณ์แล้วหันมามองเด็กสาวแบบหรี่ตามองเพราะกลัวเธอจะยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แต่พอเห็นว่าสวมใส่เสื้อผ้าแล้วจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ จนเพียงเธอได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา
"ค่ะ…"
ตอนพิเศษ 5เช้าวันต่อมาเพียงเธอนอนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ใต้ผ้าห่มขณะที่ขุนเขานอนกอดเธอแนบแน่นแถมยังเอาหน้ามาซบหน้าอกเธออีก เมื่อคืนเขาทั้งดุและกินจุจนเธอเพลียหลับไปตอนไหนไม่รู้ นี่ก็สายมากแล้วด้วย แม่บ้านคงกำลังถามหากันวุ่นว่าทำไมเราสองคนไม่ลงไปกินข้าวเช้าสักที"อื้อ~ ทำไมตื่นเร็วจัง เมื่อคืนไม่เหนื่อยเหรอ" ขุนเขางัวเงียถามแฟนสาวที่นอนนิ่งอยู่ เขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอขยับตัวครั้งแรกแต่รู้สึกล้าเลยไม่ตื่นขึ้นมา เพียงเธอยิ้มบาง ๆ แล้วเท้าแขนไปด้านหลังดันตัวลุกขึ้นมานั่งทำเขาต้องลุกขึ้นตามเธอด้วย"วันนี้เราไปหาแม่อรอีกไหมคะ เมื่อคืนนี้แม่อรทักมาหาบอกคิดถึงเราสองคน" เธอชวนคนรักที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ ขุนเขาไม่ได้ขัดใจเธอและพยักหน้าหงึก ๆ เป็นคำตอบ เพียงเธอยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมตัวไว้"ขอเฮียนอนอีกแป๊บนะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย""แล้วเมื่อคืนสนุกไหมคะ" เธอหย่อนตัวนั่งลงขอบเตียงพลางเสยผมออกจากหน้าให้แฟนหนุ่มด้วย ขุนเขาหยักหน้าหงึก ๆ"สนุกมากเลย เมื่อคืนไอ่ปินมันพาพี่ชายไปเที่ยวด้วย"“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าพี่ปินมีพี่ชายด้วย" เพียงเธอยิ้มบาง ๆ"อืม พี่ปลาพี่ชา
ตอนพิเศษ 4ขุนเขาที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวติดกระดุมไม่เรียบร้อยก้าวขาลงจากรถพร้อมบดินทร์และปรินที่ขับรถตามหลังเขามาติด ๆ แต่วันนี้มีแขกคนพิเศษเพราะพี่มันขอมาเที่ยวด้วย"เด็ก ๆ" พี่ปลาพี่ชายไอ้ปินเดินเข้ามากอดทักทายขุนเขากับบดินทร์ด้วยความคิดถึง "ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ หล่อขึ้นเป็นกองเลย""ครับ" ขุนเขาไล่สายตามองพี่ปลาอย่างยิ้ม ๆ วันนี้เหมือนจะมีนกแก้วบินว่อนอยู่ในผับหนึ่งตัวนะ พอนึกอย่างนั้นได้เขาจึงรีบเดินเข้ามาในผับก่อนเพราะกลัวจะหลุดขำกับสีหน้าเบื่อหน่ายของปรินที่ต้องดูแลพี่ชายมัน"ตามมาทำเชี่ยไรก็ไม่รู้ รำคาญ"ป๊าบ!ฝ่ามืออรหันต์ประทับที่หัวเขาทันทีที่พูดจบ ปรินสะบัดหน้าไปมองพี่ชายอย่างเอาเรื่องสุด ๆ"ไอ้เชี่ยปลา!""ไม่รู้แหละ กูเป็นพี่มึง ยังไงมึงต้องดูแลกู" ว่าจบปลาก็เดินเข้าไปในผับหน้าตาเฉย ปรินกรอกตาไปมาแล้วหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดที่ตามมาดูแลพี่ชายเสียงเพลงดังกระหึ่มตั้งแต่เดินเข้ามาทำให้ไอ้พี่ปลาเต้นจนถึงโต๊ะที่จองกันเอาไว้ ปรินส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเข้าปากอึกใหญ่"ถามจริง มึงสองคนพี่น้องกันจริงไหมวะ" ขุนเขากระซิบถามข้างหูเพื่อนรัก เพราะหน้าตาไม
ตอนพิเศษ 3หลายวันต่อมา"ทำหน้าเหมือนโดนตีนมาเลยนะ" ขุนเขาเอ่ยถามปรินที่เดินกระแทกเท้าตึงตังเอาแต่ใจมาหาเขากับบดินทร์ที่นั่งดื่มชากันอยู่"เบื่อว่ะ อยากไปดื่มฉิบหาย ผับไหนก็ได้ที่มีเด็กแจ่ม ๆ อะรู้จักกันบ้างไหม" บดินทร์ถึงกับส่ายหน้าไปมาแล้ววางแก้วชาลง"มีน่ะมันมี แต่มึงจะไปเที่ยวหลีหญิงทุกวันไม่ได้ไหมวะ ไหนจะเลิกทำตัวเชี่ยเพื่ออาจารย์อิงฟ้าไง" บดินทร์เลิกคิ้วถามอย่างจริงจังแต่ปรินกลับเบ้ปากอย่างเบื่อหน่าย"กูเบื่ออะสิ ไม่เร้าใจเลย""เหรอ…" ขุนเขาพเยิดหน้าให้อย่างประชดแล้วรินน้ำชาให้เพื่อนหนึ่งแก้ว "ทำไมไม่ชวนเฮียปลามาด้วย" จู่ ๆ ขุนเขาก็ถามถึงพี่ชายปรินที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ ปรินหันขวับไปมองเพื่อนตาเขียว"ถามหามันทำไม""ก็กูเห็นว่าเป็นพี่ชายมึงหนิ ถามหาไม่ได้เลย" ปรินแยกเขี้ยวใส่ขุนเขาแล้วเอ่ยตอบเสียงเกรี้ยว"ไอ้เพี้ยนนั่นมันจะออกไปไหนได้ วัน ๆ อยู่แต่บ้านทำอะไรของมันไม่รู้ วันไหนออกจากบ้านนะพาคนของป๊าไปเป็นโขย่งหนึ่ง แถมยังแต่งตัวเหมือนคนบ้าอะ กูไม่อยากรับมันเป็นพี่ชาย""ก็พี่มึงมันเฟียสหนิ กูออกจะชอบ" ขุนเขายังล้อเลียนเพื่อนไม่หยุดก่อนจะหันไปมองคนรักที่ถือจานขนมเดินเข้ามาใ
ตอนพิเศษ 2เพียงเธอชะงักค้างในตอนตักข้าวใส่ปาก เธอเหลือบตามองขุนเขาที่เอาแต่ยิ้มร่าชอบใจกับคำถามแม่อร"คือเพียงยังไม่พร้อมค่ะ แม่อรกับพ่อพลคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" เพียงเธอย่นหัวคิ้วเข้าหาขอความเห็นใจจากทั้งสองท่าน ขุนเขาเลิ่กลั่กเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นพ่อกับแม่กำลังตกเป็นทาสลูกอ้อนของเมียเขา"แม่!" เขาเรียกแม่เสียงดังแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อแม่กับพ่อหันมามอง อรพิณเลิกคิ้วถามลูกชายส่วนอำพลหนี่ตามองอย่างเป็นคำถามเหมือนกัน "กินข้าวเถอะครับ เรื่องลูก..เดี๋ยวเอาไว้ค่อยคุยกัน""ก็ได้ ๆ อย่าช้านักนะแม่อยากอุ้มหลานแล้ว""ได้ครับ.." ขุนเขายิ้มกว้างเพราะพอใจกับสิ่งที่แม่ขอในขณะที่เพียงเธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนปากอมน้ำไว้ก็ไม่ปาน พยายามหาเรื่องมาแย้งในสิ่งที่ขุนเขาบอกกับพ่อแม่แต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้เธอแย้งขึ้นเลย เพียงเธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วกินข้าวต่อจนอิ่มกันทุกคน เธอกับขุนเขาถูกอรพิณพาไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานแม่บ้านก็ยกจานผลไม้สดมาเสิร์ฟ"กินสิลูก นี่ชมพู่จากสวนแม่เองเลยนะรู้ไหม" เพียงเธอตาโตแล้วหยิบชมพู่ชิ้นพอดีคำมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อรพิณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกสะใภ้กินชมพู่อย่างเอร็ดอร่อย"
ตอนพิเศษ 1หลายวันต่อมาขุนเขาเดินรอบร้านสักลายเพราะกำลังเก็บของที่เหลือเอาไปไว้บ้าน เขาตัดสินขายร้านแห่งนี้ให้รุ่นพี่ที่เป็นช่างด้วยกันมานานและยังเป็นครูและลูกค้าคนแรกของเขาด้วย"เฮ้ กูอยากสักลายว่ะ" รุ่นพี่ที่เขาเคารพเดินเข้ามาตบบ่าแกร่งเบา ๆ ขุนเขาที่กำลังเก็บของลงกล่องอยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขามองมือตัวเองแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองรุ่นพี่"ล้อเล่นน่าเฮีย ผมทำไม่ได้หรอก""กูไม่ได้ล้อเล่น กูจริงจัง""เฮ้ย..ไม่ได้" เขาพูดกลั้วหัวเราะแล้วเก็บของลงกล่องต่อแต่รุ่นพี่กลับเดินไปเอากล่องที่เป็นเครื่องสักลายที่เขาติดตัวมาด้วยเอามาให้ขุนเขา "เฮ้ยพี่ มันจะติดตัวพี่ไปตลอดนะเว้ย ผมทำไม่ได้หรอกมือมันสั่น ไม่สวยหรอก""กูไม่ได้อยากได้ลายที่สวย แต่กูอยากได้ลายที่มึงสักให้กู เหมือนลายแรกที่กูให้มึงสักลงที่แขนกูไง" ขุนเขามองกล่องอุปกรณ์สักอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าปฏิเสธรุ่นพี่ แต่ทว่ารุ่นพี่เขากลับพยักหน้าให้ สายตาเขาบ่งบอกถึงความเชื่อใจในตัวขุนเขา"เอาจริงเหรอ คือผมไม่..""จริงดิวะ เอาหน่อยไหน ๆ ก็จะไม่สักแล้ว" รุ่นพี่เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่เพิ่งเอามาลงใหม่ เตรียมตัวให้ขุนเขาสักเรียบร้อย"พี่..""มาสิ เอ
บทที่ 77 ตอนจบหลายเดือนต่อมาขุนเขานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่ในสวนหลังบ้านหลังจากส่งงานให้รุ่นน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะทำงานที่ตนเองชอบหรือการดีดกีตาร์แบบนี้"ร้องเพลงเสียงดังเชียว" เพียงเธอเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอเอ่ยแซวคนรักพลางหยิบคุกกี้ไปป้อนใส่ปากขุนเขาด้วย"อร่อยเหมือนเดิม" ขุนเขายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วอ้าปากกินคุกกี้อีก"อร่อยใช่ไหมล่ะ เพียงเป็นคนทำเองกับมือเลย""อะไรที่เมียทำก็อร่อยหมดนั่นแหละครับ" เขายิ้มแล้วดีดทำนองเพลงรักให้เพียงเธอฟัง เธอยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างเขินอายก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง"เขินอะไรก่อน ไม่ชินอีกเหรอ""ก็พี่ขุนทำให้ชินตั้งแต่เมื่อไหร่เล่า ทำให้เพียงรู้สึกหวั่นไหวเหมือนตอนที่เราเจอกันใหม่ ๆ ทุกทีเลย" ขุนเขาหลุดยิ้มแล้วดีดกีตาร์ต่อ ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาละสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะแล้วกดรับสาย(เฮ้…ออกมาดื่มไหมครับ เย็นนี้มีปาร์ตี้ปิ้งย่างที่บ้านท่านป้อง) ปรินทักทายพร้อมเอ่ยชวนเพื่อนรัก ขุนเขาเงยหน้ามองเพียงเธอเป็