สามเดือนก่อนหน้านี้
นัยน์ตาคู่หวานเงยจากเอกสารหลายชิ้นที่กองอยู่บนโต๊ะขึ้นมามองใครคนนึงที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยไม่คิดจะแจ้งล่วงหน้าก่อนจะวางมือจากงานที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำและเบือนหน้าหนีราวกับไม่อยากจะพูดจาใด ๆ กับอีกฝ่ายแม้แต่น้อยแต่ก็จำต้องพูด
“ดิฉันว่าดิฉันพูดชัดเจนแล้วนะคะคุณภานุกานต์ ว่าเราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก” สาวเจ้าของห้องอย่างศศิรินทร์ สิริธาราหรือซอโซ่ผู้บริหารสาวสวยวัยสามสิบสองปีของบริษัท ชายน์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ บริษัทผลิตละครโทรทัศน์และสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่ที่ใช้เวลาไม่กี่ปีก็ก้าวขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ของวงการบันเทิงเปิดฉากก่อนโดยไม่แม้แต่จะเชิญคนเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้นั่ง แววตาว่างเปล่าหันกลับมาจ้องมองคู่สนทนาอย่างพิจารณา
คนตรงหน้าคือภานุกานต์ พงศ์พิริยกรอดีตแฟนหนุ่มที่เธอเพิ่งตัดความสัมพันธ์ไปเมื่อคืนวานนี้ด้วยข้อหาร้ายแรงชนิดที่เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น
เขานอกใจเธอ...
ยิ่งไปกว่านั้นคู่ขาที่ร่วมสวมเขาให้เธอยังเป็นเพื่อนคนสนิทที่เธอผลักดันจนได้เป็นนักแสดงสาวคนดัง ที่เธอทั้งรักและไว้ใจราวกับเป็นญาติพี่น้อง...ความจริงที่ได้รู้ก็คือ คนพวกนี้สวมเขาให้เธอทั้งที่เธอให้ความไว้ใจมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
ความจริงถ้าตัดเรื่องนอกใจออกไปภานุกานต์คนนี้ก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนนึง รูปร่างหน้าตาดี โปรไฟล์หรู เป็นหนุ่มจบนอก พ่อยังเป็นผู้บริหารช่องโทรทัศน์ที่ทางบริษัทของเธอทำสัญญาผลิตละครและรายการโทรทัศน์ด้วยมานานหลายปี และปัจจุบันตัวเขาเองก็เป็นรองประธานกรรมการของช่อง
นับได้ว่าเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คนเลยล่ะ
แต่โปรไฟล์ดี ๆ เหล่านั้นเธอได้โยนมันทิ้งไปแล้วและไม่คิดจะหยิบขึ้นมาพิจารณาอีก
ถ้าเขานอกใจเธอไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นแล้วมาขอโทษ ขอโอกาสอะไรทำนองนั้นเธอก็คงยอมใจอ่อน แต่สถานการณ์ของเราในตอนนี้มันมีแต่ต้องปิดฉากลงเท่านั้น
ใครใช้ให้ผู้หญิงที่เขานอนด้วยเป็นเพื่อนของเธอล่ะ ทั้งฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย ตอนที่กำลังเริงรักเคยคิดถึงใจของคนที่พวกเขาแทงข้างหลังบ้างมั้ย
ถ้าเธอคนนั้นเป็นเพื่อนที่ดี หรือเขาคนนี้รักเธอมากพอ เรื่องพรรค์นั้นคงไม่เกิดขึ้น
แต่มันก็เกิดขึ้น...แล้วเธอจะลืมเรื่องนั้นและให้อภัยน่ะเหรอ
ฝันไปเถอะ
“ผมขอโทษ ผมรู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันผิด แต่ผมอยากให้รู้ ตอนแรกมันเป็นแค่การพลั้งพลาด ผมไม่เคยคิดนอกใจคุณเลย” ชายหนุ่มเอ่ยเพียงแค่นั้นก็เงียบไป เขาไม่ใช่คนชอบแก้ตัว และรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรจะต้องแก้ตัว เพราะเขาทำผิดไปจริง ๆ แต่ก็ยังอยากจะให้รู้ว่าในตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจริงให้มันเป็นแบบนี้จริง ๆ
“คืนนั้นผมเมามาก รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงกับคณิตาแล้วจากนั้นมามันก็เลย...กลายเป็นเลยตามเลยโดยไม่คิดถึงจิตใจคุณ ผมขอโทษจริง ๆ ผมผิดไปแล้ว”
ภานุกานต์เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ตรงจนบางครั้งศศิรินทร์ก็นึกชังการพูดตรง ๆ นั้น และตอนนี้เธอก็นึกชังขึ้นมาเช่นกัน ทำไมถึงได้เป็นคนกล้าพูดว่าปล่อยเลยตามเลยได้หน้าตาเฉยกันนะ
เลยตามเลยกับผู้หญิงที่ทรยศมิตรภาพเนี่ยนะ
“ตอนที่คุณนอนกับยัยนั่น คุณสะกิดใจบ้างมั้ย ว่ายัยนั่นมันไม่ได้จริงใจกับฉัน เคยคิดเป็นห่วงบ้างมั้ยว่ายัยนั่นมีเจตนาจะทำให้ฉันเสียใจ หรือว่ารสรักของเจ้าหล่อนมันถึงใจจนคุณคิดอะไรไม่ออก”
หญิงสาวแผดเสียงถาม พยายามจะไม่แสดงออกถึงความโกรธที่มันจุกอกทั้งที่อยากจะอาละวาดให้มันเละกันไปข้าง ภาพที่เปิดประตูห้องเข้าไปเห็นแฟนหนุ่มกำลังเริงรักอยู่กับคณิตาหรือคุกกี้ดาราสาวที่เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจอย่างถึงพริกถึงขิงยังคงติดตาและผุดขึ้นมาในหัวเป็นฉาก ๆ
เขาทำขนาดนี้ยังมีหน้ามาขอโทษอีกเหรอ?
ภานุกานต์นิ่งเงียบไม่ตอบกลับ จะเรียกว่าพูดไม่ออกก็ได้ ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีอย่างคนไม่กล้าสู้หน้า จริง ๆ แล้วเขาก็พอจะรับรู้ถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์ของคณิตาแต่มีผู้หญิงมาเสนอตัวให้ขนาดนั้น ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะเป็นพระอิฐพระปูน
ยิ่งศศิรินทร์ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบออดอ้อนทั้งยังงานยุ่งไม่ต่างกัน เวลาที่เขาเครียดก็ต้องระบายความอัดอั้นกับคนที่พร้อมจะคลายเครียดให้สิ เวลาที่เครียดมาก ๆ เขาจะไปสนใจห่าเหวอะไรล่ะ
“ผมขอโทษ” เงียบไปนานในที่สุดภานุกานต์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือความละอายใจ เขายอมรับว่านาทีนั้นเขาไม่คิดสนใจห่าเหวอะไรแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ว่าเขาผิด...
“ให้อะ...”
“พอเถอะ เลิกคุยเรื่องพวกนี้กันเถอะ คุณไม่ต้องมาหา ไม่ต้องมาขอโทษอะไรทั้งนั้น มันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันพูดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานว่าเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก วันนี้และตลอดไปฉันก็ยังยืนยันคำเดิม” ศศิรินทร์ชิงตัดบทเมื่อรู้ว่าหลังจากขอโทษแล้วอีกฝ่ายจะมีท่าทีเช่นไร
ต่อให้เขาขอโทษด้วยความรู้สึกผิดสักร้อยครั้งพันครั้งทุกอย่างมันก็ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม
ไม่มีทาง...
งานเลี้ยงรุ่นจัดขึ้นที่ร้านอาหารของหนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นในอีกสามวันต่อมา ไม่มีอะไรที่ทำให้ศศิรินทร์หนักใจได้เท่ากับธีมของงานปีที่ค่อนข้างจะแตกต่างออกไปจากทุกปีธีมชุดนักเรียนเนี่ยนะ?“ซอโซ่ แต่งตัวเสร็จหรือยัง เราเข้าไปนะ” เสียงของรังสิมันตุ์ที่อยู่ด้านนอกเรียกให้คนกำลังแต่งตัวได้สติอีกครั้ง หญิงสาวรีบร้องห้ามทันทีแต่ก็ไม่ทันจึงทำได้เพียงยกมือปิดหน้าด้วยความอับอาย“หยุดนะ อย่า...”“น่ารักออก”“แต่มัน...” ไม่มั่นใจเลยสักนิด เธออายุเลขสามแล้วนะ มาใส่ชุดเหมือนเด็กสิบเจ็ดสิบแปดแบบนี้นี่มัน...เขินชะมัดเลย“ไม่ต้องเขินหรอก เราก็ใส่ เห็นมั้ย”“เธอใส่แล้วดูดี แต่เราใส่แล้วมัน...”“สวย...สวยจนทำให้นึกถึงครั
เพราะทุกอย่างราบรื่นเกินไปศศิรินทร์จึงรู้สึกแปลก ๆ ทว่ามันก็เป็นเรื่องที่แปลกจริง ๆ จะไม่มีเรื่องมันเป็นไปไม่ได้หรอกและศศิรินทร์ก็รู้ทันทีว่าไม่ง่ายก็ตอนที่พลอยขวัญเดินเข้ามาหาในตอนที่เธออยู่เพียงลำพัง เด็กสาวยังคงมีท่าทีเชิด ๆ อยากกับนางร้ายในละครก่อนจะเอ่ยออกมา “คิดว่าทุกอย่างราบรื่นแล้วเหรอ”“คิดผิดแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วน่ะพี่ไม่ได้หัวใจพี่ซันหรอก”“หมายความว่ายังไง”“จะบอกให้เอาบุญก็แล้วกัน พี่ซันน่ะมีคนที่รักปักใจมาตั้งแต่มัธยมแล้ว พี่อะแค่ตัวแทนเท่านั้นล่ะ” พลอยขวัญพูดแล้วก็ยกยิ้มอย่างเป็นต่อ “ไม่เชื่อก็ลองเปิดดูในลิ้นชักโต๊ะพี่ซันซิ ในนั้นน่ะมีความในใจพี่ซันส่งถึงรักปักใจของเขาอยู่ เข้าใจไว้ซะว่าพี่ก็แค่ตัวแทน ไม่ใช่คนในใจ”พูดแค่นั้นพลอยขวัญก็จากไป ศศิรินทร์พยายามไม่คิดอะไรแต่สุดท้ายก็เก็บเ
บ้านของรังสิมันตุ์อยู่กับอย่างเรียบง่าย พ่อของเขายังไม่เกษียณจึงยังไปทำงานพร้อมกับน้องสาวฝาแฝดของเขาอยู่ ส่วนแม่นอกจากจะไปงานต่าง ๆ ตามที่ถูกเชิญแล้วก็ยังเป็นชาวนาสวนผสม ก่อนจะไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารแม่แสงดาวก็พาเธอแวะไปดูข้าวในนาของท่านที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งท้อง“แต่กี้แม่โตกับแม่แล่นเล่นกันอยู่แถวนี่ล่ะ ยามหน้านากะดำนานำกัน ยามเกี่ยวข้าวกะเกี่ยวซ้อยกัน(เมื่อก่อนแม่เรากับแม่วิ่งเล่นกันอยู่แถวนี้แหละ ถึงฤดูทำนาก็ดำนาด้วยกัน ถึงเวลาเกี่ยวก็เกี่ยวช่วยกัน)” การพูดคุยกับแม่ของคนรักหญิงสาวคิดว่าคงจะไม่พ้นเรื่องวัยเด็กของเขา ทว่าเรื่องเล่าครั้งแรกของคุณนายแสงดาวไม่ใช่เรื่องของรังสิมันตุ์เหมือนที่ศศิรินทร์คิดแต่เป็นเรื่องของแม่ ๆ ที่ท่านดูจะคิดถึงเป็นอย่างมาก“ตอนน้อย ๆ แม่โตติดแม่คัก ไปไสกะไปนำกัน บางมื้อกะพากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถืกไล่ตีนำกัน(ตอนเล็ก ๆ แม่เราติดแม่มาก ไปไหนก็ไปด้วยกัน บางวันก็พากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถูกไล
“ฉันว่าแล้วว่าสุดท้ายแกก็ต้องใจอ่อน” เสียงเจือยแจ้วของภาสกรที่ดังอยู่ไม่ได้มีท่าทีอ่อนอกอ่อนใจ หรือขัดใจกับการตัดสินใจของคนเป็นเพื่อน กลับกันภาสกรกลับยิ้มภูมิใจกับความเป็นศศิรินทร์ที่ใจดีกับคนที่ควรใจดี ถ้าศศิรินทร์ให้อภัยและช่วยเหลือคนอย่างคณิตา อันนั้นเขาคงเคือง แต่กับสุนิสา หลังจากได้ฟังถึงเหตุและผลที่ทำให้เธอคนนั้นทำเรื่องต่าง ๆ ไปแล้วก็เห็นใจอยู่เหมือนกัน คนที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจก็ควรได้โอกาส ถูกมั้ยล่ะแต่คนที่หลอกใช้และยุยงนั่นสิที่ไม่สมควรให้อภัย“แต่กับนังตัวยุแยง แกห้ามใจอ่อนเชียวนะโซ่ ฟ้องมันให้หนักเลย” ไม่วายโยงไปถึงคณิตาที่มีส่วนยุแยงสุนิสา กับสุนิสาเพื่อนจะให้อภัยเขาไม่ว่า แต่กับนทีที่คิดจะเลื่อนขาเก้าอี้รวมไปถึงคนอย่างคณิตา...ปล่อยไว้ไม่ได้“คราวนี้ฉันไม่อยู่เฉย ๆ แน่นอน ฉันจะฟ้องนทีให้ถึงที่สุด ส่วนคณิตา...ในเมื่อสาวเจ้ายุแยง เป่าหูคนอยู่ลับหลัง ฉันก็จะค่อย ๆ ตัดท่อน้
ตาคู่คมจดจ้องมองเรือนกายเล็กที่หลับไหลไร้สติมีสายระระโยงระยางรอบกายอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดพลางกุมมือเล็กเอาไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ“ตื่นขึ้นมาได้มั้ยโซ่ เราคิดถึงเธอเหลือเกิน”“อึก” เสียงสะอื้นจากกฤติกาและพิชญาดาไม่ได้เข้าหูของรังสิมันตุ์แม้แต่น้อย เขาแนบหน้าลงกับนิ้วเรียวสวยที่ไร้ความเคลื่อนไหวปากก็พึมพำเรียกชื่อหญิงสาวไม่ยอมหยุดจนคนที่ลอบสังเกตการอยู่อดสงสารไม่ได้ ก็น่าสงสารอยู่หรอกนะที่หญิงคนรักมีสภาพเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ แต่ก็สมควรแล้ว...ตาย ๆไปซะเลยก็ดีท่ามกลางความโศกเศร้ากระแสข่าวใหญ่ บิ๊กบอสแห่งเดอะชายน์ เอนเตอเทนเมนต์ประสบอุบัติเหตุใหญ่จนอยู่ในอาการโคม่าก็แพร่ว่อนโลกโซเชียล ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งทางดีและไม่ดี มีทั้งข่าวว่าอาการไม่ได้หนักอย่างที่เป็นข่าวและข่าวว่าบิ๊กบอสของชายน์ได้จากไปแล้วข่าวที่ออกมาทำให้ทั้งบริษัทปั่นป
ความสัมพันธ์ที่เหมือนจะเร็วเกินไปเหมือนจะค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นหลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจริงจัง พอนึกย้อนกลับและถามตัวเองว่าคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกรังสิมันตุ์มาเป็นคู่ชีวิตที่จะจับมือกันไปตลอด ในตอนนี้ไม่มีความลังเลอีกแล้วและคำตอบของเธอก็คือ...เธอคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเขาเผลอแป๊บเดียวก็เดินด้วยกันมาได้กว่าสองเดือนแล้ว แต่การเดินทางด้วยกันตลอดระยะเวลาสองเดือนกลับไม่เคยมีการทะเลาะหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันร้ายแรงเกิดขึ้น รังสิมันตุ์ในเวลาทำงานเขานิ่งสุขุม และค่อนข้างจะดุสมกับที่เป็นพี่รองของทีมซึ่งมีภาวะผู้นำรองลงมาจากคนเป็นพี่ใหญ่ ส่วนเวลาอยู่ด้วยกันเขากลับทำตัวเป็นเหมือนเด็กชายที่อยู่ในโอวาทบ้าง เกเรบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจจริงจังเวลามีเรื่องอะไรเขามักจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจและออกความเห็นบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจหรือมีท่าทีต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ออกจะยอมให้เธอหลายส่วนทำเอาเพื่อนร่วมงานเขาแทบจะหาว่าพี่รองกลัวเมียไ