ผับ SKY
กองทัพ หิรัญพิชัยรณรงค์ วัย 22 ปี เขากำลังเรียนชั้นปีที่ 4 สาขาวิศวะเครื่องกล ดวงตาที่คมดั่งพญาเหยี่ยวจมูกรับเข้ากับใบหน้า ส่วนสูงที่สูง 188 เซนติเมตรทำให้เขาดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
ทั้งมหาวิทยาลัยตั้งฉายาให้พวกเขาว่าแก๊งเพลย์บอย บ้านรวยไม่พอหน้าตาดีกันทั้งบ้าน
กองทัพเดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีนิ่งเฉยๆ วันนี้เพื่อนทั้งสองห้องมาฉลองงานวันคล้ายวันเกิดน้องหมาสุดที่รักของเขา คนหล่อบ้านรวยธรรมดาของชีวิต
“ไหนอ่ะลูกมึงอยู่ไหน” ไต้ฝุ่นหยักคิ้วที่เขาบังคับมันมาผับเพราะวันนี้มีของขวัญสวยๆ งามๆ จะให้กองทัพ ทีแรกมันจะไม่ยอมมาเพราะจะจัดงานวันเกิดให้น้องหมาที่บ้าน
“ถ้ากูพาลูกกูมาด้วยมีหวังผับแตก”
จัสมินคือชื่อน้องหมาสุดที่รักของเขาที่เลี้ยงกันมาตั้งแต่แบเบาะ วันหยุดเขาต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์แม่กลัวว่าเขาจะมัวแต่เที่ยวจนไม่เรียน
เพื่อน ๆ ยกให้เขาเป็นเทพ ที่มหาวิทยาลัย เขาก็มีมือซ้ายมือขวาคอยทำงานส่งอาจารย์ โดยไม่ต้องทำเอง แต่เขาเป็นคนที่หัวดี ระดับเรียกได้ว่าอัจฉริยะเพื่อนๆ อิจฉากันมาก มีครบทุกอย่าง แถมมีหัวสมองอีก
“คืนนี้หยุดพูดถึงลูกมึงก่อน กูมีของขวัญให้มึง”
“คนเดิมกูไม่เอานะ”
“No! น้องจอยที่มึงบอกว่าเล่นตัวไง” แม็กนัสพูดขึ้นมาได้ยินกองทัพบอกว่าอยากน้องคนนี้แต่เล่นตัว ตอนนั้นน้องจอยมีแฟนพอโดนทิ้งได้ไม่กี่วันก็มารับงานคืนนี้เพื่อจะได้ขึ้นเตียงกับกองทัพ
“ทำไมรอบนี้ถึงยอมมา”
“น้องมันโดนผัวทิ้งวะ คืนนี้กูให้มึงทำโชว์พวกกูเลย”
ไต้ฝุ่นพูดเป็นเรื่องสนุกเพราะพวกเขาทำแบบนั้นกันบ่อยๆ แต่ที่ไม่ยุ่งเลยคือพวกยาเสพติดที่พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่ง
“ถ้าไม่เด็ดแบบที่มึงว่ากูจะให้มึงคลานเหมือนหมาเลย” กองทัพทิ้งก้นบุหรี่ลงที่ถังเขาเดินมานั่งที่โต๊ะ เรียกว่ามีแต่หนุ่มๆ เพราะสาวๆ ไม่ค่อยมาเรียนสาขานี้
“มาแล้วๆ”
“สวัสดีค่ะพี่กองทัพ”
กองทัพมองหญิงสาวด้วยหางตาและหันกลับมาสนใจแก้วเหล้าต่อ ตอนนั้นเขาสนใจทำเป็นเล่นตัวพอหมดที่พิ่งเห็นวิ่งแจ้นมาหาเขา
“เดี๋ยวจอยชงเหล้าให้นะคะ”
“เฮ้ย ไอ้นี่มึงก็คุยกับน้องเขาหน่อย”
แม็กนัสตามซื้อตัวกว่าจะได้และได้รู้ความลับบางอย่างของสาวสวยตรงหน้า ภาพเบื้องหน้าเป็นนักศึกษาสาวที่ดูเรียบร้อย เบื้องหลังนั้นเขาไม่อยากพูดถึงเลย
“กูไม่มีอารมณ์”
“ไม่มีอารมณ์? นั้นกูเอาก่อนนะ” ไต้ฝุ่นพูดขึ้นหาสาวสวยมาให้แต่มานั่งทำหน้าบูดบึ้ง เหมือนกลัวเมียที่บ้านโกรธเสียอย่างนั้น
“จอยทำอะไรให้ไม่พอใจรึเปล่าคะ?”
“เธอเรียนสาขาอะไร”
“เรียนบริหารค่ะ”
กองทัพย้อนกลับไปนึกถึงใบหน้าของสาวสวยคนนั้นที่เพื่อนบอกว่าเรียนบริหาร ไม่แน่คนตรงหน้าเขาอาจจะรู้จักก็ได้
“รู้จักคนที่ชื่อนิดาหรือฟา...อะไรสักอย่าง”
“นิดากับฟารีญาเหรอคะ?” จอยเริ่มไม่พอใจแล้วที่หนุ่มๆ มักถามถึงแต่สองคนนี้แต่มีอีกคนหนึ่งที่สวยมาก แต่ฐานะไม่ดีคนเลยมักไม่พูดถึง
“แล้วอีกคนชื่ออะไร?”
ไต้ฝุ่นและแม็กนัสพยายามนั่งฟังอยากรู้ว่ากองทัพมันอยากจะรู้จักชื่อน้องเขาไปทำไม มันถามแบบนี้หมายความว่ามันสนใจสาวสวยคนนั้น
“ชื่อเมษาค่ะ เดือนเมษาเป็นเด็กนักเรียนทุนบ้านก็จนมากด้วย”
จอยพูดออกไปด้วยความไม่พอใจที่ทุกคนเหมือนจะให้ความสนใจเดือนเมษามากเป็นพิเศษ เธอเป็นผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกอิจฉาเลย ทำไมฟ้าประทานใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มขนาดนั้นให้มัน
“เดือนเมษาเหรอ?” กองทัพยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแต่ไม่รอดพ้นสายตาของเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งมองอยู่
“ไอ้ทัพมึงจะเอาเปล่าวะ”
“เชิญมึงเอาก่อนเลย”
“พี่ทัพไม่สนใจจอยเหรอคะ” ไหนจ้างเธอมาให้ดูแลกองทัพแล้วทำไมเธอต้องได้ดูแลเพื่อนเขาแทน แต่ในแก๊งนี้ใครก็ได้เธอไม่ติด
“ไม่เธอเอากับเพื่อนฉันก่อนได้เลย”
ไต้ฝุ่นลากจอยไปที่มุมห้องเพื่อนๆ ต่างพากันเมามายไม่ได้สนใจว่าใครจะทำอะไร หรือจะเอากันตรงไหนพวกเขาเห็นภาพนั้นจนชินตาแล้ว
ชีวิตของเขาไม่มีอะไรมากแค่ดื่มเหล้าเมาและท่องราตรี แต่ช่วงนี้เขารู้สึกเบื่อๆ เลยไม่ค่อยได้ลากใครขึ้นเตียงด้วย
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงไต้ฝุ่นเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เสื้อผ้าของเขายับนิดหน่อยทรงผมยุ่งเหยิงแต่ไม่ทำให้ความหล่อลดน้อยลงเลยสักนิด
“แม่งโคตรหลวมเลยวะไหนว่ารับงานแบบนี้ ร้องครางเหมือนไม่เคยโดนใคร เย็.-ด”
“มึงรุนแรงกับน้องเขาหรือเปล่าวะ” แม็กนัสยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเหมือนเพื่อนทั้งสองคน เขารักความเงียบสงบ ก็มีบางครั้งที่แอบซื้อกัน
“เซ็งวะ มึงถามถึงชื่อน้อง...น้องอะไรนะ?”
“เมษาน้องคนสวยไง”
“เออ มึงถามทำไมจะจีบน้องเขาเหรอแต่น้องเขาเป็นเด็กทุนมึงปล่อยเขาไปเถอะ” นักศึกษาที่ได้รับทุนต้องทำตัวอยู่ในกรอบไม่มีเรื่องเสียหายเพราะพิจารณาทุนปีต่อปี
“ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะอย่าไปทำลายอนาคตน้องเขาเลย”
“แล้วอยู่กับกูมันไม่มีอนาคตตรงไหน” กองทัพพูดขึ้นมา ทำให้เพื่อนทั้งสองคนเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะคำพูดแบบนี้ไม่ควรออกจากปากกองทัพ
“หมายความว่ามึงจริงจัง?”
“มึงพูดอะไรออกมาวะ” ไต้ฝุ่นไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนจะอาการหนักขนาดนี้ คนอย่างกองทัพผู้หญิงมีตั้งมากมายที่พร้อมจะพลีกายให้มัน
“ปะ...เปล่ากูพูดไปอย่างนั้นแหละ” แต่ถ้าน้องมันเล่นด้วยเขาไม่ปล่อยไปไหนหรอก คำนี้เขาไม่ได้พูดให้เพื่อนได้ยิน
กองทัพดื่มจนเริ่มมึนหัวเขาจึงกลับก่อน ส่วนไต้ฝุ่นขานั้นต้องมีผู้หญิงกลับด้วยทุกครั้ง แม็กนัสนั้นเป็นคนเงียบขรึมไม่รู้ว่ามันเป็นเกย์หรือเปล่า
กลางดึกที่เงียบสงัดเดือนเมษานอนกระสับกระส่ายไปมา ตามไรผมมีเหงื่อไหลออกมาเหมือนว่าเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ลมหายใจเริ่มถี่ขึ้นเร็วๆ ในความฝันอันแสนมืดมิดที่หญิงสาวกำลังวิ่งหนีงูตัวใหญ่
“กรี๊ดดดด ช่วยด้วย”
เธอกำลังวิ่งหนีงูขนาดใหญ่ที่เรื่อยตามมาไม่หยุด เธอวิ่งมาจนถึงซอยตันและสะดุดกับท่อนไม้ล้มลง งูตัวนั้นแผ่แม่เบี้ยออกมาเหมือนจะฉกเธอให้ได้
“ออกไป! อย่ามาให้ฉัน”
“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกสาวน้อย” งูสีดำตัวนั้นพูดออกมา
ทำให้เดือนเมษายิ่งตกใจและกรีดร้องออกมา แม้จะเรียกให้คนช่วยแต่ไม่มีใครเดินผ่านมาทางนี้เลย เธอมองไปรอบๆ จนเห็นกับท่อนไม้ขนาดพอดีมือ
“กรี๊ดดดด”
งูสีดำเรื่อยเข้ามารัดตัวของเธอไว้แน่น แต่หญิงสาวไม่ยอมดิ้นจนสามารถหยิบท่อนไม้ได้ แตะฟาดไปที่หัวของงูตัวนั้นจนมันแน่นิ่งไป
“ตายไปเลย!” และเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัวไปหมด ฝันร้ายในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้
อีกฝั่งกองทัพสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะเขาฝันร้ายเช่นกัน เขาเอามือมาจับที่ศีรษะตัวเอง ฝันว่าตัวเองเป็นงู
“ยัยตัวแสบตีหัวคนมาได้”
ในความฝันเอาไล่ตามผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นใบหน้าไม่ชัด และเรื่อยไปรัดตัวแต่กลับถูกหญิงสาวในความฝันเอาไม้ฟาดหัวจนเขาสะดุ้งตื่น
“โรคจิตหรือเปล่ากูฝันว่าตัวเองเป็นงูไล่ตามผู้หญิง”
เขาเปิดดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาตีห้าจึงลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกาย แต่เรื่องความฝันทำให้เขาคิดวนเวียนอยู่แบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเหมือนเขาเคยเจอที่ไหนสักที่แต่เขาจำไม่ได้
เขาเคยได้ยินคุณย่าพูดว่าหากฝันว่าโดนงูรัดตัวจะเจอเนื้อคู่ แต่เนื้อคู่คงจะตายแล้วเพราะถูกตีหัวจนไม่รอด
เดือนเมษาตั้งท้องเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย กองทัพจึงยอมทิ้งชีวิตที่หรูหราในเมืองหลวง พาเดือนเมษากลับมาเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่นานเกือบเดือน “เหนื่อยไหมคะดื่มน้ำก่อน” “ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนแต่สนุกดีครับ” “ไม่ไหวก็พอนะคะ”ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องทำนากัน ซึ่งเป็นการทำนาตามช่วงฤดูการ กองทัพมาช่วยพ่อตาดำนาจนตัวเขาดำไปหมด ปกติก็เป็นคนผิวสีน้ำผึ้งอยู่แล้วไม่พอเพียงแค่นั้นหลังจากเสร็จการดำนา เขาอาสาเข้าไปเก็บไข่เป็ดในคอก และช่วงเช้าต้องปล่อยเป็ดให้ออกไปเดินเล่นและต้องกลับมารดน้ำปลูกผักอะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำ เขาถึงได้รู้คุณค่าของเงินว่ากว่าจะได้มาแต่ละบาทต้องแลกกับหยาดเหงื่อ“โอ๊ย”“พี่ทัพหนูบอกแล้วไงคะว่าไม่ไหวอย่าฝืน” เธออยากจะตีเขานักดื้อด้านจนตัวเองต้องเจ็บตัว เธอรีบพาเขาไปล้างมือ กองทัพขุดดินจนมือพุพองจากการเสียดสีของด้ามจอบ“แสบมั้ย”“นิดหน่อยแต่ทนได้”“ไม่ต้องทำแล้วค่ะตัวดำหมดแล้ว”กลับไปกรุงเทพครั้งนี้ใครจะทำเขาได้ กองทัพลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง ต้องมาทำนาที่ต่างจังหวัดกับเมียตากแดดจนตัวดำแดดไปหมด“พี่อยากลองทำดูครับ”“ไปพักผ่อนนะคะอีกไม่กี่วันก็จะกลั
หลายเดือนต่อมา กองทัพนอนอยู่บนเตียงกว้างเขาเอาหูแนบกับท้องของเดือนเมษาที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว ซึ่งเขาได้ลูกสาวสมใจที่อยากได้ เขาชอบเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนเป็นแบบนี้ทุกคืน ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก็ตาม เขาเลิกเที่ยวและตั้งใจทำงานตอนนี้เขาฝึกงานจบแล้ว ในวันข้างหน้าก็จะเป็นวันที่เขาต้องทำงานหาเลี้ยงดูลูกกับเมีย ส่วนเมษานั้นดร็อปเรียนอย่างไม่กำหนด แต่กองทัพนั้นไม่คิดจะทำร้ายอนาคตของเธอ เขารอให้เธอคลอดและจะให้กลับไปเรียนเช่นเคย ตอนเช้าอีกวันเดือนเมษานัดทานข้าวกับเพื่อนสาวที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน นิดาและฟารีญาจะยุ่งกับการเรียกเพราะทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้ว “ไม่น่าเชื่อเลยพี่ทัพจะเป็นคนที่แสนดีขนาดนี้” “อิจฉาแกจังเลยอ่ะ” “เขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ต้องรอดูกันไปนานๆ” นี่เพิ่งเริ่มต้นเพราะการแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหาก “บางคนสันดานเปลี่ยนตอนมีลูก” นิดาได้ยินข่าวมาเยอะการที่เมียท้องและผัวแอบไปมีคนอื่น บางคนพอรู้ว่ามีลูกก็เผยตัวตนออกมา “ยัยบีเพื่อนเลิฟ
“พี่ทัพยิ้มอะไรคะ” ตั้งแต่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกองทัพก็นั่งส่งยิ้มให้เธอ จนเธอรู้สึกหลอนไปด้วย “บักห่าหนิ” เขาเปล่งเสียงออกมาไม่รู้ว่าตัวเองออกเสียงถูกหรือเปล่า แต่เห็นสีหน้าตกใจของเดือนเมษา “พูดอะไร” “แปลว่าหล่อไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกคะ?” “ก็พ่อตาบอกยังพูดกับพี่อยู่เลย” เธอกลั้นเสียงหัวเราะไว้คงจะถูกพ่อของเธอหลอกตาด่ามาแน่ แต่เธอไม่ยอมบอกว่าคำที่เขาพูดมาไม่ได้แปลว่าหล่อตามที่เขาเข้าใจ “หัวเราะอะไร” “เปล่าค่ะ” . งานวิวาห์กะทันหันก็เกิดขึ้นจัดในหมู่บ้าน ด้วยน้ำเงินของคุณย่าเนรมิตงานใหญ่พอ ๆ กับงานวัด ซึ่งพ่อกับและพี่ชายของเขาก็มางานด้วย สินสอดทองหมั้นถูกจัดเตรียมมาพร้อมกับแก้วแหวนเงินทองและโฉนดที่ดิน ชาวบ้านต่างพากับอิจฉาเพราะแถวบ้านต่างจังหวัดค่าสินสอดหนึ่งแสนถือว่าเยอะมากแล้ว แต่นี่เงินสินสอดมากถึงสิบล้านแถมยังเป็นเงินสดถูกวางไว้ตรงหน้าพ่อแม่เจ้าสาว กองทัพนั่งยิ้มหน้าบานที่งานถูกจัดขึ้นมา ถือว่าเป็นการมัดมือชกเดือนเมษา พ่อแม่เขาได้ลูกสะใภ้ไม่ยังแถมหลานในท้องมาให้อีก “ทัพสวมแหวน
เดือนเมษาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนกองทัพแอบเข้ามานอนกับเธอ แต่คุณย่ากลับนำเอาเรื่องนี้พูดขึ้นมาต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ “ไหนๆ เด็กๆ ก็รักกันฉันอยากจะพูดคุยเรื่องนี้” ดูจากหลานชายแล้วน่าจะรักเดือนเมษามาก ถึงได้ยอมตามมาไกลถึงที่นี่ “เด็กๆ เขารักกันฉันอยากจะสู่ขอหนูเมษาจ๊ะ” “คุณย่าคะ?” “เด็กทั้งสองได้เสียกันแล้วหมั้นกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย” เดือนเมษาน้ำท่วมปากพูดไม่ออกเพราะกองทัพก็ไม่ปฏิเสธ เธอเกิดสับสนขึ้นมาเพราะคิดว่ายังไงแล้วกองทัพก็ไม่รักเธอ แค่อยากเอาชนะเธอก็เท่านั้น “บางทีในท้องของเมษาอาจจะมีลูกผมอยู่ในนั้นแล้วก็ได้ครับ” กองทัพพูดขึ้นเพราะเห็นว่าเธอเงียบ “พวกเราขอคุยกับลูกเป็นการส่วนตัวก่อนนะจ๊ะ” บุปผาพาเดือนเมษาออกมา และซักถามว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ทำไมลูกถึงไม่ดีใจที่มีคนมาสู่ขอ “แต่งเลยลูกเขารวย” บัญชาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นขอแค่ลูกสาวสบายก็พอแล้ว จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ขึ้นกับคนทั้งสอง “พี่เงียบเลยนะ” “แม่จ๋าหนู...” “ทะเลาะอะไรกันลูก” “เปล่าจ๊ะ” มีแต่เธอ
“ทัพพาย่ามาที่ไหน ทำไมไม่บอกอะไรย่าเลย” แจ่มศรีถูกหลานชายสุดที่รักพาขึ้นรถมาในเช้าตรู่มุ่งหน้าออกต่างจังหวัด “ใกล้ถึงแล้วครับ” แล้วดูจีพีเอสซึ่งมองออกไปมีแต่ทุ่งนาและป่ามีหมูบ้านเล็กๆ อยู่ไม่ถึงร้อยหลังเขาไม่รู้ว่าหลังไหนเป็นบ้านของเดือนเมษา “แล้วพาย่ามาหาใคร?” “บรรยากาศเหมือนหนังผีในละครเลยค่ะคุณย่า” บัวที่ถูกบังคับให้ตามาดูคุณย่าคุณย่าด้วย ถึงกับขนลุกเพราะตอนนี้ใกล้มืดค่ำแล้ว “ขอโทษนะครับบ้านของเมษาไปทางไหนครับ” ดีที่ยังเห็นชาวบ้านผ่านไปผ่านมา จึงพอให้ถามได้ไม่อย่างนั้นคงจะหลงทางอยู่แบบนี้ “บ้านไผ๋ละ?” (บ้านใครละ) “เดือนเมษาครับ” “อ๋อ บ้านบักบัญชาติขับตรงไปกะฮอตแล้ว” (ขับตรงไปก็ถึงแล้ว) “ขอบคุณครับ” ถึงแม้จะฟังไม่ค่อยออกเท่าไรแต่เห็นจากการชี้ก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว เขาขับตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังหนึ่ง “คุณย่ารออยู่ในรถก่อนนะครับ” “รีบมานะย่าเมื่อยมาก” เขาจะเดินลงไปถามไปใช่บ้านของเดือนเมษาไหม แต่โชคชะตาดันเข้าข้างเพราะเขาเห็นเดือนเมษากำลังทำอะไรสักอย่าง ความดีใจทำให้เข
“แค่คนคุยเหรอ” “…” ที่เขาเงียบเพราะกำลังถามใจตัวเองอยู่ว่าเขานั้นรักเดือนเมษา หรือแค่รู้สึกถูกใจแต่เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน “ถ้าไม่จริงจังเรากลับมาคบกันได้มั้ย” เธอยอมรับแบบไม่อายใครเลยว่าต้องการกลับมาคืนดีกับกองทัพ และรับไม่ได้หากเขามีคนรัก “…” “ทัพที่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา” เธอพูดถึงเรื่องวันวาน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปีสามส่วนกองทัพนั้นเพิ่งเขาเรียนปีหนึ่งความรักของทั้งคู่นั้นสวยงามจนเธอถูกใจหนุ่มรุ่นพี่และเลิกรากับกองทัพไป “ผมรักน้องเขา…ผมกลับไปหาพี่ไม่ได้หรอก” เขาแกะมือของดาด้าออก และออกไปจากตรงนั้นเขาต้องรีบไปง้อเดือนเมษา และต้องรีบอธิบายให้ฟังทุกอย่าง แต่เขากลับมาสายไปเพราะเดือนเมษาเก็บกระเป๋ามุ่งหน้ากลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้ว เขาตามจะตามไปแต่เพื่อนกับห้ามไว้ “ปล่อยให้น้องเขาใจเย็นก่อน” “เออ ถ้าน้องเขาใจเย็นก็จะรับสายมึงเองแหละ” ไต้ฝุ่นมองเพื่อนที่พยายามโทรหาเดือนเมษาเป็นร้อยสาย มันไม่ยอมลดละความพยายาม “พวกมึงไม่เข้าใจกู” เขาอยากอธิบายอยากคุยกับเดือนเมษาใจจะขาด หากจะตามไปที่บ้านได้เ