/ รักโบราณ / จารใจทุรยศ / Chapter 5. นับตั้งแต่นั้น

공유

Chapter 5. นับตั้งแต่นั้น

last update 최신 업데이트: 2025-03-02 22:02:46

“คุณชายเกา”

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเการุ่ยเฉียงเอ็นดูแม่นางน้อยผู้นี้มากเพียงใด หากเผลอล่วงเกินนางให้เขาเห็นเข้า คงไม่ได้อยู่ดีในสกุลเกาเป็นแน่

“พ่อครัวใหญ่เตรียมของว่างอยู่หรือ? ให้ซีเอ๋อร์ช่วยนะเจ้าคะ” นางเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อน หวังปล้นเอาวิชาความรู้การปรุงอาหารอันแสนอร่อยของพ่อครัวหลี่เจี๋ย

เการุ่ยเฉียงได้แต่ส่ายหน้าไปมา เขาหวังใจปกป้องดูแลเสิ่นฉางซีไปทั้งชีวิต ไม่คิดให้นางไปใช้ชีวิตข้างนอกรั้วสกุลเกา แต่นางแสร้งทำเป็นไม่เห็นความตั้งใจจริงของเขา นางพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่าง เพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใด

เขาจะต้องทำอย่างไรถึงจะรั้งนางผู้มีรอยยิ้มดุจสายลมฤดูใบไม้ผลิไว้ข้างกายตลอดทั้งชีวิต

ทั้งชีวิต.

          บุรุษผู้หนึ่งอายุเพียงสิบเก้าปีก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแม่ทัพแล้ว

            ชาวบ้านต่างพากันหลีกทางขบวนทหารกล้าที่กำลังผ่านถนนสายหลักมุ่งหน้าสู่วังหลวง บุรุษในชุดศึกสีดำขรึมขลังบนอาชาศึกงามสง่าสะกดทุกสายตาให้หยุดมองเพียงเขา ใบหน้านั้นหล่อเหลา สุขุมและเยือกเย็นประหนึ่งเทพเซียน ดวงตาคมคู่นั้นเป็นสีนิลดุจเดียวกับบ่อน้ำลึกไร้รอยไหวกระเพื่อม เขาเป็นบุรุษที่หญิงสาวหลงใหลคลั่งไคล้หวังจะได้นั่งตำแหน่งฮูหยิน

            ทว่าเจ้าของดวงตาคมดุจเหยี่ยวคู่นั้นหาได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ไม่

            แต่ไหนแต่ไร สมองของเขาคิดเพียงเรื่องการรบ ตั้งแต่กลับเข้าตระกูล เขาก็เข้าสู่การเป็นทหาร และเป็นทหารชั้นผู้น้อยที่ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงเขาเป็นใคร ยามนั้นเขาไม่ได้โกรธเคืองที่บิดาทำเช่นนั้น คล้ายยอมรับโชคชะตา คล้ายขัดขืนอยู่ในที แต่ไหนแต่ไรเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองยิ่ง ใช้เวลาห้าปีสร้างผลงาน ในค่ายทหาร ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือบุตรชายคนโตของตระกูลสวินผู้เป็นนักรบมาหลายชั่วอายุคน

สวินเย่ว์ ได้กลับจวนอย่างสง่าผ่าเผย ผิดกับทุกครั้งที่ เขามักลอบเข้าไปพบบิดามารดาโดยที่ไม่มีผู้อื่นรู้ การกลับเข้าจวนครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการประกาศตัวตนที่แท้จริงของเขา

หญิงสาวประคองตะกร้าที่คล้องแขนไว้ด้วยความระมัดระวังมิให้ถูกผู้คนเบียด นางระวังของในตะกร้ามากกว่าตนเองเสียอีก ผู้คนมากมายโห่ร้องต้อนรับแม่ทัพหนุ่มบนหลังอาชาที่กำลังเคลื่อนผ่านพวกเขาไป ร่างเล็กถูกเบียดไปมาจนผ้าคลุมศีรษะเลื่อนหล่น นางแหงนหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้นั้นที่สายตายังคงมองตรงไปด้านหน้าไม่เหลียวมองรอบข้างเลยสักนิด เสิ่นฉางซีเผลอยิ้มบางเบา มองจนเห็นแผ่นหลังของเขาผ่านไปลับตาแล้วจึงยกมือจับผ้าคลุมศีรษะให้มิดชิดอีกครั้ง แล้วค่อยๆ แทรกตัวออกจากฝูงชนเดินลัดเลาะในถนนเส้นรองมาจนมาถึงตรอกด้านหลังจวนสกุลสวิน บ่าวชายที่เฝ้าประตูด้านหลังเห็นหญิงสาวจึงเอ่ยทักด้วยความคุ้นเคย

“พี่ชาย รบกวนขอพบแม่ครัวหนวนเจ้าค่ะ”

“แม่นางฉางซี” คนเฝ้าประตูส่งยิ้มให้ “เจ้าเข้าไปได้เลย แม่ครัวได้แจ้งกับพวกเราไว้แล้ว”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางยิ้มเล็กน้อยแล้วล้วงหยิบเอาห่อสมุนไพรส่งให้คนเฝ้าประตูคนละห่อ “นี่เป็นสมุนไพรบำรุงข้อและกระดูก พี่ชายยืนทั้งวันจะปวดเข่าได้ ต้มดื่มในตอนเช้าจะช่วยบำรุงเจ้าค่ะ”

“พวกข้าไม่เกรงใจละนะ ขอบใจแม่นางเสิ่นมาก”

หญิงสาวก้มศีรษะให้เล็กน้อยแล้วเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย สองปีมานี้ นางมาส่งสมุนไพรและของป่าหายากให้จวนสกุลสวินมาตลอด เดือนละหนึ่งถึงสองครั้ง  แรกทีเดียวนางรู้จักแม่ครัวหนวนเพราะนางเอาสมุนไพรป่ามาขายที่ร้านขายยา บังเอิญได้พบแม่ครัวหนวนที่มาซื้อสมุนไพรนำไปทำอาหาร นางถูกคำว่า ‘สกุลสวิน’ ดึงดูด จึงเข้าไปพูดคุยและแนะนำเรื่องรายการอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ

สำหรับเสิ่นฉางซีแล้ว สิ่งที่นางทำอยู่เพื่อ ‘ตอบแทน’ ผู้มีพระคุณของนาง

“แม่ครัวหนวน” หญิงสาวร้องทัก แม่ครัวร่างอวบหันมาตามเสียงเรียกเห็นเป็นคนที่รออยู่ก็ยิ้มกว้าง กวักมือเรียกนางเข้าไปหา “วันนี้ข้าได้เขากวางอ่อนมาเจ้าค่ะ ใช้บำรุงไขข้อและทำให้กระฉับกระเฉง”

“เจ้ามาเสียที” แม่ครัวยิ้มออกมาได้ “แขกมาเต็มจวน ข้าทำไม่ทันแล้ว เจ้ามาช่วยเป็นลูกมือข้าหน่อย”

“ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ เดินลากขาข้างขวาไปล้างมือแล้วรับผ้ากันเปื้อนมาสวมทับชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ตนสวมอยู่ นางผูกปมผ้าคลุมศีรษะให้แน่นขึ้นเพื่อทำงานในครัวได้สะดวก

“นังหนู มาช่วยทำปลาเร็ว”

“ได้เจ้าค่ะ” หญิงสาวหมุนตัวไปช่วยแม่ครัวทันที แค่แม่ครัวสั่งนางก็ทำตามได้อย่างคล่องแคล่ว แล่เนื้อปลาไร้ก้างวางใส่จานให้อย่างดี

“วันนี้คุณชายใหญ่กลับเข้าจวน ผู้คนมาแสดงความยินดีมากมายนัก อาหารทำแทบไม่ทันทั้งที่เตรียมไว้ก่อนแล้วแท้ๆ”

“คุณชายใหญ่?” เสิ่นฉางซีทวนคำที่ได้ยินแต่มือก็ยังทำงานไม่ได้หยุดนิ่ง

“นังหนูคงไม่เคยเห็น คุณชายใหญ่ของเราก็คือแม่ทัพสวินเย่ว์” 

นางพยักหน้าหงึกหงัก เก็บซ่อนรอยยิ้มไว้ นางมาขายสมุนไพรหรือของป่ามิใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจ สำหรับคนผู้นั้นอาจลืมเลือนนางไปนานแล้ว แต่สำหรับนางแล้วการได้เฝ้าติดตามข่าวคราวของเขาคือความสุขของนาง

ห้าปีก่อน ตั้งแต่วันที่เขาจากไป นางเฝ้าติดตามข่าวคราวของเขาเรื่อยมา จากการสอบถามกับไต้ซือซูจึงได้รู้ว่าเขาชื่อสวินเย่ว์ นางอยากขอบคุณที่เขาเมตตาช่วยเหลือ ซ้ำยังอุ้มนางไว้อย่างไม่รังเกียจ แต่นางรู้จากคำบอกเล่าของผู้อื่น ช่วงเวลาที่ไต้ซือซูรักษานางนั้น สวินเย่ว์ไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้าใกล้ วันที่ไต้ซือซูอำลาพร้อมกับพาสวินเย่ว์ไปด้วยนั้น เขาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ แม้นางจะอายุแค่สิบขวบกลับรู้ได้ดีว่าเขามิใช่คนธรรมดา นางจึงหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่

นางได้แต่มองแผ่นหลังของเขาไปไกลสุดสายตา

นับตั้งแต่นั้น นางอาศัยในสำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม ค่อยๆ เก็บเกี่ยวเรื่องราวของเขามาเป็นเรื่องของตนเอง ช่วงที่นางรักษาตัวอยู่ในห้อง ไต้ซือซูบอกเล่าเรื่องของสวินเย่ว์ราวกับเล่านิทานให้นางฟัง นางจึงรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาและเหตุผลที่จำเป็นต้องติดตามไต้ซือซูใช้ชีวิตนอกจวนอันใหญ่โตถึงสี่ปี

‘นังหนู’

นางจำได้ว่าวันนั้นไต้ซือซูเล่าเรื่องชะตาทรราชของสวินเย่ว์ให้นางฟัง

‘เจ้าไม่กลัวชายผู้นั้นรึ’  ใบหน้าเปี่ยมเมตตาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

เด็กหญิงส่ายหน้าไปมา ‘เขาเป็นผู้มีพระคุณของข้า ข้าจะกลัวเขาได้อย่างไร’

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • จารใจทุรยศ    Chapter 111.  จบ.

    “เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้คิดมีอนุหรือรับหญิงใดเข้ามาอีก” เขาสารภาพเสียงเบา “เจ้าก็รู้ ข้าไม่คุ้นเคยกับสตรี เป็นข้าต่างหากที่เกรงจะเอาใจใส่เจ้าไม่เพียงพอ”“ท่านพี่ใส่ใจข้าดียิ่ง” เพราะรู้ว่าอยู่กับเพียงลำพัง นางจึงยื่นมือไปไล้เส้นผมของเขาเบาๆ “หากท่านพี่ไม่ใส่ใจข้า ในครรภ์ของข้าจะมีเด็กอยู่ได้อย่างไร”“เจ้าพูดให้ข้าสบายใจอย่างนั้นหรือ?” เขาถอนหายใจเบาๆ “ข้าใช้ชีวิตอยู่กับทหาร อยู่ในสนามรบ ไม่รู้ว่าควรดูแลเจ้าอย่างไร”“ท่านพี่ดูแลข้าดียิ่งจริงๆ” นางหัวเราะเบาๆ ไม่คิดว่าเขาจะกังวลกับเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ “เมื่อครั้งที่ตั้งครรภ์หยางหยาง ข้าอยู่เพียงลำพัง แต่ครั้งนี้มีท่านพี่อยู่ด้วย กลางดึกข้าอยากถ่ายเบา ท่านพี่ก็ช่วยประคองข้าไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจหรือรำคาญ มือเท้าของข้าก็เป็นท่านที่คอยบีบนวดอย่างไม่สนใจว่าผู้อื่นจะมองท่านพี่เป็นคนเช่นไร”“เรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น” เขาทำหน้ายุ่ง เขาหาได้ใส่ใจว่าผู้ใดจะคิดกับเขาเช่นไร นางอุ้มท้องลูกของเขา เขาย่อมต้องดูแลนาง มีอะไรผิดกัน ฮึ!“เล็กน้อยสำหรับท่านพี่แต่สำคัญมากสำหรับข้า” นางเชื่อแล้วว่าเขาไม่คุ้นเคยกับสตรีจริงๆ “มิใช่บุรุษทุกคนจะยอมทำเ

  • จารใจทุรยศ    Chapter 110.  สะใภ้ที่โชคดีที่สุดในเมืองหลวง

    “เอาไปศึกษาดู” สวินเย่ว์ผลักหนังสือเล่มนั้นออก แต่ฝูหรงยัดใส่อกเสื้ออีกฝ่ายซ้ำยังจับสาบเสื้อให้อย่างดีราวกับไม่ได้ซุกซ่อนสิ่งใดไว้ “เรื่องฉลองวันเกิดนาง ข้าย่อมต้องมีส่วนร่วม อย่างไรนางก็เป็นผู้มีคุณของข้าและฝูเจี๋ย” “รู้แล้ว” “เจ้ามาปรึกษาแค่นี้รึ” “อืม” “เช่นนั้นก็ดื่มสุราเป็นเพื่อนข้าสักกาสิ” “ไม่ ข้ามีธุระ” “อ้าว” “ขอตัว” “เฮ้ย!” ฮ่องเต้ฝูหรงได้แต่อ้าปากค้างมองแผ่นหลังของแม่ทัพสวินเย่ว์เดินจ้ำออกไปอย่างรวดเร็วนี่เพราะเป็นสหายใช่ไหม? ถึงได้ทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้หลายวันมานี้ เสิ่นฉางซีเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวินเย่ว์ จะเรียกว่าแปลกก็ไม่เชิงนัก เพียงแต่มีบางอย่างที่นางรู้สึกว่าเขาปิดบังนางอยู่ หญิงสาวหยุดหน้าห้องหนังสือ นางลังเลอยู่ครู่ก่อนตัดสินใจผลักบานประตูเข้าไป สวินเย่ว์เงยหน้าขึ้นหมายจะตำหนิคนที่เข้ามา แต่พอเห็นว่าเป็นเสิ่นฉางซี เขารีบลุกขึ้นเข้าไปประคองภรรยารัก เป็นเพราะเขาออกคำสั่งไว้ หากนางมาหาเขา สามารถเข้ามาได้ไม่ต้องให้คนรายงาน

  • จารใจทุรยศ    Chapter 109.  อยากเป็นองครักษ์

    “จิ้นฝานเก่งมากใช่ไหมถึงได้เป็นองครักษ์ของอันอัน” “เจ้าอยากเป็นองครักษ์?” “ข้าอยากปกป้องอันอัน” สวินเย่ว์ตักน้ำราดตัวลูกชาย หยิบผ้ามาซับน้ำให้ ตอนเกิดไม่ได้เลี้ยงดู มาชดเชยเอาตอนนี้แทนก็แล้วกัน “ท่านพ่อ!” เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เด็กชายก็ขึ้นเสียง “พ่อเจ้าเก่งกว่าเจ้าองครักษ์นั่นเยอะ” เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ต้องห่วง ข้าจะสอนให้เจ้าแข็งแกร่งกว่าจิ้นฝาน ว่าแต่เจ้าจะทนไหวเรอะ” “ข้าฝึกท่านั่งม้าตั้งแต่ห้าขวบแล้ว” หยางหยางคุยโต เมื่อครั้งที่ติดตามมารดาไปพรรคเงาอสูร ระหว่างมารดาปรุงอาหารอยู่นั้น เขาเล่นสนุกกับคนในพรรคมาร ได้ฝึกท่าพื้นฐานต่างๆ มาบ้าง “เจ้าไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งข้านี่” เขาจัดการชำระล้างตนเองให้หมดกลิ่นเหงื่อ แต่กระนั้นยังได้ยินเสียงลูกชายบ่นพึมพำ “ท่านยังไม่ค่อยเรียกข้าว่าลูกเลยนี่” “ก็” จะบอกว่าลืมก็กลัวลูกน้อยใจ “ลูกผู้ชายเขาพูดคุยกันเช่นนี้แหละ” “ก็ได้ ข้าเชื่อท่านก็ได้” “หยาง” “อืม” คนเป็นลูกขานรับห้วนๆ เหมือนกับบิดาที่ชอบเ

  • จารใจทุรยศ    Chapter 108. แววตาวิบวับ

    “เรื่องเอาใจสตรี ถามเสด็จพ่อของข้าก็ได้” อันอันแย้มยิ้มทำตาวิบวับไร้เดียงสา “ฮ่องเต้มีสนมมากมาย เมื่อถึงวันเกิดของผู้ใดก็จัดสรรของกำนัลให้กงกงนำไปมอบให้ทุกครั้ง” ‘ต้องปรึกษาเรื่องนี้กับคนเช่นนั้นนะรึ? จะได้เรื่องหรือไม่เล่า’ “ไปหาแม่บุญธรรมกันเถอะ ข้าหิวมากเลยพี่หยางหยาง” “อืม”หยางหยางพยักหน้ารับ หันไปสบตากับบิดาอีกครั้ง เห็นเพียงอีกฝ่ายโบกมือไล่ก็เข้าใจความหมาย เขาหันหลังย่อตัวลงให้อันอันปีนขึ้นหลังอย่างคุ้นเคย เด็กน้อยก็ทำตัวเป็นลูกลิงเกาะทันที สวินเย่ว์ได้แต่นวดขมับตนเองไม่รู้จะเตือนลูกชายอย่างไรไม่ให้ตามใจองค์ชายน้อยนัก แต่ช่างเถอะ ประเดี๋ยวมี ‘น้อง’ ของตัวเองแล้วก็คงเลิกใส่ใจองค์ชายฝูเจี๋ยไปเอง “ช่วงนี้ในวังเป็นอย่างไร” สวินเย่ว์เอ่ยถามองครักษ์ที่กำลังจะเดินตามองค์ชายฝูเจี๋ยไป จิ้นฝานชะงักเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “ในวังเรียบร้อยดีขอรับ” “ดี” เขาพยักหน้ารับ “ดูแลเจ้าเด็กนั่นดีๆ อย่าไปตามใจนัก” “ขอรับ” จิ้นฝานได้แต่ลอบโอดครวญในอก เขาเป็นองครักษ์ไม่ต่างจากคนรับใช้ จะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามเจ้านา

  • จารใจทุรยศ    Chapter 107.  จารใจทุรยศ ตอนพิเศษ

    สวินเย่ว์เลิกคิ้วรอถ้อยคำจากริมฝีปากสีชาดของหญิงสาว ไม่น่าเชื่อเลยว่า หัวใจดุจน้ำแข็งของเขาจะถูกหลอมละลายอยู่ในอุ้งมือของนางได้ “ข้าชอบท่านที่สุด” นางยื่นริมฝีปากไปประกบริมฝีปากที่เจือรสสุราชวนมึนเมา วงแขนแข็งแกร่งรวบร่างนางเข้ามากอดแนบแน่น เขาจูบไล้กลีบปากของนางช้าๆ แล้วแทรกเรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดด้วยเสน่หาลึกล้ำ ทำเอาร่างของนางอ่อนระทวยจนต้องเอนกายเข้าหา เขาจึงยอมละริมฝีปากแล้วเลื่อนมาประทับจูบที่รอยแผลเป็นของนางอย่างทะนุถนอม พลางกระซิบเสียงพร่า “ข้าชอบเจ้ามากกว่า” ‘แต่ข้ารักท่าน’ เสิ่นฉางซีไม่ได้พูดในสิ่งที่ใจคิด แต่นางเชื่อว่าเขารับรู้เสียงในหัวใจของนางได้ บางครั้งการกระทำสำคัญกว่าคำพูด เห็นทีว่าประโยคนี้จะใช้กับบุรุษตัวโตเอาแต่ใจได้ดี สวินเย่ว์ก้มมองหญิงสาวที่ช้อนตาขึ้นมองเขาพอดี สิบสามปีก่อน เขาถูกดวงตาสุกใสของนางตราตรึงจนยากจะลืมเลือน หนึ่งครั้งที่เขาช่วยชีวิตนาง หนึ่งครั้งที่นางช่วยชีวิตเขา ชะตานำพาใจสองดวงให้พานพบและผูกพัน เกิดสายใยโยงหัวใจสองดวง แม้ต้องไกลห่างก็นำพาให้หวนคืน ลมหายใจของนาง ไออุ่นจากกายของเขา ทุกส

  • จารใจทุรยศ    Chapter 106.  ประตูห้องหอ

    “ไมต้องเขินอายไป เรื่องแบบนี้ข้ารู้ว่าพูดยาก แต่ข้าเป็นคนคุยง่าย เจ้าอยากแต่งงานใหญ่โตกว่าท่านแม่ทัพสวินเย่ว์ ข้าก็จัดการให้เจ้าได้”“ใครบอกว่าข้าจะแต่งกับเจ้า”“ก็ข้าพูดออกไปเมื่อครู่ไง” นางทำตาปริบๆ “แต่งกับข้าเถอะน่า ข้าอยากได้ยินคนบ่นข้างหูแบบนี้ทุกวัน”“นี่เจ้าชอบข้าเรอะ!” เขาควรรู้สึกยินดีใช่ไหมที่สตรีประหลาดอย่างซูหลี่น่ามาชอบเขา“อืม” นางพยักหน้า “อยู่กับเจ้าก็เหมือนเลี้ยงนกแก้วให้มันส่งเสียงเจื้อยแจ้วข้างหู”“เจ้ากล้าเปรียบเทียบข้ากับนกแก้วเรอะ!”“อืม” นางพยักหน้าขึ้นลง “ไม่ต้องอาย ข้าจะไปสู่ขอเจ้าเอง”ซูหลี่น่านั่งลงบนตักของเกาเทียนฉี สะโพกกลมกลึงบดเบียดเย้ายวนจนส่วนที่หลับใหลตื่นฟื้น นางยิ้มเจ้าเล่ห์ในขณะที่เกาเทียนฉีได้แต่หลับตาโอดครวญอยู่ในอกที่ไม่สามารถบังคับ ‘ส่วนนั้น’ ของร่างกายได้เลยเอาเถอะ! บางทีชีวิตของเขาอาจรอผู้หญิงบ้าๆ อย่างนางอยู่ก็เป็นได้.เด็กชายวัยเจ็ดขวบยืนตาโตมองมารดาของตนในชุดสีแดงงดงามจับตา เสิ่นฉางซีอยู่ในชุดเจ้าสาว แม้มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็รับรู้ได้ว่าถูกลูกชายจ้องมองจนรู้สึกเขินอาย “เลิกมองแม่ได้แล้ว” “ท่านแม่สวยมาก” หยางหยางพูดขึ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status