แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: wmtawisa9a
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-07 20:13:45

“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณผู้หญิง”

รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายแบบนั้นน่ะเป็นเขาไม่ผิดแน่ รันเวย์...เดี๋ยวนี้เจ้าจิ้งจอกเก้าหางแบบเขาหันมาคบค้าสมาคมกับพวกมนุษย์ไร้กำลังแทนแล้วสินะ

“รู้จักกันด้วยเหรอครับ”

คนร่างสูงโปร่งเอ่ยถามคนร่างบางด้วยความสงสัย แต่ในทางกลับกันฉันกลับเมินคำถามพวกนั้นออกไปโดยสิ้นเชิง

“ฉันนึกว่าคุณจะนัดฉันมาคุยเรื่องธุรกิจคนเดียวซะอีก”

“อย่าใจร้ายกับผมนักสิครับ อย่างน้อยๆเราก็รู้จักกันแล้วนะ ยูโร และผมก็สนิทกับอทินมากๆเลยล่ะ”

รันเวย์ส่งรอยยิ้มอย่างสดใสมาให้กับฉันซึ่งมองข้ามเขาไปอีกครั้ง ปีศาจนิสัยเสีย คิดจะปั่นประสาทฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก

“นายก็พูดเกินไป อันที่จริงผมแค่ติดสัญญาจ้างกับเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจ ผมจะไล่เขากลับไปให้”

“เดี๋ยวสิอทิน! นี่นายจะไม่คิดหน่อยรึไง!?”

ตอบได้ตรงตามข้อมูลที่ฉันได้มาเป๊ะเลย เป็นคนที่มีความรับผิดชอบในตัวเองสูง แม้จะไม่ชอบพบปะกับผู้คน แต่ถ้าเกี่ยวกับเรื่องงานแล้วล่ะก็เขาจะไม่มีทางปฏิเสธมันแน่นอน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ว่าแต่งานที่ฉันจะว่าจ้างให้คุณช่วยคิดพล็อตโฆษณารถยนต์ของฉัน เป็นอันตกลงนะคะ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”

“ถ้าไม่ติดขัดอะไรช่วยเซ็นต์สัญญาตรงนี้ด้วยนะคะ แล้วก็คุณด้วยรันเวย์”

“มองเห็นผมแล้วเหรอครับ นึกว่าตัวเองจะกลายเป็นอากาศธาตุไปแล้วซะอีก”

“ถึงยังไงคุณก็เป็นผู้จัดการของเขา ฉันไม่สามารถเมินคุณได้ตลอดไปหรอกค่ะ ยังไงก็ช่วยเช็นต์เป็นพยานให้ด้วยนะคะ”

“ถ้าผมไม่ทำล่ะ”

“ฉันจะได้ไปจ้างคนอื่นเป็นผู้จัดการแทน”

ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร อทินก็พูดแทรกทำให้คนร่างสูงไม่ต่างกันนักทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยพลางยอมเซ็นต์ในสัญญาของฉันแต่โดยดี

“จริงสิคะ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้วด้วย ฉันขออนุญาตเป็นเจ้ามือเองนะคะ”

ฉันส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้กับอทินซึ่งมีท่าทีคิดหนักก่อนจะยอมตกลงปลงใจไปกับฉันด้วย แน่นอนว่า ฉันได้นัดรินคุไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หวังว่าเขาจะทำสำเร็จนะ

“ตรงนั้น พวกของคุณสินะ”

ในระหว่างที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่งซึ่งได้นัดล่วงหน้ากันไว้แล้ว รันเวย์ก็ได้เดินเข้ามาประชิดร่างของฉันพลางกระซิบที่ข้างหูเบาๆ

“รู้สึกถึงพลังไฟที่รุนแรง คุณแน่ใจใช่ไหม ว่าหมอนั่นจะไม่ฆ่าผม เพราะไม่อย่างนั้นคงต้องมีสงครามเกิดขึ้นกันบ้าง”

“แน่นอน พวกเราเคารพกฎ รู้สึกกลัวขึ้นมางั้นเหรอ คุณจิ้งจอกน้อย”

ฉันแกล้งแซวเขากลับไปทั้งๆแบบนั้น โดยที่คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะแสดงท่าทีออกมาในรูปแบบที่ตรงกันข้ามกันจนรินคุต้องเผลอจ้องตาเขาตาขวาง

“กลัวเจ้าแมวน้อยไม่สนใจมากกว่า”

เขากำลังท้าทายฉันอยู่......

“นี่นาย!”

รินคุยืนขึ้นเต็มสูงทันทีที่เห็นฉันเดินมากับจิ้งจอกเก้าหางร่างจำแลงที่ไหนก็ไม่รู้

“รินคุ! อยู่ๆ นายลุกขึ้นไปชี้หน้าพวกเขาแบบนั้นได้ยังไง ขอโทษแทนรินคุด้วยนะครับ คือว่าเขาโมโหหิวน่ะครับ”

“นี่พวกนาย!”

รินคุโวยวายพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มที่พากันจับแขนจับขาของเขาไว้ทั้งสองข้างท่ามกลางกลุ่มเด็กฝึกผู้หญิงซึ่งกำลังมองมาทางนี้ด้วยความสนใจ

“ไม่เป็นไรค่ะ อีกอย่างฉันกับรินคุเรารู้จักกันดี เชิญนั่งกันตามสบายเลยนะคะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง”

ฉันส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้กับผู้คนเหล่านั้นตามมารยาท แต่ทว่าพวกเขากลับตอบรับฉันด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเหม่อลอยแทน คงฝึกซ้อมกันลำบากมากสินะ น่าสงสารจริงๆ ....

“รินคุ ทำไมนายไม่เห็นบอกฉันว่ารู้จัก คนสวย คนหล่อมากขนาดนี้ห๊ะ! โถ่ดันนัดมาเจอกันตอนหน้าสดซะได้”

กลุ่มเด็กฝึกผู้หญิงพากันมองตามอทินและรันเวย์ด้วยแววตาหลงใหลสุดๆ ‘อะไรจะหล่อเหลา เย้ายวนขนาดนี้ กระชากใจเกินไปแล้ว ถึงจะเป็นผีก็ต้องหลงแน่ๆ!’

“เอ่อ จะดีเหรอครับ คุณยูโรชวนผมมาทานข้าวกับกลุ่มเด็กฝึกที่กำลังจะเดบิ้วต์แบบนี้....”

อทินเบือนหน้าหนีอย่างขะเขินเล็กน้อย เหมือนว่าเขาจะไม่ถูกกับการเป็นที่สนใจน่ะ แต่ทำยังไงได้ล่ะ ดวงของนายจะต้องได้แฟนเป็นไอดอลเลยนี่นะ ดังนั้นทำใจให้ชินเอาไว้ซะเถอะเพราะฉันคนนี้นี่แหละที่จะทำให้นายมีแฟนเป็นไอดอลคนนั้นให้เอง

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ร้านนี้ฉันจองไว้ล่วงหน้าหมดทั้งร้านแล้ว ส่วนข้างนอกก็ส่งคนมาจับตาดูพวกแอบถ่ายเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางหลุดออกไปได้แน่ เว้นแต่ว่าคุณจะหลุดปากบอกไปซะเอง แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกค่ะ ถึงคุณจะหลุดปากออกไปจริงๆ ฉันก็แค่ตามปิดข่าวพวกนั้นทั้งหมดก็พอ”

“เอ้าๆ บรรยากาศตึงเครียดไปหมดแล้ว ผ่อนคลายกันหน่อยดีไหมครับ ผมรันเวย์ ส่วนผู้ชายขี้อายคนนี้ก็อทิน เพื่อนของผมเอง ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็คือแฟ-”

ฉันรีบซองแขนใส่เขาทันที ไม่ดูสถานการณ์เอาซะเลยนะ นายจิ้งจอกคลั่งรักตัวนี้นี่

“เพื่อนร่วมธุรกิจค่ะ แล้วก็เป็นเพื่อนของรินคุด้วย ขอบคุณที่ช่วยดูแลเขาเป็นอย่างดีนะคะ”

“ครับ ยินดีครับ ให้ผมช่วยดูแลคุณด้วยก็ หึ่ย! ไหงแกจ้องฉันแบบนั้นล่ะ!”

“จะกินข้าวดีๆไม่ใช่รึไง กินๆ เข้าไปซะสิ! หยุดพร่ำได้แล้ว น่ารำคาญ! เธอก็ด้วยยูโรจะยืนไปจนถึงเมื่อไร มานั่งกับฉันสิ พวกนายไม่ต้อง ไปนั่งกับพวกนั้นไป!”

“ได้ไงล่ะครับ พวกผมเป็นแขกของยูโรน่ะครับ คงปล่อยให้คุณนั่งกับเธอสองคนไม่ได้หรอกครับ”

รอยยิ้มหน้าตายกวนประสาทของรันเวย์ถูกส่งไปให้รินคุที่นั่งตรงข้ามกันฉันให้ย้ายมานั่งเบียดกับพวกเราแทน

“มาเบียดทำไมครับเนี่ย ที่ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ”

“นายต่างหากที่ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ มานั่งเบียดเพื่อนฉันทำไม”

“เป็นแค่เพื่อนจะคิดมากไปทำไมล่ะครับ”

“เพื่อนสนิทอย่างฉันมีสิทธิคิดแทนได้ว่า จิ้งจอกแบบนายมันอันตราย ออกไปห่างๆดีกว่าน่า หรือว่านายอยากเป็นจิ้งจอกย่างซะแล้วล่ะ”

“น่าสนใจดีนี่ครับ ตัวแทนปีกหักผมก็อยากเห็นเหมือนกันนะ”

“นี่พวกนายหยุดผลักหัวกันซักทีได้ไหม! เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พวกนายทั้งคู่นั่งด้วยกัน ฉันกับคุณอทินจะไปนั่งกับพวกเธอแทน”

“เอ๋ ผมด้วยหรอครับ...แต่ว่าผมว่าผมคงไม่เหมาะซักเท่าไร”

“คุณอยากนั่งกับคนที่ไม่รู้จักหรอคะ”

“ไม่ครับ”

“งั้นก็ไปกับฉันค่ะ ฉันรู้จักคุณสัญญาว่าจะไม่ทำให้อึดอัดใจค่ะ”

“เอ่อ...ก็ได้ครับ...”

“ส่วนพวกนาย นั่งทานกันไปสองคนนั่นล่ะ รินคุฉันหวังว่านายจะใจเย็นกว่านี้นะ”

“...ก็ได้...ฉันจะพยายาม”

น่าปวดหัวชะมัด คนรอบตัวของฉันมีแต่พวกงี่เง่ารึไงนะ คนร่างบางกุมขมับเล็กน้อยก่อนจะไปนั่งกับกลุ่มเด็กฝึกผู้หญิงแทน

“ขอนั่งด้วยนะคะ”

“ได้เลยค่ะ คุณยูโรเลี้ยงพวกเรานี่น่า นั่งตรงนี้เลยค่า ส่วนคุณอทินนั่งกับยัยพายอาร์ได้เลยนะคะ”

“ครับ ขอบคุณครับ”

ในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอกันแล้ว สำเร็จไปหนึ่งขั้น

“มีอะไรดีๆเกิดขึ้นรึเปล่าคะ คุณยิ้มไม่หยุดเลย”

นี่ฉันกำลังยิ้มอยู่หรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลย

“งั้นเหรอคะ อาจเป็นเพราะงานของฉันกำลังราบรื่นไปได้ด้วยดีน่ะค่ะ”

ฉันยิ้มกลับไปให้กลุ่มเด็กสาวที่เดินออกจากร้านเตรียมจะแยกย้ายกันในขณะที่รินคุและรันเวย์ยังเขม็งกันไม่รู้จักหยุดหย่อน

“นี่รินคุ”

“รู้แล้วน่า ถึงฉันจะไม่ได้ไปนั่งอยู่ตรงนั้น แต่ก็พอรู้ว่าเธอพยายาม...เก่งมาก”

จู่ๆเขาก็เลิกเขม็งกับรันเวย์แล้วเดินมาแปะมือบนศีรษะของฉันแทนพลางยิ้มเก้อๆแบบฉบับเด็กหนุ่มผู้ซึนเดระด้วยรอยแดงจางๆบนใบหน้า

“ทำอะไรของนาย”

“ก็ในละครที่ฉันดูทำแบบนี้เพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย”

“ให้กำลังใจ ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยวนี้นายให้กำลังใจศัตรูแล้วหรอเนี่ย”

ฉันแกล้งกระซิบกระซาบข้างหูรินคุก่อนจะถูกรันเวย์ดึงคอเสื้อให้ถอยห่างเขาด้วยท่าทางที่ไม่ชอบใจนัก

“มีอะไรติดหัวคุณก็ไม่รู้ครับ ผมปัดออกให้นะ ที่แท้ก็ความสกปรกนี่เอง”

คนร่างสูงพยายามใช้หน้าเช็ดหน้าสีส้มปัดศีรษะให้กับฉันในขณะที่สายตาของเขาก็จ้องรินคุไม่หยุด

“หนอยแน่ะแก! หาว่าฉันสกปรกงั้นหรอ”

“เฮ้ๆ รินคุ ใจเย็นน่า ได้เวลาซ้อมของพวกเราแล้วนะ ไปกันได้แล้ว ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวพวกเรานะครับ พวกผมจะดูแลรินคุอย่างดีเลยล่ะ ถ้าพวกเราเดบิวต์แล้วก็ช่วยมาเชียร์ด้วยนะครับ!”

“แน่นอนค่ะ ฉันไปเชียร์พวกคุณแน่ๆ”

“เฮ้! เดี๋ยวสิ ฉันยังคุยกับยูโรไม่จบเลยนะ ไอ้เจ้าบ้า! ไอ้จิ้งจอกนั่นก็ด้วย! นี่พวกนายฟังฉันเซ่!!!”

และแล้วรินคุก็ถูกกลุ่มเพื่อนๆลากตัวออกไปที่บริษัทโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้เต็มใจไปด้วยเท่าไรนัก คิดแล้วก็ตลกดีจังแหะ ตอนที่ใช้ชีวิตเป็นตัวแทนพระเจ้าเขายังดื้อด้านอยู่เลยแท้ๆ แต่พอตอนนี้กลับกลายเป็นคนอ่อนต่อโลกขึ้นมาบ้างแล้ว

“แล้วเจอกันใหม่นะคะ”

“ครับ”

ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พายอาร์ มีเบอร์ติดต่อกับอทินแล้ว ถึงจะเป็นเพราะเรื่องงานที่ฉันมอบหมายให้เธอมาถ่ายแบบโฆษณาให้กับบริษัทของฉันด้วยก็เถอะ

“อทินนายหน้าแดงใหญ่แล้วนะ”

“เพ้อเจ้อน่า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ส่วนนายจะไปไหนก็ไป หมดธุระสำหรับวันนี้แล้ว”

“ใจร้ายไล่ผู้จัดการแบบนี้ได้ไง เห็นทีผมต้องกลับบ้านกับคุณแทนแล้วนะครับ”

ฉันมองคนที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสอย่างเคืองๆ นี่เขาจะตามติดชีวิตฉันไปถึงไหน ใช่ว่าฉันจะมองไม่ออก เขากำลังตกหลุมรักร่างกายของฉันสินะ ไม่ก็กำลังปั่นหัวฉันเล่นแบบที่พวกจิ้งจอกชอบทำกัน

“ฉันไม่ชอบจิ้งจอกค่ะ และนี่ก็แค่ร่างจำแลง ถ้าจะล้อเล่นก็พอได้แล้วนะคะ ฉันเองก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน ขอตัวก่อน”

“ไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมชะ”

ปี้ป!

“จะกลับไหมบ้านน่ะ หรือนายอยากจะนั่งแท็กซี่กลับไปเองก็ตามใจ แต่หยุดตื้อคุณยูโรได้แล้ว”

ฉันที่คิดว่าอทินขับรถออกไปนานแล้ววนรถกลับมาจอดอีกครั้งในขณะที่รันเวย์ค่อยๆ เงียบลงและยอมราวีจากฉันไปอย่างโดยดี

หลังจากแยกย้ายกันมาได้พอสมควร ฉันก็โทรคุยกับบริษัทนำเข้ารถยนต์ที่เทคโอเวอร์มา เพื่อให้พวกเขาได้จัดเตรียมงานและสถานที่ให้ ก่อนจะบังเอิญเดินชนเข้ากับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยเท้าเปล่าอย่างไม่คิดชีวิตจนกระทั่งโทรศัพท์ฉันร่วงลงไปกับพื้น

“ช่วยฉันด้วยค่ะ! ช่วยฉันที!”

“เขากำลังตามฉันมา ไม่มีใครยอมเชื่อฉันเลย พวกเขาหาว่าฉันบ้า ฮือๆ ”

...โทรศัพท์พังซะแล้ว...แถมยังมีผู้หญิงแปลกหน้ามาร้องไห้ต่อหน้าอีก

“ไหนล่ะ คนที่คุณบอก?”

“ฮึก...เขาตามฉันมาจริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้โกหก ตะ แต่ว่าตอนนี้ไม่อยู่แล้ว เป็นไปได้ยังไง ปกติพวกเขาจะตามมาในทุกๆ ที่”

“นั่นใช่คนแน่หรอ แต่ก่อนอื่นเลย ไปทำแผลที่หัวเข่าคุณก่อนดีกว่าค่ะ”

หมับ!

“คุณจะไปไหนคะ”

“แถวนี้มีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ ก็เลยว่าจะไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลให้คุณไง”

“...ไปด้วยได้ไหมคะ”

“ขาคุณเจ็บแบบนี้ นั่งรอเฉยๆ น่าจะดีกว่านะ”

กรี๊ด!

ห่างกันยังไม่ถึง10ก้าว เธอก็รีบวิ่งเข้ามากอดฉันไว้จนต้องหันหลังกลับไปมองด้วยความเอื้อมระอา

“เขามาอีกแล้วค่ะ! พอห่างจากคุณ เขาก็มาหาฉันเลย ฮือๆ ”

“ระยะห่างรักษาไว้หน่อยก็ดีค่ะ เราไม่ได้รู้จักกัน”

“ฮือๆ ”

ร้องไห้อีกแล้ว...สิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก

“คุณชื่ออะไร”

“ฉันชื่อ..ฮึก...จีราญาค่ะ”

ปกติฉันไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดเท่าไร ประเด็นก็คือกลิ่นไอความตายมันคละคลุ้งจมูกฉันมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว สิ่งที่ตามผู้หญิงคนนี้มาก็คือความตายนี่เอง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 143

    “ก็ไม่แน่ ถ้าไม่อยากให้ฉันขายก็ทำตัวดีๆ ”“อุ๊บ...ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคค่ะฉันจะทำตัวดีๆเพื่อไม่ให้คุณขายฉันก็ได้ แต่แย่หน่อยนะคะ ฉันไม่มีความคิดจะไปเผ่าของคุณเลยสักนิด เพราะงั้นขอตัวก่อน”“เดี๋ยว!”“อะไรอีกล่ะคะ”“ฉันจะนำทางไปเอง”เปลี่ยนใจแล้วเหรอ อะไรกันจะเป็นคนดีก็ทำได้นี่น่า“ขอบคุณค่ะ”“เห็นแก่ที่เป็น

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 142

    “ขี้โวยวายไปได้ถ้ารักษาทันก็ไม่ตายหรอกน่า”นี่มันคำพูดของคนที่เพิ่งจะแทงลำคอของฉันรึไง...เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย“ก็อย่างพวกที่มาจากนอกโลกอะไรนั่นไง ถึงตายไปก็ฟื้นขึ้นมาอีก พวกขี้โกงนั่นตายๆไปให้หมดก็ดี ทำตัวเป็นผู้กล้าผู้ประสบความสำเร็จกันไปได้ แค่ได้เกิดใหม่ก็วิเศษวิโสนักรึไง จะข่มใครเขายังไงก็ได้ส

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 141

    “ฉันไม่เห็นจะเข้าใจสักนิดเลยค่ะ!”“งั้นพวกเราก็จะไปด้วย”“ไม่ได้สิครับ พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนตามใจชอบได้สักหน่อย คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะครับ ถ้าฝืนมากไปล่ะก็อาจถูกกลืนตัวตนแล้วกลายเป็นคนของโลกนั้นไปเลยก็ได้นะครับ”“เอ๋ แล้วจะให้พวกเรานั่งรอเธออยู่ที่นี่กับคุณรึไง

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 140

    “ระดับค่าพลังไม่คงที่ ทำการเริ่มปรับระดับในอีก สาม สอง หนึ่ง!”ตุบ!“กรร!!”“แย่ล่ะสิ ดันลืมไปว่าถ้าจำกัดพลังของท่านยูโร ฟานก็หลุดจากการรวบรัด”“วินเลซ! ปล่อยฉัน! ฉันจะช่วยคุณเอง”“ไม่ไหวหรอก ถ้าคุณอยู่ในโหมดบ้าคลั่งแบบเขาก็น่าจะอีกเรื่องนึง แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก เพราะคุณก็ควบตัวเองไม่ได้อยู่ด

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 139

    “มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมนี่น่า ผมสนแค่เด็กคนนี้เท่านั้นล่ะ ค่าพลังงานมหาศาลขนาดนี้ไม่ได้มีมาถึงมือผมบ่อยๆสักหน่อย...”วินเลชยังคงจับจ้องไปยังเด็กทารกน้อยซึ่งทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างมากก่อนที่เธอจะเร่งพลังมากขึ้นไปอีกทำให้เจ้าตัวกักตุนพลังของเขาเริ่มเกิดอาการรวนขึ้นมาดื้อๆ“หึหึหึ คุณนี่วิเศษสมกับที่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 138

    “ก็อย่างที่ว่ามา คุณยูโร ชิยูอิน คือคุณอย่างนั้นสินะครับ”หลังจากนั้นประมาณสามสัปดาห์ผ่านมาได้ก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมากับฉัน อย่าว่าแต่ฉันจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยพวกเขาก็ด้วย ร่างกายของฉันมันเกิดร่วนจนกลายเป็นภาวะเข้าขั้นวิกฤต เดี๋ยวก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นเด็กสาว เดี๋ยวก็กลายเป็นร่างผู้ใหญ่แล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status