/ รักโบราณ / ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์ / บทที่ 9 หยกหญิงงามโชคดี

공유

บทที่ 9 หยกหญิงงามโชคดี

last update 최신 업데이트: 2025-05-19 10:30:46

จ้าวจิ้งเทียนแอบลอบยิ้มภายในใจ หลิวลี่เซียนเป็นหญิงสาวที่แปลกพิลึกยิ่งนัก

"ข้ารู้นะว่าท่านแอบยิ้มเยาะข้าจิ้นหมิง"

"เจ้ากล่าวหาข้า"

หลิวลี่เซียนจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดใจเต็มทน นางตั้งตารอไข่มุกสุยโหวจากเขา แต่เขากลับโลภใช้มันจนหมด แต่ก็ช่างเถอะ นางไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอะไรปานนั้น ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ในโลกอนาคต ถึงจะเป็นคุณหนูมหาเศรษฐี แต่ก็ไม่ใช่คนใจแคบอะไรปานนั้น อีกอย่างหมอนี่ก็อยากมีใบหน้าที่หล่อเหลาจนสาวเหลียวหลัง เอ๊ะ? จะว่าไปก็หล่อตรงสเป็กนางเหมือนกันนะเนี่ย

"เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือไม่?"

"ข้าโกรธ!!! แต่ช่างเถอะ ข้าไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรปานนั้น แต่ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะไม่บอกอะไรท่านอีกแล้ว!!! คนไม่รักษาสัญญา"

จ้าวจิ้งเทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มให้กับสตรีเช่นนี้

"ข้าให้เจ้า ชิงชิง"

"อะไร?"

"ตอบแทนที่เจ้าช่วยข้า และไถ่โทษที่ข้าไม่รักษาสัญญา"

หลิวลี่เซียนมองหยกจันทราครึ่งเสี้ยวที่อยู่ในมือของจ้าวจิ้งเทียน ก่อนจะมองหน้าเขาด้วยแววตาสงสัย

"ให้ข้าเหรอ"

"ใช่ ให้เจ้า หยกนี้มีชื่อว่า หญิงงามโชคดี"

"หญิงงามโชคดี"

"ใช่ ข้าให้เจ้าครึ่งนึง อีกครึ่งนึงอยู่ที่ข้า หากวันใดเจ้าเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือ ให้นำหยกนี้ไปที่วังหลวง บอกว่าข้าเป็นคนให้เจ้า มันจะช่วยเจ้าได้ในยามที่เจ้าลำบาก หรือหากมีเรื่องเร่งด่วนให้เจ้าไปถามหาชุนหลาง คนรับใช้ของข้าได้ที่ศาลาร้องทุกข์"

"ท่านรับราชการอยู่ที่วังหลวงหรือ?"

"ใช่ ข้าเป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาท"

เมื่อได้ยินคำว่าขันที ใบหน้าของหลิวลี่เซียนก็ปรากฏสีแดงชมพูจางๆ ขันทีที่ตัด เอิ่ม! คิกๆๆ

จ้าวจิ้งเทียนเดาออกว่านางกำลังคิดอะไร เขารีบกระแอมไอแก้เก้อเขินเล็กน้อย

"ข้าคงต้องไปแล้ว"

"โชคดี บ๊ายบาย"

"บ๊ายบาย?"

หลิวลี่เซียนยกมือโบกให้จ้าวจิ้งเทียนไปมา เขายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกระโดดหน้าต่างหายไปในความมืด

หลิวลี่เซียนกำลังพิจารณาหยกในมือ หยกนี้ดูล้ำค่ายิ่งนัก เหมือนเป็นของชนชั้นสูง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร หมอนั่นเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ เขาย่อมต้องมีสิ่งของล้ำค่าที่ได้จากการพระราชทานอยู่แล้ว

ด้านจ้าวจิ้งเทียนที่ออกมาจากจวนตระกูลหลิวกลับมาถึงตำหนัก ใจของเขาเอาแต่คิดถึงใบหน้างดงามและท่าทางพิลึกของหลิวลี่เซียน

"หยกนั่นเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวขององค์รัชทายาท ให้นางเก็บไว้จะดีรึพ่ะย่ะค่ะ"

ชุนหลางองครักษ์คนสนิทของจ้าวจิ้งเทียนเอ่ยถามเขาขึ้นมา จ้าวจิ้งเทียนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ชุนหลาง

"เหตุใดเจ้าจึงคิดว่าไม่เหมาะ?"

ชุนหลางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองเจ้านายของเขา

"พระองค์ทรงมีว่าที่พระชายาแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ"

จ้าวจิ้งเทียนหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ชุนหลาง

"ใครว่าข้าจะให้นางเป็นพระชายากันเล่า"

"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิเข้าใจที่พระองค์ตรัสมา กระหม่อมช่างโง่เขลานัก"

จ้าวจิ้งเทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย ชุนหลางรู้ดีว่าพระองค์มิถือสาแม้แต่น้อยสีหน้าจึงคลายความกังวลลง แต่ทว่าประโยคถัดมาทำให้เขาแทบจะกระอักเลือด

"ข้าจะให้นางเป็นจ้าวฮวงโหวของข้าคนเดียวเท่านั้น"

สองวันให้หลังทางวังหลวงส่งคนมาแจ้งแก่ตระกูลหลิวว่า หลิวลี่เซียนต้องเข้าวังไปเป็นพระสหายร่ำเรียนขององค์หญิงเฟยหยาง

ด้านหลิวลี่ซือตอนนี้นางกำลังร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง พี่สาวฝาแฝดของนางได้เข้าวังไปเป็นสหายร่ำเรียน ต่างจากนาง นางเป็นคนที่เก็บตัวไม่ชอบสุงสิงผู้ใด นางมิชอบการอ่านเขียน นางคิดว่ามันไม่มีความจำเป็น แค่พออ่านออกเขียนได้คงเพียงพอแล้ว จะเรียนไปทำไมให้มากความ

หลังจากที่หลิวลี่เซียนจัดการแต่งกายเรียบร้อย นางก็ออกเดินทางไปวังหลวง ไม่นานก็เดินทางมาถึง นางเดินตามหัวหน้าขันทีไปยังตำหนักทรงอักษรขององค์หญิง

ถือเป็นความแปลกใหม่ที่ควรศึกษาไว้ หลิวลี่เซียนยิ้มออกมาเล็กน้อย

ในระหว่างที่รอองค์หญิงเฟยหยางเสด็จ นางกับเจินเซียงที่มาถึงก่อนหน้า กำลังพูดคุยสนทนากันเรื่อยเปื่อย

"ขอบใจเจ้ามากนะลี่เซียน คราวก่อนที่เจ้าส่งครีมบำรุงมาให้ข้า ใช้ดียิ่ง หอมมากด้วย ข้าชอบยิ่งนัก"

เจินเซียงยิ้มตาหยี สองวันก่อนหลิวลี่เซียนนำดอกไม้นานาพรรณมาทำครีมบำรุง นางให้ฮูหยินลี่หยางหนึ่งขวด และส่งไปให้เจินเซียงหนึ่งขวด ตั้งแต่วันนั้นที่ได้พูดคุยกับนาง หลิวลี่เซียนก็คิดได้ว่าเจินเซียงช่างน่ารักยิ่ง

"ข้าดีใจที่เจ้าชอบ วันนี้ข้านำมาถวายองค์หญิงด้วย"

"ดียิ่งนัก"

"คุยอะไรกันอยู่หรือ ดูสนุกสนานยิ่งนัก"

หลิวลี่เซียนกับเจินเซียงที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกันอยู่นั้น องค์ชายรองจ้าวเฟยหรงก็เสด็จผ่านมาพอดี เขาที่กำลังฝึกยิงธนูได้ยินขันทีมารายงานว่าบุตรสาวเสนาบดีหลิวเข้าวังหลวงมา เขาก็รีบทิ้งทุกอย่างเพื่อมุ่งตรงไปหานาง

"ถวายพระพรองค์ชายรองเพคะ"

"ไม่ต้องมากพิธี"

องค์ชายรองยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะมองมาที่หลิวลี่เซียนด้วยแววตาที่ล้ำลึก เหมือนกับเขาได้พบเจอกวางน้อยที่น่ารักตัวหนึ่ง

"เจ้าคือบุตรสาวของเสนาบดีตระกูลหลิว?"

"เพคะ"

เขามองไปรอบๆ ไม่เห็นหญิงงามอีกคนที่หน้าตาเหมือนนางมาด้วย เขายิ่งมั่นใจว่านางที่เข้าวังมาวันนี้เป็นคนเดียวกันกับที่เขาเฝ้าคอยเป็นแน่

"เจ้าชื่ออะไร?"

"หลิวลี่เซียนเพคะ"

"ชื่อไพเราะนัก ใบหน้าก็งดงามยิ่ง"

จ้าวเฟยหรงก้าวเข้าไปใกล้หลิวลี่เซียนมากขึ้น ด้วยสัญชาตญาณหลิวลี่เซียนถอยหลังออกมาเล็กน้อย

"เจ้าไปเดินเล่นที่ตำหนักข้าสักครู่ดีหรือไม่?"

เจินเซียงที่รู้จักนิสัยขององค์ชายรองดีเป็นอย่างยิ่ง นางเอื้อมมือไปจับแขนของหลิวลี่เซียนด้วยความเป็นห่วง หลิวลี่เซียนเองก็จับมือของเจินเซียงไว้แน่น

ช่างหน้าด้านหน้าทนนัก นี่เท่ากับขอให้นางไปปรนนิบัติเขาที่ตำหนักแบบโจ่งแจ้ง ทุเรศสิ้นดี

หลิวลี่เซียนที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ต้องเก็บอารมณ์ไว้ก่อนจะเงยหน้าไปมองจ้าวเฟยหรงด้วยความเคารพนอบน้อม

"หม่อมฉันเกรงว่าคงจะไม่สะดวกเพคะ หม่อมฉันต้องอยู่เป็นสหายเรียนขององค์หญิงเฟยหยางเพคะ"

จ้าวเฟยหรงยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชา

"เจ้ากล้าปฏิเสธองค์ชายรองเชียวรึ"

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 50 พานพบอีกครั้ง The End.

    หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 49 จากลาอย่างงดงาม

    ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 48 หลิวฮองเฮาผู้มากับไม้หน้าสาม

    รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 47 สละราชสมบัติ

    หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 46 ตกตายไปตามกัน

    จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 45 ลอบฆ่า 1-2

    หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status