Home / แฟนตาซี / ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980 / ตอนที่ 6 คุณนายเว่ยซื้อให้จริง ๆ หรือ

Share

ตอนที่ 6 คุณนายเว่ยซื้อให้จริง ๆ หรือ

last update Last Updated: 2024-12-10 12:25:59

เมื่อได้ขนาดตัวของคนที่ต้องตัดชุดให้แล้ว กลับมาถึงบ้านกินข้าวมื้อเย็น อาบน้ำเสร็จ ฉินเสี่ยวหรานรีบเข้าห้องนอนเพื่อออกแบบชุดทั้งสามตัว ของเด็กนั้นไม่เท่าไรของผู้ใหญ่นี่สิ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ ผ้าที่ใช้จึงใช้เยอะ

ภายในห้องมีไฟให้ใช้แต่ก็สลัวมาก ฉินเสี่ยวหรานจึงจุดตะเกียงช่วย ถึงแม้ว่าจะสิ้นเปลือง แต่เธอไม่มีเวลาพอ รีบทำให้เสร็จและเข้านอน พรุ่งนี้เช้าพันตรีเว่ยจะมารับเธอไปเลือกม้วนผ้าเพื่อตัดเย็บ ค่าผ้าในส่วนนี้คุณนายเว่ยเป็นคนจ่ายให้ หน้าที่ของเธอคือเลือกซื้อผ้าและตัดเย็บ

ตอนเช้าฉินเสี่ยวหรานรีบลุกไปรดน้ำผัก แล้วไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำเมื่อกลับมาก็เป็นเวลาที่พ่อเธอกลับมาจากวิ่งออกกำลังกาย ทั้งสองทักทายกันเล็กน้อยและแยกย้ายกันทำธุระของตนเอง

เป็นเวลาที่คนในบ้านตื่นพอดี ฉินเสี่ยวหลิงรับหน้าที่ในการทำอาหารตอนเช้า ฉินเสี่ยวหรานกวาดบ้านระหว่างรอรับประทานอาหาร ส่วนผู้เป็นแม่กำลังช่วยพ่อแต่งตัวในห้อง

"แม่คะ วันนี้ให้เสี่ยวหลิงไปกับแม่นะคะ หนูต้องออกไปซื้อม้วนผ้ากับพันตรีเว่ย หากให้น้องสาวไปด้วยก็เกรงใจเขา" ฉินเสี่ยวหรานบอกแม่ของเธอที่เดินออกมาพอดี

“จ้ะ"

ที่บ้านรู้กันหมดแล้วว่าฉินเสี่ยวหรานต้องตัดเย็บเสื้อผ้าถึงสามชุดจึงสนับสนุนไม่ได้ห้ามปราม ฉินหานในชุดทหารเดินออกมานอกห้อง "รักษาระยะห่างเอาไว้นะ ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ชายและผู้หญิง"

"ค่ะ"

ฉินเสี่ยวหรานไม่รู้ว่าเธอจะไปซื้อของนานแค่ไหน และไม่อยากให้น้องสาวอยู่คนเดียวนาน เธอเลือกที่จะให้ฉินเสี่ยวหลิงไปทำงานกับแม่จะสบายใจมากกว่า อีกทั้งต่อให้เธอกลับบ้านพักแล้วฉินเสี่ยวหลิงก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี

รับประทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนออกจากบ้านไปหมด เหลือเพียงฉินเสี่ยวหรานที่เตรียมตัวอยู่ เป็นผู้หญิงการแต่งหน้าย่อมเป็นเรื่องปกติและเธอใช้เวลาไม่นานก็มีคนเรียกอยู่หน้าบ้าน

"พันตรีเว่ย" เป็นเขาที่มาพร้อมรถยนต์ บ้านเว่ยมีเงินมากจริง ๆ ถึงขนาดยอมเช่ารถยนต์เพื่อเข้าไปซื้อม้วนผ้าในเมือง

"คุณหนูฉิน"

ฉินเสี่ยวหรานหยิบกระเป๋าผ้าในห้องนอน เธอจัดการล็อกบ้านอย่างแน่นหนาถึงขึ้นมานั่งข้างคนขับ เขาไม่ใช่คนขับรถของเธอ การที่ไปนั่งข้างหลังจะเป็นการไม่ให้เกียรติ

"ชุดที่ฉันออกแบบให้จะเป็นชุดกึ่งสุภาพกึ่งทางการ สามารถใส่ในงานเลี้ยงของกองทัพได้ค่ะ" ฉินเสี่ยวหรานหยิบแผ่นกระดาษที่ใช้เวลาออกแบบเพียงสามสิบนาทีของเมื่อคืนให้ดู

"ครับ"

เธอมาร้านเดิมที่ซื้อม้วนผ้ารอบที่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเนื้อผ้าดีและมีคุณภาพ รวมถึงราคาค่อนข้างถูก หากให้เทียบกับร้านอื่น เสื้อที่ตัดออกมาแล้วจะใส่ได้นาน

ฉินเสี่ยวหรานเหลือบมองคนที่เดินตามหลังก่อนจะเข้าไปดูผ้าที่สามารถใช้เทียบกับผิวได้ พันตรีเว่ยเป็นทหาร แต่ผิวที่ควรดำคล้ำกลับขาวสว่างเหมือนไม่เคยตากแดด สีแรกที่ฉินเสี่ยวหรานคิดได้คือสีเขียว

"สีนี้เข้ากับคุณมากเลยค่ะ แต่ว่าคุณมีสีที่ชอบในใจหรือไม่คะ" ที่ฉินเสี่ยวหรานไม่เรียกเขาว่าพันตรีเพราะไม่ต้องการให้คนอื่นมองไม่ดี เธอเป็นผู้หญิงที่อายุยังน้อย กับเขาที่เป็นทหารยศใหญ่

"สีไหนก็ได้ทั้งหมดครับ"

เว่ยเซียวไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการตัดเย็บ ส่วนมากแม่ของเขาจะเป็นคนจัดการให้ เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ถึงให้เขาตามฉินเสี่ยวหรานมาเลือกผ้าและทำเรื่องอื่น ๆ เอง

"ฉันอยากดูสีนี้ค่ะ มีผ้าสีนี้อีกไหมคะ"

"มีค่ะ"

ถึงแม้ว่าสีเขียวจะเข้ากับชายหนุ่มมากแค่ไหน ฉินเสี่ยวหรานยังต้องการดูผ้าสีอื่นอีก และสีเขียวที่ว่าภายในร้านมีให้เลือกหลายระดับ อ่อน เข้ม หรือสีที่ตัดกัน พนักงานร้านยังเอาออกมาให้ดู

ฉินเสี่ยวหรานเลือกผ้าด้วยความตั้งใจ เมื่อเห็นว่าสีไหนสวยก็นำมาทาบกับผิวของเจ้าของชุด ไม่เข้ากันก็แยกออก กว่าจะได้สีที่ตรงใจจริง ๆ ใช้เวลาไปสามชั่วโมง ไหนจะสีของเด็ก ๆ อีก

"แวะร้านอาหารก่อนครับ"

"ได้ค่ะ"

ร้านอาหารที่เว่ยเซียวเลือกเป็นร้านบะหมี่ที่ไม่มีคน เขาเลือกโต๊ะข้างในสุด ฉินเสี่ยวหรานไม่เรื่องมาก เธอเดินตามไปนั่งลงพร้อมสั่งบะหมี่หนึ่งชาม

เว่ยเซียวขยับตัวเบา ๆ สองครั้งก่อนถาม "บ้านฉินจะมาอยู่ในกองทัพตลอดเลยหรือไม่"

"ค่ะ พวกเราจะอยู่ที่นี่จนกว่าบ้านพักจะเต็มแล้ว"

เนื่องจากบ้านพักทหารเป็นสวัสดิการจากกองทัพ และยังมีบ้านพักหลายหลัง ต่อให้เกษียณไปแล้วก็ยังสามารถอยู่ต่อในกองทัพได้ ยกเว้นบ้านพักจะเต็ม ทหารที่เกษียณต้องย้ายออกจากที่นี่ หรือถ้ามีคนทำงานในกองทัพก็สามารถพักต่อได้

อีกทั้งการย้ายมาอยู่ในกองทัพไม่ใช่เหตุผลเพียงเพราะพ่อฉินได้เลื่อนยศเท่านั้น ย่าฉินไม่พอใจที่แม่ของเธอมีเพียงลูกสาวสองคนและไม่มีลูกชายให้สามี ต้องการให้พ่อฉินแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ที่สามารถคลอดเด็กผู้ชายอ้วนกลมให้แก่พ่อได้ ถึงจะเหมาะสมกับยศพันตรี

แต่พ่อฉินไม่ยอม ตอนแต่งงานก็ถูกบังคับ ในตอนนี้รักกันดีกับภรรยาทำไมต้องแต่งงานใหม่อีก จึงยื่นขอบ้านพักก่อนกลับไปที่หมู่บ้านในชนบท แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ย่าฉินก็พาเด็กรุ่นลูกมาที่บ้าน พ่อฉินโมโหขอแยกบ้าน และพาภรรยากับลูกสาวมาที่กองทัพ

ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าจะย้ายหลังฉินเสี่ยวหรานกับฉินเสี่ยวหลิงจบมัธยมปลายและมัธยมต้น แต่ต้องผิดแผน และพ่อฉินยอมถูกด่าว่าอกตัญญูดีกว่าไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงอายุคราวลูกสาว

ฉินเสี่ยวหรานที่รู้เรื่องนี้ได้แต่โมโหในใจและทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อพวกเธอไม่สามารถที่จะกลับไปที่หมู่บ้านได้อีก ก็ถูกไล่มาเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนั้น

"ในกองทัพมีหลายหน่วยงานให้ทำ เมื่อชอบการตัดเย็บก็ลองเข้าไปทำงานในโรงตัดเย็บดูสิ" เว่ยเซียวแนะนำ "เงินเดือนในกองทัพยังดีกว่าหางาข้างนอกทำ"

ฉินเสี่ยวหรานไม่ตอบ เธอก้มหน้ากินบะหมี่ที่มาเสิร์ฟ การตัดเย็บของเธอตอนนี้ยังมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ในอนาคตที่จะถึงเธอจะกลายเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าให้ได้

การค้าขายต้องบอกว่าเป็นทางลัดสู่ความร่ำรวยเร็วที่สุดแล้ว เธอต้องวางแผนอีกหลายอย่างเพื่อรับมือ พ่อแม่ของเธอต้องสบาย และไม่ต้องทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน

ใช้เวลาสามสิบนาทีในการกินบะหมี่ เว่ยเซียวใช้ความเร็วในการจ่ายเงินและเดินออกจากร้าน เขาเดินเข้าร้านค้าร้านนี้เดินออกร้านนั้น ฉินเสี่ยวหรานเดินตามไม่ทันจึงขอรอที่รถแทน

เมื่อได้ของครบแล้ว ทั้งสองจึงกลับไปยังกองทัพเพื่อนำของไปเก็บและจะได้แยกย้ายกัน ฉินเสี่ยวหรานก็เหลือบมองถุงกระดาษหลายถุงที่พันตรีเว่ยซื้อมา

"แม่ของผมซื้อให้" เว่ยเซียวยื่นถุงกระดาษให้หญิงสาวที่มองอย่างงง ๆ หลังนำม้วนผ้าเข้าไปเก็บในห้อง

"คุณนายเว่ยซื้อให้จริง ๆ หรือคะ"

ในเมื่อไปด้วยกันสองคน และยุคนี้ไม่มีใครใช้โทรศัพท์ติดตัว จะซื้อให้ได้อย่างไร เหมือนเว่ยเซียวจะรู้ทันความคิด เขาจึงเอ่ยตอบ "อืม ก่อนที่จะมารับเธอน่ะ"

"ฝากขอบคุณคุณนายเว่ยด้วยค่ะ"

"อืม"

ในเมื่อผู้ใหญ่ให้ของ ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่เสียมารยาท เธอรับของเอาไว้ มองรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้าน ก่อนจะรีบเข้าไปในบ้านเพื่อดูของที่พันตรีเว่ยบอกว่าคุณนายเว่ยซื้อให้

"หืม อาหารแห้ง?"

ฉินเสี่ยวหรานขมวดคิ้ว เมื่อของฝากปรากฏแก่สายตา ของทะเลแห้ง เนื้อแห้ง ผลไม้อบแห้ง และอาหารกระป๋องหลายกระป๋องวางอยู่ตรงหน้า ของพวกนี้มีราคาแพงพอสมควร เพราะเป็นของที่ทำมาแล้วและเก็บไว้ได้นาน

ยิ่งเปิดถุงสุดท้ายพบว่าเป็นเครื่องสำอางของผู้หญิงยิ่งตกใจ มันเหมือนเครื่องสำอางที่เธอมีอยู่ และฉินเสี่ยวหรานใช้มาแล้วเป็นปีเพราะต้องเก็บเงินซื้อ

คุณนายเว่ยซื้อให้จริง ๆ หรือ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 40 ครอบครัว (จบบริบูรณ์)

    เจ็ดปีแล้วที่ลิลลี่ ลลิลิล ได้มายังที่นี่ ได้ใช้ชีวิตเป็นฉินเสี่ยวหราน จากเด็กมัธยมปลายที่ตามพ่อแม่จากต่างเมืองมาใช้ชีวิตในกองทัพ สู่เจ้าของร้านเสื้อผ้าหรานหลิงที่เป็นที่จดจำของผู้คน มามีครอบครัวที่อบอุ่นสี่ปีที่ฉินเสี่ยวหรานได้แต่งงานมีครอบครัว หลังน้องสาวแต่งงานออกไปฉินเสี่ยวหรานก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านใหญ่ดูแลพ่อแม่ ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสามปีสำหรับการมีฉินเสี่ยวเว่ยลูกชายตัวน้อยของฉินเสี่ยวหรานกับเว่ยเซียว เขาเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน และฉินเสี่ยวหรานไม่ได้มีลูกเพิ่มด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี รัฐบาลจึงมีนโยบายลูกคนเดียว ยกเว้นชาวบ้านตามชนบทที่อนุญาตให้มีลูกสองคน ในกรณีลูกคนแรกไม่ใช่ลูกชาย อันที่จริงหากฉินเสี่ยวหรานอยากมีลูกคนที่สองเธอสามารถมีได้แต่ฉินเสี่ยวหรานต้องการทุ่มเทให้ลูกชายคนเดียวของเธอมากกว่า หากมีลูกก็ต้องหยุดทำงานไปอีก และฉินเสี่ยวหรานไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ไหน ๆ ก็มีลูกชายแล้ว"ฮ่า ๆ เสี่ยวเว่ยชิมนี่ดูสิ" ฉินเสี่ยวหรานยื่นแตงโมให้ลูกชายด้วยความเอ็นดู"แม่ ผมอยากกินแอปเปิล" ฉินเสี่ยวเว่ยส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็วฉินเสี่ยวหรานถอนหายใจ "แอปเปิลมัน

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 39 ปี 1987

    ฉินเสี่ยวเว่ยตามแม่ไปทำงานที่ร้านเสื้อผ้าทุกวัน และกลายเป็นดาวเด่นของร้าน ด้วยความที่เป็นเด็กพูดเก่ง ไม่งอแง และขี้อ้อน ลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าโดนเด็กชายตกแบบงง ๆ เวลาตามแม่ของเขามาทำงานก็จะได้รับขนมติดมือมาตลอดแต่ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ให้ลูกของเธอกินขนมพวกนี้ เนื่องจากว่าเป็นขนมที่เด็กไม่ควรกิน อีกทั้งไม่รู้ว่าคนให้ใส่อะไรมาบ้าง ป้องกันได้ก็ควรป้องกันเอาไว้ก่อน และฉินเสี่ยวเว่ยก็รับของมาทุกวันวันไหนที่ลูกชายของฉินเสี่ยวหรานออกมาหน้าร้านก็จะมีลูกค้ามามุงดู แต่ถ้ามาที่ร้านแต่อยู่ภายในห้องก็เยอะเหมือนกันแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นวันที่เจ็ด เดือนมีนาคม ปี1987 เหยาหนานและบ้านเหยามาสู่ขอฉินเสี่ยวหลิงไปเป็นสะใภ้ หลังฉินเสี่ยวหลิงตกลงคบหากับเหยาหนานได้หนึ่งปีเต็ม ต้องบอกว่าบ้านเหยานั้นรีบมาก กลัวจะไม่ได้ฉินเสี่ยวหลิงเป็นสะใภ้ ถึงขั้นมาขอหมั้นตั้งแต่ที่รู้ว่าทั้งสองคบกันแรก ๆ ด้วยซ้ำเพียงแต่ฉินเสี่ยวหรานถามน้องสาวแล้ว และทั้งสองลงความเห็นกันว่ารออีกหน่อย รอให้ฉินเสี่ยวหลิงใช้ชีวิตอีกสักปี และพอครบพวกเขาก็รีบมาทันทีครั้งนี้ฉินเสี่ยวหรานอนุญาต น้องสาวของเธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและพร้อมที่จะมีสามีแ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 38 กลับไปทำงาน

    ฉินเสี่ยวหรานต่อเติมคูหายื่นออกมาจากตึกร้านเสื้อผ้าหรานหลิงเพื่อใช้ในการเปิดร้านขายดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่นำมาขายเป็นดอกไม้ในที่ดินของสามีฉินเสี่ยวหรานเอง แต่ว่าสองสามีภรรยาเปิดร้านนี้ให้พ่อแม่ฉิน โดยที่ช่วยจ่ายค่าอื่น ๆ แต่พ่อแม่ของฉินเสี่ยวหรานรับเงินเพียงเท่านั้นที่จริงแล้วทั้งสองไม่คิดว่าจะขายดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่ว่าดอกไม้ที่ได้พันธุ์มาจากสวนผักของโรงแรมในตอนนั้นเกิดขายดีขึ้นมา และเพาะปลูกไม่ทันจึงนำดอกไม้ที่ปลูกในไร่ออกมาขาย ใครจะคิดว่ามันก็ขายได้ จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่ร้านดอกไม้ที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ว่าในแต่ละวันมีรายได้เดือนละมากกว่าร้อยหยวน เงินส่วนต่างจ้าวหยู่ฟางเก็บไว้ให้หลานชายทั้งหมดในตอนนี้ฉินเสี่ยวเว่ยอายุสองขวบแล้ว ฉินเสี่ยวหรานที่ติดลูกชายก็ได้ฤกษ์กลับไปทำงานสักที ตลอดสองปีที่ผ่านมาถึงแม้จะดูแลทางเบื้องหลังมาตลอด แต่ฉินเสี่ยวหรานก็ไม่ได้เข้าไปดูหน้าร้าน เพราะบางครั้งคนเยอะก็ไม่อยากให้ลูกชายไป อีกอย่างแม่ของเธอยังสนับสนุน ไป ๆ มา ๆ ก็เข้าสองปี"วันนี้จะเอาเสี่ยวเว่ยไปด้วยหรือ แม่ว่าลูกไปทำงานก่อนไหม ตอนบ่ายแม่จะพาหลานไปที่ร้านเอง" จ้าวหยู่ฟางมองหลานชายที่แม่ของเขาแต่งตัวใ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 37 ฉินเสี่ยวเว่ยหนึ่งขวบ

    เผลอแป๊บเดียวฉินเสี่ยวเว่ยก็อายุหนึ่งขวบแล้ว เป็นหนึ่งปีที่บอกได้ว่าฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ไปทำงานนอกบ้าน เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกเองหนึ่งปีเต็ม ๆ เนื่องด้วยว่าจู่ ๆ ช่วงหลังมานี้น้ำนมค่อนข้างเยอะมาก ถ้าไปทำงานกลัวว่าเชื้อโรคข้างนอกจะติดตัวมาด้วย ฉินเสี่ยวหรานจึงมอบหน้าที่ตรงนี้ให้กับแม่ของเธอแทนบ้านฉินไม่พลาดที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งปีของฉินเสี่ยวเว่ย หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลายของฉินเสี่ยวหลิงเมื่อกลางปีที่แล้ว บ้านฉินก็ไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรอีก วันนี้จึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ฉินเสี่ยวหลิงเดินหน้าทำงานในหน่วยแพทย์ของกองทัพ ตอนนี้ได้รับการเลื่อนยศแรกของหน่วยแพทย์แล้ว รอสอบเลื่อนขั้น ที่สำคัญคือเธอมีผู้ชายมาตามจีบคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอื่นที่ไหน เป็นเหยาหนานที่ไปรับภารกิจนอกกองทัพนานหลายปี มาเจอฉินเสี่ยวหลิงที่วันฉลองการจบการศึกษาถึงได้ตามจีบ โดยมีคุณนายเหยากับพันโทเหยาผู้เป็นพ่อแม่สนับสนุนฉินเสี่ยวหรานไม่ได้ต้องการจัดงานใหญ่โต แต่ว่าพอนับดูจำนวนคนแล้วได้เป็นร้อยคน ฉินเสี่ยวหรานรู้ว่าการทำอาหารมันเหนื่อยมาก รอบนี้ถึงได้แตกต่างจากครั้งอื่น ตรงที่ว่าฉินเสี่ยวหรานนั้นจ้างแม่ครัวมาทำอาหารให้ อาหาร

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 36 ฉินเสี่ยวหลิงเรียนจบแล้ว

    ช่วงเวลาที่ฉินเสี่ยวหรานคิดว่าผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ว่าลูกชายของเธอก็ได้หกเดือนแล้ว และฉินเสี่ยวหลิงน้องสาวของเธอก็เรียนจบมัธยมปลาย ยังจำปีนั้นที่เข้ามาเรียนได้อยู่เลย เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆฉินเสี่ยวหลิงชื่นชอบในวิชาแพทย์ ได้ศึกษางานมานานถึงสามปี จึงตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และขอขมาพ่อแม่รวมถึงพี่สาวที่ไม่อาจไปเรียนต่อตามความหวังได้ เพราะงานในกองทัพที่เธอทำจนอยู่ตัวไม่ต้องผ่านการประเมินก่อน ที่สำคัญไม่มีการทดสอบ รวมถึงเงินเดือนที่ได้รับก็ได้เป็นจำนวนมาก สวัสดิการก็ดีสำหรับฉินเสี่ยวหรานกับพ่อแม่ พวกเธอไม่ได้ว่าน้องสาวในเรื่องนี้ การที่อีกฝ่ายตัดสินชีวิตของตัวเองได้แล้ว มีเพียงการสนับสนุนเท่านั้นฉินเสี่ยวหรานอุ้มลูกชายวัยหกเดือนนั่งตรงโต๊ะที่สั่งทำ พร้อมกับวางจานอาหารให้เขาได้จับกิน มันเป็นการกินชนิดหนึ่งพ่อแม่ไม่ต้องป้อนและสอนให้เขากินข้าวเป็นตลอดหกเดือนที่่ผ่านมาเธอเลี้ยงลูกด้วยวิธีของตนเอง อาหารที่บำรุงน้ำนมที่เขาว่าดีก็ให้แม่ทำให้ ช่วงหลัง ๆ มาพอจะมีน้ำนมบ้างก็ไม่ให้ดื่มนมผง เป็นหกเดือนที่ฉินเสี่ยวหรานบำรุงตัวเองจนมีเนื้อมีนวลและสามีคอยตามหวง"เสี่ยวเว่ย น้าเล็กทำ

  • ดีไซเนอร์สาวทะลุมิติมาเปิดร้านเสื้อผ้าในปี 1980   ตอนที่ 35 ลูกชายตัวอวบอ้วน

    แต่ก่อนการคลอดลูกในเดือนธันวาคมเป็นอะไรที่ลำบากมาก นอกจากอากาศที่หนาวแล้วยังต้องอด ๆ อยาก ๆ แต่ค่านิยมของคนในชนบทก็คือยิ่งมีลูกเยอะยิ่งดียังดีที่ฉินหานกับภรรยาเล็งเห็นว่าตรงนี้คือปัญหาที่ทำให้บ้านลำบาก พอมีลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงเขาก็ไม่ได้มีคนที่สามต่อ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่บ้านของเขาถูกคนอื่นมองว่าแปลก ยิ่งไม่มีลูกชายยิ่งต้องมีลูกเพิ่มในตอนนี้บ้านฉินมีเงินแล้ว ไหนจะบ้านของสามีที่รับขวัญหลานหลายพันหยวน จึงไม่ได้ลำบากอะไร ในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากปล่องไฟที่ฉินเสี่ยวหรานออกแบบมาเอง และภายในตัวบ้านคืออบอุ่นมากฉินเสี่ยวหรานคลอดลูกชายตัวอวบอ้วน ตั้งชื่อว่าฉินเสี่ยวเว่ย ฉินเสี่ยวมาจากแซ่และชื่อตัวแรกของแม่ ส่วนเว่ยมากจากแซ่ของพ่อ ในตอนแรกฉินเสี่ยวหรานจะตั้งว่าฉินเสี่ยวเซียว แต่พอคิดอีกทีเอาฉินเสี่ยวเว่ยจะดีกว่าฉินเสี่ยวเว่ยคลอดมาได้เพียงสิบวันเหล่าคุณย่า คุณยายต่างเดินทางมารับขวัญหลาน แต่ละคนที่รับขวัญหลานนอกจากบ้านเว่ยแล้ว แต่ละคนล้วนให้ไม่ต่ำกว่าร้อยหยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมาก"ดูสิ ตั้งแต่ออกมาก็ตัวอวบอ้วนแล้ว ตอนนี้ยังดื่มนมเก่งตุ้ยนุ้ยเชียว" คุณนายเว่ยที่อาบน้ำเสร็จแล้วเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status