"กลับมาคบกันไม่งั้นฉันจะบอกพ่อแม่เธอเรื่องคืนนั้นที่ฉันเอาเธอแล้ว"
ดูเพิ่มเติมณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
เด็กสาวหน้าตาน่ารักผิวพรรณสดใสเธออยู่ในชุดเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีกำลังนั่งเตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำพูดของเธอหลังจากที่เขาพึ่งจะพูดคำว่า ‘เลิก ’ออกไป “พี่เวหา~ นี่พี่คิดจะทิ้งพิงค์กี้ใช่มั้ยคะ” เด็กสาวชั้นมัธยมปลายพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะเอาเรื่องชายหนุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดอกแน่นซึ่งท่าทางรวมไปถึงน้ำเสียงเล็กแหลมของเธอทำให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหันเมินเธอทันที เวหานั่งนิ่งพลางหันมองไปทางอื่นแต่แล้วสายตาคมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เธอคนนี้สวยหวานใบหน้าสดใสน่ารัก รูปร่างกำลังดีมองไปมองมาก็เหมือนกับว่าเขาคุ้นๆและอาจจะรู้จักเธอ “พี่เวหามองอะไรของพี่!!” พิงค์กี้ที่มองไปตามสายตาของเวหาก็เห็นเข้ากับเธอคนนั้นผู้หญิงที่เวหากำลังจ้องมองอยู่ไม่รอช้าหญิงสาวเริ่มเกิดอาการหึงหวงจนเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน มือเล็กจับเข้าที่ท่อนแขนกำยำพลางดึงรั้งให้ชายหนุ่มรุ่นพี่หันกลับมามองที่เธอ “อะไรของเธอวะ!!” หนุ่มมัธยมปลายที่โดนดึงรั้งร่างกายก็เริ่มระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่จึงได้ส่งเสียงดังตวาดใส่รุ่นน้องสาวจนร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยโดนเขาพูดเสียงดังแบบนี้ด้วยเลยสักครั้งใบหน้าสวยเริ่มเบะปากราวกับเด็กน้อยที่โดนรังแก เวหาที่เห็นดังนั้นก็อึ้งแต่เขาไม่ได้สงสารหรือเข้าใจอะไรในตัวเธอหรอกนะที่อึ้งก็แค่งงๆว่าเธอทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ใส่เขาความเบื่อหน่ายและไม่อยากพูดคุยเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นวันนี้เขาต้องจบเรื่องเธอกับเขาให้ได้ พิ้งค์กี้ที่ผ่านมาเธอก็ทำตัวน่ารักดีหรอกนะ เชื่อฟังว่าง่ายเก็บเรื่องของเขาและเธอไว้เป็นความลับได้ดีแต่พอพักหลังๆมาทำไมเธอเปลี่ยนไปก็ไม่รู้ทั้งจ้องจับผิดหาเรื่องขอดูโทรศัพท์มือถือของเขาอีกทั้งยังห้ามไม่ให้เขามองผู้หญิงคนไหนสักคน เธอทำตัวเองทั้งนั้นแค่อยู่เฉยๆทำตัวน่ารักๆเขาและเธอก็คงจะได้แอบกินกันต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องมาจบความสัมพันธ์แบบนี้เพราะเธอเองนะที่ทำให้เขาต้องทำแบบนี้ทำตัวประดุจดัง ‘แฟน’ ของเขาทั้งที่ก็ไม่ใช่!! เวหาสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่แล้วจึงถอนหายใจออกมา ความรู้สึกรำคาญเธอคนนี้มีเพิ่มมากขึ้นทุกวันจนมาถึงวันนี้ วันที่เขาเริ่มทนไม่ไหวจึงได้นัดเธอคนนี้ให้มาพบเพื่อที่จะได้จบความสัมพันธ์ลับๆของเขาและเธอสักที “จะเรียกว่าทิ้งได้ยังไงในเมื่อพวกเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน!!” เวหาปรายตามองเด็กสาวรุ่นน้องที่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยบอกเธอไปแล้ว “ไม่นะคะ..” สิ้นเสียงของเวหาเธอคนนั้นก็รีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้พร้อมกับนำมาแนบเข้าที่ใบหน้าเรียวสวยของตัวเอง “พิ้งค์กี้รักพี่เวหามากนะคะแล้วพวกเราก็..เอากันไปแล้ว” เธอค่อยๆขยับร่างกายเข้าใกล้ร่างกำยำของผู้ชายตรงหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีกี่สายตาที่มองมายังเธอและเขา คนที่ตัวสูงกว่าดันร่างเล็กให้ห่างออกจากตัวเขาก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเขาเองก็ได้เคยพูดบอกเธอไปแล้ว “แล้วไงในเมื่อวันนั้นพี่บอกเธอแล้วว่าพี่ไม่คิดที่จะจริงจังกับเธอหรือแม้แต่กับใครทั้งนั้นเพราะว่าพี่มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว!!” ชายหนุ่มตัวร้ายหยิบยกเรื่องคู่หมั้นที่ซึ่งตัวเขาเองก็พึ่งจะนึกขึ้นได้ในตอนที่พูดบอกเธอไปเมื่อครู่นี้ “ว่าไงนะ!! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของพี่ เมื่อกี้พี่ยังพูดอยู่เลยว่าจะไม่คิดจริงจังกับใคร นี่พี่มีคู่หมั้นแล้วเหรอคะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกกัน” พิงค์กี้เบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของรุ่นพี่หนุ่มที่เธอรัก เธอและเขาได้แอบมีความสัมพันธ์กับแบบลับๆเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้วและเป็นตัวเธอเองที่เป็นฝ่ายขอเริ่มความสัมพันธ์บ้าๆพวกนี้ขึ้นมาโดยที่เขาก็ได้บอกเธอไว้แล้วว่าเขาไม่คิดที่จะจริงจังกับเธอหรือแม้แต่กับใครทั้งนั้นซึ่งเธอก็ยอมรับและตกลงที่จะนอนกับเขา ก็นะ..พี่เวหาเขาทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังตรงสเปคเธอเป็นอย่างมากแล้วเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไม่ชอบเขาด้วยละได้กินของดีแถมยังอร่อยเลิศล้ำเป็นใครจะไม่เอาบ้างถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องเอาตัวเข้าแลกก็เถอะแต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไปซึ่งเธอก็ไม่ได้อะไรมากหรอกนะก็เพราะพี่เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอนี่ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าเขาว่าพี่เขาจะหาเรื่องเทเธอได้เร็วถึงขนาดนี้!! “คนนี้พ่อแม่พี่เลือกให้” เวหายิ้มอย่างผู้ชนะพร้อมทั้งเหลือบตามองรุ่นน้องสาวที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาตาเขม็งใบหน้าเรียวสวยโกรธจัดจนแก้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อซึ่งชายหนุ่มที่ซึ่งไม่คิดที่จะสนใจเธออยู่แล้วก็เลือกที่จะไม่สนใจอะไรไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็จะต้องสลัดเธอทิ้งให้ได้ “สรุปก็คือพี่หลอกเอาพิ้งค์กี้ใช่มั้ยไม่ต้องมาพูดอะไรให้มันเยอะแยะหรอกนะคะ” พิงค์กี้รุ่นน้องสาวคนสวยยืนกำหมัดแน่นในแววตามีแต่ความเคืองโกรธอย่างเห็นได้ชัดที่ผ่านมาก็มีที่เคยคิดเอาไว้บ้างว่ายังไงก็คงต้องมาถึง “เฮ้อ~ อยากคิดอะไรก็แล้วแต่เธอแล้วกัน” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นคนที่เขามองเธออยู่ได้เดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทันใดนั้นหัวสมองพลันนึกอะไรสนุกๆขึ้นมาจนได้ “นั่นไงเธอคนนั้นมาแล้ว ว่าที่คู่หมั้นของฉัน” เวหาชี้มือไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับบอกคนตัวเล็กไปว่าเธอคนนั้นนั่นแหละก็คือว่าที่คู่หมั้นของเขา ร่างหนาไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอคนนั้นให้รู้เรื่องเสียก่อนที่เธอจะทำเรื่องแดงขึ้นมาด้วยความไม่รู้และเมื่อเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นไอ้หัวใจดวงน้อยๆของเขาก็เริ่มใจเต้นแรงขึ้นและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาใจเต้นแรงให้กับผู้หญิง อย่าบอกนะว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าให้แล้ว เวหาเดินไปหยุดยืนขวางทางเธอเอาไว้ทำให้ร่างบางที่กำลังเดินเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาด้วยความงงงวยและเขาไม่รอช้าที่จะขอคุยกับเธออย่างเร่งด่วนฉับพลัน “นี่ขอคุยด้วยหน่อย” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับมือที่เอื้อมไปจับเข้าที่ข้อมือเรียวเล็กของเธอคนนั้นอย่างถือวิสาสะยอมรับเลยว่าใจเต้นแรงยามที่มองสบตาคู่สวย เธอสวยมากขนาดที่ไม่ได้แต่งหน้าหน้าสดก็ยังสวยหวานราวกับหยดน้ำผึ้งเดือนห้า ปากนิดจมูกหน่อยผิวก็ขาวอมชมพูทำเขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย “คะ คุยกับเราเหรอ?” เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองสายตาก็มองไปยังบริเวณข้อมือเล็กของตัวเองที่ตอนนี้กำลังโดนเขาเกาะกุมมือของเธออยู่และด้วยความตกใจจึงทำให้สมองคิดประมวลผลช้าไปหมด เชอรีนเดินตามเขาไปเรื่อยๆทั้งๆที่ใบหน้าสวยใสก็ยังมึนงงอยู่ว่าเขาคนนี้คือใครกันนะ “ใช่ มาคุยกันหน่อย” เวหาเดินจับข้อมือเล็กค่อยๆเดินมาตามทางแต่แล้วเชอรีนที่เริ่มพลันคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองต้องดิ้นต้องไม่ยอมให้เขาเดินจูงมือเธอแบบนี้ก็เริ่มขัดขืนแสดงความต้องการของตัวเองว่าไม่อยากที่จะเดินไปกับเขา “นี่ปล่อยนะ! อยากคุยอะไรก็คุยตรงนี้ไม่รู้จักกันอยู่ดีๆมาจับมือได้ไง หรือว่าเป็นพวกโรคจิต?” ร่างบางสะบัดมือออกจากการจับกุมของเขาและเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีเวลาแล้วฉันจะพูดกับเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!!” เวหาหันมาพูดแล้วยิ้มขึ้นที่มุมปากบอกเธอในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะพาไปนั่งอธิบายแล้วคงจะพูดได้เพียงเท่านี้อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด “....” “ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย”1 อาทิตย์ต่อมาณ งานแต่งงานของนายพชรดนัย & นางสาวชนัญชิดา“ยินดีกับพวกแกด้วยนะ นี่เวหาดูแลเพื่อนฉันให้ดีๆด้วย” เพียวเดินเข้าไปจับมือเล็กของเชอรีนที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างกายเวหาโดยที่มาร์ชก็ยิ้มอย่างเห็นด้วย เขายินดีกับทั้งเวหาและเชอรีนเป็นอย่างมาก เชอรีนที่ได้ยินเพื่อนรักร่วมแสดงความยินดีก็รีบตอบกลับไปตามประสาเพื่อนสนิทที่ชอบหยอกเย้ากัน“แล้วเมื่อไหร่มาร์ชจะขอเพียวแต่งงานสักที เรารอไปงานอยู่นะ” เพียวทำเพียงแค่ยิ้มเจื่อนเพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนหนุ่มจะขอเธอแต่งงานเมื่อไหร่ มาร์ชมองไปยังแฟนสาวที่กำลังยิ้มแห้งมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคิดอะไรอยู่ ไม่รีรอให้เธอได้คิดอะไรไปเรื่อยมือหนารีบเอื้อมไปกอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ทันที“เร็วๆนี้แหละ”“จริงเหรอ” เพียวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อนั้นด้วยใจที่เต้นแรงพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีใจ จากหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับมากระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาอีกครั้ง พวกเขาสบสายตาส่งยิ้มให้แก่กันทำเอาวิเวียนที่ยืนอยู่กับออสตินเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้เบาๆแต่ก็แอบอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เพื่อนทั้งสองรักกันอย่างหวานซึ้ง“ชิ สองคนนี้นี่ไปหวานกันไกลๆเลย วันนี้เชอรีนของพวกเ
-ห้องนอนเวหา เชอรีน-“แล้ววันงานคือวันไหนเหรอ” ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องแล้ว เชอรีนรีบถามไปยังแฟนหนุ่มทันทีเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเขาได้จัดเตรียมงานไปถึงขั้นไหนแล้ว เวหารีบเดินเข้ามาโอบกอดเชอรีนจากทางด้านหลัง“อาทิตย์หน้า” ทันทีที่ได้ยินว่าอาทิตย์หน้าใบหน้าสวยก็อ้าปากค้างเพราะมันเหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นแล้วแบบนี้เธอกับครอบครัวจะเตรียมตัวกันทันหรือ“แล้วจะทันเหรอ”“ทันแน่นอน งานถูกจัดเตรียมไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จะเหลือก็แค่กลับไปลองชุดแต่งงานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้วก็แจกการ์ดเท่านั้น งั้นเวโพสต์ลงโซเชียลไว้ก่อนเลยแล้วกัน ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของพวกเราจะได้เตรียมหาซื้อเสื้อผ้าไว้ได้ทัน”“อืม ขอบคุณมากนะที่ทำเพื่อเราขนาดนี้” เชอรีนพยักหน้าอย่างคนที่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้เธอรู้สึกอยากขอบคุณผู้ชายคนนี้มากถึงมากที่สุดที่ยังคงรักและรอคอยเธอเสมอมาแม้ว่าเธอนั้นจะทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย“ก็เมียทั้งคน เชอ..” เวหายิ้มด้วยความเต็มใจอีกทั้งก็จงใจเรียกชื่อแฟนสาวเมื่อนึกขึ้นได้ว่า...“อะไรเหรอ”“ใส่ชุดนั้นให้ดูหน่อยได้มั้ย” เขาชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของคนทั้งคู่ เชอรีนที่ย
“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่” คนที่โดนกระทำย่นคอหลบหนีสัมผัสที่กำลังได้รับอย่างเขินอายพร้อมทั้งกล่าวดักคอแฟนหนุ่มด้วยคำพูดที่รู้ทัน เวหาหัวเราะในลำคอกระซิบตอบกลับพร้อมพรมจูบไปตามลำคออย่างตั้งใจ“รู้ว่าอะไร รู้จริงหรือเปล่า” มือหนาเคลื่อนไปกอบกุมหน้าอกอวบอิ่มคัพดีตรงหน้า บีบขยำพร้อมกันสองข้างอย่างถ้วนทั่ว เชอรีนที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่จึงดึงมือซุกซนของเขาให้ออกห่างจากหน้าอกของตัวเองแล้วหันหลังจ้องมองเขาด้วยสายตาอ้อนๆ“ไว้คืนนี้แล้วกัน ตอนนี้เราเหนื่อยอยากนอนพักมากเลย เวไม่เหนื่อยหรือไงขับรถมาตั้งนาน แล้วเรื่องแบบนั้นก็ต้องใช้แรงนะ” เธอพูดโน้มน้าวจิตใจแฟนหนุ่มจนเขาพยักหน้าคล้อยตามพร้อมกับสวนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่แฟนสาวของเขาเป็นฝ่ายที่นัดเย็xในคืนนี้“หึ~ พูดแล้วนะ”เชอรีนจูงมือเวหาไปยังเตียงนอนที่มีขนาดใหญ่ คนทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนนั้นพร้อมกับค่อยๆล้มตัวลงนอน ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกหยิบขึ้นมาใช้ปกคลุมร่างกาย อุณหภูมิของแอร์ในห้องกำลังพอดีไม่หนาวหรือไม่ร้อนจนเกินไปทั้งสองนอนกอดก่ายซึ่งกันและกันแล้วเพียงไม่นานพวกเขาก็หลับใหลไปในที่สุด...19.00น.ทันทีที่ตื่นขึ้นทั้งเวหาและเชอรีนต่างก็เปล
อึก!!เชอรีนกลืนของเหลวสีขุ่นลงสู่ลำคอพร้อมทั้งยกมือเช็ดคาบน้ำที่เปรอะเปื้อนออกจากมุมปากของตัวเอง เธอผละริมฝีปากออกจากความใหญ่โตตรงหน้า มือเล็กแตะลงบนหน้าขาของเขาอย่างตั้งใจ ในเมื่อเสร็จกิจเรียบร้อยแล้วก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องรีบไปอาบน้ำกันได้แล้ว“ปล่อยได้แล้วจะรีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวไม่ทันเวลา”เวหาที่ได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เชอรีนรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรงเพียงแค่มองหน้าเขาภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ผุดเข้ามาในหัว เธอส่ายหน้าไปมาแล้วรีบลุกขึ้นยืน“เราไปอาบน้ำก่อนนะ”“งั้นขอเวอาบด้วยคนนะจะได้เร็วขึ้นไง” เวหาลุกยืนตามแฟนสาวเขาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวโดยที่เธอนั้นทำได้แค่เพียงพยักหน้าเบาๆ เวหาเดินลงจากเตียงแล้วเดินดุ่มๆไปยังห้องน้ำทันที 30 นาทีต่อมาบนรถ“พวกเราจะไปกันที่ไหนเหรอ” ในขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยถามไปยังแฟนสาวของตัวเองที่กำลังมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ เชอรีนเงยหน้าหันมาให้ความสนใจไปกับคนข้างกาย เธอยิ้มอย่างสดใสยกชูหน้าจอมือถือให้เขาได้เห็นรูปภาพของบ้านพักพูลวิลล่าหลังใหญ่ที่พวกเรากำลังจะไป“เราลืมบอกเวไปเลย พวกเราจะไประยองกันนี่ไงรูปบ้าน หลังใหญ่ดีว่ามั้
-1 อาทิตย์หลังจากงานรับปริญญาเสร็จสิ้น-เสียงมือถือปลุกเตือนดังขึ้นร่างบางหยัดกายลุกขึ้นนั่งปลุกแฟนหนุ่มที่ยังคงนอนหลับใหลอย่างไม่มีสติ มือเล็กยกขึ้นสะกิดไปยังแผ่นหลังของเขาอย่างเบามือ “ตื่นได้แล้วเว วันนี้พวกเรามีนัดไปเที่ยวกับที่บ้านนะ ลืมไปแล้วเหรอ ทำไมยังไม่ตื่นอีกเนี่ย” เธอสะลึมสะลือส่งเสียงโวกเวกโวยวายออกมาเมื่อพยายามปลุกเท่าไหร่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาซะที สงสัยอาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาดื่มเหล้าเข้าไปด้วยแน่เลยจึงทำให้เรียกยากแบบนี้คือแบบนี้นะคะทุกคน เมื่อคืนพวกเราไปดื่มฉลองเรียนจบที่ผับของสายฟ้ากันมาค่ะ ไปกันครบทุกคนเลยนะทั้งกลุ่มของเชอรีนและกลุ่มของเวหาเขา... “เมื่อคืนก็ดื่มไปนิดเดียวเองนี่แล้วทำไมถึงได้นอนตื่นยากแบบนี้” เธอบ่นไปตามประสาก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำแล้วค่อยกลับมาเรียกเขาอีกรอบ “เฮ้อ~ ช่างเหอะไปอาบน้ำดีกว่า อะ!” เชอรีนลุกขึ้นยืนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่เวหาลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับดึงข้อมือของแฟนสาวให้ร่วงหล่นล้มไปทับร่างกายของเขาเข้าอย่างจังว๊าย!!เชอรีนร้องอุทานเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆร่างกายของเธอก็ถูกดึงล้มลงไปทับอยู่บนตัวของเขาแ
“ใครเหรอลูก” พ่อเอ่ยถามด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะร้อยวันพันปีลูกสาวเขาไม่เคยพาใครมาแนะนำตัวให้รู้จักแบบนี้เลย สงสัยคนนี้ต้องเป็นคนที่พิเศษมากๆแน่“แฟนเชอรีนเองค่ะ นั่นไงคะเวหาเดินมานั่นแล้ว” เธอชี้มือไปทางด้านหลัง พ่อกับแม่ต่างก็มองตามๆกันแล้วก็พบว่าได้มีผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาเวหาเดินมาหยุดยืนตรงหน้าพ่อกับแม่สายตาแลมองไปยังชะเอมเล็กน้อย“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมชื่อเวหานะครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เวหายกมือขึ้นไหว้ไปยังบุคคลทั้งสองพร้อมทั้งกล่าวแนะนำตัวเองออกไป พ่อกับแม่รีบรับไหว้ยิ้มรับด้วยความเอ็นดูสายตาของท่านทั้งสองดูอบอุ่นมากเหลือเกิน...“สวัสดีค่ะพี่เวหา พ่อแม่คะเขาเป็นรุ่นพี่ชะเอมที่มหาลัยค่ะ” ชะเอมยกมือไหว้ไปยังพี่เวหาก่อนที่จะเอ่ยแนะนำพี่ชายคนใหม่คนนี้ออกไป“หวัดดีลูก ไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นจะดีกว่า” แม่ชวนเวหาพร้อมกับทุกๆคนไปนั่งยังโซนห้องนั่งเล่นซึ่งทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็พากันเดินตามแม่ไปติดๆเพราะก็คิดว่าที่ห้องนั้นน่าจะนั่งกันสบายมากกว่าและเมื่อได้มานั่งกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วแม่ก็ได้ถามไปยังเวหาอีกครั้ง“เรานี่หน้าคุ้นๆเหมือนกันนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”“ใ
ความคิดเห็น