공유

บทที่  7 ความสัมพันธ์ในอดีต(2)

last update 최신 업데이트: 2025-02-20 14:35:47

“ฉันคือญาติของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ!”

ซ่งเจียซินหยุดเท้าที่หน้าพยาบาลสาวแล้วรายงานตัว

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ฉัน...”

“เธอเป็นแม่ของพวกเราครับ”

หลี่จื่อหมิงเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ามีท่าทีอึดอัด มือเล็กกำหมัดแน่น รู้ดีว่าในใจของเสวี่ยชิงหยวนผู้นี้ไม่เคยคิดว่าพวกเขาสามพี่น้องเป็นลูก แต่ในเวลานี้พวกเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ การตัดสินใจทางการแพทย์จำเป็นต้องให้เธอที่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วรับรอง ดังนั้นไม่ว่าเธอจะยินดีหรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องให้เธอยอมรับสถานะนี้ชั่วคราวเพื่อให้การรักษาหลี่จื่อรั่วไม่มีปัญหา

ซ่งเจียซินตกใจกับคำตอบของเด็กชาย แต่ก็รู้สึกดีที่เด็กชายรู้จักประเมินสถานการณ์ และวางตัวได้เหมาะสม

“ใช่ค่ะ... ฉันเป็นแม่ของจื่อรั่ว”

“เช่นนั้นเชิญคุณทางนี้เลยค่ะ คุณหมอโจวรออยู่”

พยาบาลสาวผายมือแล้วเดินนำทางซ่งเจียซินไปยังห้องข้าง ๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องแพทย์ซ่งเจียซินก็ชะงักเท้าเล็กน้อย ปรายตามองเด็กชายด้านหลังแล้วเอ่ยถามพยาบาลตรงหน้าด้วยท่าทางสุภาพ

“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าฉันสามารถพาลูก ๆ และคนติดตามเข้าไปด้วยได้ไหม”

แม้ซ่งเจียซินจะรู้ว่าสิ่งที่แพทย์ในห้องต้องการพูดคุยคืออาการเจ็บป่วยของหลี่จื่อรั่ว แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้เหมาะสมให้เด็กชายด้านหลังรับรู้หรือไม่

ดังนั้นการพาเด็กชายทั้งสองเข้าไปในห้องแพทย์โดยพลการนั้นนับเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนัก แต่ขณะเดียวกันเธอเองก็รู้ว่าเด็กแฝดทั้งสองห่วงหลี่จื่อรั่วแฝดคนน้องเป็นอย่างมากและคงไม่ยินยอมง่าย ๆ หากเธอเป็นคนเอ่ยปากห้ามปราม เธอจึงยกเรื่องนี้ให้พยาบาลสาวตรงหน้าเป็นคนตัดสิน

“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อพยาบาลสาวตรงหน้าเอ่ยอนุญาตซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง นั่นเพราะมันหมายความว่าอาการของหลี่จื่อรั่วไม่ร้ายแรงและสามารถให้เด็กชายทั้งสองรับรู้ได้

“สวัสดีค่ะ ฉันซ่ง... เสวี่ยชิงหยวน แม่ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วค่ะ”

ซ่งเจียซินเอ่ยแนะนำตัวกับนายแพทย์ตรงหน้า

“สวัสดีครับ เชิญคุณเสวี่ยนั่งก่อน”

“ขอบคุณค่ะ”

“ผมหมอโจว เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของเด็กชายหลี่จื่อรั่วครับ เบื้องต้นผมต้องชมเชยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของคุณมาก ๆ”

ปกติแล้วผู้คนที่ถูกน้ำร้อนลวกมา หากไม่พามาทั้งสภาพเละเทะ ก็จะพันด้วยผ้ามาจนแน่นไปหมด เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปิดดูบาดแผลเพื่อประเมินระดับความรุนแรงจึงทำให้ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอกติดไปกับผ้าที่พัน ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นไปอีก

“ขอบคุณค่ะ แล้วไม่ทราบว่าอาการของจื่อรั่ว เป็นยังไงบ้างคะรุนแรงมากไหม”

“ไม่รุนแรงมากครับ ถ้ามองด้วยตาเปล่าบาดแผลอาจจะดูมีขนาดใหญ่ แต่ความรุนแรงเป็นเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ต่อไปแค่ทำแผลทุกวัน ดูแลเรื่องทำความสะอาดให้ดีก็พอแล้วครับ”

“ขอบคุณค่ะ ฉันยังกังวลกลัวว่าบาดแผลของเขาจะร้ายแรง”

“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่หากมีเรื่องอะไรร้ายแรงผมสามารถขอคำปรึกษาจากอาจารย์หมอหยังได้ตลอดเวลา”

เมื่อได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยถึง อาจารย์หมอหยัง ซ่งเจียซินก็ยิ้มกว้าง เพราะถึงแม้ว่าในชีวิตก่อนเธอจะไม่ได้ทำงานในสายอาชีพสาธารณสุข แต่ประวัติอันน่าทึ่งของ นายแพทย์หยังจือจุ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาแผลถูกไฟลวกในยุคอดีตก็ทำให้เธอนึกชื่นชมเขามาโดยตลอด

“ผมสั่งยาให้แล้วครับ เชิญคุณรับยาและใบนัดที่พยาบาลหน้าห้องได้เลย”

“ขอบคุณคุณหมอโจวมากเลยนะคะ”

“ครับ”

ซ่งเจียซินเดินออกมาจากห้องหมอโจวก็ให้หูหลินอิงและเด็กชายทั้งสองรอรับหลี่จื่อรั่วที่หน้าห้องฉุกเฉิน ในขณะที่ตนเองเดินไปจัดการเรื่องรับยาและค่าใช้จ่าย

“แม่ครับ”

เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นด้านหลัง ซ่งเจียซินที่จ่ายเงินและรับยาเรียบร้อยแล้วหันมาเห็นเด็กชายที่แขนซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผลอีกทั้งยังคล้องผ้าห้อยคอเอาไว้ก็ยิ้มกว้าง

“จื่อรั่ว เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม”

“ไม่เจ็บครับ พี่พยาบาลในห้องใจดีและมือเบามากครับ”

หลี่จื่อรั่วบอกหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม หากแต่ด้วยตาที่แดงก่ำและบวมนิด ๆ ของเขาก็ทำให้ซ่งเจียซินรู้ว่าเด็กชายเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาแน่ ๆ หญิงสาววางมือลงบนแก้มนุ่มของเขาแล้วส่งยิ้มกว้าง

“อย่างนั้นกลับบ้านเรากันนะ”

ซ่งเจียซินพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน หลี่จื่อรั่วพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง ขณะที่หลี่จื่อชิงทำเสียงค่อนขอดในลำคอ

กลับบ้านเรา อะไรกัน นั่นมันบ้านของพ่อกับแม่พวกเราต่างหาก”

คำพูดของหลี่จื่อชิง แม้จะไม่ดังมากแต่ซ่งเจียซินก็ได้ยินชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าจึงสะดุดไปเล็กน้อย แต่พริบตาก็กลับมาสดใสดังเดิม หลี่จื่อหมิงเห็นน้องชายพูดจาไม่เหมาะสมก็ตวัดสายตาปรามเขา คนช่างพูดจึงเงียบเสียงลงแล้วเมินหน้าไปอีกทาง เขาพูดอะไรผิดกัน

ซ่งเจียซินไม่ได้ถือสาคำพูดของหลี่จื่อชิง อย่างไรเขาก็เป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบเท่านั้น จะรักมารดาผู้ให้กำเนิดมากกว่ามารดาเลี้ยงเช่นเธอก็ไม่แปลก

“พวกเรากลับกันเถอะ”

หญิงสาวกล่าวชวนอีกครั้งโดยจงใจตัดคำว่า บ้านเรา

ออกไป แต่เพราะขากลับซ่งเจียซินแวะซื้อของที่ตลาด ดังนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ใช้เวลาถึงสองชั่วโมง ทั้งที่ด้วยระยะห่างจากบ้านหลี่ไปจนถึงโรงพยาบาลนั้นใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“จื่อรั่ววันนี้นอนพักให้มาก ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ อิงอิงฝากเธอดูแลเขาด้วยนะ”

“ค่ะ”

“ถ้าไม่เพราะคนบางคนมัวแต่เดินเที่ยวเล่น จื่อรั่วก็คงได้กลับมาพักตั้งนานแล้ว”

หลี่จื่อชิงพูดโดยไม่สบตาใคร แน่นอนว่าซ่งเจียซินรู้ดีว่าคนบางคนที่เขาเพิ่งพูดถึงก็คือเธอนั่นเอง แต่อีกฝ่ายอายุแค่เจ็ดขวบไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องไปทะเลาะด้วย ดังนั้นจึงทำเพียงถอนหายใจแล้วส่งของในมือให้สาวใช้หูหลินอิง

“อิงอิง มื้อเย็นทำเมนูปลาเพิ่มสักสองอย่าง จื่อรั่วเป็นแผลกินโปรตีนเสริมจะได้ฟื้นตัวไวขึ้น”

พูดจบคนก็เดินกลับขึ้นห้องพักไป หลี่จื่อหมิงมองตามแผ่นหลังเล็กที่แท้มารดาเลี้ยงของเขาลงไปเดินซื้อของร่วมชั่วโมงกว่าก็เพื่อ หาซื้อของมาทำอาหารบำรุงให้หลี่จื่อรั่ว 

“จื่อชิง ต่อไปพูดให้น้อยหน่อย ระวังคำพูดด้วย”

“จื่อหมิง นายคงไม่คิดเข้าข้างหญิงใจร้ายคนนั้นใช่ไหม อย่าลืมสิเธอไม่ใช่แม่จริง ๆ ของพวกเรา แม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยงไม่มีทางดีกับพวกเราอย่างจริงใจ ทั้งหมดเธอต้องแกล้งทำดีกับพวกเราแน่ ๆ”

“อย่างนั้นพวกเราก็แค่แกล้งทำดีกลับ แบบนี้ก็ถือว่าเสมอกันไม่ใช่หรือไง”

ไม่ว่าเรื่องในวันนี้เธอจะเสแสร้งหรือเธอจะเปลี่ยนไปจริง ๆ ขอแค่เป็นเช่นนี้ไปตลอด เขาก็สามารถแกล้งยอมรับเธอได้เช่นกัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 20 จำใจทำหน้าที่ (4)

    ซ่งเจียซินเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินกลับมา พร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาล เมื่อนั่งลงบนโซฟาแล้วก็เอายื่นให้กับหลี่โจวอี้“อะไร” หลี่โจวอี้เอ่ยถามพร้อมกับหยิบเอกสารด้านในออกมาดู“สัญญาหย่า!” ดวงตาคมเบิกกว้างมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ“ชิงหยวน นี่เธอกำลังจะขอหย่ากับผมอย่างนั้นหรือ”“ใช่ค่ะ”ซ่งเจียซินตอบกลับด้วยสีหน้าสงสัย เอกสารตรงหน้าเธอระบุชัดเจนถึงจุดประสงค์แล้วเหตุใดชายหนุ่มจึงยังต้องถามย้ำอีกกัน หรือว่าเธอร่างสัญญาไม่ชัดเจน“ก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ผิดต่อคุณ ฉกฉวยโอกาสตอนที่คุณกำลังเดือดร้อนบังคับคุณให้ยอมแต่งงานด้วย”ถึงแม้จะบอกว่าเป็นการตกลงที่ล้วนได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แต่ซ่งเจียซินต้องการยุติความสัมพันธ์นี้จึงจงใจยอมรับความผิดทั้งหมดมาเองเพื่อง่ายต่อการเจรจา“อีกทั้งหลังแต่งงานมาฉันเองก็ทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีนัก ตอนนี้ฉันรู้สึกละอายใจต่อคุณจึงอยากมอบอิสระคืนให้คุณค่ะ”มอบอิสระอะไรกัน! เขาเคยบอกหรือว่าต้องการหย่ากับเธอ หลี่โจวอี้ตกใจกับความคิดของตนเองเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาวางแผนเอาไว้ว่าหลังจากที่ทำเรื่องย้ายมาอยู่ในสังกัดใกล้บ้านได้แล้วก็จะเจรจาขอหย่ากับเสวี่ยชิงหยวน ทว่าไม

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 19 จำใจทำหน้าที่ (3)

    หลี่จื่อหมิงมองเห็นมารดาเลี้ยงเดินขึ้นไปชั้นบนเพียงลำพังในใจก็เกิดความกังวลถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเห็นสายตาที่เธอทอดมองมาทางพวกเขาด้วยความเศร้า หัวใจของเด็กชายก็คล้ายถูกบีบรัดเศร้าหมองขึ้นมา“วันนี้พ่อเพิ่งกลับมาคงเหนื่อยมาก ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องเถอะครับ”“งั้นพวกเราก็ขึ้นห้องนอนกันเถอะ”หลี่โจวอี้ตอบรับลูกชายฝาแฝดคนโตในทันที ทว่ายามที่จะลุกขึ้นพาพวกเขากลับเข้าห้องนอนเช่นทุกครั้ง กลับถูกคัดค้านขึ้นมา“พ่อแต่งงานแล้วจะนอนห้องเดียวกับพวกเราได้ยังไงครับ”“จื่อหมิง ลูกหมายความว่าจะให้พ่อกลับไปนอนที่ห้องเดิม”หลี่โจวอี้ขมวดคิ้วหนาด้วยความสงสัย ปกติแล้วยามที่เขากลับมาบ้านลูกชายทั้งสามจะเกาะติดเขาแน่น และพยายามอย่างหนักในการขัดขวางเขากับเสวี่ยชิงหยวน ทว่าเหตุใดครั้งนี้จึงพูดราวกับจงใจเปิดทางให้เขาใกล้ชิดกับเสวี่ยชิงหยวน“ที่นอนของพวกเราไม่ได้กว้างมาก ปกตินอนกันสามคนก็แน่นมากแล้ว คืนนี้พ่อกลับไปนอนที่ห้องเดิมเถอะครับ”คิ้วเข้มของหลี่โจวอี้ขมวดเข้าหากันแน่นมากขึ้น มองลูกชายคนรองด้วยความรู้สึกสงสัยเป็นทบทวี หากพูดถึงความรู้สึกที่ลูกชายทั้งสามของเขามีต่อเสวี่ยชิงหยวน

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 18 จำใจทำหน้าที่ (2)

    หลังมื้อค่ำหลี่โจวอี้ต้องการอยู่พูดคุยกับลูกชายทั้งสามต่อ ซ่งเจียซินรู้ดีว่าตนเองเป็นคนนอกจึงไม่ต้องการรบกวนพวกเขา ใช้ข้ออ้างว่าติดละครช่วงค่ำแยกตัวออกมานั่งดูโทรทัศน์ดวงตาคมมองแผ่นหลังบางที่เดินออกจากห้องอาหารไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ ปกติแล้วทุกครั้งที่เขากลับบ้านเสวี่ยชิงหยวนจะต้องใช้ลูกไม้สารพัดทำให้เขายอมอยู่กับเธอ แม้แต่การจงใจกินดอกลำโพงจนตัวเองล้มป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขาในวันที่เขาจะกลับเข้ากรมเมื่อครั้งก่อนเธอก็เคยทำเช่นนี้แล้วเสวี่ยชิงหยวนในวันนี้เป็นอะไรไป ทำไมเขาจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเธอ ราวกับเธอคนนี้ไม่ใช่เสวี่ยชิงหยวนที่เขาเคยรู้จัก“คุณพ่อครับ มาครั้งนี้คุณพ่อจะอยู่กี่วันหรือครับ”“ห้าวัน”“แค่ห้าวันเองหรือครับ”“ทำไมหรือ มีอะไรหรือเปล่า”ปกติแม้ว่าหลี่จื่อรั่วจะเป็นเด็กชายขี้อ้อน ทว่าที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมีท่าทีเช่นนี้ หรือว่าระหว่างนี้เสวี่ยชิงหยวนจะสร้างความลำบากให้ลูก ๆ ของเขาอีกแล้ว“ผู้หญิงคนนั้นรังแกลูก ๆ อีกแล้วหรือ”ได้ยินคำถามนี้หลี่จื่อรั่วก็รีบเงยหน้าส่ายหัวไปมาดุกดิกอย่างรวดเร็ว“แม่ไม่ได้รังแกพวกเราเลยครับ ยังใจดีมากอีกด้วย”“ใจดี?”ให้หลี่จื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 17 จำใจทำหน้าที่ (1)

    ซ่งเจียซินขบกรามแน่น เขาไม่ได้ลงโทษตีเธอตามคำมั่นที่ให้ไว้กับเด็กทั้งสาม แต่กลับบอกว่าต้องการกินอาหารค่ำฝีมือเธอ หากในตอนนี้คนในร่างเป็นเสวี่ยชิงหยวนคนเดิม เกรงว่าเรื่องราวคงไม่จบโดยง่ายเพียงแต่เธอในเวลานี้คือซ่งเจียซิน ผู้มีฉายาเจ้าแม่ร้อยอาชีพ!“อิงอิง ปกติแล้วคุณหลี่ชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหม หรือว่าไม่ชอบทานอะไรบ้างหรือเปล่า”ได้ยินคุณหนูของตนสอบถามความชอบและไม่ชอบของผู้พันหลี่โจวอี้อย่างใส่ใจ หูหลินอิงก็ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกเสียดาย คุณหนูเสวี่ยของนางแม้จะขาดคุณสมบัติบางประการไป แต่ก็เป็นหญิงสาวที่พร้อมด้วยรูปและทรัพย์ เหตุใดต้องมาทนกับพ่อหม้ายลูกติดหลี่โจวอี้พวกนี้ด้วยนะ“คุณหนูให้ฉันทำให้เถอะค่ะ”“ทำอะไรกัน ผู้พันอยากกินอาหารฝีมือฉัน แน่นอนว่าฉันต้องทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อเอาใจเขาสิ”“แต่ว่าคุณหนูทำอาหารไม่เป็นไม่ใช่หรือคะ”เมื่อได้ยินคุณสมบัติส่วนตัวของเจ้าของร่าง ซ่งเจียซินก็ชะงักมือที่กำลังหั่นผักไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากแล้วลงมือทำต่ออย่างชำนาญ“ทำไม่เป็นก็หัดได้ ก็แค่อาหารไม่เห็นจะยากเย็นอะไร”ดังนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 16 ได้รับความเชื่อใจ (3)

    หลี่จื่อรั่วจับมือซ่งเจียซินลงมาที่สนามหญ้าหลังบ้าน โดยมีหลี่จื่อชิงและหลี่จื่อหมิงที่วางท่าจำใจตามลงมาเพื่อติดตามดูแลหลี่จื่อรั่วอยู่ไม่ห่าง ซ่งเจียซินที่รู้ทันเด็กน้อยทั้งสองคนจึงไม่ได้ตำหนิ อีกทั้งยังท้าดวลพวกเขาสามคนแข่งกันเตะเข้าประตูแมว แน่นอนว่าด้วยอัตราหนึ่งต่อสามแม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็กชายเจ็ดขวบ แต่ร่างกายที่เติบโตมาราวกับไข่ในหินของเสวี่ยชิงหยวนย่อมอ่อนแอและบอบบาง ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก็ถูกเด็กชายทั้งสามนำไปด้วยคะแนน สองต่อศูนย์“แม่ครับ พวกเราพักก่อนดีหรือไม่”หลี่จื่อรั่วเห็นมารดาเลี้ยงสองแก้มแดงก่ำ อีกทั้งยังหายใจหอบถี่ก็เอ่ยถามด้วยความห่วงใย หากแต่หญิงสาวกลับยืดตัวเอ่ยตอบเสียงหนักแน่น“ได้พัก วันนี้ฉันจะต้องชนะพวกนายให้ได้”หลี่จื่อหมิงได้ยินหญิงสาวประกาศกร้าวก็ยกยิ้มขบขัน ก่อนจะจับบอลพลิกตัวไปมา แล้วยิงเข้าประตูทำคะแนนอีกรอบ“จื่อหมิงนายเก่งที่สุด”หลี่จื่อชิงตะโกนชมพี่ชายฝาแฝดของตนเองเสียงก้อง“สามรุมหนึ่ง ชัยชนะนี้น่าภาคภูมิใจมากหรือไร”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น สายตาสี่คู่ในสนามพลันหันไปมองโดยพร้อมกัน หลี่จื่อหมิงเห็นแววตาคมดุของบิดามีคำตำหนิแฝงก็ก้มหน้าพาน้องชายทั้งสองเ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 15 ได้รับความเชื่อใจ (2)

    ซ่งเจียซินยืนพิงขอบหน้าต่างห้องนอนมองดูสนามหญ้าเบื้องล่างด้วยความรู้สึกสงสัย สามวันแล้วที่เธอมอบลูกบอลหนังให้เด็กชายทั้งสามคนไป ทว่าจวบจนวันนี้กลับไม่เคยเห็นพวกเขาหยิบมันมาเล่นเลยสักครั้ง หรือแท้จริงแล้วพวกเขาจะไม่ชอบเล่นบอลกัน“อิงอิง ปกติคุณชายทั้งสามคนเขาชอบเล่นบอลหรือไม่”“ชอบค่ะ”“แล้วทำไม ฉันไม่เห็นเขาเอาบอลมาเล่นที่สนามล่ะ”“เรื่องนี้คุณหนูคงต้องถามตัวเองแล้ว...”ถามตัวเอง หรือว่าเสวี่ยชิงหยวนผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมจะทำเรื่องบางอย่างเอาไว้อีกแล้วซ่งเจียซินเพ่งสายตามองไปที่สนามหญ้าด้านล่าง พยายามขบคิดความทรงจำเดิมของเสวี่ยชิงหยวน ก่อนที่ภาพหนึ่งจะสะท้อนเข้ามาในห้วงความคิด“เอามานี่”เสวี่ยชิงหยวนตวาดเสียงหงุดหงิดก่อนจะแย่งบอลในมือของหลี่จื่อรั่วมาแล้วใช้กรรไกรจิ้มจนเกิดรอยรั่วมากมาย “คุณทำอะไร!”หลี่จื่อชิงเข้ามาแย่งบอลคืน หากแต่ก็สายเกินแก้ไข รอยรั่วมากมายทำให้ลูกบอลลูกนี้ไม่อาจเล่นได้อีก หลี่จื่อรั่วน้ำตาไหลอาบแก้ม สะอื้นจนตัวสั่น หากแต่กลับไม่ได้ทำให้เสวี่ยชิงหยวนรู้สึกสงสารเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับกล่าวคำข่มขู่เพิ่มเติม“วันนี้ฉันแค่ทำลายบอลของพวกแก ถ้าวันหน้าพวกแกยังกล้า

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status