공유

บทที่ 0003

작가: หวานใจ
นางจางและนางหวางรีบปล่อยมือออกจากตัวนางหลี่ เพราะหลี่เจิ้งกำลังเดินเข้ามา

จากนั้นนางหลี่ก็รีบกระโจนเข้าไปอยู่ข้างๆซูหวั่นโดยแทบไม่ต้องคิดอะไร นางปกป้องซูหวั่นเอาไว้ แล้วพูดทั้งน้ำตาที่พร่ามัวออกมาว่า“ข้าต่างหากที่เป็นแม่ของอาหวั่น ข้าไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้หรอกนะ!”

แม่เฒ่าเซี่ยงผ่อนลมหายใจหนักออกมา แล้วพูดว่า“เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะไม่เห็นด้วย!”

เนื่องจากยังไม่ได้แยกครอบครัวออกไป แม่เฒ่าเซี่ยงจึงเป็นใหญ่ที่สุดภายในบ้าน นางพูดแบบไหนก็ต้องเป็นแบบนั้น

แล้วนางหลี่จะมีสิทธิ์พูดอะไรได้!

“พลั่ก!”

ซูหวั่นพบว่านอกจากหลี่เจิ้งแล้วยังมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยืนออกันอยู่ที่หน้าประตู นางจึงโยนมีดทิ้งไป แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าประตู“ข้าขอความเป็นธรรมจากท่านลุงท่านป้าหน่อยนะเจ้าคะ ท่านย่าของข้าบังคับให้ข้าแต่งกับซื่อหลางของสกุลเจิ้ง พอข้าไม่ยอม ท่านก็ได้ให้ท่านลุงมามัดตัวข้าไป!”

นางหลี่ปาดน้ำตา และคุกเข่ากับซูหวั่นด้วยเช่นกัน“ข้ามีลูกสาวเพียงแค่คนเดียว ข้าไม่ยอมให้ลูกของข้าต้องไปตกระกำลำบากหรอกนะ ฮือฮือ——”

นางร้องไห้ได้สมจริงกว่าซูหวั่นมาก และรูปร่างที่ผอมบางนั้นก็ดูเหมือนว่าจะถูกรังแกอยู่บ่อยครั้ง

โดยที่ด้านนอกก็มีคนพูดเสริมขึ้นมาว่า“ป้าเซี่ยง เรื่องนี้ป้าพูดไม่ถูกนะ ต่อให้พวกป้าจะไม่ได้แยกครอบครัวกัน แต่นางหลี่เป็นแม่แท้ๆของนังหนูหวั่น และนางก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะถามไถ่เรื่องการตกแต่งของนังหนูหวั่นอยู่แล้วนะ”

“จริงด้วย จริงด้วย นังหนูหวั่นยอมที่จะตายแบบนี้แล้ว เจ้ายังจะบังคับนางอีกเหรอ!”

ซึ่งในความจริงแล้ว ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า การที่แม่เฒ่าเซี่ยงได้ดึงดันขนาดนี้ก็เป็นเพราะเห็นแก่น้องสาวของนางนั่นเอง

เจิ้งซื่อหลางทำตัวเสเพลและยังไม่เอาการเอางานอีกต่างหาก และการที่ซูหวั่นได้แต่งเข้าไปมันก็คงไม่ใช่ผลดีอย่างแน่นอน

เฮ้อ แม่เฒ่าเซี่ยงคนนี้ช่างใจคอโหดเหี้ยมเสียจริงๆ!

เมื่อแม่เฒ่าเซี่ยงเห็นว่าทุกคนต่างก็เอนเอียงไปทางซูหวั่น นางก็พูดขึ้นมาว่า“นี่แม่หลี่ เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไรน่ะ ทั้งๆที่เจ้าได้ตอบตกลงไปแล้วนะ ไม่งั้นข้าจะรับเงินห้าตำลึงนี้มาได้ยังไงกัน!”

“ท่านแม่ ข้าทนกับคำพูดแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ!”นางหลี่ระเบิดเสียงกรีดร้องที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับรูปร่างของนางสักเท่าไหร่ออกมา“ท่านแม่จะพูดพล่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ข้าจะผลักอาหวั่นลงไปในกองไฟแบบนั้นได้ยังไง!”

ทุกคนต่างก็ซุบซิบและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา โดยที่พวกเขาก็รู้ว่าแม่เฒ่าเซี่ยงกำลังจะใส่ร้ายนางหลี่อยู่

นางหลี่เป็นคนที่ซื่อๆ และไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน ครั้งนี้ที่นางกล้าพูดกับแม่เฒ่าเซี่ยงแบบนี้คงเป็นเพราะลูกสาวถูกบีบคั้นจนนางร้อนใจขึ้นมาอย่างแน่นอน

และแม่เฒ่าคนหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา“น้องเซี่ยง ฟังคำเตือนของพี่สักหน่อยเถอะนะ หากนังหนูหวั่นไม่ยอมแต่งออกไป เจ้าก็คืนเงินสินสอดเขาไปเถอะ เจ้าจะบังคับจนนังเด็กนี่ตายไปถึงจะสบายใจงั้นเหรอ?”

และแม่เฒ่าเซี่ยงที่เคยชินกับความเป็นใหญ่ในบ้านมาโดยตลอด แล้วนางจะทนกับคำพูดแบบนี้ได้อย่างไร

จู่ๆนางก็ปัดมือของแม่เฒ่าคนนั้นออก นั่งลงไปที่พื้นพร้อมกับตีโพยตีพายออกมาว่า“พวกเจ้าอาศัยตอนที่ตาแก่ของข้าไม่อยู่บ้านมารังแกข้า ฮือฮือ ข้าไม่อยู่แล้วก็ได้!”

พ่อเฒ่าซูและซูเหลียนเฉิงพ่อของซูหวั่นได้ออกไปทำงานข้างนอกแล้ว

ซึ่งพวกเขาจะกลับมาก็ตอนครึ่งเดือนผ่านไปแล้ว

และถ้าพ่อเฒ่าซูอยู่บ้าน แม่เฒ่าเซี่ยงก็คงไม่กล้าจะทำถึงขนาดนี้หรอกนะ!

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่แม่เฒ่าเซี่ยงพูดออกมา ก็ทำได้เพียงมองไปทางหลี่เจิ้ง เพราะแม่เฒ่าจอมตีโพยตีพายคนนี้รับมือได้ยากเสียจริงๆ

ใบหน้าของหลี่เจิ้งแข็งทื่อ และมองไปยังคู่แม่ลูกที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอีกครั้ง

“ท่านลุงครับ ท่านย่ารังแกพี่สาวกับท่านแม่”ซูลิ่วหลางดึงแขนเสื้อของหลี่เจิ้ง แล้วก็พูดทั้งน้ำตาออกมาว่า“ท่านลุงได้โปรดช่วยท่านแม่และพี่สาวด้วยนะครับ ข้าไม่อยากให้พี่สาวตาย ฮือ——”

เด็กหัวอ่อนคนนี้พูดโกหกไม่เป็น และสิ่งที่เขาพูดออกมาก็ยิ่งทำให้คนอื่นๆรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างจับใจ

หลี่เจิ้งชักสีหน้าจริงจัง แม้แต่คำว่าป้าก็ไม่ได้เรียกแต่อย่างใดแล้ว“แม่เฒ่าเซี่ยง หากแม่เฒ่าต้องการจะบีบบังคับนังหนูหวั่นให้แต่งออกไปจริงๆแล้วละก็ งั้นข้าก็คงจะต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่และให้พวกนายๆมาจัดการเสียแล้วนะ!”

แม่เฒ่าเซี่ยงกลอกตาไปมาหลายต่อหลายรอบ

ซึ่งการไปแจ้งเจ้าหน้าที่นั้นไม่เป็นผลดีต่อนางอย่างแน่นอน นางได้ทำการตกปากรับคำการแต่งงานนี้โดยไม่ได้ปรึกษากับนางหลี่และซูเหลียนเฉิงเสียก่อน โดยที่นางก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย!

แต่นางก็ตัดใจจากเงินห้าตำลึงไม่ได้อยู่ดีนี่นา!

นางจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะผลักภาระเรื่องเงินห้าตำลึงนี้ไปที่นางหลี่เสียให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อเรื่องบานปลายขนาดนี้ นางก็จะไม่ได้อะไรเลย

ซึ่งมันไม่คุ้มเอาเสียมากๆ!

จากนั้นลุงใหญ่ซูก็โน้มตัวเข้ามากระซิบว่า“ท่านแม่ ข้าว่าเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ ส่วนเงินห้าตำลึงนั่นก็บอกว่าบ้านสองเอาไป ให้พวกเขาชดใช้ไปก็แล้วกันนะ”

ซึ่งแม่เฒ่าเซี่ยงก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก

จากนั้นนางก็ตบไปที่ขาหนึ่งฉาด พร้อมกับตะคอกออกมาว่า“ในเมื่อนังหนูหวั่นไม่ยอมแต่ง งั้นก็ช่างมันเถอะ แต่เงินห้าตำลึงนั่น แม่หลี่ก็คิดหาวิธีไปใช้คืนเองก็แล้วกัน เพราะยังไงเสียบ้านสองก็เป็นคนเอาไปอยู่แล้วนี่!”

ใบหน้าของนางหลี่แข็งค้าง เพราะนางไม่ได้รับเงินนั่นมาเสียด้วยซ้ำ!

และซูหวั่นก็รู้เท่าทันความคิดของแม่เฒ่าเซี่ยง ใบหน้าเล็กๆของนางเย็นชา แล้วพูดชัดถ้อยชัดคำออกมาว่า

“ท่านย่า พูดหรือทำอะไรก็ต้องมีมโนธรรมสำนึกกันบ้างนะคะ เงินห้าตำลึงนั่น ข้ากับแม่ไม่เคยเห็นเสียด้วยซ้ำ เงินทองในบ้านท่านย่าก็เป็นคนเก็บเอาไว้ทั้งหมด แล้วมันจะตกมาถึงมือของแม่ข้าได้ยังไง!”

รับเงินแล้วไม่ยอมคายออกมา ยังจะมีหน้ามาพูดอีก!
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0478

    มีกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ได้ปะทะที่ปลายจมูก พร้อมกับลมหนาวที่พัดเอาความเย็นเข้ามา "แม่นางซู" เสียงที่คุ้นเคยทำให้นางตื่นตกใจ นางหันกลับมาและผลักไป๋หลี่ชิงออกไป พร้อมกับพูดด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งว่า "ไป๋หลี่ชิง เป็นสุภาพบุรุษบนขื่อคาน มันสนุกมากเลยใช่ไหม?" ไป๋หลี่ชิงถอยห

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0477

    "ซู่ซู่——" ลมหนาวพัดมากระทบกับใบหน้าของคนทั้งสอง จนรู้สึกเจ็บอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ริมทางแกว่งไปมาสองสามครั้ง ทำให้หิมะไหลตามใบไม้และตกลงสู่พื้นเสียงดังเปาะแปะ ซึ่งเมื่อตกลงไปในพื้นที่หิมะที่กว้างใหญ่แล้วนั้น มันก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก พ่อเฒ่าซูพูดคัดค้าน

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0476

    เมื่อซูเหลียนเฉิงและซูลิ่วหลางเข้ามาในห้อง นางก็เอื้อมมือไปบีบเอวของซูฉางโซว่ อย่างดุเดือด แล้วพูดคำรุนแรงออกมาว่า "เจ้ามีสมองหรือเปล่า ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าต่อต้านบ้านรอง ทำไมไม่ฟังเลยล่ะ?" ซูฉางโซว่ไม่ได้จริงจังกับมัน และพูดด้วยรอยยิ้ม "เมียจ๋า เจ้าจะกลัวเขาไปทำไม แล้วอีกอย่าง พี่รองก็ไม่ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0475

    เมื่อซูหวั่นได้ยินดังนั้นจึงเดินออกไป หมูถูกแบ่งและแต่ละชิ้นมีขนาดเท่ากัน ขั้นแรกนางโรยเกลือบนเนื้อแต่ละชิ้นแล้วเกลี่ยให้ทั่วเนื้อแต่ละชิ้นแล้วใส่ในขวดเพื่อหมัก หลังจากผ่านไปสองสามวันก็สามารถนำไปแขวนบนฟืนและรมควันได้ หมูและเศษหมูหนักประมาณหนึ่งร้อยกิโลกรัม ซูหวั่นเก็บไว้ยี่สิบห้ากิโลกรัม

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0474

    แม่เฒ่าเซี่ยงได้ยินนางพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของนางก็อ่อนลง นางกังวลและพูดว่า "ฉางอานอายุมากขึ้นแล้ว เขาควรจะหาภรรยาหลังจากการสอบในฤดูใบไม้ผลิ ตราบใดที่เขามีชื่อเสียงในซิ่วไฉ ผู้หญิงที่สูงศักดิ์พวกนั้น เขาก็เลือกได้ตามใจชอบไม่ใช่หรือ?" นางจางแอบพึมพำอยู่ในใจว่าสตรีผู้สูงศักดิ์ทุกคนต้องการแต่ง

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0473

    ซูซานหลางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตอนแรกท่านป้าไม่เห็นด้วย แต่ต่อมานางก็ผ่อนคลายเมื่อได้ยินว่าครอบครัวมีวิธีที่จะให้พี่รองกลายเป็นซิ่วไฉได้" ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง รายชื่อที่จะเข้าสอบซิ่วไฉเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก นอกจากนี้ ซูเอ้อหลางยังอยู่ในคุกซึ่งเทียบเท่ากับการสิ้นสุดอาชีพการงานของเข

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status