บทที่2.คำสัญญา
เมรีเดินเข้าไปในห้องสมุดด้วยกริยาสำรวม โซเฟียจิบน้ำชาระหว่างรอ
“นั่งสิ ฉันมีเรื่องที่ต้องตกลงกับเธอ” โซเฟียกล่าวเสียงเคร่ง เมรี จึงทรุดนั่งบนพื้น เธอก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาดุดันของโซเฟีย
“เธอมีคู่รักหรือยัง?” โซเฟียถามใจความสำคัญที่นางต้องการรู้
เมรีเงยหน้ามองสบตาโซเฟีย “เมรีไม่มีคู่รักค่ะ”ภาพฟรองซัวร์ผุดขึ้นมาในใจผิวแก้มร้อนวูบ ก่อนจะสลดลง เมื่อตระหนักถึงความเป็นจริง เธอทำได้แค่แอบมองฟรองซัวร์อยู่ห่างๆ มันเป็นความเพ้อฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง
“ลูกชายฉันเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขามีสาวๆ ไม่เคยขาด ฉันไม่ต้องการให้เชื้อสายของมาร์เซย์ไปเกิดในเชื้อสายต่ำต้อย จนทำให้เสื่อมเสียมาถึงฉัน ถ้าแค่เป็นของขบเคี้ยวเล่นๆ ยามว่างน่ะไม่เป็นไร ที่สำคัญเธออย่าได้เผยอ หรือบังอาจ อย่าได้คิดว่าฉันจะยอมรับเธอ อย่าคิดกอบโกยอะไรจากมาร์เซย์เลย จงรับไว้เท่าที่ฉันให้ได้เถอะ ที่สำคัญเธอควรอยู่ห่างๆ ฟรองซัวร์ไว้” โซเฟียกำชับ นางมองหญิงตรงหน้าด้วยแววตาดูแคลน
“หรือถ้าลูกชายของฉันต้องการเธอขึ้นมาจริงๆ อย่าได้คิดจับเขาเป็นอันขาด ฉันได้แต่หวังว่าข้าวแดงแกงร้อนที่เธอกินเข้าไปทุกวัน จะทำให้เธอสำนึกถึงบุญคุณของมาร์เซย์บ้าง” โซเฟียหยามหยัน พร้อมกับทวงบุญคุณ นางขอคำสัญญาจากเมรี ผู้หญิงด้อยค่าในความรู้สึกของโซเฟีย
เมรีตกใจ!! คำพูดถากถางดูแคลนเธอไม่มีชิ้นดี เธอรู้สึกเหมือนถูกโซเฟียตบจนหน้าสะบัด เจ็บจี้ดๆ ในใจ เพราะถ้อยคำปรามาสของหญิงสูงศักดิ์ตรงหน้า เธอน้อยใจในความต้อยต่ำของตัวเอง แต่ก็มีคำค้านในใจ ผู้ชายเพียบพร้อมอย่างฟรองซัวร์ หรือจะมองเด็กกะโปโลอย่างเธอ ในเมื่อรอบๆ กายของเขาล้วนแล้วแต่มีผู้หญิงสูงศักดิ์ ดารานางแบบสาวสวยเด่นดังหลายๆ คน
“เมรีสัญญาค่ะ” เมรีรับคำเสียงหนัก เธอก้มหน้าลง ซ่อนรอยน้ำตาไว้ เจ็บจี๊ดในใจที่โต้เถียงไม่ได้
“ดี! ฉันหวังว่าเธอจะปฏิบัติตามคำพูดของตัวเอง แบบไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร”
“...” เมรีร้องไห้เงียบๆ น้ำตาหยดเพราะแรงบีบคั้น ยอมรับความเจ็บช้ำไว้ในใจโดยไร้หนทางต่อสู้
“อย่าลืมสัญญาที่เธอบอกฉันไว้ล่ะ ฉันจะทำไม่รู้ไม่เห็นจนกว่าเธอจะเรียนจบ” โซเฟียยิ้มหยัน นางโบกมือไล่หลังพอใจกับคำตอบของหญิงต้อยต่ำตรงหน้า
เมรีจมอยู่กับกองน้ำตาที่ไหลนองใบหน้า นึกน้อยใจโชคชะตาที่กำหนดให้เธอเกิดมาต้อยต่ำ ยกปาดคราบน้ำตาลวกๆ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ เธอคลานเข้าไปหลบอยู่หลังโต๊ะตัวใหญ่ ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับใคร
“เธอเข้าไปทำอะไรตรงนั้นเมรี?” ฟรองซัวร์ถาม เขาทันเห็นใครบางคนหลบไปอยู่หลังโต๊ะพอดี
เมรีเบียดตัวให้แนบกับตัวโต๊ะมากขึ้น ฟรองซัวร์เป็นของต้องห้ามสำหรับเธอ เธอไม่อยากเผลอใจมากไปกว่านี้ แค่แอบรัก...มันก็หนักสาหัสแล้ว แต่ถ้าชิดใกล้มากกว่านี้ เธอเกรงว่าเผลอตัวและผิดคำสัญญากับมารดาของชายหนุ่ม
“เธอจะออกมาเองรึว่าจะให้ฉันเป็นคนดึงเธอออกมา?” ฟรองซัวร์กล่าวเสียงเข้ม เมรีเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาจนลืมตัวบ่อยๆ
“เมรีๆ ออกไปเองค่ะ” เมรีละล่ำละลักตอบ เธอรีบมุดออกมาจากซอกโต๊ะตัวใหญ่
ฟรองซัวร์มองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาด้วยความสับสน เขานึกอยากเข้าไปปลอบขวัญให้เธอคลายความหวาดกลัว แต่ต้องชะงักไว้ เมื่อนึกถึงฐานะของตัวเอง เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เอนหลังพิงพนัก ตวัดขาขึ้นไขว่ห้าง และจ้องมองเมรีอย่างจริงจัง
“เธอร้องไห้ทำไม มีใครทำอะไรเธองั้นเหรอ?”
“ปะ เปล่าค่ะไม่มีใครทำอะไรเมรี” เมรีรีบปฏิเสธ เธอก้มหน้าหลบสายตาของฟรองซัวร์
“แล้วเธอร้องไห้ทำไมล่ะ หรือว่าคิดถึงซาร่า?” ฟรองซัวร์ถามต่อแอบนึกสงสาร หญิงสาวเพิ่งสูญเสียมารดาไป เธอคงกำลังรู้สึกเคว้งคว้าง
เมรีน้ำตาตก เมื่อฟรองซัวร์เอ่ยถึงมารดาที่จากลาไปไกล น้ำใสๆ ไหลหล่นออกมาจากหน่วยตา หัวไหล่สั่นเทาเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ ฟรองซัวร์ทอดสายตามอง แววตาสงสารผุดวาบขึ้นมา ฟรองซัวร์ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปทรุดนั่งข้างเมรี ก่อนจะรวบเธอเข้ามากอด มือลูบไล้เรือนผมสลวย เมรีใจหายวาบ!! เธอเกือบจะขืนตัว ถ้าคนตัวใหญ่ไม่กดแผ่นหลังเธอไว้ หญิงสาวเผลอตัว เมื่อความอบอุ่นจากกายใหญ่แผ่ซึมให้ตนเองรู้สึกปลอดภัย เธอแนบใบหน้ากับแผงอกแข็งแรง จนน้ำตาเม็ดเล็กๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเรียบกริบบริเวณอกของเขา เปียกชุ่มไปเป็นวงกว้าง เมรีสะอึกสะอื้นเธอสอดมือกอดลำตัวของฟรองซัวร์ไว้อย่างต้องการพึ่งพิง
ฟรองซัวร์รั้งเมรีขึ้นมานั่งบนตัก และกอดเธอแน่นขึ้น เขาอยากปลอบโยนเพราะรู้สึกแสนสงสาร ใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาจนมองดูเหมือนลูกนกหลงรัก ต้องการความอบอุ่นและพื้นที่ปลอดภัย
“ชูว์!! หยุดร้องได้แล้วคนดี เธอยังมีฉันอยู่ทั้งคนนะ” ฟรองซัวร์กระซิบปลอบชิดริมใบหู จนเมรีค่อยๆ คลายจากการเสียใจ เธอหยุดสะอื้นซึมซับความอบอุ่นที่ได้รับไว้ในใจ
“อย่าลืมนะเมรีเธอยังมีฉันอยู่ ถ้ามีอะไรทำให้เธอไม่สบายใจ ฉันยินดีรับฟัง” ฟรองซัวร์กดปลายจมูกข้างขมับเมรีด้วยความลืมตัว หญิงสาวผงะ!! เธอกำลังจะขืนตัวออกห่าง
พอดีกับที่ชายหนุ่มดันตัวเธออกห่างแผงอกเขาพอดี
เธอช้อนสายตาวาวน้ำตามองสบตากับเขา แววตาภักดีกระทบใจฟรองซัวร์จังๆ ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้น ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยรอยน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เขามองสบนัยน์ตากลมโตของเมรีด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
เมรีเผยอปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ฟรองซัวร์โน้มตัวเข้ามาใกล้ เขาก้มลง...จูบ ปิดปากจิ้มลิ้มด้วยริมฝีปากตัวเอง
ไม่มีเสียงร้อง มีเพียงเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาเบาๆ
ฟรองซัวร์ดันท้ายทอยของเมรีให้แหงนหน้ารับจุมพิตได้อย่างถนัดถนี่ ริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่กลีบปากหวานหอม เขาละเลียดชิมความหวานของสาวแรกรุ่นอย่างหลงใหล ปลายลิ้นอุ่นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำ กวาดไล้เรียวลิ้นเล็กๆ อย่างหยอกเย้า ดูดซึมจนเมรีหลงมัวเมา เธอตัวสั่นเทาเมื่อฟรองซัวร์เริ่มรุกหนัก รสจูบทวีความร้อนแรงขึ้นทุกเวลา
เสียงครางแหบห้าวเพราะพอใจ ฟรองซัวร์มัวเมาดื่มชิมอย่างดุดัน มือหนาลูบไล้ลำตัวบางที่น่าถนอม ผิวเนื้อเนียนลื่นอุ่นร้อนปลุกกระแสความต้องการในกายใหญ่ให้ลุกชัน เมรีครางอย่างลืมตัว เปล่งเสียงสั่นพร่าเมื่อเกินกว่าจะควบคุมความปรารถนาไว้ได้
ฟรองซัวร์ดันเมรีเอนลงบนพื้นพรม มีร่างใหญ่ของตนเองกักกันไว้ เขามองดวงหน้าหวานใสอย่างพิจารณา ริมฝีปากอิ่มเห่อบวม แดงก่ำเพราะทุกบดจูบอย่างดุดัน ดวงตากลมโตพริบพราวระยิบระยับ เธอสูดลมหายใจแรงๆ จนหน้าอกอวบอิ่มไหวกระเพื่อม มือของฟรองซัวร์ยกขึ้นเกลี่ยปรอยผมที่ปรกใบหน้าของเมรี เกลี่ยไปทัดเก็บไว้ริมหูให้อย่างอ่อนโยน ดวงตาสีมรกตเป็นประกาย เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ลุกฮือ
“คนดีๆ ขึ้นหรือยังหึ?” ฟรองซัวร์กระซิบถาม ก่อนจะซุกหน้าที่ซอกคอหอมกรุ่น แอบชิมผิวเนื้อหอมหวานของเมรี จนหญิงสาวครางงึมงำปลายจมูกลากไล้ แอบสำรวจความอวบอิ่ม จนมาหยุดเหนือเนินหน้าอกอวบอูม
ดวงตาสีมรกตวาววับ ปลายนิ้วแข็งแรงคีบคอเสื้อของเมรีให้ร่นลง จนเปิดเผยความอวบอิ่มภายใต้กรวยผ้าสีหวาน ฟรองซัวร์มองอกอวบล้นของเมรีอย่างชื่นชม ผิวของเมรีใสละเอียดยิบ จนมองไม่เห็นรูขุมขนกับหน้าอกอวบใหญ่เกินตัว หญิงสาวตรงหน้ามักจะใส่เสื้อผ้าหลวมโพลก แต่ความจริงเมรีกลมกลึง อวบอัดเกินตัว เขาอดตื่นเต้นไม่ได้ ปลายลิ้นหนาไล้เลียริมฝีปากตัวเอง รู้สึกแห้งผาก รวดร้าวไปทั้งหน้าขา
เมรีนอนตัวอ่อนระทวย เธอมึนเมาในห้วงปรารถนาที่ฟรองซัวร์เป็นผู้ชักนำ ชายหนุ่มก้มลงครอบครองอกอวบอิ่มผ่านเนื้อผ้าลูกไม้ เขาขบเม้มแผ่วๆ จนเมรีตัวสั่นสะท้าน สาวแรกรุ่นหลงวนอยู่ในช่วงเวลาวาบหวาม แผ่นหลังบางแอ่นโค้ง เบียดอกอิ่มกับใบหน้าฟรองซัวร์อย่างลืมอาย ปลายนิ้วจิกเกร็งอยู่บนบ่ากว้างและครางเสียงหวานจนชายหนุ่มหลงลำพอง
ปัง!
เสียงประตูห้องสมุดเปิดพร้อมกับเสียงของเบีย กับเสียงแผ่วๆ รับคำของสาวใช้ที่มีมากกว่าหนึ่งคน ปลุกสติที่กระเจิดกระเจิงไปของเมรีให้กลับคืนมา เธอยกมือดันแผงอกของฟรองซัวร์ไว้
“ชิบ!!”
ฟรองซัวร์เผลอสบถออกมา เมื่อมีคนเข้ามาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม เขาก้มลงไปจุมพิตเรียวปากอิ่มเร็วๆ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืน โดยส่งสายตาปรามให้เมรีนอนอยู่นิ่งๆ
“อุ่ย!! คุณฟรองซัวร์อยู่ในนี้เหรอคะ เบียกำลังจะให้สาวใช้ทำความสะอาดห้องสมุดนี้อยู่พอดี” เบียอุทาน เมื่อเห็นฟรองซัวร์
“ออกไปก่อน...เดี๋ยวค่อยเข้ามาใหม่” ฟรองซัวร์ตวาดเสียงแข็ง
เมรีดึงคอเสื้อขึ้นมาปกปิดความเย้ายวนของตัวเองอย่างรวดเร็ว เธอคลานเข่า มุดออกไปตามมุมโต๊ะจนกระทั่งไปถึงประตูห้อง มีสายตาของฟรองซัวร์มองตามไป
“ค่ะ พวกหล่อนออกไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาใหม่” เบียหันไปต้อนสาวใช้ทั้งสองคน ก่อนที่ระเบิดลูกใหญ่จะลง สาวใช้วัยละอ่อนไม่ได้สนใจเบียสักนิด ทั้งสองนางกำลังส่งตาหวานฉ่ำให้เจ้านายหนุ่มที่ยืนหน้าตูมอยู่มุมห้อง เบียส่ายใบหน้า ถอนหายใจแรงๆ
“เชิญตามสบายเถอะ ฉันจะออกไปเอง” ฟรองซัวร์เปรยลอยๆเมื่อเห็นเมรีลับหายออกไปจากห้อง เขาฝืนอยู่ก็ไม่เกิดประโยชน์
บทที่32.เปิดตัวมาดามมาร์เซย์สามเดือนต่อมา เมรีให้กำเนิดทายาทคนแรกของฟรองซัวร์เป็นเพศชายใบหน้าคมเข้มเหมือนบิดาเกือบร้อยเปอร์เซ็น ทารกเพศชายผิวขาวผมสีน้ำตาลไหม้ แววตาสีคาราเมลเป็นลูกผสมระหว่างฝรั่งเศสแท้กับไทยแลนด์แบบเมรี โซเฟียเห่อหลานชายคนแรก นางอุ้มไม่ยอมวางมือ จนฟรองซัวร์อ่อนใจ แต่ก็ยินดีที่มารดายอมรับสายเลือดของตัวเองอย่างเต็มใจโนแอล แดเซค์ มาร์เซย์ชื่อของบุตรชายที่ฟรองซัวร์คัดสรรมา ข่าวหน้าหนึ่งลงเกรียวกราวอยู่เป็นอาทิตย์ กับการเปิดตัวทายาทมาร์เซย์สู่สาธารณะชน ทั่วทั้งวงการแตกตื่น...เมื่อปรากฏภาพเมรียืนเคียงคู่กับฟรองซัวร์ในฐานะแม่ของเด็กน้อยผู้นั้น พวกเขาแปลกใจแต่ก็ต้องยอมรับ เมื่อเป็นข่าวที่กรองแล้ว “เมรีดูอะไรอยู่?” ฟรองซัวร์ถามเมรีในเช้าวัน
บทที่31.ครอบครัวอบอุ่นของฟรองซัวร์ ภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ การประกาศจับมือกันระหว่างมาร์เซย์กับแซงส์ เป็นการเซ็นสัญญาเปิดสาขามาร์เซย์ในห้างสรรพสินค้าแซงส์ที่มีอยู่ทั่วทั้งยุโรป ลบภาพการประกาศหมั้นของฟรองซัวร์กับชาแปลน์ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ เป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ เพราะชาแปลน์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรฟรองซัวร์ เธอแค่เสียความรู้สึกดีๆ ให้ผู้ชายเพียบพร้อม เพราะฉะนั้นชาแปลน์จึงตั้งใจว่าจะพิจารณาผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่จะมาร่วมชีวิตกัน “ใช้หัวใจชาแปลน์ อย่าเอาความเหมาะสมมาเป็นตัววัด อย่าให้อะไรทั้งหมดมาขวางทางเรา ไม่มีอะไรดีไปกว่าความสุขที่เราได้อยู่ใกล้คนที่เราพอใจ” ฟรองซัวร์เตือนชาแปลน์ในวันหนึ่งที่ได้เจอกัน ชาแปลน์ชำเลืองมองยิ้มๆ ชายตรงหน้าเปลี่ยนไปมาก เขาดูคล้ายคนมากขึ้น มีรอยยิ้มไม่ได้กระด้างเหมือนเคย 
บทที่29.กลับมาอยู่ในคฤหาสน์มาร์เซย์ โซเฟียกลับมายังคฤหาสน์มาร์เซย์พร้อมกับความเศร้า แม้ชาแปลน์จะไม่ปฏิเสธชัดเจน แต่คำพูดของหญิงสาวก็คงไม่ต้องคิดต่อ “ฉันคงไม่มีวาสนาได้ชาแปลน์มาเป็นลูกสะใภ้แล้วล่ะนะ” โซเฟียบ่นเบาๆ “คุณต้องทำใจค่ะ คุณชาแปลน์เธอมีตัวเลือกเยอะ ไม่ได้มีแค่คุณฟรองซัวร์เท่านั้นที่เหมาะสมกับเธอ มันเป็นเรื่องของคนสองคนน่ะค่ะ เราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ใครได้ คุณโซเฟียกับคุณผู้ชายโชคดีที่ตกลงแต่งงานกันเพราะความรัก แต่คุณฟรองซัวร์เธอไม่ได้รักใคร่ชอบพอคุณชาแปลน์เลยนี่คะ คุณก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา” เบียปลอบใจเจ้านาย “ทำไมฉันถึงไม่คิดข้อนี้นะ ลูกชายฉันก็เหลือเกิน เขาอยู่ท่ามกลางคนเด่นคนดัง ไหนจะนางแบบ ไหนจะดารา หน้าตาดีๆ ทั้งนั้น ทำไมไม่สนใ
บทที่30.ฉันยอมแพ้ เมรีลืมตาเธอนอนอยู่บนเตียงคนเดียว หญิงสาวเหลือบมอง นาฬิกาที่พนังห้อง เธอตื่นสายโด่ง เธอจึงรีบลงจากเตียง และลงมือทำสะอาดห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำ เดินลงมาด้านล่างแบบกล้าๆ กลัวๆ “แม่นั่นตื่นหรือยังล่ะ นอนกินบ้านกินเมืองเป็นคุณนายอยู่เหรอไงคงกำลังหลงระเริงกับตำแหน่งเมียของฟรองซัวร์อยู่สินะ” เสียงโซเฟียดังลั่น เมรีจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง “คุณก็…เมรีไม่สบายก็ต้องตื่นสายสิคะ กินยาลดไข้เข้าไปอาจจะตื่นเอาตอนบ่ายๆ เลยก็ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกโขอยู่นี่คะ” เบียพูดแก้ให้ “ย่ะ…ฉันรู้แล้วว่าแม่เมรีเขาไม่สบาย แต่ไม่คิดจะลุกขึ้นมาหาอะไรกินก่อนหรือไง เขาต้องกินเยอะๆ หลานฉันก็หิวแย่นะสิ”&nbs
บทที่28.เมียผมท้องแล้วแม่จะว่าไง ฟรองซัวร์อึ้งไปหลังผลตรวจร่างกายเมรีออกมา แพทย์ประจำโรงพยาบาลอธิบายพร้อมกับแสดงความยินดี“ภรรยาคุณ ตั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วครับ”เมรีน้ำตาตก เธอก้มกน้าลงซ่อนรอยน้ำตาไว้ “ขอบคุณครับ” ฟรองซัวร์ดีใจจนพูดไม่ถูก ในที่สุดสิ่งที่เป็นโซ่ทองคล้องเขากับเมรีไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว “ดูแลสุขภาพให้ดีทานอาหารให้ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ที่อาจกระทบกระเทือนลูกในท้อง เพราะช่วงสองสามเดือนแรกยังมีภาวะเสี่ยงในการแท้งอยู่มาก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หมอจะให้ยาบำรุงเลือดและยาแก้แพ้ ต้องมาตรวจให้ตรงเวลาจะได้คอยดูพัฒนาการ การเจริญเติบโตของเด็กในท้องด้วย พอครบกำหนดจะได้มาอัลตร้าซาวด์ดูว่าเด็กสมบรูณ์หรือเปล่า เอาหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับไปศึกษาด้วยนะครับ จะได้เตรียมรับมือกับคุณลูกจอมซนที่กำลังจะเกิดในอีกเจ
บทที่27.บทสุดท้ายของเมรี ฟรองซัวร์นั่งฟังมารดาบ่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย เสียงที่ผ่านเข้ามาทางรูหูข้างซ้ายเลยออกไปทางรูหูข้างขวา เมื่อชายหนุ่มไม่สนใจฟัง โซเฟียต่อว่าเรื่องบุตรชายไม่กลับไปที่คฤหาสน์มาร์เซย์เหมือนเดิม “แม่ไม่สนใจความต้องการของลูกหรอกนะฟรองซัวร์ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องที่ลูกต้องการคงไม่มีใครยอมรับ สายเลือดมาร์เซย์ต้องมาจากแม่ที่เหมาะสม ไม่ใช่ใครก็ได้อย่างที่ลูกต้องการ” โซเฟียบ่นขรม ความต้องการของบุตรชายสวนทางกับคามต้องการของนางฟรองซัวร์เงยหน้ามองมารดา ริมฝีปากหนาหยักเหยียดยิ้ม ก่อนเขาตั้งใจบอกมารดา ประโยคที่โซเฟียได้ยินแล้วแทบจะสิ้นสติ “ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ก็เตรียมขายหน้าทุกคนได้เลยครับ ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับชาแปลน์แน่นอน ถ้าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้อย่างที่ผมหวังไว้”&nb