ตอนที่ 2
ข้ามีสามีแล้วงั้นเหรอ
ปัง!
"คุณหนู!"
เสียงฝีเท้ามากกว่าสองวิ่งเข้ามาในห้อง เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวน่ารักน่าชัง แม้ว่าเธอจะอยู่ในชุดที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงสาวใช้ธรรมดาแต่กลับดูงดงามและมีเสน่ห์มาก ข้างกันเป็นผู้ชายที่ดูพึ่งพาได้มิหนำซ้ำใบหน้าของเขานั้นช่างหล่อเหลายิ่งกว่าดาราระดับท็อปที่เคยเจอมาเสียอีก
"คุณหนูฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ"
"คุณหนู.. งั้นเหรอ"
ไป๋อวี่ซีทวนคำพูดของนางด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ภาพของหญิงสาวที่ใบหน้าเดียวกับเธอยังคงวิ่งเข้ามาในหัวไม่หยุด
"รู้สึกอย่างไรบ้างเจ้าคะ ยังเจ็บอยู่ไหมเจ้าคะ"
"ฉันเป็นอะไร.. แล้วพวกคุณเป็นใคร"
ทั้งสองคนยืนนิ่งมองหน้ากันเล็กน้อย คนที่เธอมั่นใจว่าเป็นสาวใช้เวลานี้ดวงตากำลังสั่นไหว เพียงแค่พริบตาดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางพร้อมเสียงสะอื้นไห้
"คุณหนูอย่าล้อเล่นแบบนี้สิเจ้าคะ ท่านมองหน้าข้าให้ดี ข้าคือเมี่ยวเมี่ยวสาวใช้ของคุณหนูไงเจ้าคะ"
ถึงแม้ว่านางจะเอ่ยออกมาอย่างนั้น แต่กลับยังคงร้องไห้ไม่หยุด
"คุณหนู.. ท่านจำข้าได้หรือไม่ขอรับ"
ชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่ครู่ใหญ่ได้เอ่ยออกมาเสียงเรียบ ไป๋อวี่ซีจ้องมองเขานิ่งในหัวก็เกิดภาพมากมายที่มีร่วมกัน
"องครักษ์"
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเบาใจก่อนจะถอยห่างไปเล็กน้อย
"เหตุใดคุณหนูจำอู่ถังได้แต่จำเมี่ยวเมี่ยวไม่ได้กันเจ้าคะ ไม่ได้! ต้องไปตามหมอหลวง"
แม้จะยังมึนงงอยู่บ้างแต่ก็พอจับใจความสำคัญได้ ในเวลานี้นางร้ายคิวทองอย่างไป๋อวี่ซีได้มาเกิดใหม่ในร่างของคุณหนูในจวนใดสักจวนงั้นหรือ นึกว่าเรื่องประหลาดแบบนี้จะมีแต่ในนิยายหรือซีรีส์เสียอีก บ้าบอที่สุด!
"ช้าก่อน!"
แต่ยังไม่ทันที่สาวใช้จะได้วิ่งออกไปด้านนอก อวี่ซี่เอ่ยเรียกเอาไว้เพราะอยากรู้สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ในเวลานี้มากกว่า หากสวรรค์ต้องการให้เธออยู่ที่นี่เธอก็จะอยู่ให้ถึงที่สุด
"ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เหตุใดข้าถึงจำอะไรไม่ได้เลย"
"คุณหนู~"
ยังคงเป็นสาวใช้คนเดิมที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก หากภาพในความทรงจำของเธอที่ซ้อนทับมาไม่ผิดพลาด หญิงคนนี้คือสาวใช้ข้างกายและผู้ชายคนนี้ก็เป็นองครักษ์ที่อยู่กับเธมาตั้งแต่เกิด แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เข้าใจเลยก็คือนี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน
"ก่อนหน้านี้คุณหนูพลัดตกน้ำโชคยังดีที่ท่านอ๋องเจ็ดมาช่วยไว้ได้ทัน มิเช่นนั้น.."
"ท่านอ๋องเจ็ดอย่างนั้นหรือ"
"เจ้าค่ะ"
"เจ้าคือเมี่ยวเมี่ยว ส่วนเจ้า.. อู่ถังสินะ เช่นนั้นที่นี่คือที่ไหนอย่างนั้นหรือ"
"ที่นี่ก็คือจวนท่านอ๋องห้า.. เยว่อ๋องสามีของคุณหนูไงเจ้าคะ"
"อ๋อ.. จวนสามีของข้านี่เอง เอ๊ะ! สามี.. สามี! ข้ามีสามีแล้วงั้นหรือ!"
เช่นนั้นภาพที่ไหลเข้ามาในเศษเสี้ยวความทรงจำที่เธอเห็น หญิงสาวชุดแดงกับบุรุษในชุดแต่งงานนั้นก็คือเจ้าของร่างนี้กับท่านอ๋องห้าที่ว่าสินะ แต่เหตุใดในความทรงนั้นถึงไม่ได้มีความรู้สึกดีเลยสักนิดกันล่ะ แม้แต่ใบหน้าในความทรงจำก็ยังไม่มี นี่เจ้าของร่างนี้คงไม่ได้แต่งงานกับอ๋องที่อายุเท่าปู่หรอกนะ
"เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องอยู่ที่ใด"
สาวใช้ขมวดคิ้วมองหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"หลังจากคืนแต่งงานท่านอ๋องนอกจากจะไม่ได้มาเข้าหอแล้ว.. ยังทูลขอฝ่าบาทไปประจำการที่ชายแดนด้วยพระองค์เอง แบบนี้จงใจทำร้ายจิตใจคุณหนูชัด ๆ"
"นานเท่าใดแล้ว"
โชคยังดีที่แสดงซีรีส์พีเรียดมาก็ไม่น้อยเรื่องคำพูดคำจาก็พอตามน้ำได้บ้าง และดูไม่แตกต่างจากที่แสดงมาเท่าไหร่ พอถูไถได้อยู่แหละนะเสี่ยวไป๋
"ครึ่งปีแล้วเจ้าค่ะ"
"ครึ่งปี! นี่ท่านอ๋องไม่กลับมาเลยงั้นหรือ"
"ท่านอ๋องกลับมาเจ้าค่ะ เพียงแต่.."
"เพียงแต่อะไร"
"เพียงแต่ท่านอ๋องไม่เคยกลับมาหาคุณหนูเลยเจ้าค่ะ"
ตอนที่ 30ความสุขที่ถูกเติมเต็มเวลาผ่านไปไม่นาน..“อุแว้! อุแว้!”เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นก้องกระท่อมท่ามกลางความเงียบจากด้านนอก มีเพียงแค่เสียงกรีดร้องของเยว่เฟยและก้อนแป้งที่ลืมตาดูโลก“เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ!”หมอประกาศเสียงดังก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงร้องอีกเสียงก็ดังขึ้น“และเป็นคุณหนูอีกคนเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องยืนนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความตื้นตันน้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม“ลูก.. ปลอดภัยหรือไม่”“เด็กทั้งสองแข็งแรงมากเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าของเขาคลายความตึงเครียดลและในที่สุดเขาก็ได้เห็นลูกน้อยของตนเป็นครั้งแรก แต่ในวินาทีที่ความยินดีท่วมท้นไปทั่วหัวใจ เขากลับได้ยินเสียงของหมอที่ทำให้ร่างกายเย็นเยียบ“พระชายาเสียเลือดไปมาก!”ไป๋อวี่ซีที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดกลับหมดแรงโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเธอลืมขึ้นเล็กน้อยแต่สติเลือนราง เธอมองเห็นเงาของท่านอ๋องอยู่ตรงหน้า มองเห็นเงาตะคุ่มของเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอ เธออยากยิ้มอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง“เหิง.. เยว่..”เสียงเธอแผ่วเบาราวกับสายลมพัดผ่าน ทันใดนั้นเปลือกตาของเธอก
ตอนที่ 29ออกจากเมืองหลวงท้องพระโรงหลวงบรรยากาศภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ทหารและขุนนางยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบขณะที่ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ทอง พระพักตร์ทรงอำนาจทอดพระเนตรชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนคุกเข่าอยู่เบื้องล่างท่านอ๋องค้อมศีรษะลงต่ำ ร่างสูงสง่ากรำศึกจนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ดังเดิม“เยว่อ๋อง.. เจ้าทำศึกครั้งนี้ได้ดีนักราชสำนักและประชาชนต่างซาบซึ้งในคุณงามความดีของเจ้า”สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง ก่อนจะมีรับสั่งให้ขันทีนำทองหนึ่งพันชั่ง ที่ดินสองผืน แก้วแหวนเงินทอง รวมถึงทหารสองหมื่นนายมาเป็นรางวัลตอบแทนขุนนางพากันซุบซิบถึงพระกรุณาขององค์จักรพรรดิ นับว่าเป็นรางวัลที่มากมายและล้ำค่าท่านอ๋องควรจะปลาบปลื้มยิ่งนัก แต่แทนที่เขาจะยินดีท่านอ๋องกลับเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง“กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ แต่นอกจากของรางวัลเหล่านี้ กระหม่อมมีข่าวดีถวายฝ่าบาท..”“ว่ามาเถิด”ฮ่องเต้เลิกพระขนงเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองไปยังบุรุษเบื้องล่าง ท่านอ๋องสบตากับฮ่องเต้ก
ตอนที่ 28แก้แค้นไป๋อวี่ซีเอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งน้ำตาคลอเบ้า ในเวลานี้เธอไม่สามารถคิดไปในทางที่ดีได้เลยแม้เพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากได้ยินว่าลูกของเธอไม่เป็นอะไรอยู่ดีหมอหลวงยิ้มบาง ๆ อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเบาเสียงตอบกลับ“พระชายาท่านไม่ต้องกังวล ลูกของท่านปลอดภัยดี.. แม้จะได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือน แต่ทารกในครรภ์ยังคงแข็งแรงดี ทั้งท่านและลูกจะต้องพักฟื้นให้ดี”เยว่เฟยรู้สึกเหมือนกับว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่บนอกของเธอนั้นถูกยกออก น้ำหนักทั้งหมดที่ครอบงำเธอมาเป็นเวลาหลายชั่วยามนั้นหลุดออกไปทำให้เธอหายใจได้ลึกขึ้น“จริงหรือ”เธอกล่าวเสียงสั่น ปากแห้งผาก ริมฝีปากบานฉีกยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของหมอหลวงอย่างมีความหวังจนเมื่อเธอเห็นเขาพยักหน้าตอบ“ตอนนี้ท่านต้องพักให้เต็มที่ ร่างกายยังต้องฟื้นฟูอีกมาก”น้ำตาที่ไป๋อวี่ซีพยายามจะกลั้นเอาไว้หลั่งรินลงมา เหมือนกับฝนที่ตกจากฟ้าในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ความรู้สึกขอบคุณเต็มหัวใจจนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ นอกจากการขอบคุณที่เงียบสงบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับหมอหลวงที่ยืนข้างเตียงความเงียบแผ่ขยายไปทั่วห้อง แต่ในใจของไป๋
ตอนที่ 27ข้ามาช้าไป“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง! พระชายาและลูกของข้าปลอดภัยดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง.. พระชายาเวลานี้ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กระหม่อมใช้ความสามารถที่มียื้อชีวิตเยว่เฟยเอาไว้ได้ เพียงแต่..”“เพียงแต่อะไร!”“เพียงแต่เด็กในครรภ์พระชายา.. กระหม่อมไร้ความสามารถ”เยว่อ๋องทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาแดงก่ำหยดน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้“ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร.. ข้าไม่สามารถรักษาลูกของข้าไว้ได้อย่างนั้นหรือ”“หากท่านอ๋องพาพระชายามาเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย กระหม่อมยังพอมีทางรักษาเอาไว้ได้”“ข้ามาช้าไปอย่างนั้นหรือ.. ไม่ได้! หากนางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่านางสูญเสียบุตรในครรภ์ไปต้องเสียใจมากเป็นแน่ หมอหลวง! ท่านต้องหาทางช่วยรักษาลูกของข้าเอาไว้ให้ได้”เหิงเยว่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะไปคว้าที่ข้อมือของหมอหลวงเอาไว้“ท่านอ๋อง~ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมาดูอาการพระชายา ไม่ทราบว่าท่านอ๋องสะดวกหรือไม่”เขาหันไปมองผู้ที่มาใหม่ก็พบว่าเป็นไท่อี้เฉิงหมอประจำกายของฝ่าบาท เยว่อ๋องรีบหลบเพื่อให้เขาเข้าไปรักษาพระชายาอย่างว่าง่าย“ไท่อี้เฉิง.. ท่านต้องช่วยรักษาภรรยาและบุตรของข้าเอาไว้ใ
ตอนที่ 26ภาพที่ปวดใจแต่เพียงแค่เขาออกคำสั่ง ทหารและบ่าวในจวนก็กรูกันเข้าไปค้นหาในจวนอย่างรวดเร็ว เขาปรายตามองเวินหนิงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วยามคนที่เข้าไปค้นจวนรองแม่ทัพก็พากันเดินกลับออกมา“ไม่พบขอรับ”“เป็นไปได้อย่างไรกัน..”มือหนากำหมัดไว้แน่นก่อนจะหันไปจ้องใบหน้าของลู่เวินหนิงอีกครั้ง ท่าทางของนางที่ไม่รู้สึกรู้สายิ่งตอกย้ำว่าเธอมีพิรุธ แต่เพราะไร้ซึ่งหลักฐานและยังหาเยว่เฟยไม่พบ ความปลอดภัยของนางย่อมสำคัญกว่าจึงทำได้แค่ถอยออกมาก่อน“ข้าจะให้คำตอบของการกระทำในครั้งนี้กับรองแม่ทัพลู่ฉือเวยเอง กลับ!”เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วพาบ่าวในจวนกลับออกมาแต่โดยดี ลู่เวินหนิงกำมือของตัวเองไว้แน่นด้วยความโมโห เธอไม่คิดว่าเหิงเยว่จะกล้าพาค้นมาบุกจวนของรองแม่ทัพเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยผ่านไปแน่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าหวานก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างสะใจอยู่ดี“อู่ถังจับตาดูคุณหนูลู่เอาไว้ หากนางเคลื่อนไหวให้ตามไปทันทีแล้วรีบแจ้งข้า.. ข้าจะไปจวนอ๋องเจ็ด”เมื่อจัดการเรื่องที่ควรทำเรียบร้อยแล้ว เขาได้ขึ้นม้าเพื่อตรงไปยังจวนหยวนอ๋องตามลำพังทัน
ตอนที่ 25ลางสังหรณ์เสียงควบม้าดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่จิตใต้สำนึกของเขากลับไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากที่เหิงเยว่ฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบร้อนที่จะกลับไปหาพระชายา แม้ว่าโม่ฉินหรือเหล่าทหารต่างไม่มีใครเห็นด้วยแต่กลับไม่มีใครสามารถห้ามเขาเอาไว้ได้สักคน เยว่อ๋องฝืนร่างกายก่อนจะใช้ยาระงับความเจ็บปวดที่มีฤทธิ์กดความรุนแรงของบาดแผลทั่วร่างกายเอาไว้นาน6ชั่วยาม เพื่อที่จะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงแม้ว่าจะมีผลกระทบภายหลังเกือบถึงชีวิตก็ตาม“ท่านอ๋อง! ช้าหน่อยขอรับร่างกายของท่านยังไม่หายดีอาจถึงตายได้นะขอรับ”โม่ฉินเร่งฝีเท้าควบม้าตามมาด้วยความเป็นห่วงเอ่ยห้ามตลอดทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถห้ามเขาได้อยู่ดี“โม่ฉิน! ข้ามีลางสังหรณ์ว่าพระชายากำลังตกอยู่ในอันตราย”“จะเป็นไปได้อย่างไรขอรับ พระชายามีอู่ถังดูแลไม่มีอันตรายแน่นอนขอรับ”“ข้าไม่วางใจจะไปดูให้เห็นกับตา ไป!”เมื่อไม่สามารถห้ามปรามได้สุดท้ายทั้งสองก็รีบควบม้ามุ่งหน้ากลับเมืองหลวง ใช้เวลากว่าสี่ชั่วยามที่เขาเดินทางโดยไม่หยุดพักในที่สุดก็เดินทางมาถึงจวนอ๋อง ทันทีที่เขาเปิดปร